นางเอกตัวจริง (2)

1223 คำ
รุ่งเช้ามาเยือนพร้อมเสียงหยอกล้อของคู่รัก กู่ถิงเซียงดูแลความเรียบร้อยให้ฮ่องเต้ซีหยางเจี่ยนเหมือนเคย พร้อมยืนส่งเขาอยู่หน้าประตูตำหนัก “อีกหนึ่งชั่วยามเจอกัน” กู่ถิงเซียงพยักหน้ารับ หลังคล้อยหลังผู้เป็นสวามี หญิงสาวก็รีบหมุนตัวกลับเข้าไปข้างในทันที นางบอกเหมยซานให้ตระเตรียมอาภรณ์ที่ดูสวยงามแต่กระฉับกระเฉงเพื่อใช้สำหรับการออกไปขี่ม้า ก่อนจะนั่งลงจัดการกับอาหารตรงหน้า แม้ทุกเช้าฮ่องเต้ซีหยางเจี่ยนจะรีบร้อนออกไปประชุมหารือกับเหล่าขุนนาง ทำให้ไม่สะดวกร่วมรับประทานอาหารกับกู่ถิงเซียง ทว่าบุรุษนั่นใส่ใจและคอยย้ำกับห้องเครื่องให้จัดเตรียมของบำรุงกายทุกอย่างมาปรนเปรอนางไม่ขาด ถึงขั้นที่ให้นางกำนัลคอยจดรายการอาหารที่นางโปรดและไม่โปรดเอาไว้ด้วย “พระสนม หม่อมฉันว่าชุดนี้เป็นอย่างไรเพคะ” กู่ถิงเซียงพิจารณาชุดกระโปรงยาวลายหงส์ขาวที่เหมยซานถือออกมาให้ดู นางถอนหายใจพร้อมส่ายหน้า “ข้าจะไปขี่ม้า หาใช่ร่วมงานพิธีการ ไม่ต้องหรูหราเพียงนี้ก็ได้” เหมยซานเอียงคอเหมือนใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเดินเข้าไปหยิบชุดที่ดูเรียบๆ ออกมา ชุดกระโปรงสีน้ำเงินดูเข้ารูปไม่สั้นหรือยาวจนเกินไป ชายกระโปรงปักลวดลายดอกเบญจมาศดูสดใส ปกและแขนเสื้อเป็นสีทองเพิ่มความหรูหราขึ้นหลายระดับ “ชุดนี้ละ!” กู่ถิงเซียงตะโกนอย่างถูกอกถูกใจ และรีบสั่งบรรดาสาวใช้ให้ช่วยตนแต่งตัว รวบผมเป็นมวยสูงประดับด้วยปิ่นดูเรียบร้อย เครื่องประทินโฉมปรับแต่งเพิ่มความสวยงามจนเป็นที่น่าจับจ้องยิ่งขึ้น ทว่าหลังจากเฝ้ารออยู่นาน กระทั่งเลยเวลาที่นัดไว้ ฮ่องเต้ซีหยางเจี่ยนก็ยังไม่มา กู่ถิงเซียงเริ่มเป็นกังวลพลางนึกสงสัยว่าเกิดเหตุอันใดขึ้นหรือไม่ เจ้าตัวไม่อาจทำใจให้อยู่เฉยได้จึงลุกขึ้นออกจากตำหนักเพื่อไปหาฮ่องเต้ซีหยางเจี่ยนด้วยตัวเอง ทว่าเดินออกมาได้สักพัก ก็มองเห็นหวงเจียวจูกับกลุ่มสนมคนอื่นกำลังจับกลุ่มคุยเรื่องราวบางอย่าง “ข้าพนันสิบตำลึงทอง ไม่ว่าอย่างไรของใหม่ย่อมดีกว่าของเก่าอยู่แล้ว” “ข้าด้วยๆ คืนนี้คงได้เห็นสตรีบางคนนอนหลั่งน้ำตาเป็นแน่” “ข้าเห็นเพียงแวบเดียวก็รู้ว่าองค์หญิงต่างแคว้นงดงามยิ่ง ถิงเซียงเทียบไม่ติดหรอก” เสียงหัวเราะคิกคักทำกู่ถิงเซียงโกรธจนลมออกหู พวกนางช่างเสแสร้งตลบตะแลงนัก! อยู่ต่อหน้าชมเชยอยากเข้าหา พอลับหลังกลับนินทากันเช่นนี้เชียว “พวกเจ้าพอเถอะ ข้าไม่เห็นว่าเรื่องจะควรนำพูด...” หวงเจียวจูหันมาเห็นกู่ถิงเซียงเข้าพอดี นางอ้ำอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนเดินเข้ามาทักทาย “ถิงเซียง เจ้ามาตั้งแต่เมื่อไร” เมื่อเห็นใบหน้ากู่ถิงเซียงแดงก่ำ หวงเจียวจูจึงเดาได้ไม่ยากว่าเพื่อนของตนจะต้องเข้ามาได้ยินทุกอย่างหมดแล้วเป็นแน่ “ถิงเซียง เจ้าอย่าได้สนใจเลยนะ อย่างไรเจ้าก็เป็นคนโปรด เทียบกับพวกเราในที่นี่ มีวาสนากว่ามาก” กู่ถิงเซียงสาดประกายอำมหิตใส่เหล่าสตรีที่ยืนก้มหน้างุด ก่อนหมุนตัวเดินออกมา หวงเจียวจูรีบวิ่งตาม พร้อมเหล่านางกำนัลที่คอยเดินตามกู่ถิงเซียงไม่ห่าง “ถิงเซียงอย่าเพิ่งหงุดหงิดไป พวกนางแค่คึกคะนองปากเพราะอิจฉาเจ้า หาได้มีความจริงแต่อย่างใด” หวงเจียวจูพยายามเกลี้ยกล่อม ทว่าจู่ๆ กู่ถิงเซียงกลับหยุดเดินกะทันหัน ทำบรรดาผู้ติดตามเกือบยั้งฝีเท้าไม่ทัน “ถิงเซียง เจ้าเป็นอะ...” หวงเจียวจูที่มองตามสายตาของกู่ถิงเซียงถึงกับหน้าถอดสี อิสตรีผู้งดงามเกินใครในใต้หล้า ดวงหน้าหวานราวบุปผาวสันต์ฤดู เรือนผมดำขลับปล่อยสยายยาวถึงเอวคอดกิ่ว ผิวพรรณขาวเนียนดุจหยกชิ้นงาม ดวงตากลมโตของนางจ้องเขม็งไปยังบุรุษที่กำลังยืนกล่าวบางอย่างอยู่เบื้องหน้าด้วยอาการไม่พอใจนัก สมแล้วที่เป็นนางเอกของเรื่อง โฉมสะคราญที่สร้างความลุ่มหลงให้เหล่าบุรุษจนเกิดเป็นสงครามนองเลือดครั้งใหญ่ “หลี่เหวินอี้...สินะ” กู่ถิงเซียงพึมพำ ครั้นเหลือบมองไปทางฮ่องเต้ซีหยางเจี่ยน ใจของนางก็เริ่มสั่นไหวแปลกๆ ทั้งๆ ที่ตอนดูซีรีส์เรื่องนี้ กู่ถิงเซียงเกลียดแสนเกลียดตัวละครชื่อ ซีหยางเจี่ยน แต่ว่าทำไมตอนนี้กลับรู้สึกจุกแน่นอยู่ในอกปานจะขาดใจเช่นนี้ได้ “ข้าจะกลับแล้ว” เหมยซานที่ตอนแรกได้แต่ยืนนิ่งก็สะดุ้งตัวทันที พลางก้าวเข้ามาพยุงนายหญิงของตน ซึ่งคราแรกยังเดินฉับๆ จนนางแทบจะวิ่งตาม ทว่าตอนนี้กลับดูไร้เรี่ยวแรงถึงขนาดต้องหามกลับเลยทีเดียว หวงเจียวจูเหลียวมองไปทางหลี่เหวินอี้และฮ่องเต้ซีหยางเจี่ยนแวบหนึ่ง เห็นทั้งสองพูดคุยด้วยท่วงท่าจะเป็นมิตรก็ไม่เชิงเป็นศัตรูก็ไม่ใช่ ก่อนจะเบือนหน้ากลับมา และเดินตามกู่ถิงเซียงกลับไปที่ตำหนักซูเหวินเถียน ตลอดทั้งวันที่กู่ถิงเซียงเอาแต่นั่งเงียบไม่ดื่มหรือกินอะไร ทำบรรดาบ่าวไพร่รู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก กลัวว่าหากเจ้านายของพวกตนเกิดล้มป่วยขึ้นมา ฮ่องเต้ซีหยางเจี่ยนจะต้องทรงพิโรธและสั่งลงโทษทาสรับใช้ทั้งตำหนักเป็นแน่ ส่วนหวงเจียวจูก็รู้สึกเป็นห่วงกู่ถิงเซียงเช่นกัน ก่อนจะเข้าวังทั้งสองนั้นรู้จักกันมาก่อน เป็นสหายที่คุ้นหน้าคุ้นตาแต่ไม่ได้สนิทสนมกันเท่าไหร่ กระทั่งได้เข้ามาในวัง จึงได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นและเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกันเรื่อยมา แม้หวงเจียวจูจะมีความคิดเจียมตนอยู่ก่อนแล้ว ว่าไม่อาจเทียบเคียงกู่ถิงเซียงที่ทั้งสง่างามและเกิดในตระกูลสูงส่งได้ อีกทั้งเมื่อฮ่องเต้ซีหยางเจี่ยนเรียกกู่ถิงเซียงเข้าถวายตัว ความห่างเหินระหว่างพวกนางจึงต้องมีมากขึ้นเป็นธรรมดา หวงเจียวจูแอบเป็นกังวลว่ากู่ถิงเซียงจะมองนางเป็นสตรีชั้นล่าง ไม่ควรค่าจะลดตัวลงมายุ่งเกี่ยวด้วย ทว่าทุกสิ่งที่หวงเจียวจูคิดกลับผิดถนัด กู่ถิงเซียงยังคงคุยกับนางเป็นปกติ หนำซ้ำยังดูใจดีมากกว่าเมื่อก่อนเสียอีก ทำให้เพื่อนอย่างนางรู้สึกผิดที่หลงมองกู่ถิงเซียงในแง่ร้าย หวงเจียวจูคลี่ยิ้มบาง เอื้อมมือไปกุมมือกู่ถิงเซียงไว้เป็นเชิงให้กำลังใจ ไม่อยากให้หญิงสาวคิดมาก กู่ถิงเซียงนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มตอบกลับมา การมีเพื่อนที่คอยเข้าใจและอยู่เคียงข้าง...มันดีแบบนี้นี่เองสินะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม