เพชรน้ำค้างวางหนังสือและกระเป๋าสะพายเอาไว้ในห้องโถง แล้วเดินไปตามวัชระที่สระว่ายน้ำ เธอมีเวลาติวหนังสือสอบให้วัชระแค่วันล่ะสองชั่วโมง ดังนั้นเวลานี้ชายหนุ่มควรจะนั่งรอเธออยู่ในห้องโถงมากกว่า ไม่ใช่ปล่อยให้เธอต้องมาตามไปเรียนไปแบบนี้
เสียงหัวเราะที่ดังเข้ามาทุกขณะ สร้างความไม่พอใจให้กับเพชรน้ำค้างไม่น้อย ตอนนี้ใช่เวลามาเล่นน้ำสนุกกับเพื่อนหรืออย่างไรกัน วัชระไม่รู้ชะตาชีวิตของตัวเองบ้างไง ถึงได้ทิ้งโอกาสในครั้งนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะคิดผิดที่ตัดสินใจตอบรับคำขอร้องจากรังสิยา
หญิงสาวก้าวเท้าฉับๆ ผ่านประตูกระจกตรงเข้าไปในสระว่ายน้ำด้วยสีหน้าเรียบตึง ทั้งที่ความจริงโกรธจนแทบจะโยนคำขอร้องของรังสิยาทิ้ง แล้วหันหลังเดินกลับออกมาจากตรงนั้น สองขาเรียวยาวก้าวไปข้างหน้า พร้อมกับกวาดสายตามองหาวัชระไปด้วย ก่อนที่ความโกรธของเธอจะพุ่งปรี๊ดจนแทบควบคุมไม่อยู่ เมื่อเห็นผู้ชายที่เธอต้องทำให้มันสอบผ่านในเทอมนี้ กำลังนัวเนียอยู่กับผู้หญิงในสระว่ายน้ำ
สายตาคู่คมมองการมาของเพื่อนสนิทน้องสาวตั้งแต่ก้าวแรกที่อีกฝ่ายเดินผ่านประตูเข้ามา ชายหนุ่มแสยะยิ้มหยัน ประเมินคนที่จะมาติวหนังสือสอบให้ตนอย่างดูถูก ความจริงแล้วคนที่จะมาติวหนังสือให้เขา ควรจะเป็นอาจารย์ที่มีชื่อเสียงหรือไม่ก็ต้องเป็นระดับติวเตอร์ชื่อดัง ไม่ใช่เพื่อนของน้องสาว
“คนที่มาติวหนังสือสอบให้วัช หน้าตาดีใช้ได้เลยนี่นา”
“หน้าตาดีตรงไหน ฉันยังหล่อกว่ามันตั้งเยอะนะแพท”
วัชระกล่าวขึ้นมาอย่างไม่ค่อยจะชอบใจนักที่แฟนสาวให้ความสนใจเพื่อนสนิทของน้องสาวมากกว่าเขา แล้วเขาก็ไม่เห็นว่ามันจะหล่อตรงไหน หน้าตาก็พอไปวัดไปวาได้ ดีหน่อยที่มันสูง จากที่เขาประเมินไอ้หน้าอ่อนนี่น่าจะสูงไม่เกินร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตรเท่านั้น
“ที่รักของแพทต้องหน้าตาดีและหล่อกว่าผู้ชายคนนั้นแน่นอนสิจ๊ะ”
////////////
แฟนสาวของวัชระเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ทว่าสายตาของเธอกลับหันไปสนใจหนุ่มหล่อที่ยืนหน้านิ่งอยู่ไม่ไกลด้วยสายตาชื่นชม ถ้าให้ถามผู้หญิงสักสิบคนว่าระหว่างแฟนหนุ่มของเธอกับเพื่อนสนิทของรังสิยา ใครจะหล่อกว่ากัน
เธอมั่นใจว่าสาวๆ เหล่านั้นต้องบอกว่าเพื่อนสนิทของรังสิยาหล่อกว่าอย่างแน่นอน เพราะชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้หล่ออย่างเดียว แต่ด้วยรูปร่างที่สูงโปร่ง กับลักยิ้มที่แก้มขวา ยิ่งเสริมให้เขาดูน่าหลงใหลมากขึ้นไปอีก เธอต้องบอกว่าผู้ชายคนนี้ เข้าตำราเลยก็ว่าได้ สูง ผิวขาว หน้าตาก็หล่อคม แถมการศึกษาก็ยังดีอีก
หากให้พูดกันตามความเป็นจริงแล้ว แฟนหนุ่มของเธอไม่มีอะไรไปสู้เพื่อนสนิทของรังสิยาได้เลย ในเมื่อคนหนึ่งหน้าตาก็ถือว่าธรรมดา เรียนหนังสือก็ไม่เก่ง มีดีแค่ฐานะก็เท่านั้น แต่อีกคนนี้สิ หน้าตาหล่อมาก สูงเหมือนนายแบบ เรียนก็เก่ง แต่เรื่องฐานะทางบ้านนี่เธอไม่แน่ใจว่าเขาจะรวยหรือเปล่า?
“แน่ใจหรือว่าคนที่มาติวหนังสือสอบให้มึงเป็นผู้ชาย ท่าทางมันตุ้งติ้งยังไงก็ไม่รู้”
เขมทัตโผล่ขึ้นจากน้ำ แต่สายตามองไปยังร่างสูงโปร่งที่ยืนหน้าเฉยชาอยู่ไม่ไกลอย่างพิจารณา ก่อนจะหันมากระซิบถามวัชระเบาๆ ด้วยความสงสัยทันที
“ไอ้หน้าหล่อนี่เป็นตุ๊ดหรือเปล่าวะไอ้วัช”
“กูไม่รู้ เพราะกูไม่เคยเห็นหน้ามันมาก่อน ปกติเพื่อนสนิทของรังสิยามีแต่ผู้หญิง”
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเพื่อนสนิทของน้องสาวที่เป็นผู้ชาย ว่าแต่รังสิยาคิดอะไรอยู่ ถึงให้ไอ้หน้าอ่อนนี่มาติวหนังสือสอบให้กับเขา หรือว่ารังสิยามีแผนที่จะเขี่ยเขาออกจากกองมรดก แต่อย่าหวังว่าเขาจะยอมให้มันเป็นไปอย่างที่รังสิยาคิด ยังไงเขาก็คือทายาทเพียงคนเดียวที่จะได้รับมรดกทั้งหมดจากคุณย่า
“ไอ้หน้าอ่อนนี่เป็นแฟนของน้องสาวมึงหรือเปล่าวะไอ้วัช”
“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน พวกมึงก็รู้ว่ากูกับน้องสาวไม่ค่อยถูกกัน เรื่องส่วนตัวของมันกูจะไปรู้ได้ยังไง”
“แล้วนี่มึงจะยอมติวหนังสือสอบกับไอ้หน้าอ่อนนี่หรือไหมวะ”
“ไม่มีทางหรอกว่ะ คนที่จะติวหนังสือสอบให้กู ต้องเป็นระดับอาจารย์มหาลัยหรือไม่ก็ต้องติวเตอร์ดังๆ เว้ย ให้กูไปนั่งติวหนังสือสอบกับไอ้หน้าอ่อนนี่ ไม่มีทางเด็ดขาด”
บทสนทนาระหว่างวัชระกับบรรดาเพื่อนสนิทของเขาไม่น้อย และแน่นอนว่าเพชรน้ำค้างได้ยินมันทุกประโยค หญิงสาวยืนนิ่ง มองกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังสนทนากันอย่างสนุกสนานอยู่ในสระด้วยความเดือดดาล ความรู้สึกที่มีต่อคนกลุ่มนี้ยิ่งติดลบมากไปอีก
ไม่นึกเลยว่ารังสิยาจะมีพี่ชายที่น่ารังเกียจถึงขนาดนี้ จากที่ไม่ชอบขี้หน้าก่อนหน้านี้ เธอกลับรู้สึกว่าในใจเพิ่มคำว่าเกลียดขึ้นมาด้วย หลานชายเพียงคนเดียวของตระกูลศิวาลักษณ์เป็นขยะสังคมของแท้ ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมคุณผกามาศ ศิวาลักษณ์ถึงได้รักได้หลงลูกชายแต่กลับทอดทิ้งลูกสาวที่นิสัยดีและน่ารักได้ลงคอ
“มึงกลับไปเถอะ กูไม่ติวหนังสือกับมึง”
“...” คำพูดที่หลุดออกมาจากปากของวัชระ ทำให้เพชรน้ำค้างถึงกับแสยะยิ้ม มองคนพูดด้วยสายตาเหยียดหยามอย่างเปิดเผย เพราะเธอก็ไม่ได้อยากมาติวหนังสือสอบให้เสียหน่อย ที่ต้องทำก็เพราะรังสิยาขอร้องล้วนๆ แต่ก็ดีเหมือนกัน ในเมื่อไอ้หมอนี่ไม่อยากให้เธอช่วยติว ก็ถือเป็นโชคดีสำหรับเธอ
“ยิ้มอะไรของมึง ไอ้หน้าอ่อน”
“รอยยิ้มและสายตาดูถูกมึงสุดๆ เลยวะไอ้วัช”
“กูเห็นแล้ว มึงไม่ต้องพูดตอกย้ำกูก็ได้ไอ้ใหญ่”
วัชระตอบโภคินเสียงกร้าว เมื่อเห็นเพื่อนสนิทของน้องสาวยังยืนเงียบ นอกจากมันแสยะยิ้มแล้ว มันยังกล้ามองเขาด้วยสายตาดูถูกอีก ไอ้เวรนี่มันนึกว่ามันเป็นใคร ถึงได้กล้ามาทำพฤติกรรมต่ำทรามกับเขา
เพชรน้ำค้างถอนหายใจออกมา ขณะมองสีหน้าไม่พอใจของพี่ชายเพื่อนสนิท ตอนแรกก็อยากกลับอยู่หรอก แต่พอนึกถึงสีหน้าไม่มีความสุขของรังสิยา ความคิดก่อนหน้านี้ก็ต้องพับความไม่พอใจวัชระเอาไว้ให้ลึกที่สุด แล้วกลับมาทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป ยังไงเธอก็ต้องติวหนังสือให้วัชระ ก่อนจะตัดสินใจเตือนชายหนุ่ม
“ฉันมีเวลาให้คุณแค่สองชั่วโมง ขึ้นจากสระได้แล้ว นี่ก็เลยเวลาติวหนังสือมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว”
“ก็กูบอกมึงแล้วไง ว่ากูไม่ติวหนังสือกับมึง ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอไอ้โง่”
“ฉันว่าคุณขึ้นมาจากสระน้ำได้แล้ว อย่ามัวลีลา เพราะอนาคตของคุณ ขึ้นอยู่กับการสอบครั้งนี้”
“มึงพูดเรื่องอะไร อนาคตของกู เกี่ยวอะไรกับมึงด้วยวะไอ้หน้าอ่อน”
“ฉันไม่มีสิทธิ์ตอบคำถามพวกนั้น สิ่งที่ฉันต้องทำก็คือ ติวหนังสือให้คุณเท่านั้น ถ้าคุณอยากรู้เรื่องทั้งหมด ฉันแนะนำให้คุณไปถามคุณลุงจะดีกว่า”
เธอมีหน้าที่แค่ติวหนังสือสอบให้เท่านั้น หน้าที่ตอบคำถามอื่น ไม่ใช่หน้าที่ที่เธอต้องเป็นคนตอบ เพชรน้ำค้างเดินมาหยุดอยู่ที่ริมขอบสระ มองไอ้ตัวปัญหาที่พยายามทำให้เธอสติแตกอย่างเอือมระอา จะมีใครรู้บ้างไหมว่าเธอต้องอดทนขนาดไหนกับผู้ชายที่เห็นแก่ตัวและเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้
/////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...