ยินดีต้อนรับสู่เกาะมันทรา
บริษัท MAMA Tour เป็นตัวแทนของประเทศในการจัดโปรแกรมท่องเที่ยวให้กับนักธุรกิจจากต่างประเทศ ซึ่งแผนดำน้ำของทริปนี้ที่ทางอิทธิพัทรขอมาคือ ทุกคนที่นั่งเรือเพื่อเดินทางมาที่เกาะจะต้องใช้ผ้าปิดตา เขาอ้างว่าเพื่อให้เกิดความตื่นเต้นเพราะเมื่อมาถึงแล้วทุกคนจะได้ตะลึงในความสวยงามของเกาะมันทรา แต่มีเพียงคนเดียวที่เปิดตาได้คือมาริสาคนเดียว
“ฉันฝากดูลูกทัวร์ทุกคนด้วยนะ...ฝากย้ำทุกคนด้วยว่าห้ามเดินไปที่จุดอื่นนอกเหนือจากจุดดำน้ำตรงนี้...”
“ได้ค่ะคุณมาย...”
มาริสาเดินมาดูกลุ่มลูกทัวร์ที่เธอพามาดำน้ำที่เกาะของอิทธิพัทร และก็ย้ำกับลูกน้องในบริษัทว่าให้กำชับทุกคนเรื่องนี้ เพราะอิทธิพัทรไม่ต้องการให้ธรรมชาติในเกาะต้องเกิดความเสียหายขึ้น ซึ่งมันจะอยู่นอกเหนือจากจุดที่เขาอนุญาตเท่านั้น
มาริสาเดินมาคนเดียวเรียบชายหาดเพื่อออกมาถ่ายรูปส่งไปให้พ่อกับแม่ของเธอดู ว่าเกาะมันทรามันสวยมากขนาดไหน
“อุ๊ย!”
มาริสามัวแต่ถ่ายรูปโดยไม่ได้มองทางเพราะเธอเดินไปชนกับใครคนหนึ่ง
“คุณอิทธิพัทร...”
“ให้ผมถ่ายให้ไหมครับ...?”
เขายิ้มให้เธออย่างดูเจ้าชู้แล้วยื่นมือขึ้นมาเพื่อจะดึงโทรศัพท์เธอออกจากมือเธอแต่เธอยื้อเอาไว้
“ไม่เป็นไรค่ะ...มายถ่ายเองได้”
“งั้น...ผมใช้มือถือผมถ่ายให้คุณก็ได้นะ...มาครับ”
เขาหยิบมือถือตัวเองออกมาจากกระเป๋าแล้วกดถ่ายหน้าเธอไป 2-3 รูป จนเธอรู้สึกอาย เขาสังเกตุได้ว่าเธอหน้าแดงจึงคิดอะไรได้ในใจ
“เราจะไม่ถ่ายรูปคู่กันหน่อยหรอครับ...?”
“เอ่อ...”
“มาครับ...ถ่ายรูปกับผมหน่อย?”
เขาถือวิสาสะดึงแขนเธอให้ชยับเข้ามาใกล้ๆ แล้วใช้มือโอบบ่าเธอแล้วเอาศีรษะพิงชิดหน้าเธอ
แช๊ะ>>> แช๊ะ>>>
เขาถ่ายไป 2 รูป ก็เปิดรูปดูแล้วก็ยิ้มออกมา
“สวยครับ...คุณดูสิ”
เขายื่นให้เธอดูรูปคู่ที่ถ่ายคู่กับเขา
“ไม่รู้ว่าวิวทะเลข้างหลังเรา 2 คนที่สวย หรือคุณมายนะครับที่สวยกว่ากัน...”
เธอเงยหน้ามองเขาแล้วก็รู้สึกใจเต้นแรง เขาอาศัยจังหวะที่เธออึ้งอยู่จึงรีบดึงมือถือออกจากมือเธอ เปิดเข้าไปในไลน์เธอแล้วเข้าไปที่ตัวสแกนบาร์โค๊ดเพื่อเพิ่มเพื่อน
“เสร็จแล้วครับ...ผมจะได้ส่งรูปให้คุณได้”
เขายื่นมือถือคืนเธอ เธออึ้งตาค้างที่เขาถือวิสาสะแอดเพิ่มเธอเป็นเพื่อน
“ผมทักหาคุณมายได้ตลอดไหมครับ...?”
“เอ่อ...คือ”
“ถ้าคุณมายไม่ว่างก็แค่เปิดอ่านสักนิดแต่ไม่ต้องตอบผมก็ได้ ผมจะได้เข้าใจว่าคุณมายติดธุระอยู่ผมไม่ถือนะครับ ถ้าคุณมายจะไม่ตอบไลน์ผม...”
“คุณอิทธิพัทรคะ...”
“ครับ...”
“เอ่อ...มายไม่รู้ว่าคุณรู้สึกยังไงกับมายนะคะ แต่มายมีคู่หมั้นแล้วค่ะ...”
“ผมรู้ครับ...”
“คุณรู้...?”
“ครับ...ผมรู้ ผมรู้ว่าคุณมีคู่หมั้นแล้ว เพราะเวลาที่ผมสนใจใครมากเป็นพิเศษ ผมก็จะหาข้อมูลเกี่ยวกับคนๆ นั้นเพื่อทำความรู้จักเธอให้มากขึ้นนะครับ...”
มาริสามองหน้าอิทธิพัทรด้วยความแปลกใจ
“แต่ไม่ใช่ว่าใครที่ผมจะสนใจได้ง่ายๆ มีแค่คุณคนเดียวที่ทำให้ผมสนใจและอยากทำความรู้จักได้มากขนาดนี้...”
มาริสาจ้องหน้าอิทธิพัทรนิ่งๆ เขาเดินขยับเข้ามาใกล้เธอ
“แล้วคุณละครับ...ไม่อยากรู้จักผมให้มากกว่านี้หรอ...?”
เธอเงยหน้าขึ้นมาจ้องหน้าเขาใกล้ๆ แล้วก็ต้องรีบถอยหนีแต่ไปสะดุดกับก้อนหินก้อนใหญ่เข้าจนทำให้เธอเกือบจะล้ม แต่เขาเอื้อมมือไปกอดรั้งเอวเธอไว้ทัน
“ว๊ายย...”
ทั้ง 2 คนจ้องตากันชิดมากจนปากแทบจะชนกันแล้ว
“คุณมายไม่เป็นไรนะครับ...?”
“ไม่ค่ะ...มายไม่เป็นไร”
เธอขยับตัวให้ห่างจากเขาแล้วหลบสายตาเขาหันมองไปอีกทาง เพราะถ้าอยู่ใกล้้เขามากกว่านี้เขาต้องได้ยินเสียงหัวใจของเธอที่เต้นแรงอยู่ตอนนี้แน่ๆ
“ผมชอบคุณนะครับ...”
“อะไรนะคะ...?”
เธอตกใจมากที่อยู่ๆ เขาก็พูดคำนี้ออกมา หันมามองเขาตาค้าง
“ผมชอบคุณตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงชอบคุณได้มากขนาดนี้...”
“เอ่อ...แต่มายมีคู่หมั้นแล้วนะคะ...”
“ถ้าคุณยังไม่แต่งงานผมก็ยังมีสิทธิ์ไม่ใช่หรอครับ...?”
“เอ่อ...มายว่า”
“ผมอยากให้คุณมายเปิดโอกาสให้ผม ถ้าผมทำให้คุณมายรู้สึกดีด้วยได้ คุณมายอาจจะอยากกลับไปถอนหมั้นเลยก็ได้นะครับ...”
“ดูคุณจะมั่นใจจังเลยนะคะว่ามายจะชอบคุณกลับได้จริงๆ ...?”
เขาเดินเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นแล้วจ้องเข้าไปในตาเธอ
“ผมมั่นใจว่าคุณจะต้องชอบผม...”
“.....”
ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ
เสียงหัวใจเธอเต้นแรงอีกครั้งจนเธอต้องรีบหันหน้าหนีเขาแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อให้มันกลับมาเป็นปกติ
เขายิ้มพอใจที่เล่นกับความรู้สึกเธอได้ และก็ดูออกว่าเธอคงจะสนใจเขาอยู่ไม่น้อย และก็คงไม่อยากที่ทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้
.....
3 วันผ่านไป
ตลอดเวลาที่อยู่ที่ภูเก็ตอิทธิพัทรคอยเทียวมาหามาริสาทุกวัน ไปทุกที่ตามโปรแกรมที่ทางบริษัทเธอจัดให้นักธุรกิจได้ไปเที่ยวในเมือง และสถานที่ต่างๆ อิทธิพัทรคอยดูแลเทคแคร์มาริสาอย่างดีจนเธอเริ่มรู้สึกดีกับเขาในเวลาไม่นาน เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้รู้สึกดีกับเขามากขนาดนี้ แต่จะทำยังไงละในเมื่ออีกแค่ 3 อาทิตย์เธอก็จะต้องแต่งงานกับคู่หมั้นเธอแล้ว
“คุณมาย...คุณมายครับ”
“คะ...?”
มาริสานั่งทานข้าวในร้านอาการกับอิทธิพัทรลำพัง 2 คน เขาพาเธอมาเลี้ยงส่งเพราะพรุ่งนี้เธอต้องบินกลับกรุงเทพฯ แล้ว เขาเห็นเธออยู่ๆ ก็นั่งเหม่อไม่ยอมทานอะไรจนเขาแปลกใจ
“คุณคิดอะไรอยู่หรือเปล่าครับ...?”
“เปล่าค่ะ...”
“ตัวอยู่กับผมตรงนี้ ใจคุณก็ต้องอยู่ตรงนี้ด้วยนะครับ...”
เธอมองหน้าเขาด้วยความเขินอาย
“พรุ่งนี้คุณจะบินกลับแล้ว ผมอยากใช้เวลาตรงนี้ให้มีค่าที่สุด...ถ้าคุณมายไม่รังเกียจ...”
เธอมองเขาที่ลุกขึ้นยืนเดินมาหาเธอแล้วยื่นมือมาหาเธอตรงหน้า
“เต้นรำกับผมสักเพลงนะครับ...?”
เธอมองเขาแล้วก็ยิ้มๆ ออกมาและเธอก็ยื่นมือไปให้เขาพาจูงไปกลางฟอร์เพื่อเต้นรำด้วยกัน เธอมีความสุขมากที่ได้อยู่ใกล้เขา เขาทั้งเป็นสุภาพบุรุษดูแลเธอดีทุกอย่าง และหน้าตาที่หล่อเหลาของเขาก็มีแต่สาวๆ ต่างจ้องมอง เธอรู้สึกดีจริงๆ ที่ได้ครอบครองหัวใจของเขาแต่เพียงผู้เดียว ผู้หญิงที่อยู่ภายในร้านคงจะอิจฉาเธอกันยกใหญ่
“ขอบคุณนะคะสำหรับอาหารค่ำที่อร่อยที่สุดมื้อนี้...”
เขาขับรถมาส่งเธอหน้าโรงแรมหลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว ก่อนเธอจะลงจากรถก็ตั้งใจหันมาขอบคุณเขาก่อน
“ผมดีใจครับที่คุณชอบ...”
“ค่ะ...”
เขาส่งยิ้มให้เธอแล้วเขาก็ยื่นมือไปจับมือเธอขึ้นมากุมไว้
“คุณมายจะเปิดโอกาสให้ผมใช่ไหมครับ...?”
“....”
เธอเงียบไม่ตอบอะไรเขาจึงยื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอ
“ว่าไงครับ คุณมายจะเปิดโอกาสให้ผมได้ไหม...?”
เธอมีสีหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด และตาเขาก็จ้องเข้ามาในตาเธอเพื่อหาคำตอบ เธอจึงตัดสินใจบอกสิ่งที่คิดในใจ
“มายคิดว่าคุณเลิก...อื้มมมมม”