เบลล่าเลือกอยู่นานแต่ทว่าเธอก็ยังไม่สามารถหาคนสวนที่ถูกใจได้เลย อีกทั้งตอนนี้ก็เป็นเวลาใกล้จะมืดแล้วเธอจึงเดินทางกลับคฤหาสน์ก่อน
เซ็ดดริกนั้นทำงานได้ดีเกินกว่าที่เธอคาดคิดเอาไว้ เขาล่วงหน้ามาจัดการเรื่องเกี่ยวกับคนรับใช้ ทั้งเรื่องหาหมอมาตรวจร่างกายและเรื่องการจัดสรรห้องที่เหมาะสม
ชายชราผู้นั้นชื่อว่า เซนเดอร์ ร่างกายของเขานั้นมีเพียงอาการขาดน้ำและขาดสารอาหารเท่านั้น ส่วนคนใช้ร่างท้วมชื่อว่ามิเกล น้องสาวของมิเกลนั้นไม่สามารถพูดได้เพราะเธอเป็นใบ้ตั้งแต่กำเนิด ชื่อว่ามิลัน หลังจากได้ทานอาหารมิเกลและมิลันก็เริ่มงานทันที
คนที่ตื่นเต้นกว่าใครนั้นก็น่าจะเป็นท่านแม่ เธอลงมาทำความรู้จักกับคนรับใช้ทั้งสามด้วยท่าทางดีใจ
เบลล่ามองภาพนั้นด้วยรอยยิ้ม
“ข้าคิดว่าข้าอยากจะได้คนสวนที่สามารถปกป้องคฤหาสน์ได้ อีกทั้งยังอยากได้อัศวินสักสองคนมาคอยคุ้มกันท่านแม่”
“ครับ ข้าจะจัดการหาอัศวินที่เหมาะสมมาให้”
“ข้าอยากได้อัศวินที่ไม่ขึ้นตรงกับสังกัดของตระกูลโอเว่นนะคะ ข้าอยากได้อัศวินที่เป็นของข้าจริงๆ หวังว่าเซ็ดดริกจะเข้าใจความคิดของข้า”
“ครับ ตามที่ท่านเบลล่าประสงค์”
“ท่านจะพักที่นี่ไหมคะ ด้านบนยังมีห้อง…”
“ไม่ครับ..บ้านของข้าอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ พรุ่งนี้ข้าจะมารับท่านไปเลือกชุดและเครื่องประดับสำหรับไปงานนะครับหากว่าเวลาเหลือข้าจะพาท่านไปแอบดูเลดี้คิร่าสักหน่อยเพื่อให้ท่านประเมินเกี่ยวกับงานของเราเบื้องต้น”
เบลล่าพยักหน้า เธอทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา
ป่านนี้ท่านพ่อและแม่รองจะรู้รึยังนะว่าสตรีผู้นั้นเป็นเพียงโสเภณีที่ถูกข้าจ้างไป…
อ่า..มีความสุขชะมัดเลยแฮะ!!
วันรุ่งขึ้นเซ็ดดริกมารับเบลล่าแต่เช้า เพื่อพาเธอไปยังห้องเสื้อของมาดามอิกกี้…ซึ่งเป็นห้องเสื้อที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวรรดิ
ด้านในมีสตรีมากมายกำลังเลือกชุดอยู่
“ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างเรานะครับ เลดี้คิร่าคือสตรีผมสีแดงที่ยืนเลือกชุดอยู่ด้านซ้าย ในห้องเสื้อนี้บุรุษไม่สามารถเข้าไปได้ ข้าส่งท่านเบลล่าได้เพียงเท่านี้นะครับ”
เธอพยักหน้าให้เช็ดดริก..มาเริ่มงานก้าวแรกกันเถอะ
“ยินดีต้อนรับเข้าสู้ห้องเสื้อของมาดามอิกกี้ค่ะ…ไม่ทราบว่าเลดี้ที่งดงามผู้นี้มีใบนัดไหมคะ”
เบลล่าส่งยิ้มให้กับสตรีผิวสีแทนที่ดูท่าทางกระตือรือร้น ก่อนจะยื่นใบนัดให้เธอ
“อื้ม…ยินดีต้อนรับค่ะเลดี้เมบิล กรุณานั่งรอมาดามที่โซฟาด้านนั้นสักครู่นะคะ”
เบลล่าเดินเข้าไป..ด้านในโซนที่มีใบนัดมีเพียงเธอและเลดี้คิร่าที่กำลังเลือกชุดอยู่ ที่ข้างกายของเลดี้คิร่าไม่มีผู้ติดตามสักคน นั่นหมายความว่าสตรีผู้นี้ไม่ชอบบรรยากาศที่วุ่นวาย อีกทั้งตามข้อมูลที่เธอได้มาสตรีผู้นี้เป็นคนโลกส่วนตัวสูงและไม่ค่อยชอบคุยกับใคร
เบลล่าส่งยิ้มให้เลดี้คิร่า
“ชุดในมือของเลดี้ช่างงดงามมากเลยค่ะ…เส้นผมสีแดงเช่นนี้ไม่ว่าจะใส่ชุดไหนออกมาก็ล้วนแล้วแต่งดงามทั้งสิ้น”
“ขอบคุณ…แต่ข้ามิได้ถามความเห็นของเลดี้ค่ะ”
อืม..กำแพงมันช่างสูงชันซะเหลือเกิน!! แต่เบลล่าคนนี้ไม่หวั่นหรอกนะ เพื่อเงินหนึ่งแสนเหรียญทองแล้ว เธอจะปีนข้ามมันไปให้ได้
“ขออภัยที่คำกล่าวของข้าทำให้เลดี้ไม่สบายใจนะคะ…ข้าเพียงเห็นภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของเลดี้แล้วอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากชม”
“ข้าจะบอกอะไรให้นะคะ หยุดตีสนิทข้าเพื่อจะเข้าหาพี่ชายของข้าได้แล้วค่ะ!! ข้าไม่คิดจะยกท่านพี่โคลด์ให้ใครหรอกนะ!!”
ห๊ะ!! ใครมันจะไปอยากได้พี่ชายของเธอกันเล่า!!
“อ่า..ข้าคิดว่าเลดี้อาจจะเข้าใจเจตนาของข้าผิด ตระกูลเมบิลของข้าพึ่งจะย้ายมาจากเมืองข้างๆ ข้ายังไม่เคยเห็นหน้าของพี่ชายเลดี้เลย ที่ข้าเข้ามาคุยกับท่านในวันนี้ก็เพียงแค่ข้าอยากจะมีเพื่อนใหม่เท่านั้นเองค่ะ”
แววตาของคิร่าที่มองเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อยเพราะมันดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด…แสดงว่าที่ทำตัวไม่คบใครเป็นเพื่อนเลยเพราะหวงพี่ชายงั้นเหรอเนี่ย!!!
น่ารักแฮะ!!
“เช่นนั้นก็ดี…ว่าแต่เลดี้มาเลือกชุดไปงานอะไรคะ ข้าคิดว่าข้าอาจจะพอแนะนำชุดออกงานของที่นี่ให้เลดี้ได้”
คิร่ากล่าวพร้อมทั้งมองหน้าเธอ
“ท่านแม่ของข้าได้รับบัตรเชิญไปงานบรรลุนิติภาวะของตระกูลเคาน์เคนเนดี้ค่ะ…ท่านแม่ไม่ค่อยสบายข้าก็เลยต้องไปแทน นี่ถือเป็นการออกงานครั้งแรกของข้าเลยก็ว่าได้ เลดี้พอจะแนะนำการวางตัวให้ข้าได้ไหมคะ ข้าได้ยินมาว่าตระกูลเคนเนดี้นั้นยิ่งใหญ่และทรงอำนาจมากๆ เลย ข้าที่ไร้ประสบการณ์เช่นนี้กลัวจะทำเรื่องขายหน้า…”
ใบหน้าของคิร่านั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ หญิงสาวมองใบหน้าที่งดงามและไร้เดียงสาของเบลล่าด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ใบหน้าที่งดงามของสตรีที่นั่งตรงข้ามเธอมันทำให้เธอรู้สึกถูกใจอย่างบอกไม่ถูก อีกทั้งเลดี้ผู้นี้ยังไม่ได้เข้าหาเธอเพราะท่านพี่ด้วย!!
“เลดี้เมบิลหากว่าท่านไม่รังเกียจ ไปที่คฤหาสน์ของข้าได้ไหมคะ ข้าอยากจะเชิญเลดี้ไปดื่มน้ำชาสักครั้ง เผื่อว่าข้าจะได้ช่วยแนะนำการออกงานเล็กๆ น้อยๆ ให้เลดี้ได้”
เบลล่ายกยิ้ม
“หากเลดี้คิดว่านี่ไม่เป็นการรบกวนข้าก็ยินดีและขอบคุณมากๆ เลยค่ะ”
หลังจากนั้นสตรีทั้งสองก็ช่วยกันเลือกชุดอย่างสนุกสนาน คิร่าพาเบลล่าไปที่คฤหาสน์เคนเนดี้
ในตอนที่เห็นคฤหาสน์เคนเนดี้ครั้งแรกบอกตามตรงว่าเธอตกใจมากๆ นี่มันคฤหาสน์หรือพระราชวังกันแน่!!
ที่นี่มีห้องนอนราวร้อยห้องเห็นจะได้ มีคฤหาสน์สามหลังเชื่อมต่อกัน มันคือความอลังการงานสร้างแบบที่เบลล่าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ให้ตาย!!
นี่คงจะเป็นเหตุผลที่สตรีในเมืองเข้าหาท่านเคาน์กันอย่างไม่ขาดสาย…เพราะความรวยนี่เอง!!
“ยินดีต้อนรับสู้คฤหาสน์เคนเนดี้ค่ะ ข้าคิร่า เคนเนดี้”
เบลล่านั้นแสร้งทำท่าตกใจ!!
“ให้ตายเถอะ!!..นี่กลายเป็นข้าขอคำปรึกษากับเจ้าของงานงั้นหรือคะ…นี่จะขายหน้าเกินไปแล้ว!!”
คิร่านั้นหัวเราะเบาๆ ก่อนที่เธอจะเดินนำเบลล่าเข้าไปด้านในสวน
“วันนี้อากาศดีเหมาะแก่การจะดื่มชาในสวนนะคะ…”
สวนที่ว่ามันคือสวนกระจก มีดอกไม้ราคาแพงระยับปลูกอยู่เต็มไปหมด นั่นคือกุหลายสีดำที่ดอกใหญ่กว่าหน้าเธอไม่ใช่เรอะ!!
“ค่ะ…สวนของเลดี้งดงามมากๆ เลยนะคะ มีดอกไม้หลายอย่างที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย!!”
“เป็นดอกไม้ที่ท่านพี่ของข้าเป็นคนปลูก ที่นี่เป็นที่เดียว..ที่เวลาเรามาแล้วมันสามารถบรรเทาความคิดถึงที่มีต่อท่านพ่อและท่านแม่ค่ะ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของคิร่านั้นเจือปนไปด้วยความเศร้า
“บอกข้าทีสิว่าข้าไม่ได้ตาฝาดไป!!..นั่นคิร่าพาเพื่อนมาที่คฤหาสน์งั้นหรือ”
เบลล่าหันไปมองที่เสียงของบุรุษที่ดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ ก่อนจะหันมาหาคิร่าราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
โอ้โห้!! หล่อฉิบหาย!!! ทีแรกเธอนึกว่าท่านเคาน์ที่สาวๆ ในเมืองหลวงโหยหานั้นจะมีเพียงเงินทองเท่านั้นแต่นี่มันหล่อสุดๆ ไปเลยไม่ใช่รึไง!!
ถึงในใจของเบลล่าจะกรีดร้องมากเท่าไหร่ เธอก็ยังคงรักษาใบหน้าที่ยกยิ้มอย่างไม่รู้สึกอะไรได้เป็นอย่างดี
นี่อาจจะเป็นทดสอบของคิร่าก็ได้…หากว่าเธอนั้นแสดงท่าทางสนอกสนใจท่านเคาน์ เธอจะไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้คิร่าอีกเลยในชาตินี้…
“สวัสดีค่ะท่านเคาน์ ข้าเบลล่า เมบิล ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
เธอลุกขึ้นก่อนจะก้มหน้าลงเพื่อทำความเคารพตามมารยาท
“ไม่ต้องมากพิธีหรอก..หากว่าเจ้าเป็นเพื่อนของคิร่า เจ้าก็นับเป็นน้องสาวข้าอีกคนด้วย!!”
เบลล่าส่งยิ้มให้ท่านเคาน์อย่างพอดีๆ ไม่ดีใจเกินไปและไม่เมินเฉยเกินไป
คิร่านั้นถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเธอมองไม่เห็นท่าทางสนอกสนใจท่านพี่จากใบหน้าของเบลล่าเลย ท่าทางสตรีผู้นี้น่าจะไม่ได้เข้าหาเธอเพราะท่านพี่จริงๆ เช่นนั้นเธอก็สบายใจแล้ว
“คืนนี้พี่จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับอัศวินในสังกัดเคนเนดี้ หากว่าเบลล่าไม่มีธุระที่ไหนต่ออยู่ร่วมงานเลี้ยงด้วยกันก่อนสิ”
เธอมองไปที่คิร่า ซึ่งคิร่านั้นพยักหน้าราวกับต้องการให้เธอตกลง
“ค่ะ..ถ้ากลับไม่ดึกมาก น่าจะไม่เป็นไร”
ท่านเคาน์ส่งยิ้มก่อนจะยกแก้วน้ำชาขึ้นดื่ม
“ว่าแต่คิร่าจัดการเรื่องชุดวันงานเรียบร้อยรึยัง?”
“ค่ะ ข้ากับเบลช่วยกันเลือกชุดที่ร้านของมาดามอิกกี้แล้ว เราพบกันโดยบังเอิญที่นั่น”
“ดีจังเลยนะ พี่คาดหวังอยากให้เจ้ามีเพื่อนตั้งนานแล้ว ว่าแต่เบลล่าลงเรียนที่ไหนอยู่งั้นหรือ? เผื่อจะให้คิร่าไปเรียนด้วย เพราะที่ผ่านมานางไม่ชอบเข้าสังคมก็เลยไม่ได้ไปเรียนที่อคาเด็มมี่”
“ข้าเรียนจบตั้งแต่สองปีที่แล้ว..ตอนนี้ผันตัวมาเป็นอาจารย์สอนแล้วค่ะ”
“เคร้ง!!!”
ช้อนในมือของคิร่านั้นตกลงบนจาน เธอมองที่เบลล่าอย่างตกใจ
“เบลนี่เจ้าอายุเท่าไหร่!!”
เพราะจากที่คาดคะเนจากสายตา ไม่ว่าจะมองยังไงนางก็อายุไม่น่าจะเกินสิบเจ็ดปี
“อีกสามเดือนจะสิบเจ็ด..”
นี่หมายความว่านางเรียนจบตั้งแต่อายุสิบสี่งั้นเรอะ!! นี่มันจะอัจฉริยะเกินไปแล้ว!!
“เหลือจะเชื่อ!!”
“ตระกูลเมบิลของข้าไม่ได้ถือว่าร่ำรวย ท่านพ่อของข้าเสียไปตั้งนานแล้ว ท่านแม่ต้องเป็นคนทำงานทั้งหมด ข้าก็เลยตั้งใจเรียนให้จบไวๆ เผื่อจะได้แบ่งเบาภาระของท่านแม่”
โคลด์หรี่ตามองใบหน้าที่งดงามของเบลล่า ก่อนที่เขาจะแสยะยิ้ม
ที่มัน…น่าสนใจกว่าที่คิดแฮะ!!