ภูมินทร์กลับมาถึงฐานในเวลาเกือบจะสามทุ่ม ทันทีที่ก้าวเข้ามาในบ้านพัก นัยน์ตาคมกริบก็ต้องสะดุดกับร่างอรชรบนเก้าอี้ไม้กลางห้องที่นั่งแทนเอกสารที่เคยวางอยู่ ส่วนรอบๆตัวเธอที่เคยมีของวางกระจัดกระจายไม่เป็นที่เป็นทางก็ถูกนำไปจัดเรียงวางอย่างเป็นระเบียบ แลดูโล่งสบายตา
“ทำคนเดียวเลยเหรอวะเนี่ย!”
ชายหนุ่มพึมพำออกมาด้วยความทึ่ง ไม่อยากจะเชื่อจะเป็นฝีมือของคนตัวเล็กที่กำลังนั่งผลอยหลับอยู่บนเก้าอี้ ชายหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงสาวพร้อมทรุดนั่งยองๆ ลงกวาดสายตามองสสำรวจใบหน้างดงามและเสื้อผ้าของเธอที่ตอนนี้มอมแมมไปด้วยฝุ่น บ่งบอกชัดว่าเธอเพิ่งจะทำความสะอาดบ้านเสร็จ และถ้าเดาไม่ผิดเธอก็คงยังไม่ได้อาบน้ำ
ชายหนุ่มคลี่ยิ้มออกมาบางๆ ขณะที่เผลอใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมที่ลงมาปรกอยู่บริเวณใบหน้าเนียน เพียงได้สัมผัสด้วยปลายนิ้วเบาๆ ก็รู้สึกถึงความนุ่มละมุนของผิวกายละเอียดของเธอ ภูมินทร์กลืนน้ำลายลงคอเอือกใหญ่เมื่อสายตาเลื่อนมาหยุดอยู่ตรงริมฝีปากสีหวานน่าสัมผัส
‘อยากรู้จริงๆว่าปากจะนุ่มเหมือนผิวหรือเปล่า’
ชายหนุ่มคิดในใจ แล้วก็ต้องพับความคิดนั้นเก็บพร้อมดึงมือออกจากพวงแก้มงามทันที เช่นเดียวกับใบหน้าหล่อเหลาที่รีบปรับเป็นเรียบขรึมปกติ เมื่อร่างบางขยับตัวเหมือนจะรู้สึกตัวตื่น
“หัวหน้ากลับมาแล้วเหรอคะ”
เสียงหวานยานคางเอ่ยถาม หลังจากที่เปิดเปลือกตาแล้วพบกับใบหน้าหล่อเหลากำลังจ้องหน้าเธออยู่ ถ้าเดาไม่ผิดเขาคงตั้งใจจะเดินมาปลุกเธอที่เผลอหลับไปบนเก้าอี้ด้วยความเหนื่อยอ่อน หลังจากผ่านการทดสอบร่างกายและเก็บกวาดบ้านมาตลอดทั้งวัน ซึ่งคงเป็นจังหวะที่เธอรู้สึกตัวพอดี
“ครับ ว่าแต่ทำไมคุณหมอถึงมานอนอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ คงไม่ได้มานั่งรอผมหรอกใช่ไหมครับ”
“เปล่าสักหน่อย ฉันก็แค่นั่งพักจนเผลอหลับไป ยังไงฉันขอตัวไปนอนก่อนนะคะ”ว่าแล้วหญิงสาวก็ทำท่าจะลุกขึ้นเดินจากไป แต่เขาก็ต้องเรียกไว้ก่อน
“เดี๋ยวก่อนสิครับ คุณหมอจะเข้านอนทั้งที่ยังไม่ได้อาบน้ำอย่างนั้นเหรอ”
“ค่ะ วันนี้ฉันเหนื่อยมากไม่มีแรงอาบน้ำแล้ว ไว้ค่อยอาบตอนเช้าเลยแล้วกันค่ะ”
ถึงแม้จะเป็นคนรักสุขอนามัยมากแค่ไหน แต่วันนี้ญาณิศาขอไว้หนึ่งวัน เพราะเธอรู้สึกเหนื่อยและเพลียมากจริงๆ แต่ชายหนุ่มกลับไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เธอกำลังจะทำ
“ฝุ่นเกาะเต็มตัวขนาดนี้ไม่อาบได้ยังไง เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”
“ฉันรู้ค่ะว่าฝุ่นพวกนี้อาจจะทำให้ฉันป่วยได้ แต่วันนี้ฉันเหนื่อยมากจริงๆ ไม่มีแรงอาบน้ำแล้ว”
อย่าว่าแต่แรงอาบน้ำเลย แค่จะเดินกลับห้องนอนก็แทบจะลากสังขารไปไม่ไหว
“ไม่มีแรงก็ต้องอาบ เกิดป่วยขึ้นมาจะทำยังไง”
ชายหนุ่มไม่ยอมง่ายๆ เขาพาร่างสูงสง่าเดินมาขวางทางเอาไว้ ไม่ยอมให้เธอเดินกลับห้อง ทำเอาคนที่ถูกขัดใจถึงกับต้องชักสีหน้าด้วยอารมณ์กรุ่นๆที่กำลังปะทุขึ้นมา ใบหน้างามเชิดขึ้นเล็กน้อยเผชิญหน้ากับเขาอย่างจริงจัง
“แล้วจะเอายังไงละคะ ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีแรงอาบน้ำแล้ว แค่จะเดินไปห้องน้ำยังไม่มีแรงเลย หรือว่าหัวหน้าจะช่วยฉันอาบน้ำล่ะ”
“อย่าท้าผมนะคุณหมอ”
ภูมินทร์พูดเสียงลอดไรฟันเมื่อเธอไม่เห็นความหวังดีของเขา ทั้งที่เขาพยายามบอกเหตุผลกับเธอไปหมดแล้ว แต่ดูเหมือนเธอจะดื้อไม่ยอมทำตาม แถมยังมายืนท้าทายอีก
“ไม่ได้ท้าแต่พูดจริง ถ้าหัวหน้าจะช่วยอาบน้ำให้ฉันก็เอาเลย”
หญิงสาวว่าพลางอ้าแขนออกให้เขาจัดการกับเธอได้ตามสบาย ดีเหมือนกัน มีคนช่วยอาบน้ำจะได้หลับสบาย อยากรู้จริงๆ ว่าเขาจะยินดีช่วยหรือเปล่าก็แค่นั้นเอง
“พูดเองนะ”
ภูมินทร์ที่ไม่ชอบให้ใครมาท้าทายถึงกับคำรามออกมาพลางตวัดรั้งร่างอรชรขึ้นบนแขนแข็งแรงอยางรวดเร็ว เท้ายาวๆก้าวอาดๆตรงไปยังห้องน้ำ โดยที่หญิงสาวไม่คิดจะขัดหรือหรือต่อต้านแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเธอกลับตวัดแขนเล็กโอบรัดลำคอแข็งแกร่งไว้แน่นป้องกันไม่ให้ตัวเองตกลงไปบนพื้น ยอมอยู่นิ่งเฉยรอดูว่าเขาจะทำยังไงกับเธอ
ชายหนุ่มวางเธอลงบนแคร่ไม้ไผ่ตรงหน้าห้องน้ำอย่างเบามือ ก่อนจะบอกให้เธอรออยู่ที่นี่ก่อน เพราะเขาต้องเดินกลับเข้าบ้านไปหยิบตะเกียงพายุมาวางในห้องน้ำ เพียงไม่ถึงสองนาทีร่างสูงสง่าก็เดินกลับเข้ามาในห้องน้ำพร้อมตะเกียงพายุที่ส่องสว่างในมือ แต่แล้วก็ต้องชะงักยืนนิ่งอยู่กับที่ราวกับโดนผีหลอก
‘นี่คุณหมอเหนื่อยจนเพี้ยนไปแล้วหรือไง’
ภูมินทร์ได้แต่คำรามในใจเมื่อพบว่าเรือนร่างงามกำลังเปลือยเปล่ายืนอยู่ในห้องน้ำ ไม่สนใจจะปกปิดกายงามของตนเองด้วยอาภรณ์เลยแม้แต่ชิ้นเดียว เช่นเดียวกับท่าทีและสีหน้าที่ไม่ได้แสดงความขัดเขินต่อสายตาคมกริบของเขาแต่อย่างใด หากแต่เป็นชายหนุ่มเองที่ทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าจะแสดงสีหน้าอย่างไงดี
“ฉันพร้อมให้หัวหน้าช่วยอาบน้ำแล้วค่ะ”เสียงหวานเอ่ยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่เข้ามาใกล้เธอสักที
‘เป็นไงล่ะ เห็นหุ่นชะนีเต็มสองตาแล้วอิจฉาละสิ เชอะ! ช่วยไม่ได้ ถ้าอยากได้อกตูมๆ ก้นงอนๆ ก็ต้องไปศัลยกรรมเอาเองนะยะ แต่ของฉันของจริงย่ะ!’
ญาณิศาคิดพลางระบายยิ้มออกมาโดยที่เธอไม่รู้เลยว่าการกระทำของตนนั้นจะไปกระตุกต่อมอารมณ์ส่วนไหนของเขาบ้าง
“เป็นผู้หญิงไม่คิดจะรักนวลสงวนตัวบ้างเลยหรือไง”
ชายหนุ่มคำรามถามเสียงลอดไรฟัน พยายามที่จะเบือนหน้าไปทางอื่นเมื่อเรือนร่างงามเปลือยเปล่าก้าวตรงมาหาเขาพร้อมกับดึงตะเกียงพายุในมือเขาไปวางไว้บนชั้นวางเสียเอง
“แล้วทำไมฉันต้องรักนวลสงวนตัวกับหัวหน้าด้วยละคะ ก็ในเมื่อเราก็เป็นเพศเดียวกัน”
ญาณิศาบอกพลางแกล้งเบียดเนินอกอวบตูมนิ่มหยุ่นเฉียดกับลำแขนล่ำเพื่อเป็นการขิงเขาว่านี่ของจริงนะยะ! โดยที่ประโยคหลังนั้นเธอเลือกที่จะพูดกับตัวเองในใจ ทำเอาร่างสูงใหญ่ชะงักนิ่งยืนแข็งเป็นท่อนไม้ไม่กล้าขยับตัวไปไหน แค่หายใจก็แทบจะต้องกลั้นไว้เลยทีเดียว
‘เอาสิ ถ้าร่างกายฉันเปลี่ยนเกย์ให้กลับมาเป็นผู้ชายได้ก็ดี’
“ยังจะมีหน้ามาถามอีก”ภูมินทร์เอ่ยเสียงลอดไรฟันขบกรามแน่นจนเป็นสันนูนเพื่อควบคุมไฟปรารถนาที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างกะทันหัน
“ถามจริงๆเถอะ คุณหมอไม่คิดจะใส่ผ้าถุงหรือบิกินี่ปกปิดร่างกายระหว่างที่ผมช่วยอาบน้ำให้หน่อยเลยหรือไง อย่างน้อยก็หันหลังไปไม่ต้องเผชิญหน้ากับผมแบบนี้ก็ได้”
“ไม่ค่ะ ฉันไม่มีอะไรต้องปกปิดหรือเขินอาย เพราะฉันรู้ว่าหัวหน้าไม่มีทางคิดอะไรกับฉันเกินเลย หรือลามกแน่นอน”
เสียงหวานตอบหนักแน่นพร้อมกับสีหน้าเต็มเปรี่ยมไปด้วยรอยยิ้มบ่งบอกชัดว่าเธอหมายความอย่างที่พูดจริงๆ ไม่ได้แสแสร้างแกล้งทำเลยสักนิดเดียว
“มั่นใจเกินไปไหมแม่คุณ”
ภูมินทร์สวนกลับด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ไม่รู้ทำไมหญิงสาวถึงมั่นอกมั่นใจในตัวเขาหนักหนาว่าชายชาตรีอย่างเขาจะไม่ทำหรือคิดอะไรเกินเลยเวลาที่เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าของเธอปรากฎอยู่ตรงหน้า ทั้งที่ตัวเขานั้นไม่มั่นใจและไว้ใจตัวเองเลยสักนิด
ภูมินทร์ไม่อยากคิดเลยด้วยซ้ำว่าหลังจากนี้ไปต้องหาทางระบายความร้อนรุมในกายที่แผดเผาเขาแทบจะกลายเป็นจุณเพราะไฟปรารถนากี่รอบ เพราะเขามั่นใจว่าคืนนี้เรือนร่างงดงามได้สัดส่วนของเธอคงตามหลอกหลอนเขาไปจนถึงในฝันเป็นแน่
“ที่ฉันมั่นใจเพราะว่าฉันมีเพื่อนแบบหัวหน้ามามากยังไงละคะ และอีกอย่างเวลาไปเป็นแพทย์อาสาที่มีห้องอาบน้ำจำกัดเราก็อาบน้ำด้วยกันอยู่บ่อยๆจนรู้สึกชินแล้วละค่ะ”
ญาณิศาหมายถึงเพื่อนร่วมงานที่เป็นเก้งกวางของเธอ หากแต่อีกคนกลับตกใจเพราะคิดว่าเธอเปลือยและอาบน้ำกับเพื่อนผู้ชายอยู่บ่อยๆ
‘บ้าไปแล้ว อาบน้ำกับผู้ชายแล้วไม่โดนปล้ำคาห้องน้ำเลยเหรอวะ!’
ภูมินทร์ไม่อยากจะคิดอกุศลกับเธอ แต่สิ่งที่เธอพูดออกมามันชวนให้จิตนาการไปไกลถึงเรื่องพวกนั้น และเขาก็ไม่อยากเชื่อว่าคุณหมอคนสวยท่าทางไร้เดียวสาตรงหน้าจะผ่านประสบการณ์เร่าร้อนพวกนั้นมาอย่างโชกโชน แม้เขาจะเป็นผู้ชายยุคใหม่ที่เข้าใจเรื่องแบบนี้ได้ แต่เขาก็ไม่ได้อยากรู้หรือให้เธอพูดมันออกมาทั้งหมด เพราะตอนนี้เขากำลังตั้งใจจะจีบเธออยู่
“เอาล่ะคุณหมอ ผมจะพยายามไม่คิดมากกับเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาของคุณ แต่ระหว่างที่คุณอยู่กับผมที่นี่อย่าไปเปรียบเทียบผมกับเพื่อนพวกนั้นของคุณอีก เพราะผมไม่ได้ใจกว้างเหมือนน้ำในมหาสมุทร”
น้ำเสียงของชายหนุ่มเข้มห้วนขึ้นตามอารมณ์หึงหวงที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันรู้ตัว แต่ญาณิศาที่เข้าใจว่าอีกฝ่ายมีใจเป็นหญิงเลยไม่ได้สังเกตหรือติดใจอะไรกับคำพูดนั้นแต่อย่างใด
ภูมินทร์พยายามข่มไฟปรารถนาในกายอย่างสุดความสามารถระหว่างที่ชวยเธออาบน้ำ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะอดทนต่อเรือนร่างงดงามนี้ได้ ทั้งที่ที่ผ่านมานั้นนเขาไม่เคยปล่อยให้ผู้หญิงสวยๆหลุดมือได้สักราย และก็เป็นครั้งแรกอีกนั่นแหละที่เขาต้องมาอาบน้ำให้ใครแบบเด็กๆ โดยที่เธอยอมให้ความร่วมมืออย่างว่าง่ายกระทั่งภารกิจอาบน้ำชวนปาดเหงื่อสิ้นสุดลง
“ขอบคุณมากนะคะหัวหน้า ไว้ฉันจะหาอะไรมาตอบแทนทีหลังนะคะ ตอนนี้ขอตัวก่อน ง่วงจะตายอยู่แล้ว”
พูดจบร่างอรชรในชุดผ้าขนหนูพันกายก็หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้อง ปล่อยให้นัยน์ตาคมกริบมองตามก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง
………………………………………….