ณ จวนอ๋องแปด
“จากการที่กระหม่อม ติดตามดูความเคลื่อนไหวของบุตรีสกุลซ่ง ล่าสุดพบว่า แม่นางเสวี่ยอี้ อยู่บนเขากับชายหนุ่มผู้หนึ่งขอรับ” ซือมิ่ง ชายหนุ่มองครักษ์คนสนิทของอ๋องแปดเอ่ยรายงานเจ้านายตน หลังจากที่ได้ไปติดตามดูชายาพระราชทานของอ๋องแปดทุกย่างก้าวตามคำสั่งการ
อ๋องแปดกระตุกยิ้มที่มุมปาก ยืนกอดอก มองทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง พลางเอ่ย “งั้นหรือ...ข้าคิดไม่ผิดจริง ๆ นางจะต้องไม่ธรรมดา ข้าไม่เข้าใจว่าเหตุใดท่านพ่อให้ข้าแต่งงานกับนาง”
“แต่...ยิ่งกว่านั้นคือ…” ซือมิ่งเอ่ยเสียงยืดยาว ตะกุกตะกัก
“เจ้าตั้งใจจะบอกอะไรข้า! ” อ๋องแปดเอ่ยน้ำเสียงขึม ชักสีหน้ารำคาญ ก่อนที่จะหันไปเพ่งมองรอคำตอบจากซือมิ่งอย่างใจจดใจจ่อ
“ข้าเห็นชายหนุ่มผู้นั้นคือ…”
“องค์รัชทายาทขอรับ”
สีหน้าของอ๋องแปดเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น เพราะตั้งแต่เด็กยันโต อ๋องแปดตั้งตนเป็นปรปักษ์กับอ๋องสิบ องค์รัชทายาทในปัจจุบันมาโดยตลอด
ความรักของบิดา ที่เป็นกษัตริย์ของแผ่นดินต้าฉิง มิเคยเพิ่มขึ้นเลยหลังจากที่ฮองเฮาได้ตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายคนเดียวของเขาออกมา
มารดาของอ๋องแปดที่ดำรงตำแหน่งเป็นเหม่ยเหริน ก็ยิ่งถูกลดความสำคัญลงเรื่อย ๆ จนกลายเป็นผู้ถูกลืมในที่สุด โดยที่ฮ่องเต้ไม่เคยแม้แต่จะชายตามองมาเลยแม้แต่น้อย
ความอิจฉาริษยานี้ ฝังลึกอยู่ในใจของอ๋องแปดมาเนิ่นนาน ยากที่จะลบเลือน และยิ่งได้รู้ว่า เสวี่ยอี้ สตรีผู้ที่จะต้องแต่งงานด้วย มีความสัมพันธ์กับรัชทายาท ศัตรูตัวฉกาจของเขา เขาจึงรู้สึกเหมือนโดนแย่งของบางอย่างที่กำลังจะมาเป็นของเขาไปเสียดื้อ ๆ
"อ๋องสิบ! เจ้าอีกแล้วหรือ! " อ๋องแปดแสดงแววตาแข็งกร้าว เอ่ยตะคอกเสียงลั่นด้วยความไม่พอใจ
"กระหม่อมไม่แน่ใจว่า เป็นเหตุบังเอิญหรือไม่นะขอรับ กระหม่อมซุ่มมองอยู่ไกล ๆ หากใกล้กว่านี้ องค์รัชทายาทจะต้องรู้เป็นแน่"
“หากเป็นชายอื่น ข้าคงไม่สนใจ แต่นี่เป็นอ๋องสิบ เจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ! ”
“กระหม่อมคิดว่า อ๋องสิบจะต้องหาทางเล่นงานยั่วยุท่านอ๋องเป็นแน่ขอรับ”
“หึ! ก็คงเป็นเช่นนั้น หญิงงามมีมากมายบนแผ่นดินต้าฉิง สำหรับอ๋องสิบแล้ว ไม่มีคำว่าบังเอิญเป็นแน่ ข้าเจ็บใจนัก! ”
“กระหม่อมก็คิดเช่นนั้นขอรับ”
“ข้าจะไม่ยอมให้อ๋องสิบมาแย่งของ ๆ ข้าไปอีกเป็นแน่ นางเป็นของข้า และจะเป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียว! ”
“ใครเป็นของผู้ใดกันหรือเพคะ....” สตรีงามนางหนึ่ง นามว่า หลี่ถิง เอ่ยดังขึ้นขัดจังหวะ
อ๋องแปดและซือมิ่งหยุดชะงักและหันมองมาที่นางเป็นตาเดียวกัน
นางค่อย ๆ เดินเข้ามาข้างในเรือนพักของอ๋องแปดด้วยท่วงท่าสง่างามอ่อนโยน ม่านตาของนางกะพริบขึ้นลงอย่างช้า ๆ ตามจังหวะการก้าวเดิน พร้อมกับรอยยิ้มอันเจิดจรัสงดงามราวกับดอกไม้ที่บานสะพรั่ง
“งานอภิเษกสมรสของท่านอ๋องกับธิดาตระกูลซ่งจะมาถึงในไม่ช้านี้ ท่านอ๋องจะมายืนไม่สบอารมณ์เช่นนี้ได้อย่างไรกันเพคะ” หญิงสาวเอ่ยด้วยแววตาเศร้าสร้อยพลางส่งยิ้มบางเบา ที่แลดูขัดแย้งกับคำพูดของนางยิ่งนัก
อ๋องแปดเผยสีหน้าตกใจเล็กน้อย ที่เห็นหลี่ถิง ปุ๊บปั๊บโผล่มาเข้าในเรือนโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เขาขยิบตาส่งสัญญาณให้ซือมิ่งออกไปจากเรือน ก่อนที่จะหันมาเอ่ยกับหลี่ถิงด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “หลี่ถิง... เหตุใดเจ้าถึงเข้ามาหาข้าเงียบๆ เจ้าแอบดูข้างั้นหรือ”
“หากส่งเสียงดัง หรือบอกกล่าวเสียก่อน หม่อมฉันก็คงไม่ได้เห็นกับตา ว่าตอนนี้ ท่านอ๋องมิได้โศกเศร้าเสียใจเลยแม้แต่น้อย”
"เหตุใดเจ้าถึงคิดเช่นนั้น ข้าทุกข์ใจแค่ไหนเจ้ารู้หรือไม่" อ๋องแปดเอ่ยพลางส่งสายตามองหลี่ถิงอย่างอาลัยอาวรณ์ไม่หยุดหย่อน
หลี่ถิงก้มหน้าก้มตานิ่งเงียบไม่เอ่ยตอบคำใด
บรรยากาศเงียบงันฉับพลัน อ๋องแปดต้องการสร้างบรรยากาศที่ดีกว่านี้กับนาง เขาจึงเอ่ยชักชวนนางออกไปข้างนอก “หลี่ถิง... เจ้าออกไปเดินเล่นกับข้าได้หรือไม่”
“เพคะ…” หลี่ถิงพยักหน้าตอบรับคำเชิญแต่โดยดี
อ๋องแปดเดินจูงมือหลี่ถิงมาที่สวนกลางจวนของตน
ด้วยความสนิทสนมทำให้ทั้งคู่ยืนแนบชิดติดกันและหยอกล้อกันอย่างไม่เคอะเขิน
อ๋องแปดจ้องมองหลี่ถิงด้วยแววตาลึกซึ้งเป็นประกาย พลางเอ่ย “หลี่ถิง...เจ้าจำตอนที่เรายังเด็กได้หรือไม่ เราสัญญากันว่า เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”
“จำได้สิเพคะ หม่อมฉันมีความสุขทุกครั้งที่ได้นึกถึง แต่ตอนนี้…หม่อมฉันต้องเก็บไว้เป็นความทรงจำแต่เพียงผู้เดียว” หลี่ถิงเอ่ยพลางมองต่ำ เบือนหน้าหนีไปอีกทาง
"หลี่ถิง...เจ้ารู้หรือไม่ ว่าข้ารักเจ้ามากเพียงใด เจ้าคือสตรีนางเดียวที่อยู่ในหัวใจของข้า"
"ถึงแม้ตอนนี้ท่านอ๋องจะสารภาพรักกับหม่อมฉัน สุดท้ายแล้ว ท่านอ๋องก็ต้องแต่งงานกับบุตรีตระกูลซ่งเข้าจวนอยู่ดีใช่หรือไม่เพคะ"
อ๋องแปดชะงักนิ่งเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขามิอาจทำสิ่งใดได้ ในเมื่อการแต่งงานครั้งนี้เป็นพระราชทานของฮ่องเต้ บิดาของเขา ที่เขามิอาจฝ่าฝืนพระบัญชาได้
"หลี่ถิง...เจ้าก็รู้เหตุผลของข้า"
"เพคะ แต่...หม่อมฉันก็รู้สึกเจ็บปวดใจทุกครั้ง"
อ๋องแปดใช้มือทั้งสองข้างจับไปที่ใบหน้าของหลี่ถิงอย่างอ่อนโยน พลางส่งสายตาลึกซึ้งเปล่งประกาย "หลี่ถิง...ข้ารู้ว่าเจ้ารู้สึกเช่นไร ข้าขอโทษ แต่เจ้าได้โปรดรู้ไว้ว่าไม่มีสตรีนางไหนมาแทนที่เจ้าได้"
หลังเอ่ยจบ อ๋องแปดก็ค่อย ๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้หลี่ถิง ก่อนที่จะจุมพิตไปที่ริมฝีปากของนางอย่างนุ่มนวล
หลี่ถิงปิดม่านตาลงและตอบรับจูบนั้นด้วยความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความโศกเศร้า เพราะนางรับรู้ได้ว่า นี่คงเป็นจูบสุดท้ายจากชายผู้เป็นที่รักของนางแล้ว
โชคชะตาช่างทำร้ายข้ายิ่งนัก หากชาติหน้ามีจริง ขอให้ข้า อย่าได้พลัดพรากจากชายผู้ซึ่งเป็นที่รัก เหมือนดั่งเช่นชาตินี้อีกเลย