“เฮ้อ ! เอาเป็นว่าคิดใหม่ก็ดีนะน้องเทียร์” ทรอสถอนหายใจพร้อมกับพูดขึ้นเพราะเขาไม่สามารถตอบคำถามอะไรพวกนี้ได้ มันจริงอยู่ที่เขาพอรู้มาบ้างแต่จริงหรือไม่จริงเขาไม่สามารถพูดได้เพราะมันเป็นเรื่องไกลตัว
“ไม่คิดใหม่แล้วเพราะยังไงน้องเทียร์ก็ยืนยันจะไปอิตาลี” คำพูดของน้องสาวคนเล็กทำเอาพี่ชายทั้งสองคนถึงกับต้องส่ายหัวเพราะในเมื่อน้องเทียร์ยืนกร่านขนาดนี้คงไม่มีใครสามารถห้ามได้ ยิ่งคุณพ่อกับคุณแม่เห็นด้วยอีกมันยิ่งแล้วเลย
“แล้วจะไปตอนไหน” เทรย์ถามขึ้นทันทีเพราะตอนนี้ต้องการจะรู้วันที่แน่ชัด
“อีกไม่นานเพราะไปกับโครงการทุนน่าจะอีกหนึ่งเดือน” เพราะมันไม่นานจริงๆ ปกติแล้วจะมีเวลาให้เตรียมตัวนานกว่านี้แต่กับกรณีของเทียร์มันไม่ใช่เพราะเทียร์คือนักเรียนทุนรอบที่สอง เลยทำให้การเดือนทางต้องเร่งขึ้นมาเพราะมหาวิทยาลัยที่อิตาลีกำลังจะเปิดเทอม
“ตั้งใจเรียนให้สมกับที่อยากไปนะน้องเทียร์ อย่าเข้าไปยุ่งกับอะไรที่มันไม่ดีไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรือคน” ทรอสพูดขึ้นเพราะเขากลัวเหลือเกิน ไม่ใช่กลัวเพราะเป็นประเทศอิตาลีแต่กลัวเพราะน้องสาวต้องไปอยู่คนเดียว
“น้องเทียร์รู้” คำตอบของน้องสาวคนเล็กของบ้านไม่ได้ทำให้พวกพี่ๆสบายใจเลยเพราะทั้งทรอสและเทรย์ก็อดห่วงน้องเทียร์ไม่ได้อยู่ดี
“แล้วน้องเทียร์มีเพื่อนจากมหาลัยไปด้วยกันไหม” คนเป็นพ่อถามขึ้น
“ในมหาลัยน้องเทียร์ไม่แน่ใจนะแต่ถ้าในคณะมีน้องเทียร์คนเดียว” ก็พอจะเข้าใจได้เพราะคณะที่เทียร์เรียนมาไม่ได้เกี่ยวกับอิตาลีเลย มันเป็นเพราะความชอบส่วนตัวของเทียร์
“ลูกสาวคนเล็กของแม่โตแล้วจริงๆสินะ” คำพูดของคนเป็นแม่ทำเอาเทียร์น้ำตาซึม
ถึงเธอจะดีใจกับการไปได้อิตาลีตามความฝันของตัวเองมากแค่ไหนแต่เมื่อคิดไปคิดมาต้องห่างจากครอบครัวก็อดใจเสียไม่ได้
“น้องเทียร์โตแล้วทุกคนสบายใจได้เลย” เทียร์พูดขึ้นพร้อมกับยิ้มกว้าง วันนี้เธอยังไม่ได้ไปแต่ทุกคนเหมือนจะเศร้ากันหมด ไม่อยากคิดถึงวันที่เธอต้องเดินทางเลยเพราะถึงวันนั้นเธอคงกลั้นน้ำตาที่บอกลาทุกคนในครอบครัวไม่ได้แน่ๆ
“มีอะไรที่ต้องซื้อไหม พี่จะพาไปซื้อ” เทรย์ถามขึ้นทันทีเพราะตอนนี้เขาว่าง อยู่ในช่วงปิดเทอมสามารถพาน้องสาวไปซื้อของได้
“จริงๆก็มีหลายอย่างนะ พวกเสื้อผ้าเพราะอากาศที่อิตาลีคงต่างกับที่นี่มาก” แน่นอนว่าเทรย์พยักหน้ารัวๆ
“ไปวันนี้เลย” ถึงมันจะดูเร่งรีบแต่เทรย์ก็อยากพาน้องสาวไปเลยเพราะอีกแค่เดือนเดียวมันมีเวลาอยู่ด้วยกันไม่เยอะ ปกติแล้วเทรย์กับน้องเทียร์ก็ไม่ได้เจอกันบ่อยเพราะเทรย์ติดแฟน
“พาน้องเทียร์ไปแบบนี้เพราะรดาไม่อยู่ใช่ไหม” เทียร์ถามขึ้นอย่างรู้ทันเพราะคนติดแฟนอย่างเทรย์คงไม่สละเวลาให้เธอแน่ๆ
“อย่าทำเป็นรู้ดี”
“เอาบัตรพี่ไป อยากได้อะไรก็รูดเอา” พี่ชายคนโตอย่างทรอสก็ยื่นบัตรเครดิตให้กับน้องสาวเพราะเขาไม่ว่างจะไปด้วยเนื่องจากงานในไร่ก็มากมาย
“กูจ่ายให้น้องได้” เทรย์รีบแย้งขึ้นเพราะเขาสามารถจ่ายให้น้องได้
“ก็ช่วยๆกันไง ทำไมมึงจะซื้อให้น้องคนเดียวเลยหรอ” ทรอสถามขึ้นทันทีเพราะเขาก็อยากซื้อของให้น้องสาวเหมือนกัน
“โอเคๆ เอาบัตรกันมาเลยน้องเทียร์จะใช้ของพี่ทรอสพี่เทรย์ให้สมใจกับที่ต้องการจะซื้อให้เลย” แน่นอนว่าเทียร์รับบัตรจากทรอสก่อนจะแบมือขอบัตรจากเทรย์เพราะเธอจะถือไว้เอง ร้านไหนอยากใช้ของใครเธอก็จะใช้ของคนนั้น
ภายในเวลาไม่นานนักสองพี่น้องก็มาถึงห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองเชียงใหม่
“น้องเทียร์จะไปซื้ออะไรก่อน” เทรย์ถามน้องสาวขึ้น
“มาด้วยกันห้ามบ่นเด็ดขาดนะพี่เทรย์เพราะน้องเทียร์ซื้อของเยอะ” เทียร์พูดขึ้นอย่างดักทางเพราะพี่ชายของเธอไม่ใช่พวกที่มีความอดทนสูงแต่มีคนหนึ่งเท่านั้นที่พี่ชายละเว้นได้นั่นคือน้องรดาคู่หมั้นของพี่เทรย์
“พี่ไม่บ่นหรอก อยากไปร้านไหนเดินนำไปเลย” แน่นอนว่าเทียร์เป็นฝ่ายเดินนำและร้านแรกที่เทียร์จะไปคือร้านเสื้อผ้า
“อิตาลีถึงไม่หนาวมากแต่คงหนาวสำหรับเรา น้องเทียร์ซื้อเสื้อหนาๆนะ” คนเป็นพี่ชายพูดขึ้นพร้อมกับหยิบเสื้อผ้าที่เป็นแนวรสนิยมของน้องสาวลงตะกร้า
“พี่เทรย์เดี๋ยวน้องเทียร์เลือกเอง” เทียร์สวนกลับทันควันเพราะต่อให้มันตรงกับที่เธอใส่แต่เธอก็อยากเลือกเองเพราะบางตัวที่พี่เทรย์หยิบมามันดีเทลไม่สวย
“หยิบๆไปเถอะ หยิบทั้งร้านพี่กับไอ้ทรอสก็ไม่จน” เทียร์ถึงกับกรอกตามองบนกับคำพูดของพี่ชาย
นานนับหลายนาทีที่สองพี่น้องใช้เวลาอยู่ในร้านเสื้อผ้าและเมื่อได้เสื้อผ้าจนพอใจ พี่ชายอย่างเทรย์ก็มีหน้าที่เอาของไปเก็บที่รถเพราะถือไม่ไหว ส่วนเทียร์ก็ตรงมายังร้านหนังสือเพื่อหาหนังสือเกี่ยวกับประเทศอิตาลีเล่มใหม่ๆ
“คนสวยมาอีกแล้ว เล่มนี้มาใหม่เป็นหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจของอิตาลี” พนักงานขายที่สนิทกับเทียร์เป็นพิเศษพูดขึ้นพร้อทกับยื่นหนังสือให้กับเทียร์
“เดี๋ยวคงไม่ได้มาบ่อยๆแล้วเพราะเทียร์ได้ทุนไปเรียนอิตาลีค่ะพี่อร” เทียร์พูดขึ้นทันทีเพราะคนที่ช่วยหาและเก็บหนังสือไว้ให้เธอก็เป็นพี่อรที่เป็นพนักงานขาย
“ดีใจด้วยนะน้องเทียร์ ความฝันเราเป็นจริงสักที พี่ดีใจด้วยจริงๆ” พนักงานขายพูดขึ้นเพราะเธอรู้ดีว่าเด็กคนนี้มีความพยายามมากแค่ไหน เห็นตั้งแต่ตัวเล็กที่มาหาหนังสือที่เกี่ยวกับอิตาลีจนถึงหนังสือสอนภาษาอิตาลีรวมถึงการเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมต่างๆ
“ฮ่าๆ ขอบคุณนะคะ งั้นเทียร์เอาเล่มนี้ค่ะ” หลังจากคิดเงินเสร็จเทียร์ก็เดินออกจากร้านหนังสือมานั่งรอพี่ชายเพราะหลังจากนี้คงไปหาอะไรกินกันต่อ
“ได้อะไรมา หนังสือเกี่ยวกับอิตาลีอีกแล้วหรอ” เทรย์ถามขึ้นพร้อมกับใบหน้าหล่อที่ทำหน้าเอียนสุดฤทธิ์เพราะชีวิตของน้องสาวแทบจะเกี่ยวกับอิตาลีหมดแล้ว
“ก็น้องเทียร์ชอบแต่เล่มนี้เกี่ยวกับพวกธุรกิจที่มีในประเทศ พวกนักธุรกิจอะไรพวกนี้”
“สนใจเรื่องแบบนี้หรอ”
“เปล่าหรอกแต่เทียร์ศึกษาไว้ไงเพราะจะไปอยู่บ้านเมืองเขาคงต้องศึกษาไว้บ้าง” คำตอบของเทียร์ทำคนเป็นพี่ชายอดที่จะเอ็นดูไม่ได้
ที่ผ่านมาทุกคนในครอบครัวรับรู้ถึงความชอบของเทียร์ว่าเทียร์ชื่นชอบและหลงรักประเทศอิตาลีมาก จนเริ่มศึกษาและเรียนรู้เรื่องภาษาจนเก่งและตอนนี้ก็กำลังเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งอื่นๆ
“เก่งจริงๆแต่เรื่องพวกนี้ไม่จำเป็นก็ได้ สนใจแค่เรื่องเรียนก็พอ” เทรย์พูดขึ้นเพราะเรื่องธุรกิจพวกนี้ยังไกลตัวน้องเทียร์ เขาอยากให้น้องโฟกัสกับกาสเรียนเพราะการไปอิตาลีครั้งนี้น้องเทียร์จะต้องเสียเวลาหนึ่งปีเพราะต้องเริ่มเรียนระดับมหาวิทยาลัยใหม่
“เรื่องเรียนน้องเทียร์ก็สนใจแต่ที่ต้องอ่านก็เพราะน้องเทียร์เรียนบริหารไง เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว” แน่นอนว่าคำตอบของเทียร์ทำพี่ชายเข้าใจ
“แต่ก่อนจะอ่านไปหาอะไรกินเถอะ พี่หิว”
“พี่เทรย์อยากกินอะไร”
“อะไรก็ได้อะ” เทียร์ถึงกับกรอกตามองบนกับคำตอบของพี่ชายเพราะอะไรก็ได้มันมีที่ไหนกัน
“อะไรก็ได้งั้นกลับไปกินกับน้องรดาที่คอนโดไหม” เทียร์พูดขึ้นด้วยความหมั่นไส้เพราะอะไรก็ได้มันไม่มีไง
“ก็ดีนะ ตอนนี้รดากลับคอนโดแล้วด้วย น้องเทียร์ค่อยไปกินข้าวทีบ้านแล้วกัน พี่จะได้รีบไปส่งแล้วรีบกลับ” ถึงเทียร์จะพูพออกมาเล่นๆแต่คนเป็นพี่ชายกลับคิดจริง ทำเอาเทียร์ถึงกลับต้องกรอกตามองบนครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
“ทำไมกลับมาเร็วล่ะน้องเทียร์” คนเป็นแม่ถามขึ้นทันที
“ถามพี่เทรย์เลยค่ะแม่ น้องเทียร์ขึ้นห้องก่อนน้าได้หนังสือมาใหม่” เทียร์พูดขึ้นพร้อมกับรีบเดินขึ้นมายังห้องนอนของตัวเอง
ปล่อยให้พี่ชายคนรองถือของตามเข้าบ้านและตัวเองก็เอาเวลามาอ่านหนังสือเล่มใหม่ที่พึ่งได้มา เรียกว่าหนังสือเล่มนี้เปิดโลกใหม่กับเทียร์มากๆเพราะมันเป็นแนวธุรกิจและมีนักธุรกิจหลายคนที่กำลังโด่งในอิตาลีอยู่ในขณะนี้
“โห่ คนอะไรมีธุรกิจครอบคลุมเกือบครึ่งอิตาลี” เทียร์พูดขึ้นทันทีพร้อมกับไล่อ่านข้อความในหนังสือ
หนังสือเล่มนี้กล่าวถึงบุคคลหนึ่งที่เป็นนักธุรกิจไฟแรงของอิตาลีในตอนนี้ เรียกว่าเขาคนเดียวสามารถครอบคลุมธุรกิจในอิตาลีได้มากกว่าครึ่งและเป็นมหาเศรษฐีติดหนึ่งในสามของอิตาลีอีกด้วย
“รวยแถมเก่งอีก” เทียร์พูดขึ้นมาไม่หยุดเพราะคนคนนี้เก่งจริงๆ
อายุก็พึ่งจะสามสิบสามปีถือว่าประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อยเลยจริงๆเพราะบางคนในอายุนี้แค่พึ่งจะเริ่มธุรกิจแต่เขาคนนี้กลับมีธุรกิจหลายๆอย่างแล้ว
“เรียกว่าเป็นนักธุรกิจและคนที่มีอิทธิพล” ประโยคนี้ในหนังสือทำเทียร์คิ้วขมวดแต่ก็พอเข้าใจได้เพราะคงไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ เนื่องด้วยธุรกิจที่หลากหลายคงต้องมีอิทธิพลพอสมควร
“โสดสนิท ไม่มีผู้หญิงในใจ” เทียร์ได้แค่คิดในใจว่าผู้ชายคงตายด้านแน่ๆ อายุสามสิบกว่าแต่ยังไม่มีคนรัก
“แต่จะว่าไปหนังสือเล่มนี้ไม่มีรูปเขาหรือไง เอ๊ะ หน้าสุดท้าย” แน่นอนว่าหน้าสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้คือใบหน้าของนักธุรกิจที่เทียร์ได้อ่านเมื่อกี้
ใบหน้าหล่อคมคายราวกับพระเจ้า สันจมูกโด่งๆ กรอบหน้าที่เห็นชัด ทำเอาเทียร์ใจสั่นระรัวเพราะไม่เคยเห็นใครหล่อแบบนี้แต่ก็อย่างว่าตามฉบับชาวต่างชาติคงต้องหล่ออยู่แล้ว
“และนักธุรกิจไฟแรงที่มีอิทธิพลในอิตาลีคนนี้มีชื่อว่า มาร์เซียโน่ อนาสตาเซีย”
❤️
หึหึ