ตอนที่ 1 นี่….คือการเกิดใหม่อย่างนั้นหรอ

1282 คำ
แรงบีบรัดรอบกายร่างเล็กทำให้รู้สึกอัดอัด รอบด้านเหมือนเต็มไปด้วยน้ำเปียกปอนขยับตัวลำบาก ดวงตาไม่สามารถเปิดออกได้เหมือนเคยสร้างความหวั่นวิตกจนมิอาจเก็บความกังวลเอาไว้ได้ หูที่เคยได้ยินกลับอื้ออึงฟังไม่ได้ศัพท์ ‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น!’ “อื้ออออออ” เสียงหวีดร้องดังอีกระลอกหลังจากเป็นแบบนั้นมานานกว่าสามชั่วยาม (หกชั่วโมง) แล้ว “อดทนอีกนิดนะเจ้าคะ” หนึ่งในหมอตำแยมองสถานการณ์ตรงหน้าด้วยความลำบากใจ แม่ของเด็กเสียเลือดมากเกินไป ทั้งสมุนไพรและยาไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย “ไม่ไหว….แฮ่ก…..” ร่างบอบบางบนเตียงคลอดชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ ลมหายใจหอบหนักคล้ายคนใกล้หมดแรงเต็มที “เบ่งอีกครั้งนะเจ้าคะ อีกแค่ครั้งเดียว” ถ้าเป็นเช่นนี้เกรงว่าจะไม่รอดทั้งแม่ทั้งลูก หญิงสาวบนเตียงนอนพยักหน้ารับก่อนสูดลมหายใจเข้าลึก “อื้ออออออ” มือขาวผ่องดึงผ้าที่ห้อยมาเอาไว้แน่น นางรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายเบ่งเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้องออกมา อีกด้านแรงบีบอัดเริ่มเพิ่มมากขึ้นจนรู้สึกได้ สองแขนสองขาไม่อาจขยับตามใจกระทั่งความรู้สึกโปร่งโล่งสบายปรากฏขึ้นทันทีที่เหมือนหลุดจากความอึดอัด “อุแว๊! อุแว๊!” “คลอดแล้วเจ้าค่ะ!” “แย่แล้ว แม่นางทำใจดี ๆ ไว้นะเจ้าคะ!” “เร็วเข้า! รีบป้อนยาบำรุงเดี๋ยวนี้!” รอบบริเวณพลันโหวกเหวกโวยวายทำเอาหนึ่งชีวิตที่เพิ่งได้ลืมตาดูโลกถึงกับสับสน ร่างเล็กถูกนำไปทำความสะอาดก่อนห่อด้วยผ้าไหมเนื้อดี ‘ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่!’ ความสับสนงุนงงอย่างหนักจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว เนื่องจากความทรงจำสุดท้ายคือตอนที่นอนอยู่ในโรงพยาบาล “แม่นางอวี่สิ้นใจแล้วเจ้าค่ะ!” เสียงตะโกนลั่นห้องดึงสติของเธอกลับมาอีกครั้ง ดวงตากลมของเด็กแรกเกิดพร่ามัวมองเห็นไม่ชัดนัก ถึงอย่างนั้นเมื่อไตร่ตรองให้ดีจึงพบว่ายามนี้ตนได้อยู่ในร่างของทารก ‘นี่….คือการเกิดใหม่อย่างนั้นหรอ’ เพียงแต่…จากที่ได้ยินเมื่อครู่เธอเกิดมาพร้อมกับความตายของมารดา เช่นนี้จะไม่ถูกบิดาโกรธแค้นเอาหรือ! “นายท่าน….แม่นางอวี่สิ้นใจเนื่องจากเสียเลือดมากเกินไปเจ้าค่ะ” เสียงของผู้หญิงที่อุ้มทารกเอาไว้สั่นเครืออย่างหวาดหวั่น เด็กน้อยหยุดร้องไห้แล้วพยายามเพ่งมองสีหน้าบุรุษตัวโตที่อยู่ไม่ไกล น่าเสียดายมันพร่ามัวเกินกว่าจะคาดเดาได้ “เป็นคุณหนูน้อยเจ้าค่ะ” เหล่าข้ารับใช้รีบก้มหน้าหลบตาด้วยเกรงว่าผู้เป็นนายอาจมีโทสะ “ให้ทำเช่นไรดีขอรับนายท่าน” พ่อบ้านประจำตระกูลเอ่ยถามพลางเหลือบมองสีหน้าราบเรียบของเจ้าบ้าน ไม่นานห่อผ้าไหมสีแดงสดถูกส่งต่อไปยังวงแขนกว้างที่ยื่นมารับ ดวงตาคมทอดมองสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่กำลังจ้องเขาเขม็ง ฉับพลันดวงตากลมเปื้อนน้ำตาก็เบิกกว้างเล็กน้อยก่อนจะเป็นประกายระยิบระยับ หัวใจแกร่งวูบไหวยามจ้องมองไปในนั้น มันสะท้อนเงาของเขาอย่างชัดเจน มือน้อยที่ยื่นมาหาเหมือนต้องการที่พึ่งพิงทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะยื่นหน้าเข้าใกล้ เพียงเท่านั้นรอยยิ้มแรกจากบุตรีก็พุ่งแทงใจบิดามือใหม่เข้าอย่างจัง ฝ่ามือบอบบางประกบข้างแก้มสาก สิ่งเล็กจ้อยนี่หรือคือสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวของเขา หน้าผากทั้งสองชนกันคล้ายซึบซับสัมผัสแรกจากคนในครอบครัว ริมฝีปากหยักกดลึกยามเห็นสีหน้าพออกพอใจของลูกสาว ขณะไม่ทันตั้งตัวดูเหมือนหัวใจด้านชาดวงนี้จะถูกขโมยไปเสียแล้ว “ฟู่หวา ต่อไปนี้เจ้าจะมีนามว่า ฟู่หวา บุตรีเพียงคนเดียวของข้า” เสียงทุ้มประกาศก้องทำให้บ่าวไพร่ทั้งหมดทราบถึงความสำคัญของคุณหนูน้อยนางนี้ ‘ข้า…ชื่อฟู่หวา…สินะ’ ทารกน้อยยิ้มจนตาหยี เธอตัดสินใจละทิ้งชีวิตเก่าเพื่อเริ่มต้นใหม่ เมื่อครู่มีโอกาสเห็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดาใกล้ ๆ เขาช่างหล่อเหลาคมคายแทบไม่อยากละสายตา ยามอีกฝ่ายยื่นหน้าเข้ามาชวนให้รู้สึกว่าเธออาจไม่ถูกเกลียดอย่างที่กังวล กระนั้นบางส่วนในใจก็ยังอดเศร้าที่ชาตินี้จะต้องไร้มารดาไม่ได้ ทันทีที่คิดแบบนั้นอยู่ ๆ น้ำตาก็ไหลออกมา “อุแว๊! อุแว๊!” เสียงเจ้าก้อนนุ่มดังขึ้นทำเอากายแกร่งแข็งเกร็งเพราะทำอะไรไม่ถูก “คุณหนูน่าจะหิวเจ้าค่ะ ข้าน้อยจะหาแม่นมมาเป็นพี่เลี้ยงของคุณหนู นายท่านจะได้ไม่ต้องลำบากเจ้าค่ะ” หมอตำแยเอ่ยพลางทำท่าจะอุ้มร่างเล็กมาดูแลเอง “ไปตามแม่นมมาคอยป้อนลูกข้าตอนหิวก็พอ” ท่าทางเงอะงะของคนตัวโตทำเอาบ่าวไพร่ที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกลอบยิ้มกันถ้วนหน้า ปกติในจวนแห่งนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศอึมครึมไร้สีสัน เพียงคุณหนูน้อยปรากฏตัววันแรกทุกอย่างพลันเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด “อุแว๊! อุแว๊!” ให้ตายเถอะ! นางไม่ได้อยากร้องไห้ขนาดนี้เสียหน่อย ไม่รู้เหตุใดจึงมิอาจเก็บความโศกเศร้าเอาไว้ หรือเพราะอยู่ในร่างทารกจึงไม่มีความอดทนกันแน่นะ “อย่าร้องเลยนะเด็กดี พ่อจะหาน้ำนมมาให้เจ้ากินเดี๋ยวนี้แหละ” ฝ่ามืออันอบอุ่นประคองสิ่งเปราะบางในวงแขนด้วยความรู้สึกหลากหลาย เขาไม่เคยเป็นบิดามาก่อน ไม่มีความคิดที่จะเป็นด้วย กระนั้นพอได้สัมผัสร่างนุ่มจิตใจที่แข็งกระด้างกลับละลายดุจหิมะท่ามกลางแสงแดด “นายท่าน ร่างของแม่นางอวี่…” พ่อบ้านเอ่ยถามเสียงเบาคล้ายไม่ต้องการให้คุณหนูน้อยได้ยิน “จัดพิธีศพให้นางอย่างที่ควรได้รับ” น้ำเสียงที่ไม่มีแม้เศษเสี้ยวความเสียใจทำให้เจ้าตัวเล็กหยุดร้องทันที “แอ๊” เจียวปิงที่มาเกิดใหม่เป็นฟู่หวาถึงกับส่งเสียงทักท้วง ไม่รู้ว่าทำไมบิดาจึงดูเหมือนไร้ความรู้สึกกับมารดาของเธอ หรือบางทีทั้งสองอาจไม่ได้รักกัน เช่นนั้นอะไรทำให้บุรุษตรงหน้าเอ็นดูถึงขนาดอุ้มเธอตลอดเวลาล่ะ อย่าว่าแต่คนอื่นเลย แม้กระทั่งชายหนุ่มเองก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในยามนี้เช่นกัน สายใยผูกพันมันสามารถเกิดขึ้นได้แค่เพราะหยาดโลหิตในกายอย่างนั้นหรือ มุมมองของเจ้าตัวเล็กเห็นเพียงสองแขนสั้นที่ชูขึ้นไขว่คว้าอากาศ ไม่ว่ามองยังไงก็คิดได้แค่ว่าเธอมาเกิดใหม่แล้ว เพียงแต่เหตุใจจึงยังมีความทรงจำมากมายอยู่ในหัว ยิ่งคิดเท่าไหร่หนังตาก็เริ่มหนักอึ้งแทบลืมไม่ขึ้น กระทั่งสุดท้ายเธอก็หลับไปในอ้อมกอดแสนอบอุ่นที่ไม่คิดว่าจะได้รับ “ต่อไปนี้นางคือคุณหนูเพียงคนเดียวของตระกูลฉู่” น้ำเสียงทุ้มไม่ดังไม่เบากล่าวขึ้นเรียบเรื่อย “ขอรับ/เจ้าค่ะ” ทุกคนรับคำแข็งขัน นั่นคือคำสั่งให้ปฏิบัติกับเด็กน้อยเยี่ยงทายาทสายตรงแม้แท้จริงแล้วจะไม่เป็นเช่นนั้นก็ตามที ………………………………. …………… ...................................................................................... สวัสดีค่าาา วันนี้แวะมาฝากยัยหนูแสนน่ารักของไรท์ค่ะ น้องน่ารักมากๆ ท่านพ่อเองก็น่าเอ็นดูสดๆ ส่วนพระเอกของเรานั้น...อดใจรอนะคะ ฮาาา ฝากกดติดตาม กดหัวใจ กดเข้าชั้น และอย่าลืมคอมเม้นต์พูดคุยกันน๊า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม