EP.9 ความทรงจำที่ขาดหาย

1226 คำ
EP.9 ความทรงจำที่ขาดหาย เรือนไม้กลางเก่ากลางใหม่สองชั้นมีห้องพักประมาณสิบห้องแบ่งเป็นชั้นละห้าห้องพอให้ไม่แออัด ด้านหลังเป็นเรือนไม้ชั้นเดียวอีกสี่ห้าหลัง เดาได้ว่าคงเป็นบ้านพักของคนงานที่อยู่กันแบบครอบครัว หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองอย่างสำรวจ ดวงยิหวาเสียวสันหลังเมื่อคิดว่าอดีตนายหญิงจะต้องกรีดร้องอย่างไม่พอใจเช่นทุกครั้งเมื่อเธอไม่ได้ดังใจ เธอจะหวีดร้องอาละวาดจนไม่มีใครกล้าขัดคำสั่ง “ห้องฉันทางไหนเหรอจ๊ะ” “อะ...เอ่อชั้นหนึ่งห้องมุมสุดทางด้านขวาค่ะ” ฐิตารีย์มองตามมือของหญิงสาวผิวสีน้ำผึ้ง แล้วยิ้มออกมาอย่างถูกใจ “ดีจัง มุมนั้นมีต้นดอกแก้วเต็มไปหมดเลย” หญิงสาวก้าวยาวไปหยุดยืนอยู่ข้างดงดอกแก้ว โน้มใบหน้าลงใกล้ ค่อยๆ ยื่นปลายจมูกลงไปแตะกลีบดอกสีขาวเล็กอย่างแผ่วเบา “กลิ่นหอมดีจัง ฉันชอบ” “แปลกจังนะคะ แต่ก่อนนายหญิงแพ้เกสรดอกไม้ อย่างดอกแก้วกอนี้นายหญิงสั่งคนงานถางทิ้งเสียเกือบหมด ที่เห็นนี่เพิ่งปลูกขึ้นมาใหม่หลังนายหญิงออกจากบ้านไปแล้ว” ดวงยิหวาเล่าออกไปตามประสาซื่อ “เมื่อก่อนฉันคงเป็นคนที่แย่มาก” หญิงสาวก้มหน้านิ่ง น้ำตาคลอดวงตาคู่สวย “ไม่หรอกค่ะ” ดวงยิหวาเพิ่งรู้ตัวว่าพูดมากเกินไป ทว่าสิ่งที่พูดไปแล้วไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้ ถึงเธอไม่พูดไม่บอก สักวันหนึ่งฐิตารีย์ก็ต้องจำเรื่องราวทุกอย่างได้อยู่ดี “เธอลองเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้มั้ย ว่าเมื่อก่อนฉันเป็นคนยังไง” “เอ่อ จะดีหรือคะ” ดวงยิหวาผสานมือเข้าหากันก่อนจะนั่งลงกับพื้น เมื่อเห็นฐิตารีย์เดินไปนั่งที่ม้านั่งไม่ไกลจากดงดอกแก้วนัก “ดีสิ ขึ้นมานั่งด้วยกันเถอะ นั่งกับพื้นเดี๋ยวกางเกงก็เปื้อนพอดี” “ขอบคุณค่ะ” ดวงยิหวายิ้มก่อนจะลุกขึ้นปัดเศษดินติดกางเกงออกแล้วนั่งลงบนม้านั่งข้างหญิงสาว “นี่เป็นสิ่งแรกเลยค่ะที่แตกต่าง เมื่อก่อนนายหญิงไม่ชอบให้ใครนั่งเสมอ ต้องนั่งข้างล่าง หรือต่ำกว่าเท่านั้น ทั้งยังชอบนอนตื่นสาย เปิดเพลงเสียงดัง ไม่ชอบทำกับข้าว ไม่สนใจแม้กระทั่งคุณหนูฟ้าใสว่าเธอจะเป็นอย่างไร” ดวงยิหวาเล่าออกไปตามจริง เห็นดวงตาของหญิงสาวหม่นเศร้าแล้วก็อดสงสารไม่ได้ “ทำไมเจ้านายของเธอถึงเกลียดฉันนัก” หญิงสาวยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาลวกๆ เมื่อคิดถึงสายตาเกลียดชังของนายหัวจิณณวัตร เธอก็เจ็บปวดหัวใจจนไม่สามารถกลั้นหยาดน้ำตาเอาไว้ได้ “เพราะคุณหายไปจากบ้านถึงห้าปีโดยไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย” “ฉันน่ะหรือหายไปห้าปี ฉันไปไหน ไปทำอะไร” ดวงยิหวาส่ายหน้าอย่างจนปัญญาที่จะตอบคำถามนี้ได้ “ไม่มีใครรู้ค่ะ” “นั่นสินะเธอจะรู้ได้อย่างไร ในเมื่อความจริงทุกอย่างได้ถูกลบเลือนไปพร้อมกับความทรงจำของฉัน” “แล้วเด็กที่อยู่ในรูปใหญ่กลางบ้าน เป็นใครหรือจ๊ะ” เธอเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักทำให้เธอรู้สึกถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูก “อะ...เอ่อ” ดวงยิหวาอึกอัก ไม่แน่ใจว่าควรจะบอกความจริงแก่ฐิตารีย์ดีหรือไม่ ทว่าสายสัมพันธ์ทางสายเลือดไม่ว่าอย่างไรเสียก็ไม่มีวันตัดขาดออกจากกันได้ “คุณหนูฟ้าใสค่ะ ลูกของนายหัวกับนายหญิง” “ละ...ลูกหรือจ๊ะ” ฐิตารีย์ช็อกไปชั่วขณะ เธอมีลูกแล้วอย่างนั้นหรือ เช่นนั้นที่ชายหนุ่มบอกว่าเธอเป็นภรรยาของเขาก็เป็นความจริงน่ะสิ หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก นึกอยากหยิกเนื้อแรงๆ เพื่อจะได้ตื่นจากความฝันบ้าๆ นี่เสียที “นายหญิงคะ” ดวงยิหวาเม้มปากเข้าหากันสนิท สูดหายใจเข้าปอดแรง เมื่อสิ่งที่เธอกำลังจะพูดอาจทำร้ายจิตใจคนเป็นแม่ที่ไม่มีโอกาสเรียกเลือดในอกของตนว่าลูก “คุณหนูฟ้าใสเธอคิดว่าแม่ของเธอเสียชีวิตไปตั้งแต่เธอเกิดแล้วค่ะ ยิหวาจึงไม่อยากให้ เอ่อ...” หญิงสาวอึดอัดเหมือนน้ำท่วมปาก เพราะนายหัวเคยสั่งไว้ว่าไม่ให้พูดถึงฐิตารีย์ และจะให้คุณหนูฟ้าใสรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ เนื่องจากนายหัวได้บอกไปแล้วว่ามารดาของเธอเสียชีวิตไปนานแล้ว ทุกอย่างที่เกี่ยวกับฐิตารีย์ได้ตายไปจากใจของคนบ้านสวนนานนับห้าปี “ฉันเข้าใจจ้ะ ฉันจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ฉันจะอยู่ที่นี่ในฐานะสาวใช้คนหนึ่ง หากวันใดความทรงจำของฉันกลับคืนมา ฉันจะไปจากที่นี่ทันที ฉันจะไม่ทำให้ใครๆ ต้องเดือดร้อนเพราะฉันอีก” “ยิหวาเสียใจค่ะนายหญิงที่ช่วยอะไรนายหญิงไม่ได้เลย” ดวงยิหวายื่นมือไปกุมมือของเจ้านายสาวไว้ ถึงแม้ว่านายหัวจะสั่งไว้ว่าให้ฐิตารีย์อยู่ที่นี่ในฐานะสาวใช้ แต่เธอก็ยังอดเรียกนายหญิงไม่ได้ เพราะถึงอย่างไรผู้หญิงตรงหน้าเธอก็เป็นอดีตภรรยาของนายหัว เป็นแม่ของคุณหนูฟ้าใส “เย็นนี้หนูฟ้าใสจะกลับจากโรงเรียนกี่โมงจ๊ะ” “คุณหนูเลิกเรียนสามโมงครึ่งค่ะ นายถมไปรับ บางวันถ้านายหัวว่างก็จะเป็นคนไปรับคุณหนู กว่าจะมาถึงบ้านสวนก็ราวๆ สี่โมงค่ะ” “ฉันขอใช้ครัวหน่อยได้มั้ย” หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยประกายตาแห่งความหวัง กลิ่นหอมอบอวลของขนมหวานล่องลอยไปทั่วบริเวณบ้านสวน จนศรีนวลต้องเดินเข้าไปในครัวด้วยความแปลกใจ แต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้เธอตะลึงยิ่งกว่า เมื่อหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าขี้เกียจตัวเป็นขนกำลังยืนอยู่หน้าเตาอบขนมเค้ก สวมผ้ากันเปื้อนสีขาวสะอาดตา ส่วนมือข้างขวาใส่ถุงมือผ้ากันร้อนกำลังดึงถาดขนมที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ กลิ่นหอมน่ารับประทานออกมาจากเตาอบ “นายหญิงเธอกำลังทำขนมให้คุณหนูน่ะค่ะ” ดวงยิหวารีบตอบ มองเจ้านายสาวด้วยสายตาชื่นชม “น่าทานจังเลยค่ะนายหญิง กลิ่นหอมมาก” หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ มองแป้งคัพเค้กที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ ฟูสวยเหลืองหอมน่ารับประทานตาเป็นมัน “ยังจ้ะ ยังไม่ได้แต่งหน้าเค้กเลย” ฐิตารีย์ยิ้มอย่างมีความสุข เธอรู้สึกว่าการได้ทำขนมคือชีวิตของเธอ มันหลอมรวมอยู่ในจิตวิญญาณของเธอ แปลกที่เธอไม่ลืมวิธีทำเค้กเหล่านี้แต่เธอกลับลืมทุกคนที่อยู่ที่นี่ เธอจำพวกเขาไม่ได้เลยแม้แต่คนเดียว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม