“พี่แตงไม่ไหว เมาแล้วแน่เลย”
“ห๊ะ!!! มานั่งไม่ถึง 30 นาทีเลยนะคะ”
ผมหันไปมองผู้หญิงโต๊ะข้างๆ ที่จู่ๆก็เสียงดังขึ้นมา เธอเพิ่งมาถึงกันนิ ไม่เคยเห็นที่นี่เลยแฮะ ก่อนจะละความสนใจจากคนที่เสียงดัง เพราะถูกทักทายด้วยสาวสวย ที่ตรงมาหาถึงโต๊ะ
“ทำไมวันนี้มาคนเดียวละคะ”
“ก็ผมโสด จะให้ผมมากับใคร แต่ที่จริงผมจะมากับใครไม่สำคัญ เท่ากับว่าาา...ผมจะกลับ กับใคร” ได้แน่ๆ ผมบอกเลย งานนี้ได้แน่ๆ สาวสวยตรงหน้าส่งสายตาให้ขนาดนี้แล้ว
“แบบนี้ โดนัทก็นั่งตรงนี้ได้สิคะ ก็คุณโสด” อื้มมม บอกชื่อตัวเองพร้อมขนาดนี้ ไม่อยากรู้จัก ก็ต้องรู้จักแล้วละมั้ง
“เอ๊ะ!!! ยังไงเนี่ย ก็บอกไม่เอาไงคะ” เสียงดังจากโต๊ะข้างๆอีกแล้ว เสียงดังของหญิงสาว ที่อยู่ในชุดเอี๊ยม!!! เดี๋ยวใส่เอี๊ยมมาเที่ยวงั้นหรอ
“ใจเย็นๆค่ะคุณน้ำ”
“ไม่เห็นต้องดุเลย น่ารักแบบนี้ ถึงดุพี่ก็ยอม”
“แต่ฉันเกลียดผู้ชายขี้ตื้อไง ไปค่ะ มาทางไหนกลับไปทางนั้น”
ผมหันกลับมาสนใจ ผู้หญิงที่นั่งข้างผม เพราะมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมเลย แล้วผมก็ไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านนักหรอกนะ เรื่องแบบนี้ในสถานที่เที่ยวกลางคืน มีให้เห็นบ่อยจนเป็นความเคยชิน
“แค่นี้ต้องสาดเหล้าใส่เลยหรอวะ”
“ขอโทษแทนคุณน้ำด้วยนะคะ เธอแค่เมา”
โธ่...ผมไม่เข้าใจตัวเองตอนนี้เท่าไหร่หรอก แต่ขาของผมมันลุกออกจากโต๊ะแล้ว ผมตรงไปที่โต๊ะของเธอ เพื่อ.....เพื่ออะไร!!!! ????
“ถอยไป ตบผู้หญิงบ้าง คงไม่ผิด” ผู้ชายคนนั้นผลักผู้หญิงที่อยู่โต๊ะเดียวกับเธอจนล้มลงไปกับโซฟา ผมคว้าแขนของผู้ชายคนนั้นไว้ทันที ก่อนที่มือใหญ่นั่นจะถึงนังหนูในชุดเอี๊ยม
“ก็แกไปตื้อเค้าก่อน ทำร้ายร่างกายผู้หญิงแบบนี้ตุ๊ดไป ไม่เล่นกับคนที่ตัวเท่าๆกันหน่อย” ไอ้ผู้ชายคนนั้นมองหน้าผม ด้วยหน้าตาโกรธเคือง แล้วเดินออกไปเลย
ผมหันไปมองผู้หญิงที่ตอนนี้ ฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะเรียบร้อยแล้ว สงสัยจะเมา
“ขอบคุณที่ช่วยนะคะ เธอเมาค่ะ เธอไม่เคยมาที่แบบนี้เลย เธอไม่ค่อยเคยชินกับผู้ชายที่มาตื้อสักเท่าไหร่” สาวสวยที่อยู่ข้างข้างเลยขอบคุณแทน แต่เมาขนาดนี้ไหวหรอเนี่ย ผมเลยสะกิดคนที่ฟุบกับโต๊ะเบาๆ
แต่แค่ได้แตะ มันมีอาการสปาร์คบางอย่าง ที่ผมไม่เข้าใจ ทั้งที่ผมยังไม่ได้เห็นหน้าเธอด้วยซ้ำ ชักอยากเห็นหน้าเธอแล้วสิ
“คุณ คุณ คุณ!!!”
“ทำไมถึงได้ขี้ตื้อแบบนี้!!!!!” แล้วจู่ๆเธอก็เหวี่ยงใส่ผมเฉยเลย เอ้ยยย ผมคือคนที่มาช่วยนะ หัดเงยหน้ามาดูบ้าง ผมหล่อกว่าไอ้ขี้หลีนั่นตั้งเยอะ
“ฉันคิดว่าฉันควรจะเอาคุณหนูฉันกลับโรงแรม”
คุณหนูหลุดมาจากโลกไหนเนี่ย เฮ้อออออ เอาเถอะ คงไม่ได้คำขอบคุณ หรือเห็นหน้าหรอก แค่คนที่มาเจอแล้วช่วยไว้ก็จบ ผมกลับไปนั่งที่โต๊ะ แล้วสนใจกับผู้หญิงที่จับต้องได้ดีกว่า
“สุภาพบุรุษจังเลยนะคะ”
“แค่ช่วยคนที่เดือดร้อนนะครับ” อยากไปช่วยที่ไหน ตัวมันขยับไปเอง แต่เอาเถอะ ถือว่าทำดีต่อหน้าสาวละกัน ผมยิ้มให้สาวตรงหน้า แม้ตัวเองจะยังสนใจกับความรู้สึกที่ได้สัมผัสที่แขนของผู้หญิงคนนั้น
สปาร์คดีจัง หัวใจเต้นเลย หรือเพราะแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปเลยทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะกันนะ เพราะแอลกอฮอล์แน่ๆ หัวใจจะเต้นผิดจังหวะ เพียงแค่แตะเนี่ยนะ ไร้สาระเกินไป ผมแตะผู้หญิงมาเยอะแยะ แค่เคยรู้สึกแบบนี้ ผมชำเลืองไปที่โต๊ะข้างๆอีกครั้ง ที่ตอนนี้กำลังเช็คบิลกันแล้ว สงสัยเตรียมกลับแล้วสินะ
“สงสัยจะเมามากๆจริงๆนะคะ เมาขนาดนี้สงสารคนที่มาด้วยเลย”
“ผมอยากเมาบ้าง จะได้มีผู้หญิงแถวนี้เอากลับ ผมต้องแกล้งเมารึเปล่า” ผมส่งยิ้มให้โดนัทที่นั่งอยู่ข้างๆผม
“ไม่ต้องแกล้งค่ะ แค่บอกอยากกินโดนัท โดนัทก็พร้อมจะหิ้วกลับเลย”
ง่ายไปไหมแม่คุณ เอาเถอะแค่ชั่วคราว แก้ขัดมันก็ได้อยู่หรอก เธอเองก็สวยใช้ได้เลยนิ ไม่นานผู้หญิงที่มากับยัยขี้เมานั่น ก็แบกคุณหนูของเธอผ่านโต๊ะของผม แต่ดูเหมือนจะแบกไม่ไหวเอาซะเลย อยากแตะตัวเธออีกสักครั้งจัง เฮ้ยยย!!! ผมเป็นอะไรของผมเนี่ย
ทำไมความรู้สึกของผมมันบอกให้ตามทั้งสองคนนั้นออกไป มากไป.....ยังไม่เห็นหน้าด้วยซ้ำว่าสวยไหม เสียเวลา เอาที่ได้แน่ๆตรงนี้ดีกว่า แต่เธอเมาแบบนั้นจะกลับกันได้หรอ ถ้าโดนแท็กซี่ฉุดไปจะทำยังไง
โธ่เว้ย!!!!! ผมควักแบงค์หลายพัน ใส่มือของโดนัทเอาไว้หลายใบ เพื่อฝากจ่ายค่าเหล้าและอาหารบนโต๊ะ มันเหลืออยู่แล้วล่ะ เหลือเยอะด้วย แต่ตอนนี้ผมอยากจะไปส่งผู้หญิงคนนั้นมากกว่าการกินเนื้อโคขุนแบบเธอ
ผมวิ่งตามสองคนนั้นออกไป อยู่ไหนนะ เพิ่งออกมาเมื่อกี้เอง หายไปไวจัง ผมเดินไปดูจุดรอรถแท็กซีแล้วผมก็เจอ หญิงสาวที่แบกยัยคุณหนูขี้เมาเอาไว้
“ผมไปส่งเอง ถ้าคุณไม่รังเกียจ”
หญิงสาวที่แบกร่างที่เมาจนเซไปเซมา มองหน้าผมสลับกับคนขับแท็กซี่ ก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ เพื่อไปกับผมแทนแท็กซี่หน้าโหด
“รู้จักโรงแรม The Amary ไหมคะ”
ที่แท้ก็พักอยู่โรงแรมของพี่ตะวันฉาย อื้มมม สงสัยจะคุณหนูจริงแฮะ แต่อยากเห็นหน้าของยัยคุณหนูขี้เมานี่จังเลย ผมมองไปที่ผู้หญิงที่ตอนนี้ผมเผ้าปิดหน้ารุงรังไปหมด
“ผมช่วยนะครับ คุณคงหนัก”
“ไม่เป็นไรค่ะ ให้ผู้ชายแตะเธอ พี่ชายเธอต้องมาเอาฉันตายแน่ๆ”
อะไรแค่แตะก็ไม่ได้หรอ ผู้หญิงอะไรแบบนี้ แสดงว่าแบบนี้หนีเที่ยวแน่นอน สงสัยจะเด็กๆละมั้ง ถ้างั้นก็อย่าสนใจเลย ถึงจะอย่างงั้น ก็อยากเห็นหน้าเธอสักครั้งจัง
ผมพาทั้งสองสาวมาที่รถ ให้ทั้งคู่นั่งที่เบาะหลัง อย่าอ้วกน้าาา ขอเลยยยยย ผมเป็นอะไรของผมเนี่ย จู่ๆก็เกิดเป็นคนมีน้ำใจขึ้นมาซะงั้น ปกติมีหรอ ไม่ได้ฟันก็ไม่ส่ง บางคนถึงฟันก็ไม่ส่ง หงุดหงิดตัวเองตอนนี้สุดๆ
ผมเลี้ยวรถเข้าโรงแรมเพื่อส่งเธอทั้งสองคนลง ผมมองคนตัวเล็กทั้งสองคนผ่านกระจกมองหลัง ได้เห็นหน้าใสๆ ของคนที่หลับ แวบๆ คุ้นจังวะ แต่จะหันไปมองอีกครั้ง คนของเธอก็พาเธอลงรถไปแล้ว อยากเห็นอีกครั้งอยากเห็นให้ชัดกว่านี้
โอ้ยยยยยยยย ตอนนี้ผมกำลังเป็นอะไรเนี่ย!!!!!
ผมขับรถกลับบ้านทันที ลุงช่วยเดินมาเปิดประตูบ้านด้วยท่าที่หวาดกลัว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แต่วันนี้ผมหงุดหงิดเกินกว่าจะถาม พอเลี้ยวรถเข้ามาจอด ส้มสาวใช้ในบ้านก็รีบวิ่งออกมารับทันที ส้มเป็นลูกสาวของลุงช่วย และป้าสายเมียของแก ช่วยดูแลเรื่องความสะอาด และอาหารการกินให้ผมอย่างดี
“คุณรุจคะ คุณรุจ คุณนายโทรมาค่ะ ให้คุณรุจไปหาค่ะ พรุ่งนี้ 10 โมง ห้ามสายค่ะ”
“อื้มมีอะไรอีกไหม ฉันหงุดหงิด”
“ไม่มีค่ะ จะอาบน้ำเลยไหมคะ เดี๋ยวส้มจะจัดการเตรียมเสื้อผ้าให้”
“อื้ม”
ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน มันยิ่งทำให้ผมหงุดหงิด หงุดหงิดที่อะไรไม่รู้ แต่หงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก เพราะอะไรวะ!!!
สายธาร Say::
โอ้ย โคตรปวดหัว แสบคอ โคตรจะทรมานเลย โอ้ยยยย เฮียคีกินเข้าไปได้ยังไงทุกวัน ไอ้เหล้าเนี่ย บอกเลยไม่เอาอีกแล้ว ฉันหยิบโทรศัพท์เพื่อดูนาฬิกา 12:03 น แย่แล้วสิ ไม่ทันแน่ ไม่ทันแน่ๆ รถในกรุงเทพยิ่งติดๆอยู่
“พี่แตง เร็ว ตื่นเร็ว ไม่ทันแล้ว ไม่ทันแล้ว อาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย” ฉันสะกิดพี่แตงที่นอะอยู่ที่โซฟาหน้าห้อง ให้ตายเถอะ สายแน่ๆ เรารีบแต่งตัวกันแบบสุดๆ
กว่าจะทำอะไรเสร็จก็ปาไป 12:45 แล้ว โอ้ยยย กรุงเทพรถติดแบบนี้ จะไปทันไหม ฉันเปิดเมลล์ ส่งที่อยู่ให้พี่แท็กซี่ที่จอดเรียงรายอยู่ด้านข้างโรงแรมดู
“โหยยยย น้อง อีกนิดเดียว ก็สมุทรสาครแล้วไกล พี่รีบส่งรถ” ส่งรถ??? แล้วมาจอดรอหาพระแสงอะไร
“น่าน้อยใจจริง หลานเรามาพักที่โรงแรม ไม่มาทักเราสักนิด แทนที่จะขึ้นมาทักกันหน่อย” ฉันหันไปมองชายในชุดสูท แม้จะมีอายุ แต่กลับดูดีกว่าหนุ่มๆหลายๆคนเสียอีก
“อาไอ หนูตื่นสายค่ะ สายมากจริงๆ แล้วตอนนี้ก็ไม่มีรถสักคันยอมไปส่งเลย ขอโทษนะคะที่ไม่ได้ทักทาย แต่สาบานเลยค่ะ ว่ากลับมาหนูจะมาทักแน่ๆ” ฉันพูดพรางหันไปค้อนพวกคนขับแท็กซี่
อาไอ หรือ คุณตะวันฉาย ตอนนี้เป็นเจ้าของโรงแรม The Amary แทนคุณพ่อที่เสีย นั่นก็คือปู่ของฉันเอง เท่ากับตอนนี้เค้าเป็นอาของฉัน นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ที่สาวๆหมายปอง แต่เสียใจด้วยจ๊ะ เค้าแต่งงานแล้ว
“อาจะให้คนขับรถของโรงแรมไปส่งให้”
“จริงหรอคะ ขอบคุณมากๆค่ะ” ฉันวิ่งเข้าไปกอดคนเป็นอา โอ้ยยยย เหมือนสวรรค์โปรด ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ
“เรานี่น้าา มีอะไรบอกอาสิ แล้วไอ้ศรุตเนี่ยก็รุ่นน้องอาเอง คนกันเองคุยกันได้ทั้งนั้น ปะ อาพาไปที่รถ” ทำไมอาของฉันถึงใจดีผิดพ่อ ผิดพี่ของฉันแบบนี้
.
คนของอาไอขับรถพาฉันกับพี่แตงไปตามที่อยู่ที่ได้รับจากเมลล์ มันค่อนข้างจะไกลจากที่เราอยู่พอสมควร แล้วรถที่ติดเป็นระยะ ก็ทำเราเสียเวลาแบบสุดๆ
“คุณตะวันหล่อจังเลยค่ะ ขนาด 40 แล้วยังหล่อขนาดนี้”
“ขอโทษด้วยนะ อาของฉันแต่งงานแล้ว”
“แค่ชมค่ะ แค่ชม เอาไว้มองเป็นบุญตาเฉยๆ คนอะไรหล่อแล้วยังใจดี เทพบุตรชัดๆ”
“เพ้อใหญ่แล้วพี่อะ”
“แต่คนที่มาช่วยคุณน้ำเมื่อคืนก็หล่อนะคะ เทพบุตรเลยล่ะ ทั้งช่วย ทั้งมาส่ง แต่พี่ไม่ได้ถามชื่อเค้าไว้หรอกค่ะ แต่หล่อมากบอกเลย ถ้าได้เจออีกครั้งนี้พี่จะจีบแน่นอน” โหยยยยยย แบบนี้ก็ได้หรอ ใจเร็วไปหน่อยนะพี่อะ
รถของเราเลี้ยงเข้ามาในซอยๆนึง ขับเข้ามาลึกมากแล้ว ก็ยังไม่ถึง ทำไมมันดูลึกลับซับซ้อนแบบนี้ บรรยากาศในซอยมีบ้านเรือนบางตา ถ้าตอนดึกๆที่นี่ต้องเปลี่ยวมากแน่ๆ
“ถูกทางหรอคะพี่ ทำไมมันลึกลับแบบนี้”
“ถูกครับ ผมขับเข้ามาตามทางเลย”
โหยยยยย คนที่มาอยู่ในบ้านแบบนี้ จะเป็นคนแบบไหนเนี่ย ต้องเป็นตาแก่ ลึกลับ และน่ากลัวๆแน่ๆเลย พี่คนขับเข้ามาเรื่อยๆตาม Gps จนมาหยุดที่บ้านหลังหนึ่ง บ้านที่ทำให้หัวใจของฉันเต้นไม่หยุด ฉันเดินลงมาจากรถ มาพร้อมกับพี่แตง บ้านที่ฝันถึงมาตลอด มันมีอยู่จริงๆ แล้วมันอยู่ตรงนี้แหละ
“บ้านหลังนี้ ที่ฉันฝันถึง มันมีอยู่จริงพี่แตง บ้านหลังนี้เลย”
“จริงหรอคะ บ้านหลังนี้เลยหรอ บ้านที่คุณน้ำฝันถึง”
“ใช่ เจ้าของบ้านเป็นใคร ฉันอยากเข้าไปข้างในจังเลย”
“น่ากลัวนะคะคุณน้ำ อย่างกับบ้านผีสิงเลย”
แล้วจู่ๆประตูบ้านมันก็เปิดออกเอง โดยที่ไม่มีคนเปิดเลย ทำให้คนขี้กลัวแบบพี่แตงกลัวขึ้นไปอีก
“เปิดเอง คุณน้ำ มันเปิดเอง ผี ผีแน่ๆ มันเปิดเองงงง” พี่แตงเกาะแขนเอาไว้แน่น
“มาติดต่อเรื่องอะไร ผีที่ไหนผมเพิ่งจะกดรีโมทเปิดประตูบ้านให้พวกคุณ” คุณลุงที่มาถามเรา ชูรีโมทประตูรั้วขึ้นมาให้เราดู พอลุงเห็นหน้าฉัน ลุงเค้าก็เกิดตกใจ จนตาโต
“ฉันมาหาคุณศรุตค่ะ ฉันนัดกับเค้าไว้บ่าย 2”
“เค้ารอคุณอยู่ด้านใน คุณมาสายนะครับ”
ฉันก้มดูนาฬิกาข้อมือ ช้าไปครึ่งชั่วโมงจริงด้วย เฮ้ออออออ รู้สึกผิดสุดๆ ความประทับใจแรกในการพบกันแทบไม่มีแบบนี้แย่แน่ๆ ระหว่างที่เดินตามคุณลุงคนนั้นเข้าไปในบ้าน ในหัวก็นึกถึงแต่คำขอโทษมากมาย แต่พอเข้ามาในตัวบ้าน ความคุ้นเคยมันกลับทำให้ฉันสนใจไปกับบรรยากาศรอบบ้าน เหมือนที่ฉันเห็นในฝัน ไม่มีผิดเพี้ยน แม้เฟอร์นิเจอร์จะเปลี่ยนไปบ้าง แต่โครงบ้าน ยังคงเหมือนในฝันไม่เปลี่ยนแปลง
“นั่งรอก่อนนะครับ ผมจะได้ตามคุณศรุตมาให้”
เพียงแค่ฉันนั่งลงบนโซฟา หน้าต่างของบ้านปิดพรึบ!!!!! จนเกิดเสียงดังปึง!!!!!!!
“คุณน้ำขาาาา อันนี้ก็รีโมทหรอคะ” พี่แตง เกาะแขนฉันเอาไว้แน่นอีกครั้ง
“มั้ง!!!!” ฉันจะไปรู้ได้ยังไง ก็มาถึงพร้อมกันเนี่ย
อยากสำรวจบ้านนี้ อยากเดินดูให้ทั่ว แต่กลัวเสียมารยาท อยากสัมผัส อยากรู้ อยากรู้ว่ามีคนที่รอฉันอยู่จริงๆรึเปล่า
“พวกคุณมาช้า แล้วแบบนี้ผมจะทำงานร่วมกับพวกคุณได้ยังไง” ฉันหันไปมองต้นเสียงที่ดังมาจากด้านหลัง ครั้งแรกที่ได้เห็นหน้าเค้า มันทำให้ฉันรู้สึกคุ้นหน้าเค้าอย่างบอกไม่ถูก เหมือนเคยเจอ แต่กลับจำไม่ได้
“เอ้าคุณ คนที่ช่วยเราเมื่อคืน”
ทำไมฉันถึงได้เหมือนเคยรู้จักเค้ามาก่อน แต่มันจะใช่ได้ยังไง ฉันเพิ่งเคยเจอเค้าครั้งแรก แล้วจู่ๆหน้าต่างที่ปิดอยู่ก็เปิดปึง!!!!! ขึ้นมาทันที เค้าจ้องหน้าฉันทำไม
“ที่แท้ก็คุณหนูขี้เมา คนเมื่อคืนนี่เอง ที่แท้ก็เที่ยวจนเมา แล้วมาผิดนัด”
โหยยยย ไรอะ จะแถว่าเพิ่งลงเครื่องก็ไม่ได้แล้วสิเนี่ย เค้าดันเป็นคนไปส่งเราที่เมาที่โรงแรม ไม่มีอะไรจะแก้ตัวเลย รู้สึกผิดสุดๆ
“ขอโทษค่ะ ที่มาช้า แต่บ้านคุณมันช่างลึกลับ”
“แต่ถ้าคุณรู้จักเผื่อเวลา คุณจะมาทัน เพราะฉะนั้น กลับไปเถอะ เราไม่มีอะไรจะคุยกันอีก ผมไม่ชอบคนที่ไม่รักษาเวลา” แล้วเค้าก็เดินกลับเข้าไปในบ้านทันที ไปทางนี้ ชั้นสองสินะ ภาพบ้านจากในฝัน มันบอกว่าถ้าไปทางนั้น ต้องไปชั้น 2 แน่ๆ
ไม่ๆๆๆ แบบนี้โดนพี่ดินฆ่าตายแน่ๆ ถ้ารู้ว่าไม่ได้งานเพราะหนีเที่ยวเนี่ย
“ขอร้องเถอะค่ะ คุณศรุต ได้โปรดให้ฉันได้พูดถึงรีสอร์ตของเราก่อน” ฉันรีบเดินไปคว้าแขนของเค้าก่อน แต่เพียงแค่แตะเค้า มันเหมือนมีอะไรบางอย่าง ไฟฟ้าสถิตหรอ ช่างเถอะ เอางานก่อน
“อย่าตื้อเลย มันไม่ได้ผล ผมก็ไม่ชอบคนขี้ตื้อเหมือนคุณ”
ฉันเดินคอตกกลับมาหาพี่แตง แต่ฉันถอดใจง่ายไปไหม เฮ้อออออ ผิดที่ฉันเองทำงานเสีย แต่ถ้าไม่ได้งานกลับไปก็ไม่ใช่ฉันอีกนั่นแหละ
“เอาไงคะ ดูเค้าจะโกรธมากที่เราช้า ทั้งที่เมื่อคืนยังเป็นคนใจดีอยู่เลย”
“จะรออยู่จนกว่าเค้า จะยอมคุยกับเรา”
แต่ที่ฉันอยากอยู่ไม่ใช่เพื่องานอย่างเดียว แต่เพื่อสำรวจบ้านหลังนี้ด้วย เจ้าของบ้านไม่สนใจแบบนี้ ขอสักแป๊บนึงก็ยังดี แต่พอจะสำรวจคุณลุงคนเดิมก็เข้ามาขัดซะก่อน
“ไปเถอะครับ บ้านหลังนี้ไม่เหมาะกับคุณหรอก ผมจะไปส่งคุณหน้าบ้าน”
“ให้ฉันเดินสำรวจบ้านก่อนได้ไหมคะ”
“กลับเถอะครับ คุณไม่ควรอยู่ที่นี่” คุณลุงเค้าพยายามจะไล่ฉันออกไปท่าเดียว
เฮ้อ ไม่สำเร็จอะไรสักอย่างวันนี้ จะทำยังไงดีนะ แบบนี้เราก็ต้องกลับไปแบบไม่ได้อะไรนะสิ ขอดูหน่อยเถอะ ว่ามันเหมือนที่ฉันฝันเป๊ะเลยไหม
“พี่แตงขวางลุงคนนี้ไว้ให้ได้นานที่สุด ฉันขอสำรวจบ้านแป๊บเดียว” ฉันดันพี่แตงมาบังลุงคนนั้นเอาไว้ ก่อนที่ตัวเองจะจะวิ่งออกประตูหน้า ขอแค่นิดเดียวนะคะคุณลุง
ฉันเดินออกมาข้างตัวบ้าน เจอสวนขนาดใหญ่ ทุกอย่างเหมือนในฝันเลย ฉันเดินเข้ามาในสวน ผ่านต้นไม้ใหญ่มากมาย แต่จู่ๆลมก็กรรโชกพัดอย่างรุนแรง พัดแรงจนใบไม้หลุดล่วงลงมาเป็นจำนวนมาก เสียงกิ่งไม้เสียดสีจนเกิดเสียงดังน่ากลัว
แกร๊ก!!!!!!! จู่ๆกิ่งไม้ใหญ่ก็ตกลงมาใส่ฉัน โดยที่ไม่ระวังตัว
“ระวัง!!!!” แขนของฉันถูกกระชากจนล้มลงกับพื้น แล้วกระแทกกับอกของคนที่โดนฉันล้มทับ มันรู้สึกอีกแล้ว.........
“ไฟฟ้าสถิต” ฉันพยายามดันตัวเองขึ้น จากอกแกร่งของคนตรงหน้า
“คุณก็รู้สึกหรอ ไอ้ความรู้สึกสปาร์คนี่อะ”
“ก็แค่ไฟฟ้าสถิต”
“แต่สำหรับผม นี่ครั้งที่ 3 แล้ว ที่แตะถูกตัวคุณ”
จีบเปล่าวะ มุขใหม่ของการจีบสาวหรอ ขี้หลีปะเนี่ย แต่เราก็รู้สึกนิหว่า
“แล้วเมื่อไหร่จะลุกจากตัวผม หนัก!!”
โหยยยยย ด่าอะไรไม่เจ็บเท่าด่าว่าหนักเลย พี่ชายฉันบอกฉันผอมไปด้วยซ้ำ โดนขุนจนตัวเองก็รู้สึกว่าอ้วน ยิ่งโดนด่าแบบนี้มันยิ่งชัดเจน ฉันรีบลุกออกจากตัวเค้าทันที
“คืนนี้ ขอค้างด้วยได้ไหมคะ”