ราเชนเงยหน้าขึ้นและหัวเราะออกมาเสียงดัง เขาอารมณ์ดีเมื่ออยู่กับดาหวัน
“เพราะพี่ก็ดื่มกาแฟรสนี้เหมือนกันครับ”
“โห... จริงเหรอคะ” หญิงสาวยิ้มกว้างมาก จนเห็นลักยิ้มข้างแก้มซ้ายชัดเจน
ราเชนมองดาหวันด้วยสายตาพึงพอใจ นี่ถ้าเขากล้าเร็วกว่านี้ ความสัมพันธ์ของหล่อนกับเขาก็คงจะเดินหน้าไปไกลกว่านี้แล้ว
น่าเสียดายจริงๆ
“จริงสิครับ”
ราเชนตอบและก็ยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบ ก่อนจะเอ่ยถามถึงเรื่องคาค้างเมื่อวาน
“แล้วเรื่องที่พัก หวันตัดสินใจหรือยังครับ”
“หวันตัดสินใจแล้วค่ะ”
“จะย้ายออกเมื่อไหร่ครับ”
หญิงสาวช้อนตาขึ้นมองคนที่ตัวสูงกว่ามากด้วยความเกรงใจ
“หวันขออยู่ที่เดิมนะคะ”
“ทำไมล่ะหวัน ที่นั่นมันไม่ปลอดภัยหรอกนะครับ”
“หวันรู้ค่ะ แต่หวันก็ระวังตัวตลอดเวลา และอีกอย่าง หวันก็อยู่มาได้ตั้งหลายปี คงไม่มีใครจ้องจะทำร้ายหวันหรอกค่ะ”
“แต่พี่เป็นห่วง”
“ขอบคุณค่ะ แต่หวันอยู่ได้จริงๆ ค่ะ”
ราเชนถอนใจออกมาแรงๆ อย่างไม่พอใจนัก แต่ก็รู้ดีว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์เซ้าซี้เกินไป เพราะเดี๋ยวนางกวางสาวจะตื่นกลัวเสียเปล่า
“งั้นก็ตามใจครับ แต่ถ้ามีเรื่องไม่ชอบมาพากลอะไรเกิดขึ้น หวันต้องย้ายออกทันทีนะครับ”
“ค่ะ หวันสัญญาค่ะ”
ดาหวันตอบรับเสียงหนักแน่น ซึ่งก็ทำให้ผู้ชายตรงหน้าของหล่อนพึงพอใจ
“เออ... หวันมีเรื่องจะถามพี่สมชายค่ะ”
คนที่ยืนจิบกาแฟด้วยท่าทางสบายอกสบายใจหรี่ตาแคบมองจ้องมา
“หวันมีอะไรหรือครับ”
“คือเมื่อกี้ที่ห้องล็อกเกอร์ พี่พิพัฒน์... ผู้ชายคน
เมื่อวานที่พี่สมชายเจอน่ะค่ะ”
“เขาทำอะไรหวันอีกครับ ไอ้หมอนี่โดนใบเตือนแล้วยังไม่เข็ดอีก”
ราเชนบ่นพึมพำด้วยความไม่พอใจ แค่คิดว่ามันมายุ่มย่ามกับดาหวัน เขาก็โมโหจนเลือดขึ้นหน้าแล้ว
“พี่สมชายพูดแบบนี้ แสดงว่าที่พี่พิพัฒน์ถูกใบเตือนก็เพราะพี่เหรอคะ”
เมื่อได้ยินคำถามของดาหวัน ราเชนก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงได้ จึงต้องยอมรับความจริงออกไป
“ครับ พี่เป็นคนไปฟ้องหัวหน้าของนายนั่นเอง”
“ขอบคุณพี่สมชายมากนะคะที่เป็นห่วงหวัน แต่หวันไม่อยากให้พี่สมชายทำแบบนี้เลย หวันกลัวว่าพี่สมชายจะเดือดร้อน หากพี่พัฒน์รู้ว่าเป็นฝีมือของพี่”
“มันทำอะไรพี่ไม่ได้หรอก”
น้ำเสียงของบุรุษตรงหน้าเหี้ยมเกรียมและทรงอำนาจจนหล่อนอดแปลกใจไม่ได้
สมชายเหมือนไม่ใช่แค่เชฟธรรมดา บุคคลิกอย่างเขาน่าจะเป็นพวกหัวหน้างานมากกว่า เพราะทั้งท่าทาง และทั้งคำพูดดูมีพลัง อำนาจ คล้ายกับว่าเคยชินกับการออกคำสั่งมาตลอดชีวิต
“พี่หมายถึง หมอนั่นไม่มีทางรู้หรอกว่าพี่เป็นคนฟ้องเจ้านายของมันน่ะ” ราเชนเห็นสายตากังขาของดาหวันก็รีบแก้ตัว
“อ๋อ... ค่ะ...”
ดาหวันยกแก้วกาแฟกระดาษขึ้นจิบอีกครั้งแก้ความขัดเขินที่เกิดขึ้นจากสายตาหวานๆ ของสมชายที่มองจ้องมองมา
“เดี๋ยวตอนเบรกเราเจอกันนะครับ”
“ได้ค่ะ”
“แล้วก็เย็นนี้... พี่จะไปส่งเหมือนเดิม”
“เจ้านายพี่ ยังให้รถมาใช้อีกเหรอคะ”
“ใช่ครับ เจ้านายพี่ใจดีมาก และท่านก็มีรถเยอะจนขับไม่ไหว พี่ก็เลยช่วยแบ่งเบาเอามาขับน่ะครับ”
ดาหวันผงกศีรษะตอบรับ แม้จะไม่ค่อยเข้าใจตรรกะของคนรวยนักก็ตาม
“งั้นก็ได้ค่ะ”
ราเชนฉีกยิ้มกว้าง และก็มองดาหวันที่ยืนบิดกายไปมาด้วยความขัดเขินไม่วางตา
ความสัมพันธ์ของหล่อนกับผู้ชายที่บอกว่าตนเองชื่อสมชายเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างราบรื่น และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข
แม้เขาจะไม่เคยพาหล่อนไปพบเจอกับครอบครัวเลยสักครั้ง แต่สัญชาตญาณของหล่อนก็ร้องบอกว่า ผู้ชายคนนี้แหละที่สามารถฝากชีวิตเอาไว้ด้วยได้
เขาออกหน้าปกป้องหล่อนจากเพื่อนร่วมงานเสมอ และมันก็แปลกมากที่เพื่อนร่วมงานเหล่านั้นต่างถูกหัวหน้าเรียกไปรับใบเตือนทุกคน จนตอนนี้ไม่มีเพื่อนร่วมงานคนไหนกล้าว่าร้าย หรือว่านินทาหล่อนอีกเลย
มันเป็นเรื่องที่ดีมาก และหล่อนก็ควรจะที่ดีใจกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีเช่นนี้
แต่ยิ่งชีวิตการทำงานของหล่อนราบรื่นมากเท่าไหร่ ความค้างคาใจที่มีต่อสมชายก็ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นเท่านั้น โดยหาสาเหตุไม่ได้
“สวัสดีตอนเช้าจ้ะน้องหวัน”
“สวัสดีค่ะพี่พุด”
พุดจีบเดินยิ้มกว้างเข้ามาหา พร้อมกับส่งน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋มาให้
“พี่ซื้อมาฝาก รับไว้สิจ๊ะ”
ดาหวันไม่ชินกับท่าทางที่เปลี่ยนไปของพุดจีบเลย แต่ก็ไม่อาจขัดศรัทธาได้ จึงต้องยื่นมือไปรับเอาไว้
“ขอบคุณค่ะ”
“เจ้านี้ชื่อดังมากนะ อร่อยมากๆ ด้วย น้องหวันกินแล้ว ถ้าติดใจ บอกพี่นะ พี่จะซื้อมาฝากทุกเช้าเลย”
“ขอบคุณพี่พุดมากค่ะ แต่แค่นี้หวันก็เกรงใจแล้วค่ะ”
“ไม่ต้องเกรงใจเลยจ้ะน้องหวัน พี่พุดคนนี้ยินดีทำเพื่อน้องหวันเสมอค่ะ”
“เอ่อ... ขอบคุณค่ะ”
“งั้นพี่ขอไปเตรียมตัวทำงานก่อนนะ เอาไว้พี่จะมาทักทายน้องหวันใหม่จ้ะ”
“ค่ะ”
หล่อนเป่าปากโล่งอกเมื่อพุดจีบเดินจากไปแล้ว แต่ก็ได้ไม่นาน เพราะจู่ๆ สิรินก็โผล่เข้ามา พร้อมกับทักทายดี๊ดีเลียนแบบพุดจีบมาทุกกระเบียดนิ้วเลย
“อรุณสวัสดิ์จ้ะหวันจ๋า”
“อะ... รุนสวัสดิ์จ้ะริน”
สิรินยิ้มกว้าง หน้าตายิ้มแย้ม พร้อมกับยื่นถุงใส่ขนมครกมาให้
“ฉันซื้อมาฝากน่ะ เด็ดมากนะเจ้านี้”
“เอ่อ... ขอบใจนะ”
“ถ้าชอบก็บอกนะ ฉันจะซื้อมาฝากบ่อยๆ”
ดาหวันแทบจะปรับอารมณ์ไม่ถูกเลยทีเดียวกับสิ่งที่เปลี่ยนไปของเพื่อนร่วมงาน
“ขอบใจนะ แต่ฉันไม่รบกวนดีกว่า”
“ไม๊... ไม่รบกวนเลยจ้ะ ฉันยินดี เราเป็นเพื่อนกันอย่าลืมสิจ๊ะ”
ดาหวันพยักหน้ารับน้อยๆ
“จ้ะ”
“อย่าลืมชิมนะ เดี๋ยวฉันไปทำงานก่อน แล้วจะแวะมาทักทายบ่อยๆ”
หล่อนตอบรับด้วยรอยยิ้ม และก็มองร่างของสิรินที่เดินหายไปด้วยความกังขาเป็นที่สุด
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นนะ”