ตอนที่ 3หลี่เฟยเฟยคนเดิมได้ตายไปแล้ว

2742 คำ
บทที่3 หลี่เฟยเฟยคนเดิมตายไปแล้ว บนที่นอนอบอุ่น เปลือกตาที่หนักอึ้งคราแรก ค่อย ๆบางลง ในที่สุดนางก็ลืมตาได้สักที ผกาค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่ง สำรวจห้องนอนกว้างใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นผ้าห่ม ผ้าปู หมอน ผ้าม่านหรือจะเป็นชุดที่ใส่นอน ทุกอย่างสีชมพูหวานแหวว ซึ่งต่างกับนางที่ชอบแต่งกายสไตล์วินเทจ จากนั้นนางก้มลงสำรวจนิ้วมือเรียวสวย ผิวพรรณขาวเหมือนหยวกกล้วย เส้นผมดกดำยาวไปถึงหลัง แล้วสตรีที่นอนข้าง ๆ เตียงนางคือ พี่จิงจิงที่อยู่ข้าง ๆ ร่างนี้ตลอดเวลาสินะ หากรู้ไม่ว่าคุณหนูของนางจากไปแล้ว ถ้าเป็นคนจมน้ำ ตามที่นางได้เรียนมา พอนำร่างที่จมน้ำขึ้นมา ต้องรีบเปลี่ยนชุดให้ แล้วทำการเป่าปาก 2 ครั้งกดหน้าอก 30 ครั้ง ความเร็วอย่างน้อย 100 ครั้งต่อนาที แต่ที่นี่คงมิมีผู้ใดรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วอีกอย่างท่านเทพชะตาบอกวิญญาณร่างนี้หมดอายุขัยแล้วด้วย… “หลี่เฟยเฟย…พี่สาวเสียใจด้วยนะจ๊ะ ขอให้เจ้าไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ ไปเกิดใหม่เป็นเทพธิดา หรือไปเกิดในภูมิภพที่ดี มีความสุข มีแต่คนรักคนเมตตาและเอ็นดูเจ้า” นางมิรู้ว่าหรอกว่าน้องหลี่เฟยเฟยจะไปเกิดที่ใด แค่นางได้อวยพรกล่าวลา ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา ภาพที่คุณพ่อคุณแม่กับอาม่าสุขสบาย นางก็สบายใจ หายห่วง จากนั้นนางกลับคิดเรื่องที่หลี่เฟยเฟยตกลงไปในน้ำ ยังไม่ทันที่จะตั้งข้อสังเกต คนที่หลับอยู่ข้าง ๆ กลับตื่นขึ้นมา “คุณหนู ฮือๆในที่สุดคุณหนูของพี่ก็ฟื้นสักที พี่จะให้ท่านป้าฮวาต้มยาให้นะเจ้าคะ” จิงจิงไม่เคยหลับสนิทสักคืน นางอธิษฐานขอพรเทพเจ้าและดวงวิญญาณของนายท่านกับนายหญิงให้ปกป้องคุ้มครองรักษาคุณหนู…ในที่สุดคำอธิษฐานเป็นจริงเสียที “ขอบคุณพี่จิงจิง ข้ามิเป็นอันใดแล้ว หยุดร้องไห้เถอะ ประเดี๋ยวใบหน้างดงาม จะเปื้อนเอา” ข้ายิ้มอ่อน ๆ ไปให้นาง ความจริงวิญญาณที่มาอยู่ในร่างนี้ อายุ 28 ปีแล้ว จิงจิงถึงเป็นน้องหรือเป็นหลานของนางมากกว่า ถึงนางจะพูดไปจิงจิงคงไม่เชื่อ ผกาเลือกที่จะเป็นหลี่เฟยเฟย หญิงสาวอายุ 14 ปี แต่นางจะเป็นตัวของตัวเอง เมื่อก่อนนางอายุ 28 ปีไม่เคยมีความรัก ยามนี้นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวอายุ 14 ปีอีก 10 กว่าปี ค่อยคิดเรื่องนั้นก็ได้กระมัง…หรือถ้ายุคนี้สตรีออกเรือนเร็ว นางจะเป็นคนแรกที่ออกเรือนทีหลังทุกคน แล้วจะไม่ยอมตกเป็นภรรยาคนที่สอง สามและสี่ให้บุรุษใด…เพราะนางถึงคติรักเดียวใจเดียวเท่านั้น… “คุณหนู…ก็พี่ดีใจนี่เจ้าคะ เช่นนั้นรอสักครู่ ประเดี๋ยวพี่จะไปบอกท่านป้าฮวา” “ขอบใจมาก พี่จิงจิงข้าอยากได้กระจกทองเหลืองเจ้าค่ะ” “คุณหนูของพี่งดงามอยู่แล้วเจ้าค่ะ พอได้พักผ่อนอย่างที่ท่านหมอบอก คุณหนูของพี่ยิ่งงดงามขึ้นไปอีก นี่เจ้าค่ะ” จิงจิงพูดความจริง ยามที่นางได้สบตากับคุณหนู แววตาหม่นหมองที่เคยมีมลายหายไป แทนที่แววตาสดใส กระตือรือร้น มีชีวิตชีวา มีเสน่ห์น่าค้นหา… พอจิงจิงออกไปจากห้อง ผกายกกระจกขึ้นมาส่องใบหน้าร่างนี้ “ขุ่นพระ!!! นี่นางร้ายหลี่เฟยเฟยหรือ” หญิงสาวที่ผู้คนเล่าขานนางเกือบทุกวัน ใบหน้ารูปไข่ หน้าตาน่ารักน่าชัง คิ้วเรียงรายกันอย่างสวยงาม ขนตางอนเหมือนใช้มาสคาร่าปัดขึ้น ดวงตากลมโต จมูกโด่งเข้ากับกรอบหน้า ริมฝีปากสีชมพูอวบอิ่มดูมีสุขภาพดี ผกาวางกระจกลง แล้วสำรวจภายในเสื้อ ไหน ๆ ร่างนี้เป็นของนางแล้ว เริ่มด้วยยกมือขึ้นวัดขนาดหน้าอกด้วยมือ “หืมมม…ซ่อนรูปมิเบานะเฟยเอ๋อร์” นางยิ้ม ไม่อยากจะคิด ถ้าร่างบางนี้อายุ 18 รูปร่างจะสมส่วนงดงามขนาดไหน จากนั้นเปิดเสื้อสำรวจผิวกาย ร่างเดิมของผกาเป็นคนผิวขาว ตาชั้นเดียว มีเนื้อมีนวลอย่างร่างของหลี่เฟยเฟยอย่างนี้ แต่ร่างนี้ยังโตไม่เต็มที่ “ข้าอยากเห็นไหปลาร้า” ผกาถือกระจกส่องดูไหปลาร้า งดงามมิมีที่ติด แต่เอ๊ะ…ที่ไหล่ข้างซ้ายมีปานสีชมพูเป็นรูปดอกบัวกำลังบานสะพรั่งเชียว…เหมือนรอยสักยิ่งนัก… “มาแล้วเจ้าค่ะคุณหนู” เสียงของพี่จิงจิง ผกาหรือหลี่เฟยเฟยรีบจับชุดให้เข้าที่แล้วเก็บความสงสัยไว้ หรือปานนี้มีมานานแล้ว อีกอย่างนางยังไม่รู้เลยว่ารางวัลที่ท่านเทพชะตาบอกคืออะไร… “พี่จิงจิง ข้าหายแล้ว ไม่ดื่มยาได้หรือเปล่าเจ้าคะ” นางยังมิชิมที่เรียกหญิงสาวอายุ 16 ว่าพี่ ภายในใจรู้สึกกระดากปากมิน้อย แต่จะพยายามละกัน แล้วนางเป็นคนที่ไม่ชอบดื่มยาสมุนไพรที่สุด มันเป็นความรู้สึกฝังใจ เมื่อตอนเด็ก ๆ นางไม่สบาย อาม่าไปซื้อยาจีนมา 1ห่อ มาต้มให้นางดื่ม แล้วกลิ่นมันขึ้นจมูก ความรู้สึกนั้นยังคงติดอยู่ในใจ พอโตขึ้น ยามที่นางไม่สบาย นางจะแอบไปซื้อยาแผนปัจจุบันมากิน โดยไม่บอกพ่อแม่และอาม่า แล้วไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกลิ่นยาคล้าย ๆที่อาม่าเคยต้มให้นี่สิ “มิได้เจ้าค่ะ…คุณชายใหญ่สั่งไว้…แล้วต้องดื่มยาทั้งหมดที่ท่านหมอจัดให้ด้วยนะเจ้าคะ” “เช่นนั้นข้าดื่มครึ่งถ้วยได้ไหมเจ้าคะ” จิงจิงส่ายหน้า แล้วแบมือ ในนั้นคล้ายลูกอมที่ห่อด้วยกระดาษ “นี่เจ้าค่ะ คุณชายใหญ่บอกว่าถ้าคุณหนูดื่มยาถ้วยนั้นหมด จะให้กินลูกอมที่ทำจากน้ำผึ้ง” นางรับรู้ถึงความรัก ความห่วงให้ที่พี่ชายมีให้น้องสาว นางฝืนกลั้นหายใจ แล้วยกถ้วยยาขึ้นมาดื่มรวดเดียว จิงจิงเห็นคุณหนูใช้ความคิดบางอย่าง ก่อนตัดสินใจยกถ้วยยาขึ้นมาดื่ม นางรีบแกะลูกอมน้ำผึ้งให้ แล้วพอคุณหนูวางแก้วน้ำ ทำสีหน้าเหยเก…ทำนางอมยิ้ม…มิกล้าหัวเราะออกมา “นี่เจ้าค่ะ คุณหนูรีบอมไว้ คุณชายใหญ่ต้องดีใจที่คุณหนูทานยาได้แล้ว” อะไรนะ…แสดงว่าเมื่อก่อนหลี่เฟยเฟยไม่เคยกินยางั้นหรือ…นางเลิกคิ้วขึ้นสูง หันไปทางจิงจิง ที่ยิ้มอ่อนโยนให้นาง “ที่ผ่านมาไม่ว่าคุณชายจะเอาสิ่งใดมาล่อเพื่อให้คุณหนูดื่มยา คุณหนูมิดื่มท่าเดียว จนคุณชายลางานมาดูแลคุณหนูด้วยตัวเอง เพราะคุณหนูไม่ดื่มยา เป็นเหตุให้คุณหนูหายช้าใช้เวลานานกว่าผู้อื่นที่ดื่มยา…ยามนี้คุณหนูของพี่โตขึ้นแล้ว…พักผ่อนต่อนะเจ้าคะ พี่จะไปเอาโจ๊กมาให้” “ที่ผ่านมาข้าทำให้พี่ใหญ่ลำบากใจมาตลอดสินะ…พี่จิงจิง ข้าสลบไปกี่วันเจ้าคะ แล้ว แล้วคุณชายเหลียงเหว่ยได้มาเยี่ยมข้าบ้างไหม” “คุณหนูสลบไป 3 วันเองเจ้าค่ะ รุ่งเช้าคุณชายเหว่ยมา แต่ คุณชายใหญ่มิให้เข้ามาเยี่ยม บอกว่าให้มาตอนที่คุณหนูฟื้น” “อ่อ…ขอบคุณ พี่ไปเอาข้าวโจ๊กเถอะ” 3 วันแล้วที่ร่างนี้ยังไม่ได้กินอะไร ข้าต้องรีบกินข้าวก่อนค่อยคิดว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตที่ได้มาอยู่ที่นี่… ทางด้านครอบครัวเหลียงเหว่ย นางเหลียงซิงคิดว่าจะทำอย่างไร ที่จะให้บุตรชายหันมาชอบในตัวหลี่เฟยเฟย สำหรับนาง แม้ผู้อื่นจะมองหรือเล่าขานบุตรสาวของเพื่อนสนิทอย่างไร นางมิสนใจ เพราะนางรู้จักนิสัยหลี่เฟยเฟยดี หญิงสาวโวยวายก็จริง แต่มีสาเหตุที่ต้องโวยวาย คนแบบนี่มิได้มีเล่ห์เหลี่ยม หญิงสาวตรงไปมาซื่อสัตย์กับความรู้สึก เมื่อก่อนนางเคยเอ็นดูหลี่เฟยเฟยอย่างไร ยามนี้นางก็เอ็นดูเหมือนเดิม หลานสาวคนนี้ยิ่งโต ความงามยิ่งเหมือนแม่นางทุกที ยามนี้นางเหลียงซิงรู้ตัวว่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน จึงอยากทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะตามเพื่อนรักไป…แล้วนางคิดถึงช่วงเวลาที่หลานสาวเกิดมา…นางเหลียงซิงไปเยี่ยมเพื่อนรักพร้อมอุ้มลูกชายไปด้วย “เยว์เฟย ข้าขอจองลูกสาวเจ้า ให้ลูกชายข้านะ” ยามนั้น บุตรชายอายุ 2 ขวบ เฟยเอ๋อร์เพิ่งเกิดมาหน้าตาน่ารักน่าชัง “ได้เพื่อนรัก วันใดที่ข้าจากไปก่อนวัยอันควร เจ้าอย่าทอดทิ้งบุตรสาวข้าเล่า” มิคิดว่าการพูดคุยกันครานั้น อีก 10 ปีต่อมา เพื่อนรักกับสามีได้จากไปด้วยฝีมือโจรปล้นขบวนสินค้า พวกมันฆ่าหมกป่าทุกคนแล้วเอาสินค้าไปแร่ขาย กว่าจะรู้เรื่องผ่านมาหลายวัน สองสามีภรรยาทิ้งบุตรชายบุตรสาวที่กำลังเจริญเติบโตไว้ โชคดีที่ท่านลุงของเด็ก ๆ คอยให้ความช่วยเหลือ จนกิจการกลับมายืนได้ภายในเวลา 2 ปี คุณชายหลี่ฟานกลายเป็นผู้นำครอบครัวแทนบิดาที่จากไป ส่วนนางกับสามีพยายามจะเข้าไปช่วยเหลือ แต่คุณชายหลี่ฟานปฏิเสธ บอกว่าเกรงใจ ที่ผ่านมาแม้บุตรชายของนางกับคุณชายหลี่ฟานจะเป็นสหายกัน แต่นางรู้สึกว่ามีเส้นบาง ๆ กั้นอยู่ พวกเขาสนิทกันแค่ผิวเผินเท่านั้น ทุกคราที่เฟยเอ๋อร์มาเยี่ยมที่จวน ถ้าจิงจิงมิมาด้วย คุณชายหลี่ฟานจะมาด้วยเสมอ นี่ผ่านมาสามวันที่แล้วที่บุตรชายกลับมาสีหน้าท่าทางหงุดหงิด นางให้บ่าวชายไปสืบ ถึงได้รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น “สิ่งที่ลูกชายข้าทำครานี้ มิสมควรให้อภัยอย่างยิ่ง…เยว์เอ๋อร์ ข้าน่ะรักและเอ็นดูเฟยเอ๋อร์เหมือนเดิม ภายภาคหน้าถ้าข้าไปหาเจ้าแล้ว ข้ามิอยากให้เฟยเอ๋อร์เสียใจ…แล้วมิอยากให้เฟยเอ๋อร์ทะเลาะกับอาเหว่ยด้วย” ยามที่หญิงสาวมาหา จะพูดให้นางฟังว่าท่านพี่เหว่ยพี่มิสนใจ แล้วน้อยใจกลับไปด้วยน้ำตา นางเหลียงซิงจะเรียกบุตรชายมาพูดคุย ว่าให้ใส่ใจเฟยเอ๋อร์มากกว่านี้ แต่กลายเป็นว่าสองแม่ลูกทะเลาะกันทุกที สามีที่มองดูนางห่าง ๆ บอกว่า “ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกอย่างเถอะ…” พอสามีนางพูดแบบนี่ เหลียงซิงปล่อยวาง แล้วนางได้ข่าวว่าบุตรชายกำลังชอบพอกับบุตรสาวท่านเจ้ากรมที่ดิน ท่านมีภรรยาหลานคน แล้วแม่นางลี่มี่คือบุตรสาวของอนุคนที่ 5 ของท่านเจ้ากรมที่ดิน “อาเหว่ย ลูกมิคิดจะไปเยี่ยมน้องบ้างหรือ” วันนี้ลูกชายกลับมาจากร้านพร้อมบิดา “ท่านแม่ วันก่อนข้าไปมาแล้ว นางยังไม่ฟื้น อีกอย่างถึงไปข้าก็ช่วยอันใดมิได้หรอกขอรับ” ท่าทางบุตรชายมิได้เป็นห่วงเป็นใยเฟยเอ๋อร๋สักนิด นางคงต้องทำอะไรบางอย่าง “แล้วรู้ไหม เรื่องที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเป็นความผิดของลูกด้วย” “ข้าไม่ผิด ข้ามิได้ชวนนางออกไปเที่ยวสักหน่อย” คราแรกที่เขาเห็นหลี่เฟยเฟยตกน้ำ เหลียงเหว่ยรู้สึกผิด แต่พอมาทราบว่านางมิได้เป็นอันใด ยามนี้ท่านหมอบอกว่านางแค่จับไข้เอง มินานก็ฟื้น แล้วคิดว่าถ้านางฟื้นขึ้นมา นางจะเข้ามาวุ่นวายกับเขาอีก แค่คิดเหลียงเหว่ยก็รำคาญนางแล้ว “เจ้าผิด ที่ไม่ลงไปช่วยนาง เจ้าผิดที่ไม่ปกป้องนางอย่างไรเล่า” นางไปตลาดเห็นชาวบ้านพูดคุยกันสนุกปากว่าคุณชายเหลียงเหว่ยมิเป็นสุภาพบุรุษ “ถ้าข้ายอมรับผิด ท่านแม่ช่วยไปพูดกับนางได้ไหม่เล่า ว่าข้ากับนางมิมีทางที่ลงเอ่ยด้วยกันได้” เหลียงซิงมิคิดว่าบุตรชายจะพูดคำนี้ออกมา “เพราะแม่นางลี่มี่หรือ” “ถึงมิมีมี่เอ๋อร์ ข้าก็ไม่สามารถรักนางได้ ท่านแม่อย่าเอานางไปเทียบกับมี่เอ๋อร์เลย มี่เอ๋อร์จิตใจดี มีเมตตาแล้วมิใช่สตรีขี้โวยวายอย่างหลี่เฟยเฟยด้วย” “อาเหว่ย 14 ปีที่เจ้ารู้จักน้อง ในสายตาเจ้า นางเป็นเช่นนั้นหรือ” นี่ลูกชายเห็นก้อนกรวดเป็นดอกบัวหรือนี่ แม่นางลี่มี่สายตาแพรวพราวยิ่ง ลูกชายมองมิเห็นหรือ สตรีเช่นนี้หน้าอย่างลับหลังทำตัวอีกอย่าง เหตุใดนางมองมิออก “ท่านแม่ มิใช่ในสายตาข้าผู้เดียว ท่านแม่เองก็ทราบ ทุกทีมีแต่ผู้คนเล่าลือว่านางเป็นคนไม่เห็นหัวผู้ใด นางเอาแต่ใจ ยังมีอีกมากมาย ข้ามิอยากพูดถึง” “ได้ แม่จะไปคุยนางเอง ว่าเรื่องสัญญาหมั่นหมายนั้นมิมีผลแล้ว เจ้าอย่ามาเสียใจภายหลังเล่า” “ขอบคุณท่านแม่ จะมิมีวันนั้นแน่นอนขอรับ” หลี่เฟยเฟยคนใหม่ยามนี้นอนไม่หลับ ก็ร่างนี้นอนมา 3 วันแล้วนี่นา… ในจวนต้องมีคนของแม่นางลี่มี่ หรือไม่นางติดสินบนคนในจวนนี้ ข่าวที่คุณชายเหลียงเหว่ยจะพาแม่นางลี่มี่ออกไปดูบึงบัว ผู้ใดเป็นคนส่งมานะ ข้าต้องเริ่มสืบจากบ่าวไพร่ในจวนก่อน ถ้ามีหนอนบ่อนไส้ ข้าจะโยนมันทิ้งเอง แล้วคุณชายใส่หน้ากากเงินผู้นั้นเป็นใครเล่า ข้าอยากขอบคุณเขาด้วย ที่มีน้ำใจลงไปงมหาร่างของหลี่เฟยเฟย มิเช่นนั้น ข้าคงมิได้มาอยู่ในร่างนี้… “คุณหนู…เหตุใดมิพักผ่อนเยอะ ๆ เจ้าคะ” โจ๊กที่จิงจิงถือมาหอมกรุ่น ทำให้ร่างบางที่ไม่ได้ทานข้าวมา 3 วันกลืนน้ำลายลงคอ “พี่จิงจิง ข้าหลับมา 3 วันแล้วนะเจ้าคะ ยามนี้ร่างกายข้ากลายเป็นผักไปแล้ว…งื้อออ…หอมจังเลย” นางยิ้มสดใสไปให้จิงจิง “ค่อย ๆ ทานนะเจ้าคะ…ป้าฮวาเพิ่งทำเสร็จเมื่อสักครู่ ” เป็นโจ๊กหมูสับ ใส่ขิงและผักชี ระหว่างที่ข้ากินโจ๊กนั้น ข้าให้พี่จิงจิงกลับไปกินข้าวด้วย เพราะหลังกินข้าวข้ามีเรื่องจะซักถามนางบางอย่าง “มาแล้วเจ้าค่ะ คุณหนู!!!” ทันทีที่กินข้าวเสร็จ จิงจิงรีบเดินมาที่ห้องคุณหนู แต่สิ่งที่เห็นคือ หีบผ้าทุกใบถูกเปิดออก เครื่องประดับประดับทุกชิ้นถูกนำขึ้นมารวมถึงชุดสวย ๆ สีหวานแหววที่คุณหนูชอบออกมาวางบนพื้นห้อง ปกติคุณหนูจะห่วงชุดพวกนี้ยิ่งกว่าสิ่งใด มิมีวันปล่อยวางบนพื้นแน่นอน เกิดอะไรขึ้น “พี่จิงจิงมิต้องตกใจ ชุดทั้งหมดนี่ พวกเราจะไปขายเจ้าค่ะ ชุดไหนขายมิได้ พวกเราขายแบบซื้อ 1 ชุดแถมให้อีก 1 ชุดไปเลย” “ประเดี๋ยว…คุณหนู นี่มันเกิดอะไร บอกพี่ได้หรือเปล่าเจ้าคะ” เพราะทุกชุดที่อยู่ตรงหน้า เป็นชุดที่คุณหนูสั่งตัดกับร้านมีชื่อเสียงและราคาสูงยิ่ง “พี่จิงจิงจำไว้เลยนะ ตั้งแต่ยามนี้เป็นต้นไปหลี่เฟยเฟยคนเดิมได้ตายไปแล้ว จะมีแต่หลี่เฟยเฟยคนใหม่เท่านั้น” นางส่งยิ้มให้คนสนิท ที่ยังตื่นตระหนกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น……… “คุณหนู เช่นนั้นคุณหนูจะตัดใจจากคุณชายเหลียงเหว่ยด้วยหรือเจ้าคะ” “ยิ่งกว่าตัดใจเสียอีก พี่คอยดูนะแม้แต่หางตา ข้าจะมิมองเขาอีก” จิงจิงยิ้มกว้าง นางรอวันนี้มานานแล้ว “พี่ดีใจยิ่งนัก ถ้าคุณชายใหญ่ได้ยิน เขาต้องดีใจยิ่งกว่าผู้ใด …”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม