ตอนที่ 10 บิดามือใหม่ก็คิดเข้าข้างตนเอง

1243 คำ
“ได้ความว่าอย่างไร” น้ำเสียงทุ้มเย็นชาเอ่ยขณะจรดถ้วยชาตรงริมฝีปาก “นางส่งจดหมายกลับจวนหลักตามที่นายท่านคาดการณ์ไว้ขอรับ” ทุกการเคลื่อนไหวของคนนอกย่อมตกอยู่ในสายตาองครักษ์ “ใจความจดหมายล่ะ” “ตำแหน่งพี่เลี้ยงของคุณหนูและตำแหน่งฮูหยินเอกขอรับ” ทันทีที่กล่าวจบบรรยากาศในห้องพลันเย็นเยียบเงียบสนิทประหนึ่งอยู่ก้นบึ้งของแม่น้ำกว้าง ดวงตาคมฉายชัดถึงความไม่พอใจ เล็งตำแหน่งฮูหยินก็แล้วไปเถิด นี่กล้าส่งคนมายุ่งกับบุตรสาวของเขาอย่างนั้นหรือ “เราควรเบี่ยงเบนความสนใจของฮูหยินผู้เฒ่าดีรึไม่ขอรับ” โหลวสุ่ยหมิงนึกถึงรายงานเรื่องหนึ่งที่เพิ่งได้รับมาจากคนในหน่วยข่าวกรอง “เจ้าหมายถึงเด็กคนนั้นงั้นรึ” คิ้วเข้มเคลื่อนเข้าหากันเล็กน้อย “ขอรับ” เด็กคนนั้นที่ว่าคือทายาทสายรองที่มีสายเลือดห่าง ๆ ในฐานะขุนนางใหญ่จึงมีคนในตระกูลมากมาย ฉู่หว่านโจวทราบความเป็นไปของพวกเขาอยู่บ้างเผื่อว่าบางคนจะเลือกทางเดินผิดที่อาจส่งผลกระทบต่อตระกูล แต่เขาก็ไม่ใช่คนดีอะไรที่ต้องคอยยื่นมือเข้าช่วยเหลือแค่เพราะมีสายเลือดร่วมกัน ครอบครัวของเด็กคนที่กล่าวถึงโดนคู่แข่งวางแผนสังหารทิ้งทั้งบ้าน มีเพียงเด็กชายวัยสามหนาวที่ถูกซ่อนไว้เท่านั้นเป็นผู้รอดชีวิต ชายหนุ่มไตร่ตรองเรื่องราวอยู่ครู่ใหญ่ ยามนี้บุตรีของเขายังเล็กเกินกว่าจะดูแลตนเองได้ หรือต่อให้โตขึ้นแล้วนางก็จะต้องบอบบางราวกับตุ๊กตากระเบื้องที่อาจแตกสลาย การมีพี่ชายเป็นที่พึ่งพิงก็นับว่าไม่เลว อย่างไรเสียหากเขาถึงแก่กรรมหว่าหวาก็จำเป็นต้องมีคนที่ดูแลนางต่อจากบิดา ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่บุรุษหน้าเหม็นจากตระกูลอื่นที่ไหน “ได้ ข้าจะรับเขาเป็นบุตรบุญธรรม” ถ้าทำเช่นนั้นฝั่งจวนหลักคงดิ้นพล่านและเปลี่ยนความสนใจมาที่เด็กชาย “ข้าจะพาคุณชายมาในช่วงเย็นขอรับ” พ่อบ้านคนสนิทโค้งศีรษะแล้วออกไปจัดการเรื่องด่วน เสนาบดีหนุ่มพยักหน้ารับ เขามองออกไปนอกหน้าต่างพลางขบคิดถึงความวุ่นวายที่เผชิญเรื่อยมา ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ไม่มีวันใดที่ได้สัมผัสถึงความสงบสุข คำว่าอำนาจมันหอมหวานเชิญชวนให้ผู้คนกระหายอยากเสียจนละทิ้งความเป็นมนุษย์ พ่อ แม่ พี่ น้อง เครือญาติ ล้วนแล้วแต่เข่นฆ่ากันได้ง่ายดายเพื่อให้ตนคว้าอำนาจนั้นมาครอบครอง เขาจึงต้องขวนขวายดิ้นรนทุกทางเพื่อให้อยู่บนจุดสูงสุดที่จะไม่มีใครมาทำร้ายกันได้ง่าย ๆ “แอ้!” เสียงสดใสร่าเริงดึงคนที่อยู่ในห้วงภวังค์ให้หันมาสนใจ เจ้าตัวน้อยยิ้มอวดเหงือกพลางชูสองแขนมาหา “คุณหนูร้องไห้ตั้งแต่ตื่นนอนไม่ยอมหยุด ดูจากคราวก่อนเลยคิดว่าอยากมาพบนายท่านเจ้าค่ะ” แม่นมกวานโค้งศีรษะทักทายเจ้านาย “หว่าหวาตัวน้อย คิดถึงพ่ออย่างนั้นหรือ” วงแขนกว้างรับร่างนุ่มนิ่มมา “คุณหนูเช็ดตัว กินนมเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ” นั่นหมายความว่ามีเวลาอีกพักใหญ่กว่าเด็กน้อยจะง่วงนอน “อืม เจ้าออกไปเถอะ” ร่างสูงสมส่วนเดินอุ้มลูกสาวไปตรงริมหน้าต่าง อากาศยามเช้าสดชื่นอยู่มาก “เจ้าค่ะ” กวานซินหยี่รับคำก่อนถอยหลังออกจากห้องไป ช่วงนี้คุณหนูติดนายท่านมากนางจึงมีเวลาทำอย่างอื่น ประเดี๋ยววันนี้เย็บชุดใหม่ให้คุณหนูดีกว่า “อู….อือ” ดวงตากลมจับจ้องบิดาอย่างอารมณ์ดี เมื่อวานนางได้ยินการทะเลาะกันระหว่างแม่นมกับสาวใช้คนใหม่นั่น ถึงอย่างนั้นก็ยังคิดว่าอีกฝ่ายเพียงมาลองเชิงมากกว่ามาหาเรื่องกันอย่างเปิดเผย “พ่อก็คิดถึงเจ้า” ได้ยินเสียงเล็ก ๆ ตอบกลับมา บิดามือใหม่ก็คิดเข้าข้างตนเองไปแล้วว่าลูกสาวกำลังตอบรับว่าคิดถึง “อา” ฟู่หวาอดขำไม่ได้ สีหน้ายามนี้ช่างชวนให้ฉู่หว่านโจวเอ็นดูเหลือเกิน “เจ้าตัวเล็กของพ่อ โตขึ้นต้องเป็นสาวงามแน่นอน” ชายหนุ่มงอนิ้วชี้แล้วเขี่ยแก้มยุ้ยไปมา ผิวพรรณเนียนละเอียดขาวผ่อง ดวงตากลมใสสีอ่อนมีแพขนตาเรียงเป็นระเบียบ ปากนิดจมูกหน่อยจิ้มลิ้มน่าทะนุถนอม บุตรีเขาส่อแววงดงามตั้งแต่เกิดน่าภูมิใจยิ่ง คุณหนูตระกูลฉู่มองบิดาด้วยสายตาคิดหนัก นางยังเป็นเพียงทารกจะรู้ได้อย่างไรว่าโตไปแล้วสวยหรือไม่ รีบชมตั้งแต่ตอนนี้ถ้าโตไปไม่สวยคงได้อับอายขายขี้หน้าเป็นแน่ “นอนเล่นอยู่บนเตียงไปก่อนนะ” แขนกำยำบรรจงวางร่างเล็กบนเตียงเด็ก วันนี้เขาไม่ต้องเข้าวังจึงไม่ได้อาบน้ำแต่มานั่งจัดการงานที่คั่งค้างเอาไว้ก่อน พอนึกขึ้นได้ว่าควรรักษาความสะอาดยามอุ้มเจ้าก้อนแป้งจึงตัดสินใจล้างเนื้อล้างตัวเสียหน่อย “แอ้!” ฟู่หว่ารับคำแข็งขัน นางเริ่มชินกับการนอนมองเพดานหรือเล่นตุ๊กตาผ้าอยู่คนเดียวบนเตียงเพราะใช้ชีวิตอยู่แบบนั้นตั้งแต่มาเกิดใหม่ “หึหึ” เสนาบดีหนุ่มยกยิ้มอารมณ์ดีพลางโน้มกายลงต่ำเพื่อจรดริมฝีปากหยักเข้ากับหน้าผากมนของบุตรสาว จากนั้นจึงเดินหายไปยังม่านกั้นเพื่ออาบน้ำ ดวงตากลมกระพริบปริบ ๆ ด้วยความตกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านพ่อแสดงความรักออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ หัวใจดวงน้อยพองฟูคับอก ทุกการกระทำของบิดาสลักลึกลงในความทรงจำทดแทนความรู้สึกโศกเศร้าที่เคยได้รับ เสียงน้ำล้นจากอ่างเป็นสัญญาณว่าเจ้าของจวนคงกำลังชำระล้างร่างกายอยู่ ฉู่หว่านโจวไม่มีสาวใช้คอยปรนนิบัติ เขาเบื่อหน่ายมารยาหญิงรวมไปถึงเล่ห์เหลี่ยมต่าง ๆ จึงตัดรำคาญด้วยการทำทุกอย่างด้วยตนเอง ใช้เวลาไม่นานเสียงฝีเท้าแผ่วเบาก็เดินออกมาจากม่านกั้นดึงความสนใจของเด็กน้อยบนเตียงเล็ก “แอ๊!” ฟู่หวากรีดร้องออกมาด้วยดวงตาเบิกกว้าง คงเพราะความเคยชินทำให้ร่างสมส่วนเปลือยเปล่าล่อนจ้อนเดินมาข้างนอกทั้งอย่างนั้นเพราะลืมหยิบผ้าซับกายเข้าไปด้านในด้วย ผิวขาวจากการเป็นขุนนางสายบุ๋นพร่างพราวไปด้วยหยาดน้ำใส ใบหน้าหล่อเหลามีดวงตาคมดุจพยัคฆ์ คิ้วเข้มได้รูป จมูกโด่งเป็นสันโดดเด่น ริมฝีปากหยักสีอ่อน จากช่วงอกลงมาล้วนมีกล้ามเนื้อเรียงตัวสวยงาม ไม่ว่าจะหน้าอกผายสมบุรุษ ไหล่กว้าง เอวสอบอันเต็มไปด้วยลอนคลื่นที่ไม่คิดว่าขุนนางบุ๋นจะมีได้ ยิ่งยามหยดน้ำไหลลงมาตามผิวกายช่างเป็นภาพที่เกินกว่าใครจะจินตนาการถึง ทารกน้อยอยากยกมือขึ้นปิดตาแต่มันก็สั้นเกินกว่าจะทำได้ โชคดีที่จากมุมมองของนางมีเก้าอี้ศีลธรรมตัวหนึ่งบดบังทิวทัศน์ช่วงครึ่งล่างของท่านพ่อเอาไว้ มิเช่นนั้นนางคงได้รู้สึกเหมือนจะตกนรกเนื่องจากมีความคิดอกุศลเป็นแน่! ...................................................................................... ท่านพ่ออออ!! จะมาแก้ผ้าเดินไปเดินมาในห้องไม่ได้นะเจ้าคะ กรี๊ดดดดดด อยากเป็นแม่ให้ยัยหนูจริง ๆ เลย ////// เอ็นดูพ่อลูกคู่นี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม