01
สามีเฮงซวย
แชะ! แชะ!
เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นรัว ๆ พร้อมกับแสงแฟลชที่สาดส่องเข้ามาเมื่อดาราสาวคนดังอย่าง 'อ้ายผิง' ที่เดินเข้ามาในงานเลี้ยงการกุศลระดับแขกวีไอพีและเซเลบริตี้คนดังเท่านั้นที่ได้รับการ์ดเชิญมาร่วมงานนี้
รูปร่างสมส่วนในชุดราตรีสีทองประดับด้วยเพชรเม็ดเล็กส่องแสงระยิบระยับสู้แสงไฟ ผมสีน้ำตาลถูกเกล้าขึ้นจัดทรงอย่างสง่า ลำคอระหงมีสร้อยทับทิมเม็ดใหญ่ใส่ประดับ ใบหน้าสวยที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเชิดขึ้นสู้กล้องอย่างเป็นงานพร้อมรอยยิ้มเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอถูกรุมล้อมด้วยกลุ่มนักข่าว
"ขอสัมภาษณ์หน่อยค่ะคุณอ้ายผิง วันนี้มีออกงานคุณเฟยเทียนไม่มาด้วยเหรอคะ?" เสียงนักข่าวหญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นพร้อมจ่อไมโครโฟนมาที่เธอซึ่งคำถามนี้เป็นคำถามยอดฮิตที่ต้องมีตลอดในยามที่เธอออกงานสังคมเลยก็ว่าได้
"เขาไม่มาหรอกค่ะ พอดีเขามีงานด่วนน่ะค่ะเลยให้ฉันมาคนเดียว" หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้มแม้ความเป็นจริงจะขัดต่อสิ่งที่ปากพูดอย่างสิ้นเชิง เพราะความสัมพันธ์ของเธอกับสามีหนุ่มอย่าง 'หยาง เฟยเทียน' นั้นเป็นความสัมพันธ์ที่ต้องอยู่ร่วมกันเพราะผลประโยชน์
"แบบนี้นี่เอง แล้วตอนนี้ความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่เป็นยังไงบ้างคะ?"
"ก็ดีค่ะ เขาเอาใจใส่ดูแลฉันดีมาก"
"น่าอิจฉาจังเลยนะคะ แล้วมีแพลนจะมีเบบี๋กันเร็ว ๆ นี้เลยหรือเปล่าคะ?" เป็นนักข่าวอีกคนที่ถามขึ้นซึ่งคำถามนี้ก็เป็นที่คุ้นชินสำหรับเธออีกเช่นกัน เพราะด้วยการแต่งงานของทายาทมาเฟียทั้งสองตระกูลที่จัดขึ้นยิ่งใหญ่ทำให้เธอและเขากลายเป็นคู่รักที่ถูกจับตามองในแวดวงนักธุรกิจและไฮโซมาตลอดแม้เวลาจะผ่านมาหนึ่งปีแล้วก็ตาม
"อืม เรื่องนั้นฉันขอปล่อยให้เป็นโชคชะตาแล้วกันนะคะ ถ้างั้นฉันขอตัวก่อนแล้วกันค่ะ" ดาราสาวยิ้มบอกส่งท้ายก่อนจะเดินแยกออกไปพร้อมบอดี้การ์ดสองคนที่เดินตามประกบ
หญิงสาวอยู่ร่วมงานเลี้ยงเป็นเวลาเกือบสองชั่วโมงก่อนจะกลับออกมาเพราะตอนนี้เธอรู้สึกอ่อนล้าและอยากพักผ่อนเต็มที
"เฟยเทียนจะมารับฉันไหม?" เธอเอ่ยถามกับบอดี้การ์ดคนสนิทของสามีที่เขาให้ตามดูแลเธอหลังจากกำลังจะเดินขึ้นรถที่บอดี้การ์ดขับมาจอดรอรับอยู่หน้าโรงแรมหรู
"นายคงเลิกงานดึกครับเลยบอกให้ผมพานายหญิงกลับก่อน" ดินแดน ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของเขาที่ส่งมาดูแลความปลอดภัยให้เธอในระหว่างนี้เอ่ยขึ้น
"แต่ฉันท้องอยู่นะเขาควรมาดูแลฉันสิ แล้วที่บอกว่าทำงานอยู่ก็ขอให้เป็นงานจริง ๆ ไม่ใช่ว่าไปกกอยู่กับพวกอีหนูพวกนั้น" อ้ายผิงว่าออกมาอย่างเหลืออด ทั้ง ๆ ที่เธอกำลังตั้งท้องลูกของเขาอยู่แท้ ๆ เขาควรเอาเวลามาดูแลเธอให้มากกว่านี้ด้วยตัวเองไม่ใช่ให้ลูกน้องมาดูแลแทน แล้วเรื่องที่เธอกำลังท้องอยู่นั้นไม่มีใครรู้นอกจากคนในครอบครัวเพราะต้องเก็บเป็นความลับเพื่อความปลอดภัยของเธอและลูกในท้อง เนื่องด้วยทั้งครอบครัวของเธอและเขาล้วนเป็นคนที่มีอำนาจทำให้มีศัตรูที่จ้องจะลอบทำร้ายอยู่ทุกเมื่อ
"นายไปทำงานจริง ๆ ครับ ไม่ได้ไปกกอยู่กับผู้หญิงที่ไหน" ดินแดนเอ่ยตอบ
"เหอะ! เป็นเจ้านายลูกน้องกันก็ต้องเข้าข้างกันอยู่แล้ว"
"ถ้างั้นผมก็จนปัญญาแล้วครับ ขึ้นรถเถอะครับนายบอกว่าไม่ให้กลับดึกเกินไป"
"หึ! ฉันล่ะเกลียดนายกับเจ้านายของนายจริง ๆ" อ้ายผิงว่าออกมาก่อนจะเดินเชิดหน้าเข้าไปในรถโดยมีดินแดนปิดประตูให้แล้วเดินเข้าไปนั่งเบาะข้างคนขับ
"นี่น่ะเหรอที่นายบอกว่าเจ้านายของนายไปทำงานน่ะฮะ!?" เธอว่าออกมาอย่างเกรี้ยวกราดเมื่อเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะเช็กข่าวบันเทิงทว่ากลับมีรูปหลุดของสามีตัวเองเดินเข้าโรงแรมกับผู้หญิงจนว่อนเน็ต
"ทำงานบนเตียงล่ะสิไม่ว่า กล้ามากนะ!!" หญิงสาวกัดฟันกรอดด้วยความโกรธเคือง เพราะความจริงแล้วเธอให้เขามาออกงานนี้ด้วยกันแต่เขาดันบอกว่าติดงานเธอจึงไม่เซ้าซี้แต่งานที่เขาบอกดันเป็นงานบนเตียงซึ่งเธอรับไม่ได้ แม้ล฿ก ๆ จะรู้ดีอยู่แล้วว่าเขาไม่ได้ไปทอะไรแบบนั้นแต่การที่มีข่าวหลุดออกมาแบบนี้มันทำให้เธอเสียหน้าไม่น้อย
"มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ ผมว่านายหญิงรอถามกับนายจะดีกว่าเชื่อข่าวพวกนี้"
"ฉันยังต้องฟังอะไรอีก ทั้ง ๆ ที่ฉันกำลังท้องลูกของเขาอยู่แต่เขาดันไปเข้าโรงแรมกับผู้หญิงแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนฮะ!?" เธอตวาดเสียงกร้าวด้วยความโกรธเคืองก่อนจะกดโทรออกหาคนที่ทำให้เธออารมณ์เสียอยู่ในตอนนี้เพื่อโทรไปต่อว่าที่เขากล้าทำแบบนี้กับเธอที่เป็นแม่ของลูก
"หน็อย! นี่กล้าตัดสายฉันเหรอ!" จากที่โกรธอยู่แล้วก็เพิ่มทวีขึ้นเมื่ออีกฝ่ายกดตัดสาย
"พาฉันไปหาเจ้านายของพวกนายเดี๋ยวนี้!" ในเมื่อทำอะไรไม่ได้สุดท้ายเธอจึงหันไปสั่งกับคนขับรถซึ่งก็คือลูกน้องของเขาอีกเช่นเดียวกัน
"ไม่ได้หรอกครับ ทำแบบนั้นนายจะโกรธนะครับนายหญิง ผมว่านายหญิงควรกลับไปรอนายที่บ้านจะดีกว่า" ดินแดนเป็นคนเอ่ยออกมา เขาถอนหายใจหลายครั้งให้กับความเอาแต่ใจของนายหญิงของตัวเอง
"แต่นี่คือคำสั่งของฉัน แล้วฉันก็ถือว่าเป็นเจ้านายของพวกนายเหมือนกัน"
ปัง!!
"กรี๊ดดด!!" อ้ายผิงกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้น เธอรีบยกมือขึ้นมาปิดหูด้วยความตกใจปนหวาดกลัว
"นายหญิงก้มลงครับ!" ดินแดนเอ่ยบอกเสียงเข้มพร้อมกับชักปืนออกมาจากขอบกางเกงโดยไม่ลืมที่จะกดส่งสัญญาณเพื่อเรียกลูกน้องตามมาสมทบ
"นะ...นี่มันอะไรกัน?" อ้ายผิงตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวเพราะที่ผ่านมาเธอไม่เคยพบเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน มือเรียวยกขึ้นมากอดป้องหน้าท้องแบนราบของตัวเองเอาไว้ตามสัญชาตญาณของความเป็นแม่
ปัง!! ปัง!!
"อึกก!!"
"ขับต่อไป!" ดินแดนสั่งกับคนขับรถพร้อมกับเปิดกระจกยิงสวนกลับไปทางด้านหลังที่มีรถขับตามอยู่สามคันพร้อมกับยิงกระหน่ำสาดกระสุนเข้ามา ด้วยที่เส้นทางบริเวณนี้เป็นเส้นทางเปลี่ยวทำให้ไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่านไปมา
อ้ายผิงใช้มือสั่นเทาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาสามีหนุ่มทันที
ตื้ด...ติ้ด!
"ฮึก...บ้าเอ๊ย!" เธอสบถออกมาหลังจากที่ไม่สามารถติดต่อเขาได้ในขณะที่เสียงปืนกระหน่ำสาดใส่กันอย่างไม่เว้นจังหวะ
ปัง!! ปัง!!
"แย่แล้วครับมันยิงยางรถเราคงไปต่อไม่ได้ เอายังไงดีครับนาย" คนขับรถเอ่ยขึ้นหลังจากที่พยายามประคองรถที่ถูกยิงจนยางแตกให้ขับต่อไปได้แต่ดูเหมือนมันคงจะไม่เป็นอย่างที่หวัง
"อย่าให้นายหญิงเป็นอะไรเด็ดขาด!" ดินแดนสั่งเสียงเข้ม
เอี๊ยดด!! ปังง!!
ทันใดนั้นก็มีรถยนต์สีดำแล่นออกมาจากป่าข้าง ๆ ทำให้คนขับรถต้องหักพวงมาลัยหลบจนเสียหลักชนกับต้นไม้ใหญ่ข้างทาง
"นายหญิง!!"
"อึกก!!" ความรู้สึกสุดท้ายที่เธอรับรู้ได้ความเจ็บปวดบริเวณศีรษะและท้อง พร้อมกลิ่นคาวเลือดที่ลอยคละคลุ้งก่อนที่สติจะดับวูบไป
วันต่อมา...
อ้ายผิงนอนนิ่งอยู่บนเตียงนอนวีไอพีในโรงพยาบาลเอกชน ขอบตาเธอแดงก่ำมีหยาดน้ำตาไหลลงที่หางตาหลังจากฟื้นขึ้นมาได้รับข่าวร้ายว่าสูญเสียลูกในท้องไปเมื่อชั่วโมงที่แล้ว
แกร๊ก~
มือเรียวยกขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากหางตาหลังจากได้ยินเสียงปลดล็อกประตูก่อนจะตามมาด้วยร่างสูงของเฟยเทียนซึ่งเป็นสามีและพ่อของลูกเธอที่เดินเข้ามา
"คงรู้เรื่องแล้วสินะ" เธอว่าออกมาเสียงเรียบหลังจากเห็นใบหน้าคมคายของคนที่เดินเข้ามา
"อืม" เฟยเทียนตอบเสียงราบเรียบด้วยใบหน้าเรียบเฉยอย่างไม่รู้สึกอะไรกับข่าวที่ทราบมาจากหมอว่าอ้ายผิงได้สูญเสียลูกในท้องไปแล้วจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
"อืม? คุณตอบมาได้ยังไงแค่อืม ฉันแท้งนะฉันสูญเสียลูกในท้องไปแต่คุณตอบมาเหมือนคนที่ไม่รู้สึกอะไร ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณ"
"จะโวยวายทำไมในเมื่อเธอเองก็ไม่ได้อยากจะมีเขาตั้งแต่แรก" คำพูดของคนเป็นสามีทำให้เธอสะอึก
"ใช่ ฉันยังไม่พร้อมที่จะมีเขา แต่ฉันก็ไม่เคยคิดอยากจะให้เขาตาย แต่คุณ..."
"คุณที่เป็นพ่อกลับไม่รู้สึกเสียใจเลยสักนิดที่สูญเสียเขาไป" เธอยอมรับว่าพลาดที่ตั้งท้องและเธอก็ยังไม่พร้อมที่จะมีเขา แต่ยังไงเธอก็ไม่คิดที่อยากจะให้เขาตาย หัวอกคนเป็นแม่ย่อมไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นอยู่แล้ว
"เสียใจแล้วได้อะไร ร้องไห้แล้วจะได้เขากลับคืนมาเหรอ?"
"อึก!"
"ในเมื่อแท้งแล้วก็ดีจะได้เซ็นใบหย่าเสียที" นี่น่ะเหรอคือคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของคนเป็นสามีและพ่อของลูกที่เธอคิดว่าเขาจะมีความดีอยู่บ้างแต่มันไม่ใช่เลย
"ไอ้ผู้ชายเฮงซวย!!"
--------
มาเสิร์ฟความดีของหลัวคนใหม่ค่ะ ฝากกดใจ + กดเฟบ + คอมเมนต์เพื่อเป็นกำลังใจและไม่พลาดการอัปเดตตอนต่อ ๆ ไปด้วยนะคะ
ฝากจิ้ม ๆ ให้หน่อยน้าาาา