หน้าเมืองชั้นกลางทางตะวันออก
"เอาล่ะ เริ่มตั้งกำลังรบได้!!"
ผู้เล่นนับร้อยคนเริ่มเดินออกไปนอกกำแพงเมือง เพื่อเตรียมรับมือกับภัยที่กำลังเข้ามา
"ไม่คิดเลยว่าพวกมันจะมากันไวแบบนี้ ฉันยังไม่ได้ทำใจเลยแฮะ.."
"ฉันอยากไปใช้เงินให้หมดก่อนจะสู่กับพวกมันจัง"
"งั้นก็รีบไปทำซะ เพราะยังไงพวกเราก็สู้ไม่ได้หรอก"
"ใช่ ขนาดผู้เล่นในเมืองชั้นนอกยังถูกพวกมันทำลายอย่างรวดเร็วแบบนั้น"
"เฮ้อ..ฉันอยากทิ้งดาบแล้วสิ"
เสียงพูดคุยของผู้เล่นนับร้อยดังขึ้นมาท่ามกลางขบวนรบ ทั้งผู้คนที่หวาดกลัวต่อศัตรูที่กำลังใกล้เข้ามา หรือผู้คนที่พร้อมละทิ้งทุกอย่างแล้ว
แต่ไม่นานทุกอย่างก็เงียบดับลง เพราะชายคนหนึ่งได้ก้าวเข้ามาสู่สนามรบ
"นั่นมัน..."
"ใช่...นั่นแหละเขา"
"ว้าว.."
"ท่านซาจิส"
ชายหนุ่มร่างบางนามซาจิส ผู้ปกครองเมืองได้เข้ามาพร้อมกับธนูคู่ใจของเขา
แผ่นหลังของเขาดูยิ่งใหญ่และทรงพลัง นั่นเลยทำให้ซาจิสถูกเคารพ
"เอาล่ะ.."
เมื่อซาจิสเริ่มเอ่ย ทุกอย่างก็เงียบดับลง
และเมื่อเสียงของเขาเริ่มเอ่ยอีกครั้ง
"...พวกเราจะจัดการเหล่าสัตว์ทมิฬเอง!!"
เมื่อเสียงนั่นเอ่ยขึ้น เสียงเฮก็ดังลั่นตามมาอย่างเร็ว
อีกด้าน ณ เมืองชั้นกลางทางตะวันตก
ภายในปราสาทหลักของเมือง นารัคกำลังเดินวนไปมารอบห้องเพื่อครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
"ถ้าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง นั่นต้องแย่แน่.."
นั่นคือสิ่งที่นารัคเอ่ยขึ้นก่อนจะหยิบค้นหาปากกาเพื่อใช้จดข้อความที่จะส่งต่อไปถึงกลุ่มของเขา
แคร็ง..แกร็ง...
เสียงค้นของดังไปทั่วห้องอย่างวุ่นวาย ไม่นานนักนารัคก็พบกับสิ่งที่เขาต้องการ
แต่ก่อนที่เขาจะได้ใช้มันจดไปยังกระดาษข้อความ ตอนนั้นเองที่เสียงประตูได้เปิดขึ้น
ปัง!!
มันแรงจนทำให้นารัคตกใจจนทำปากกาตก
ร่างของทหารนายหนึ่งเข้ามาภายในห้องด้วยท่าทางร้อนรน และนารัคก็แปลกใจที่เห็นภาพนั้น
"เกิดอะไรขึ้น.."
นารัคเอ่ยถามทหารนายนั้นด้วยความกังวล เขาภาวนาให้สิ่งที่ทหารนายนั้นกำลังจะเอ่ยไม่เป็นอย่างที่เขาคิด
"คือ...พวกเรายืนยันการบุกรุกของเหล่าสัตว์ทมิฬได้แล้วครับ"
แต่สุดท้ายสิ่งที่เขาภาวนาก็ไม่เป็นจริง เพราะทหารนายนั้นกลับยืนยันเกี่ยวกับสัตว์ทมิฬได้แล้ว
นั่นแสดงว่าเขาเหลือไม่เวลาไม่มากที่จะส่งข้อความออกไปหากลุ่มหลัก
"เข้าใจแล้ว บอกตำแหน่งของพวกมันมา แล้วฉันจะตามไปเสริมทัพทีหลัง"
นารัคเอ่ยบอกทหารก่อนจะก้มตัวลงไปหยิบปากกาที่ตกอยู่บนพื้น
แต่ก่อนที่มือของเขาจะเอื้อมไปถึง..
"คือ...ตอนนี้.."
ท่าทีอ้ำอึ้งของทหารนายนั้นทำให้นารัคสงสัย เพราะอะไรเขาถึงได้สั่นกลัวขนาดนั้น
หรือเป็นเพราะพลังของเหล่าสัตว์ทมิฬ?
"พวกมันอยู่ไหนล่ะตอนนี้?"
ทหารคนนั้นนิ่งไป ก่อนจะตอบกลับด้วยเสียงสั่นกลัว
"..พวกมัน"
เมื่อเห็นอาการแบบนั้นนารัคก็เริ่มอารมณ์เสีย นี่เขาฝึกซ้อมทหารขี้กลัวคนนี้มาได้ยังไง
นารัครีบเดินไปจับไหล่ของทหารคนนั้น ก่อนจะเริ่มเขย่าตัวเพื่อเรียกสติ
"รีบบอกม---"
แก็ง!!
แต่ตอนนั้นเอง ที่หมวกของทหารนายนั้นหลุดออกมา...
"...!!"
และนั่นเป็นตอนที่นารัคได้เห็นใบหน้าของเขา
ทหารนายนั้นมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา ดวงตาของเขาสิ้นหวัง ปากแห้งและซีดราวกับคนที่เพิ่งจะเจอสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตไป
"นี่นาย..."
ในตอนนั้นเองที่เขารับรู้ถึงสิ่งผิดปกติ ก่อนจะปล่อยทหารหนุ่มคนนั้นไปพร้อมกับวิ่งตรงไปยังบานหน้าต่างห้อง
และภาพที่เขาเห็นผ่านกระจกบานนั้น
"ไม่จริงน่า..."
...คือภาพของกำแพงหน้าเมืองที่กำลังมอดไหม้ และถูกปกคลุมด้วยควันสีดำทมิฬ
และในขณะเดียวกันนั้นที่จุดสูงสุดของปราสาท ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำและหน้ากากแจ็คข้าวหลามตัด
เขากำลังจ้องมองกำแพงหน้าเมืองที่กำลังถูกทำลายอย่างช้าๆ ด้วยตัวตนที่ปกคลุมไปด้วยควันสีดำดูน่ากลัวและอันตราย
"แบบนี้พวกเราก็ไม่เห็นจำเป็นต้องแทรกแซงเลยสิเนี่ย"
เวสจ้องมองภาพนั้นพร้อมกับครุ่นคิด พลังทำลายของกองทัพสัตว์ทมิฬนั้นรุนแรงกว่าที่พวกเขาคาดการเอาไว้ซะอีก
หรือไม่..ระหว่างที่พวกมันเดินทางมาก็คงจะเกิดอะไรขึ้น
แต่ระหว่างที่เขากำลังคิดอยู่นั้น บานหน้าของปราสาทก็เปิดออก
"หืม..."
และที่บานหน้าต่างนั้น ปรากฏร่างของชายหนุ่มในชุดเกราะเต็มตัว ถือคทาเหล็กพร้อมกับร่ายสกิลบางอย่าง
"ปีกปักษา"
หลังจากที่ร่ายสกิล คลื่นลมก็ไหลรวมไปยังตัวของเขา ก่อนที่พวกมันจะค่อยๆ รวมตัวกลายเป็นคลื่นคล้ายปีกสองข้างที่ด้านหลัง
ไม่นานชายหนุ่มก็พุ่งตัวออกไป และเป้าหมายคือศัตรูที่อยู่ด้านหน้าของกำแพงเมือง
"โอ้...นี่สินะพลังของหนึ่งในผู้นำของกลุ่มรุ่งโรจน์ สมแล้วละนะ"
เวสที่มองภาพนั้นอย่างสนใจก็ร้องออกมา ก่อนจะลุกขึ้นแล้วหยิบหนังสือปกสีดำออกมา
วงเวทย์ปรากฏที่เท้าของเขา ก่อนที่มันจะพาร่างของเวสให้หายไปจากยอดของปราสาท
"ขอดูใกล้ๆ หน่อยก็แล้วกันนะ..."
ณ กำแพงเมืองชั้นกลางทางตะวันตก
ตู้ม!!
กำแพงเมืองถูกระเบิดออกจากเปลวเพลิงอันแสนรุนแรง และภาพนั้นตัดกับเหล่าทหารที่กำลังวิ่งหนีจากเศษหินของกำแพงที่ร่วงลงมา
"อ้าก!!!"
"ช่วยด้วยย!!!"
"พวกมันเข้ามาแล้ว!!"
เสียงกรีดร้องของเหล่าทหารดังขึ้นทั่วสนามรบ ที่ตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยเพลิงอันแสนรุนแรง
แต่ระหว่างที่เหล่าทหารกำลังกรีดร้องและวิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอด พวกเขาก็ได้เห็นบางอย่างปรากฏตัวขึ้นมา
ตู้ม!
ร่างของใครบางคนพุ่งเข้ามายังสนามรบ สร้างแรงกระแทกและกระแสลมรุนแรงแก่สนามรบเบื้องล่าง
และเมื่อกลุ่มควันจางหาย ร่างของชายหนุ่มในชุดเกราะสีฟ้าอ่อนก็ปรากฎด้วย
"นั่นมัน...!"
"พวกเรารอดแล้ว!!"
เสียงกู่ร้องของเหล่าทหารดังขึ้นหลังจากที่ได้เห็นร่างของเขา พร้อมกับชายหนุ่มในชุดเกราะที่ชูคทาเหล็กของเขาขึ้นมา
"สายลมชำระล้าง!!"
สิ้นเสียงสกิล ทหารทุกคนก็รับรู้ว่าร่างกายของตัวเองไร้บาดแผลและไม่หลงเหลือความเหน็ดเหนื่อยอยู่
"จงลุกขึ้นต่อสู้เพื่อปกป้องเมืองของพวกเรา ทหารทุกนาย เราจะไม่ยอมสูญเสียสิ่งไหนไปอีกแล้ว"
ชายคนนั้นเอ่ยขึ้น ก่อนจะชี้คทาเหล็กไปยังกองทัพสัตว์ทมิฬเบื้องหน้า
"มุ่งหน้าไปและจัดการศัตรูของพวกเราให้สิ้นเสีย!!"
"โอ้ว!!!"
เหล่าทหารที่กำลังวิ่งหนีก็เปลี่ยนทิศ ก่อนจะหยิบอาวุธของตัวเองพุ่งเข้าไปโจมตีเหล่าสัตว์ทมิฬ
"นี่มัน...รับรู้ได้เลยว่าพลังกำลังเอ่อล้น!!"
"เพราะพลังของเขายังไงล่ะ!!"
"ท่านนารัค!!!"
เสียงเอ่ยชื่อของชายหนุ่มดังขึ้นทั่วสนามรบ พร้อมกับเหล่าสัตว์ทมิฬที่ค่อยๆ ถูกจัดการมากขึ้นเรื่อยๆ
นารัคมองภาพนั้นด้วยความดีใจ แต่เขาก็ไม่สามารถวางใจกับสถานการณ์นี้ได้ในตอนนี้
เพราะที่สุดมุมมองของเขา ได้มีร่างของมอนสเตอร์ตัวหนึ่งปรากฏอยู่
ร่างของมันใหญ่กว่ามนุษย์สัก 3 เท่าได้ ผิวหนังปกคลุมไปด้วยเปลวไฟสีแดงฉานและตัดกับควันสีดำ มันนั่งนิ่งมองสนามรบเหมือนกับตัวของเขาเช่นกัน
"แกสินะ ผู้นำกลุ่มสัตว์ทมิฬ.."
"สายลมอวยพร"
ร่างของนารัคถูกปกคลุมด้วยสายลมสีเขียวอีกครั้งหลังจากร่ายสกิล ก่อนที่เขาจะมองตรงไปยังร่างของยักษ์เพลิงที่นั่งอยู่
"เอาไปกินซะ..."
คทาเหล็กเปล่งแสงเป็นสีเขียว ก่อนที่มันจะถูกเล็งไปยังร่างของเจ้ายักษ์นั่น
สายตาของนารัคแน่วแน่ ก่อนจะร่ายสกิลอันแสนรุนแรงออกมา
"พายุดับชีพ!!"
สิ้นเสียง สายลมสีเขียวก็ขนาดใหญ่ก็พุ่งผ่านสนามรบและตรงไปยังร่างของเจ้ายักษ์เพลิง
มันพัดพาทุกสิ่งให้ลอยออกไปตามเส้นทาง จัดการเหล่าสัตว์ทมิฬได้นับร้อย
และเป้าหมายสุดท้ายคือเจ้ายักษ์เพลิงนั่น
ตู้ม!!
พายุกระแทกร่างของยักษ์เพลิงนั่นเต็มๆ เพียงแต่ว่า...
"ไม่เดี้ยงง่ายๆ งั้นสินะ ก็สมกับเป็นผู้นำของเหล่าสัตว์ทมิฬอยู่หรอก"
ร่างของยักษ์เพลิงปรากฏหลังควันรอบสนามรบจางหาย ก่อนจะเห็นว่ามันกำลังยืนอยู่
และเป้าหมายของมันนั้นเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน คือนารัคที่เป็นคนเล็งสกิลใส่เขาในตอนนี้
"ก็เข้ามาสิวะ"
นารัคเอ่ยตอบการกระทำของเจ้ายักษ์นั่นด้วยคำพูด ก่อนจะเล็งคทาเหล็กไปยังร่างของมันอีกครั้ง..
"พายุดับชีพ!!"