บทที่1.จุดกำเนิดของเรื่อง
บทที่1.จุดกำเนิดของเรื่อง
วราพิชา มโนสา สาวน้อยวัยใสเติบโตขึ้นในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ‘อุ้มรัก’ และเพิ่งเรียนจบจากรั้วมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง กำลังพยายามหางานทำอย่างสุดความสามารถ เพื่อที่จะแบ่งเบาภาระของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เธอได้อาศัยอยู่และเติบโตขึ้นมา วราพิชชาเติบโตขึ้นมาโดยไม่รู้ว่าใครเป็นทั้งพ่อและแม่ เพราะเธอถูกทิ้งไว้ในโรงพยาบาล หลังจากแม่ผู้ให้กำเนิดคลอดเธอออกมา และถูกส่งต่อมาอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็ก ‘อุ้มรัก’ จนกระทั่งเติบโต อยู่ในความดูแลของสถานเลี้ยงเด็ก ’อุ้มรัก’ แห่งนี้โดย ผอ.ชลธิชา ที่ขออุปการะไว้โดยที่วราพิชชาไม่โดนส่งไปอยู่ที่อื่นหลังจากโตเป็นสาว เหมือนเด็กคนอื่นๆ หรือเมื่อมีคนมาขอไปอุปการะ ความที่วราพิชชาว่าง่ายไม่เกี่ยงงาน เธออาสาช่วยงานทุกอย่างเท่าที่สามารถทำได้ จนเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของทุกๆ คนที่ทำงานอยู่ในบ้าน ’อุ้มรัก’ มีพนักงานอยู่เพียงไม่กี่คน ดั่งเช่น ป้าพิมพ์แม่ครัว ครูน้อย ครูเก๋ และก็ลุงชด รปภ.และก็ครูผู้ช่วยอีก2-3คน จนเธอสมัครงานได้งานที่ ร.ร Grand Hotels.แห่งนี้ เนื่องจากคุณอุษาที่เป็นหัวหน้าแม่บ้านอยู่ที่ร.ร Grand Hotels เป็นเพื่อนกับป้าพิมพ์ๆ จึงฝากฝังมาให้ทำงานที่ร.ร Grand Hotels ได้
สถานเลี้ยงเด็ก ’อุ้มรัก’ มีภาระค่าใช้จ่ายสูงมากในแต่ละเดือน แล้วเงินเดือนจากการทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดก็ได้เยอะมากกว่า ถ้าเทียบกับทำงานสายตรงกับที่ได้ร่ำเรียนจบมา ร.ร Grand Hotels.ในขณะนั้น เปิดรับพนักงานเพิ่มขึ้น จึงทำให้วราพิชชาตัดสินใจเข้ามาทำงานทันทีที่ป้าพิมพ์เสนอแนะ วราพิชชาไม่เลือกงานจึงไม่เห็นว่าการทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดประจำร.ร.จะเป็นงานที่ต้อยต่ำ เมื่อ วราพิชชาทำงานสุจริต และไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน จึงไม่สนใจว่าใครจะมองอย่างดูถูก เมื่อเงินทุกบาททุกสตางค์ที่วราพิชชาได้รับมานั้นหามาด้วยลำแข้งตัวเองไม่ได้พึ่งพาใคร
ร.ร Grand Hotels.มีสาขาไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย หลังจากเข้ามาทำงานได้ไม่นาน เธอก็เป็นที่รักใคร่ของผู้ร่วมงานรวมถึงหัวหน้างานด้วย พนักงานผู้ชายหลายคนเพียรพยายามเข้ามาตีสนิท แต่ วราพิชชาไม่เคยสนใจ เงินเดือนออกก็เอาไปให้ครูน้อย เหลือติดตัวไว้นิดหน่อยพอใช้จ่ายกับเก็บออมไว้บ้าง เพราะต้องการช่วยเหลืออยากให้น้องๆ ที่สถานเลี้ยงเด็ก ’อุ้มรัก’ มีโอกาสได้เรียน จะได้มีโอกาสเหมือนที่เธอเคยได้รับมา จนวันที่เกิดเรื่องนั่นแหละ พัชรีเพื่อนร่วมงานโทรศัพท์เข้ามาขอร้องให้วรพิชชาอยู่ทำงานแทนเพราะติดธุระไม่สามารถมาทำงานตามเวลาเดิมได้
วราพิชชาจึงต้องไปทำงานแทนในคืนนั้น โดยทำหน้าที่แทนพัชรี พัชรีทำความสะอาดในโซน VIP เพราะอยู่มานาน วรพิชชาเริ่มทำงานทันทีที่ได้รับมอบหมายจนเรียบร้อยดี กำลังเตรียมตัวจะกลับ เธอเก็บอุปกรณ์ไว้ในรถอุปกรณ์ทำความสะอาด เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น…
กริ๊ง... วราพิชชาเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์ทันทีที่มันดังกังวานขึ้นมา
“ไม่ทราบว่าใครรับค่ะ โทรจากฟร้อนลอบบี้มีห้องโซนVIP...โทรมาแจ้ง ต้องการแม่บ้านไปเก็บเศษแก้วที่ห้อง 1023 ด่วนค่ะ”
“วราพิชชาเองจ้ะนิสา เดี๋ยววราไปจัดการให้เอง”
“อ้าว...วราเองเหรอ!!! แล้วทำไมวรายังไม่กลับบ้านละ วันนี้อยู่เวรเช้าไม่ใช่เหรอ”
“พอดีพี่พัชรีติดธุระน่ะ วราเลยต้องมาทำงานแทน”
“ยัยนั่นอีกแล้ว...ทำไมวราต้องทำงานแทนเขาตลอดเลย หัดปฏิเสธบ้างสิ ไม่อย่างนั้นก็มารบกวนอยู่เรื่อยๆ”
“บ่นเป็นยายแก่เลยนะนิสา...เดี๋ยวค่อยบ่นต่อจ้ะ ให้วราไปทำงานก่อนเดี๋ยวลูกค้าตำหนิเอาได้”
“อืม... ระวังตัวด้วยล่ะ เออ...แล้วแอบดูให้หน่อยได้ไหม ได้ข่าวว่า คุณโดม... โดมินิค ลูกชายคุณเดวิดกับคุณแพรไหมมาพักอยู่โซน VIP ดูให้หน่อยว่าเขาหล่อเหมือนในข่าวหรือเปล่า รูปตามหน้าหนังสือพิมพ์ถ่ายมาไม่ชัดเลย ว่าแต่ต้องให้นิสารอกลับพร้อมกันไหม วันนี้พี่เอกมารับด้วยนะ” นิสาพูดจบพร้อมกับหัวเราะคิกคักออกมาอย่างพอใจ
“ไม่ต้องรอหรอกจ้ะ...วราเลิกตั้งห้าทุ่มกว่าๆ ถ้านิสารอจะดึกเกินไป... วราไปก่อนนะถ้าเจอคุณโดมพรุ่งนี้จะเล่าให้นิสาฟังตอนพักกินอาหารกลางวันจ้ะ”
วราพิชชาวางโทรศัพท์ แล้วก็รีบเข็นรถอุปกรณ์ทำความสะอาดตรงไปยังลิฟต์เพื่อปฏิบัติหน้าที่...
ติ้ง...เสียงลิฟต์ดังหลังจากที่เธอกดไปยังชั้นที่ต้องการ วราพิชชาเข็นรถอุปกรณ์ทำความสะอาดออกมา พลางมองดูหมายเลขห้อง แล้วรีบเข็นรถตรงไปทันที ก่อนจะเคาะประตูและยืนรออยู่หน้าห้องอย่างสำรวม
“ขออนุญาต ทำความสะอาดค่ะ” เสียงเปิดประตูวราพิชชาจึงรีบขออนุญาตเข้าไปในห้อง
“เชิญครับ... ขอโทษด้วยนะ พอดีเจ้านายทำแก้วหล่นแตก รบกวนด้วยครับ”
วราพิชชามองคนพูด ซึ่งมีกริยานอบน้อมผิดกับรูปร่างที่ใหญ่โตตามสัญชาติ ฝรั่งผมทองตาสีฟ้าร่างกายสูงใหญ่ วราพิชชาจัดเตรียมอุปกรณ์ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้อง
“ทางนี้ครับ”
“ค่ะ”
วราพิชชาจับอุปกรณ์ ก้มลงเก็บเศษแก้วที่หล่นเกลื่อนอยู่บนพื้น เธอรีบเก็บเศษแก้วใส่ถุงพลาสติกที่เตรียมมา ก่อนที่จะถามออกไป
“ขออนุญาตใช้ห้องน้ำด้วยนะคะ”
“เออ...”
ยังไม่ทันมีคำตอบ แต่วราพิชชาเร็วกว่า เธอก้าวเข้าไปในห้องน้ำแล้ว เพราะต้องการรีบทำงานให้เสร็จ เนื่องจากใกล้เวลาเลิกงานแล้ว เธอนำผ้าสะอาดมาชุปน้ำหมาดๆ เพื่อนำไปเช็ดเศษแก้วบนพื้น แต่ก่อนที่จะเดินออกไป ก็มีเสียงเรียกออกมาจากหลังผ้าม่านภายในห้องน้ำนั่นเอง
วราพิชชายืนตัวแข็งทื่อ สมองสั่งงานช้าลง
“หยิบผ้าเช็ดตัวให้หน่อยสิ” เสียงสั่งดังออกมาจากหลังผ้าม่านทึบผืนโต
วราพิชชาหันไปมองรอบตัว รีบเอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ แล้วส่งให้คนหลังม่านทันที เธอรีบเดินออกจากห้องน้ำขาแทบพันกัน พลางสีหน้าตาเหยเก
แซมหัวเราะ”หึๆ…” ทันทีที่เห็นสีหน้าสาวน้อย
เมื่อวราพิชชาทำงานเสร็จเรียบร้อย กำลังเตรียมตัวจะกลับ
“แซม... ให้ใครหายาแก้ปวดให้หน่อยสิ ปวดหัวฉิบหายเลย...”
วราพิชชาอาปากค้างทันทีที่เงยหน้าขึ้นมอง เธอกำลังเก็บเศษแก้วอยู่แท้ๆ ผู้ชายตัวสูงใหญ่หุ่นล่ำมีกล้ามนิดหน่อยไม่ถึงกับเทอะทะ เขานุ่งผ้าเช็ดตัวสีขาวอย่างหมิ่นเหม่ มองดูแล้วน่าหวาดเสียว เพราะกลัวว่าผ้าผืนนั้นจะหลุดออกจากกัน ถ้าเขาขยับตัวแรงๆ ผมของชายหนุ่มมีสีน้ำตาลแดงยักโศกและยุ่งเหยิง ตาสีฟ้าน้ำทะเลเป็นประกาย จมูกโด่งเป็นสัน เมื่อรวมกับปากบางเฉียบได้รูป จึงทำให้รูปหน้าน่ามองยิ่งขึ้น ผิวเขาขาวๆมาก ขาวเสียจนจนสีผิวของวราพิชชาดำไปเลย ถ้าเทียบกับชายร่างใหญ่ที่ยืนโดดเด่นอยู่กลางห้อง เขาเป็นผู้ชายที่จัดอยู่ในกลุ่มหน้าตาดีมากๆ ถ้าตอนนี้นิสาได้เห็น คงต้องร้องกรี๊ดกราดอย่างสุดปลื้มใจแน่นอน
วราพิชชาคิดถึงสีหน้าของนิสาหากเผชิญหน้ากับชายหนุ่มผู้นี้ เธอจึงเสก้มหน้าอมยิ้ม โดยลืมไปว่าเธอต้องรีบออกมาจากห้องเพื่อกลับบ้าน เมื่อใกล้ถึงเวลาเลิกงานเข้าไปทุกที
ปัง... เสียงประตูปิดตามหลัง ทันทีที่แซมเดินออกจากห้องไป เพื่อหายาแก้ปวดตามคำสั่งของเจ้านาย
“ใคร... เธอเป็นใคร แล้วเข้ามาทำไมในห้องฉัน” วราพิชชาสะดุ้งตื่นจากภวังค์ เสียงตวาดกับวงหน้ากระด้างจนเจ้าตัวนึกขยาด
หนุ่มเจ้าของห้องกำลังมองมาที่วราพิชชาที่ยืนอยู่กลางห้อง
วราพิชชาจึงตอบออกไป แล้วก็รีบขยับตัวเตรียมออกจากห้องของเขาทันที
“ดิฉันแม่บ้านค่ะ...เข้ามาทำความสะอาด เรียบร้อยแล้วขออนุญาตกลับเลยนะคะ”
โดมินิคมองมาที่วราพิชชาอย่างสำรวจ ผู้หญิงคนนี้ตัวเล็กมากถ้าเทียบกับเขาเอง แต่อะไรในตัวไม่เล็กตามไปด้วยแฮะ...คะเนได้จากสายตาแล้วไม่น่าจะพลาด เมื่อเขากวาดตาสำรวจจนทั่วทั้งด้านบนและด้านล่าง ดูๆ แล้วหน้าอกน่าใจก็น่าจะซักประมาณสามหกอัพ ขนาดเกินตัวไปหน่อย แถมหน้าตายังดูเด็กมากๆถึงยี่สิบเหรอเปล่าก็ไม่รู้ได้ ปากแดงๆ ตาโตๆ โดมินิคเจอมาเยอะ ทั้งเนื้อนมไข่ แต่หากลองเด็กสาวอ่อนเยาว์ดูบ้างก็ไม่ติด เขาขี้เกียจเรียกแซม ดูแล้วลักษณะแล้วน่าจะสะอาดพอใช้ โดมินิคคิดพลาง เดินตรงเข้าไปยังจุดที่วราพิชชายืนอยู่อย่างสำรวม