การโรยตัวจากผาค่อยเป็นค่อยไปตามที่ครูฝึกออกคำสั่งตามประกบไม่ห่าง ทุกอย่างเป็นไปด้วยความราบรื่น ทว่าพอญาณิศามองลงไปด้านล่างก็ต้องตกใจกับความสูงและชันที่ดูเหมือนจะน่ากลัวกว่าก่อนลงมาก และด้วยความตกใจทำให้เผลอปล่อยมือออกจากเชือกทันที
“ว๊ายยยย!”
เสียงหวานที่ร้องอย่างตกใจเป็นจังหวะที่ภูมินทร์เห็นเหตุการณ์พอดี เขารีบถีบตัวมาคว้าเอวเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะใช้ร่างหนาของตัวเองพลิกเป็นโล่กำบังไม่ให้ร่างบางกระแทกเข้ากับหินผาขณะที่เชือกกำลังเหวี่ยงเธอเข้ากับหน้าผา ทำให้เขาต้องรับแรงกระแทกแทนเธอไปเต็มแรง ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมากและเมื่อควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ก็เอ่ยดุคนในอ้อมกอดเบาๆ
“บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าปล่อยมือออกจากเชือก แล้วนี่เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
ประโยคคำถามในตอนท้ายที่เต็มไปด้วยความห่วงใยทำให้คนที่ยังไม่หายตกใจรีบส่ายหน้าไปมาเบาๆ ขณะเดียวกันหัวใจดวงน้อยของญาณิศาก็เต้นแรงแทบจะทะลุออกมาจากอก ตอนนี้เธอไม่รู้แล้วว่าที่หัวใจเต้นแรงผิดจังหวะนั้นเกิดจากอาการตกใจกลัว หรือเกิดจากการถูกโอบกอดเอาไว้อย่างแนบแน่นกันแน่ แต่ที่แน่ๆตอนนี้เธอรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัยอย่างประหลาด
“ไม่เจ็บก็ดีแล้ว มา…เรามาทบทวนความจำกันหน่อย จับเชือกเอาไว้แน่นๆแล้วเริ่มกันใหม่”
ถึงหัวใจจะยังเต้นแรงผิดจังหวะอยู่ แต่ญาณิศาก็คว้าเชือกมาจับไว้อย่างรวดเร็วตามคำสั่งพลางสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเรียกสติให้กลับคืนมา
“พร้อมแล้วใช่ไหม ผมจะปล่อยมือแล้วนะ”
เสียงทุ้มกระซิบบอกชิดติดใบหูเล็ก จนหญิงสาวสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดอยู่ข้างพวงแก้มงาม แต่นั่นไม่น่าตกใจเท่ากับปากร้อนๆ กับจมูกโด่งๆ ที่แนบลงมาเต็มแก้มของเธออย่างหนักหน่วง
‘เมื่อกี้เขาตั้งใจ หรือเป็นอุบัติเหตุ’
ญาณิศาถามตัวเองในใจด้วยความตื่นเต้นยิ่งกว่าการห้อยอยู่กลางหน้าผาขณะนี้เสียอีก ไม่ว่าจะเป็นความตั้งใจหรืออุบัติเหตุก็ทำให้หัวใจที่กำลังจะเต้นผิดจังหวะ เต้นแรงขึ้นมาอีกหลายเท่าอย่างไม่อาจควบคุมได้
“มีปัญหาอะไรครับคุณหมอ”
คำถามที่ยังคงความเข้มดุนั้นทำให้คนที่กำลังรู้สึกหวิวเพราะลมหายใจอุ่นๆ และจินตนาการไปไกลต้องรีบดึงสติกลับมาแทบไม่ทัน
“ปะ..เปล่าค่ะ ฉันพร้อมแล้ว”
ภูมินทร์พยักหน้าเบาๆพลางลอบยิ้มบางๆเมื่อเห็นใบหน้าใสใสที่เขาขโมยหอมไปเมื่อครู่แดงก่ำขึ้นมาทันตา ที่ทำไปนอกจากจะเกิดขึ้นเพราะความหมั่นเขี้ยวแล้วยังต้องการจะทำโทษเด็กดื้อที่ขัดคำสั่งจนทำหัวใจเขาหล่นวูบด้วยความตกใจอีกด้วย ถ้าขืนเธอยังทำตัวให้น่าเป็นห่วงมากกว่านี้ภูมินทร์สาบานว่าจะจัดโทษหนักให้เลยทีเดียว
มือใหญ่ค่อยๆคลายออกจากเอวคอดเมื่อเห็นว่าเธอตั้งสติได้แล้ว แต่กระนั้นก็ยังคอยประกบเคียงข้างไม่ห่าง ท่ามกลางกองเชียร์ด้านล่างที่คอยส่งเสียงและเป็นกำลังใจให้กับนางฟ้าเพียงคนเดียวในกลุ่มดังมาเป็นระยะ กระทั่งการโรยตัวลงจากเขาสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ญาณิศาพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกหลังจากที่เท้าแตะพื้นอย่างปลอดภัย ท่ามกลางเสียงปรบมือของเหล่าทีมอาสาสมัครทุกคนที่ทำสำเร็จก่อนเธอ ภูมินทร์จัดการปลดอุปกรณ์ให้กับเธออย่างชำนาญโดยใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถปลดเชือกและอุปกรณ์ทุกอย่างเสร็จก่อนที่จะมาปลดให้กับตัวเองบ้าง
“หัวหน้าได้รับบาดเจ็บเหรอครับ”
หมอกที่เดินมาหาทั้งสองคนเอ่ยถามเจ้าของร่างหนาที่ดูเหมือนจะเอาแต่สนใจกับการปลดพันธนาการบนร่างกาย โดยไม่สนใจของเหลวเปียกๆที่ซึมออกมาตามแผ่นหลังกว้าง
“อืม…นิดหน่อย”
“แต่ผมว่าไม่นิดแล้วนะครับ เสื้อขาดเป็นทางยาวขนาดนี้คงโดนหินบาดหรือไม่ก็กิ่งไม้แน่ๆ ทางที่ดีให้คุณหมอช่วยดูดีกว่านะครับ”
หมอกว่าพลางหันมาขอความช่วยเหลือจากหญิงสาว ญาณิศาที่เป็นแพทย์เพียงคนเดียวเลยจำต้องเดินอ้อมร่างสูงมาหยุดอยู่ตรงด้านหลังของเขาเพื่อตรวจเช็กแผลที่ว่า แต่แล้วก็ต้องเบิกตาโตด้วยความตกใจ
“หัวหน้าได้รับบาดเจ็บนี่คะ!”
เสียงหวานอุทานออกมาเมื่อเห็นเลือดสีแดงซึมผ่านเสื้อสีเลือดหมูจนเปียกเป็นทางยาว แม้จะไม่ใช่เจ้าของบาดแผลแต่ก็พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายคงเจ็บแสบอยู่ไม่น้อย
“แค่นิดหน่อย”
เมื่อจัดการปลดพันธนาการออกจนหมดชายหนุ่มก็หันมาบอกกับเธอ ที่ยังคงมีสีหน้าตกใจไม่หาย
“นิดหน่อยอะไรกันคะ เลือดออกมากขนาดนี้ ขอฉันดูหน่อยนะคะ”
“เล็กน้อยน่าคุณหมอ อย่าใส่ใจเลย”
ภูมินทร์เอ่ยพลางพลิกตัวหันไปทางกลุ่มอาสาสมัครที่กำลังนั่งรอกันอยู่อีกมุม ตั้งใจไว้ว่าจะเดินไปหาทุกคนเพื่อออกคำสั่งกับภารกิจต่อไป แต่ก็ต้องชะงักอยู่ในท่าเดิมเมื่อเสียงหวานออกคำสั่งพร้อมกับจ้องเขาด้วยสายตาดุ
“ไม่ต้องขยับไปไหนทั้งนั้น นั่งลงตรงนี้แล้วอยู่เฉยๆ”
ความดื้อของเขาทำให้คุณหมอคนสวยต้องสวมบทโหดเพื่อปรับเขาให้อยู่หมัด เธอออกคำสั่งเฉียบขาด! เช่นเดียวกับเขาที่เคยออกคำสั่งกับเธอและดูเหมือนจะได้ผลดีเมื่อเขายอมทำตามอย่างว่าง่าย หญิงสาวระบายยิ้มออกมาอย่างพอใจ ก่อนจะหันมาทางหมอกที่ยืนอยู่ข้างๆ
“รบกวนพี่หมอกช่วยดูหัวหน้าอย่าให้ไปไหนนะคะ เดี๋ยวณิศาขอไปหยิบกระเป๋ายามาก่อน ถ้าหัวหน้าดื้อแล้วไม่ยอมอยู่เฉยๆช่วยบอกญิศาด้วยนะคะ จะได้เย็บแผลให้สดๆไม่ต้องฉีดยาชา”
“ครับคุณหมอ”
หมอกตอบรับคำคุณหมอคนสวยก่อนจะขยับตัวมายืนตรงหน้าร่างสูงใหญ่ที่กำลังนั่งลงบนก้อนหินขนาดใหญ่เพื่อจับตามองไม่ให้อีกฝ่ายไปไหนได้ตามคำสั่ง แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงเรียบเย็นของผู้บังคับบัญชาเอ่ยถามเสียงลอดไรฟัน
“นายเป็นลูกน้องของใครมิทราบไอ้หมอก”
“ลูกน้องหัวหน้าภูมินทร์ครับ!”ยืดอกตอบอย่างแข็งขัน แต่ทว่าไม่กล้าสบตาคมกริบร้อนแรงดุจเปลวไฟนั้นแม้แต่น้อย
“ฉันก็นึกว่านายเปลี่ยนหัวหน้าเป็นคุณหมอณิศาแล้วเสียอีก”
ภูมินทร์ต่อว่าลูกน้องหนุ่ม น้ำเสียงเต็มไปด้วยการประชดประชัน เมื่ออีกฝ่ายทำตามคำสั่งของหญิงสาวโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดใด
“หรือว่าหัวหน้ากล้าขัดคำสั่งคุณหมอละครับ”
หมอกย้อนถามด้วยน้ำเสียงเรียบเก็บซ่อนความรู้สึกร้อนๆหนาวๆไว้ข้างใน ภาวนาอย่าให้ผู้บังคับบัญชาหนุ่มหงุดหงิดใจ ไม่เช่นนั้นวันนี้จะกลายเป็นวันที่แสนจะโหดร้ายไปอีกวัน
“ขู่เย็บแผลให้สดแบบนั้นใครจะกล้าวะ!”
คำตอบขุ่นๆนั้นทำให้หมอกต้องลอบยิ้มเมื่อสิ่งที่คาดไว้กับความเป็นจริงสวนทางกัน เพราะทีแรกเขานึกว่าผู้บังคับบัญชาหนุ่มจะแน่ แต่พอเอาเข้าจริงก็กลัวคำขู่คุณหมอเหมือนกัน สงสัยงานนี้หัวหน้าภูของเขาจะเจอคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อเข้าให้แล้ว