ชายหนุ่มพาหล่อนแวะกินอาหารข้างทาง โดยให้หล่อนเป็นคนเลือกร้านที่อยากกิน ซึ่งแน่นอนว่า อาหารที่หล่อนเลือกก็เป็นอาหารตามสั่งราคาย่อมเยาว์นั่นเอง
“พี่สมชายปากแดงเชียวค่ะ เผ็ดเหรอคะ”
หล่อนเห็นคนที่บอกว่าสั่งเลย พี่กินได้ทุกอย่าง เหงื่อแตกเต็มหน้า แถมปากยังแดงก่ำกว่าตอนปกติอีกหลายเท่าด้วยความแปลกใจระคนเป็นห่วง
“ก็นิดหน่อยครับ แต่พี่กินได้”
หล่อนมองเขาอย่างสงสาร ก่อนจะรีบรินน้ำเปล่าให้กับเขาอีกแก้ว
“เดี๋ยวหวันสั่งข้าวผัด หรือว่าอะไรจืดๆ มาให้พี่สมชายกินดีกว่านะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ ต้มแซ่บนี่ก็อร่อยดี พี่ไม่เคยกินมาก่อนเลย”
ดาหวันเงยหน้ามองคนพูดอย่างแปลกใจ ก่อนจะหัวเราะขบขัน
“นึกแล้วเชียวว่าพี่สมชายไม่น่าจะชอบอาหารรสจัดแบบหวัน”
“แต่พี่จะลองกินครับ หวันกินอะไร พี่ก็จะกินแบบนั้นแหละ”
“อย่าเลยค่ะ หวันกลัวว่าพี่สมชายจะเผ็ดตายเสียก่อน”
“ไม่หรอกครับ พี่ทนได้”
ว่าแล้วเขาก็ตักต้มแซ่บ รวมถึงลาบเป็ดเผ็ดๆ ใส่ปากอีกครั้ง
“กินไปกินมา ของเผ็ดก็อร่อยดีนะครับ”
ดาหวันอมยิ้ม มองผู้ชายเหงื่อแตกท่วมหน้าด้วยความพึงพอใจ
“พี่สมชาย เสียงโทรศัพท์ของพี่หรือเปล่าคะ”
สมชายที่กำลังสั่งน้ำมูกอยู่ชะงักกึก ก่อนจะตอบออกมา
“ใช่ครับ”
“แล้ว... จะไม่รับเหรอคะ”
ราเชนเกรงว่าดาหวันจะสงสัย ก็เลยหยิบโทรศัพท์มือถือที่คว่ำหน้าเอาไว้บนโต๊ะอาหารขึ้นมากดรับ และกรอกเสียงเข้มที่ไม่เคยใช้กับดาหวันออกไป
“ผมติดธุระสำคัญครับ”
ดาหวันมองผู้ชายตรงหน้าที่เพิ่งวางสายสนทนาด้วยความแปลกใจอีกครั้ง
“คุณพ่อคุณแม่ของพี่สมชายโทรมาหาเหรอคะ”
ราเชนระบายยิ้ม และผงกศีรษะน้อยๆ
“ใช่ครับ ท่านถามว่าทำไมกลับบ้านช้า”
ดาหวันหน้าเจื่อน รู้สึกละอายใจไม่น้อย
“เพราะหวันแท้ๆ เลย พี่สมชายก็เลยกลับบ้านผิดเวลา หวันขอโทษนะคะ”
ราเชนยื่นมือไปกุมมือเล็กของดาหวัน รอยยิ้มของเขาสะกดให้หญิงสาวชะงักงัน
“พี่ต้องการอยู่ใกล้ๆ หวัน ดังนั้นหวันไม่ผิด เข้าใจที่พี่พูดนะครับ”
“เอ่อ...”
ราเชนปล่อยมือของผู้หญิงที่กำลังแก้มแดงระเรื่อ และตักอาหารใส่ปากอีกครั้ง
“หวันกินต่อสิครับ อาหารอร่อยๆ ทั้งนั้นเลย”
ดาหวันมองผู้ชายตรงหน้าด้วยความซาบซึ้งใจ เขาคือผู้ชายคนแรกที่มีน้ำใจกับหล่อน
“ค่ะ พี่สมชาย”
ราเชนชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวผ่านหน้าห้องรับแขกเล็กน้อย เมื่อมีเสียงของมารดาดังออกมาจากภายในห้องกว้างนั้น
“ครับคุณแม่”
และเขาก็ต้องเดินเข้าไปหาท่านพร้อมกับหย่อนกายลงนั่งบนโซฟาอย่างไม่มีทางเลือก
“เบี้ยวนัดหนูเมย์อีกแล้วนะตาเชน”
สีหน้าของราเชนเรียบ ไม่ยอมแสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาแม้แต่น้อย
“ผมมองน้องเมย์ในฐานะคนรักไม่ได้หรอกครับ เพราะเราเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก”
“ไหนว่าจะพยายามยังไงล่ะตาเชน” มารดาทำเสียงดุ และทวงสัญญา
“ผมพยายามแล้วครับ แต่ทำไม่สำเร็จ เพราะในสายตาของผมน้องเมย์เปรียบเสมือนน้องสาวครับ”
เขาได้ยินเสียงมารดาถอนใจแรงมาก แต่ท่านก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรเขามาก เพราะครอบครัวของเขาให้อิสรภาพทางความคิดกับสมาชิกในครอบครัวมาตั้งนานแล้ว
“ก็พยายามๆ หน่อยแล้วกัน แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ แม่กับพ่อก็ไม่คิดจะบังคับอะไรพ่อเชนหรอก”
ชายหนุ่มระบายยิ้มบางๆ และนั่นก็ทำให้มารดาถึงกับเบิกตากว้าง ลูกตาดำแทบจะถลนออกจากเบ้า
“เดี๋ยวนะ นั่นปากลูกไปโดนอะไรมาน่ะ ทั้งบวมทั้งแดง”
นี่ปากเขายังไม่กลับคืนสู่สภาวะปกติอีกหรือ...
ราเชนแปลกใจ ขณะยกมือขึ้นลูบริมฝีปากที่ยังบวมเจ่อเพราะฤทธิ์เดชของพริกจำนวนสิบกว่าเม็ดที่ไหลผ่านเข้าไป
“อ๋อ ผมไปกินส้มตำมาน่ะครับ มันค่อนข้างเผ็ด”
ความจริงเผ็ดมากจนเขาแสบท้องเลยล่ะ แต่ก็จำต้องทำท่าทางปกติเอาไว้
“แต่มันอร่อยมากครับ”
สิ่งที่ทำให้อาหารอร่อย คือคนร่วมโต๊ะต่างหาก และราเชนก็อดนึกถึงเสียงพูดเจื้อยแจ้วและรอยยิ้มหวานๆ ของดาหวันไม่ได้
หล่อนน่ารัก...
เขาแอบมองหล่อนเงียบๆ มาหลายปี โดยไม่กล้าที่จะเข้าไปทักทาย จนกระทั่งทนเห็นหล่อนถูกกลั่นแกล้งไม่ไหว จึงรวบรวมความกล้าเข้าไปหา
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากความกล้าหาญครั้งนี้ ก็คือเขาได้รอยยิ้มของดาหวันมาเป็นรางวัล
มันคุ้มค่าที่สุด...
“ตายๆๆๆ ตายแล้วพ่อเชน... นี่หัดกินเผ็ดตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย”
แม่ของเขาตกใจมากจนหน้าตาตื่นเลยทีเดียว
“ก็วันนี้แหละครับ”
“แม่จะเป็นลม แล้วนี่จะไม่เข้าโรงพยาบาลเหมือนตอนเด็กๆ ใช่ไหมเนี่ย”
มีอยู่ครั้งหนึ่งตอนเด็ก เขาแอบกินส้มตำกับเพื่อนร่วมชั้น และมันก็ทำให้เขาต้องเข้าไปแอดมิทในโรงพยาบาลทันที เพราะท้องเสีย ถ่ายไม่หยุด แต่นั่นมันสมัยอายุแปดเก้าขวบ ตอนนี้เขาจะสี่สิบอยู่แล้ว คงไม่เป็นไรหรอก อย่างมากก็คงแค่ท้องเสีย ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยๆ กว่าปกติเท่านั้นแหละ
“ไม่หรอกครับ ผมกินได้แล้วครับ”
“แต่พ่อเชนไม่เคยกินเผ็ด และไม่ชอบด้วย นี่ไอ้เพื่อนคนไหนมาชวนไปกินเนี่ย”
“เป็นความคิดของผมเองครับ”
เขารู้ว่าแม่เป็นห่วงมาก จึงไม่อยากทำให้ท่านไม่สบายใจ
“ผมไม่เป็นไรจริงๆ ครับคุณแม่ แต่ถ้าเกิดเป็นขึ้นมา ผมจะไม่กินของเผ็ดอีกเลยครับ”
“ทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน”
“ครับผม”
แม่ของเขามองค้อนไม่จริงจังนัก ก่อนจะออกปากไล่ให้เขาขึ้นห้อง
“ไปอาบน้ำอาบท่าได้แล้ว หน้ามัน ผมเหนียวไปหมดแล้ว ไม่เหมือนราเชนคนเมื่อวานเลย”
คงเป็นเพราะเหงื่อออกมากตอนกินของเผ็ดกับดาหวันนั่นเอง
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ตามสบายเถอะยะ”
แม่ของเขาทำเสียงประชดประชัน แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไร
ราเชนลุกขึ้น ก่อนจะก้มลงจูบแก้มมารดา ซึ่งแค่นี้ก็ทำให้ท่านอมยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
“ผมรักคุณแม่นะครับ”
“ไม่ต้องมาทำปากหวานเลย ไปอาบน้ำเถอะ มีแต่กลิ่นเหงื่อ”
“ราตรีสวัสดิ์ครับ”
“จ้ะ ราตรีสวัสดิ์”
เขาเดินออกมาจากห้องรับแขก เดินขึ้นบันไดที่ทอดยาวขึ้นไปยังชั้นบน ทุกก้าวของเขาเต็มไปด้วยความคิด
เขากำลังคิดว่า จะหาที่อยู่ที่ปลอดภัยที่ไหนให้กับ
ดาหวันดีนั่นเอง
แต่สุดท้ายก็คิดออก...
ชายหนุ่มดีดนิ้วด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะเดินผิวปากมุ่งหน้าไปยังห้องพักของตนเองอย่างอารมณ์ดี