ไม่อยากซ้ำกับใคร

1448 คำ
[ ไทเกอร์ ] เวร... สุดท้ายผมก็ต้องมานั่งเฝ้ายัยนี่ให้หลับ ทั้งๆที่ขู่ไปแบบนั้นแทนที่เจ้าตัวเล็กจะกลัวแล้วยอมนอนแต่โดยดีกลับใช้ดวงตาโตๆนั่นของเธออ้อนผมเสียจนรำคาญ ไม่งั้นคืนนี้ไม่นอนแน่ "พี่เสือ.." เสียงหวานเอ่ยเรียกภายใต้ผ้าห่มผืนหนาที่เธอใช้มันคลุมทั้งตัวรวมถึงหัวของเธอด้วย "อะไร" ผมขานตอบด้วยน้ำเสียงบ่งบอกว่ารำคาญเธอมากแค่ไหน "เปล่าค่ะ แค่เรียกเฉยๆนึกว่าพี่เสือกลับห้องไปแล้วซะอีก" "ฉันกลับแน่ถ้าเธอยังไม่หยุดพูด" ผมตอบกลับเสียงดุ ที่เธอยังไม่ยอมหลับสักที จะให้ผมนั่งเฝ้าอยู่แบบนี้ทั้งคืนก็ไม่ไหว "ก็กำลังหลับนี่ไงคะ" "หลับก็ไม่ต้องพูด" ผมเอ่ยบอกจนได้ยืนเสียงฮึดฮัดใต้ผ้าห่มผืนหนา ตอนนี้เธอคงต่อว่าผมในใจอยู่แน่ๆ ผ่านไปไม่นานผมเห็นร่างบางบนเตียงนิ่งเงียบไปก้เดินเข้าไปใกล้เลิกผ้าห่มจากศีรษะเล็กออกเพื่อให้เธอได้หายใจได้สะดวก เสียงลมหายใจที่เข้าออกสม่ำเสมอบ่งบอกว่าคนตัวเล็กหลับสนิทแล้ว มุมปากหยักยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจก่อนจะนั่งลงที่ขอบเตียงนุ่มข้างร่างบางที่หลับไหลราวกับเด็กน้อยไร้เดียงสา ใบหน้าจิ้มลิ้มที่ดูน่ารักน่าทนุถนอมปฎิเสธไม่ได้เลยว่าร่างบางตรงหน้าดูน่ารักมากแค่ไหน "ตัวก่อปัญหาจริงๆ" ผมบ่นพึมพำกับคนตัวเล็กที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวก่อนจะก้มลงจูบหน้าฝากมนของคนตัวเล็ดแผ่วเบา ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะทำไปทำไม แต่คงเพราะรู้สึกผิดที่ปล่อยให้เธอร้องไห้หนักเมื่อก่อนหน้านี้ ผมหยัดกายลุกออกจากเตียงนุ่มของเธออย่างระมัดระวังเพราะไม่อยากให้เธอตื่นขึ้นมาโวยวายจนน่ารำคาญในเวลาดึกดื่นแบบนี้ ผมปิดประตูห้องของเธออย่างเบามือเมื่อออกจากห้องของเธอมาได้ แล้วเดินไปยังประตูห้องของตัวเองที่อยู่ตรงข้ามกันกับเธอ วันต่อมา... "หนูไม่รู้ว่าแฟนมี เห็นหล่อดีหนูก็เลยชอบเขา~" "....." "หนูไม่รู้ หนูหูเบา เขาบอกเขาชอบหนูคนเดียว~" คนตัวเล็กเดินร้องเพลงลงมาด้วยท่าทางอารมณ์ดี เสียงร้องยังกับนกนางแอ่นแตกรังกับท่าเต้นตั๊กแตนกลางทุ่งไม่ได้ทำให้เธอดูน่ารักเลยสักนิดกลับกัน.. ...น่าประหลาด "เพิ่งรู้เหรอว่าตัวเองโง่" ผมใช้สายตานิ่งๆมองร่างบางที่เดินเข้ามา จากใบหน้าที่ดูมีความสุขเมื่อครูเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงขึ้นทันทีเมื่อผมพูดขึ้น "มันเป็นเพลงค่ะ" เธอหย่อนตัวนั่งลงข้างผมแล้วตอบเสียงแข็ง เด็กนี่มันน่าตีปากจริงๆ "ทำไมอารมณ์ดีแต่เช้า" "เอ้า แล้วจะให้หนูเศร้าเหมือนผัวตายเหรอคะ" คนตัวเล็กตอบหน้าซื่อ แต่ความซื่อบื้อนี่มันทำให้ผมหงุดหงิดทุกครั้ง "ตอบดีๆยัยเต้าทึง" ผมกดเสียงต่ำปรามคนตัวเล็กที่อายุน้อยกว่าให้ตอบอย่างนอบน้อมกว่านี้ "ก็มันไม่ทุกข์นี่คะ หนูมีความสุขก็ผิดเหรอ" คิ้วบางขดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ เธอเอียงคอถามผมกลับราวกับเด็กไม่รู้ความ "ช่างเถอะ ฉันขี้เกียจจะเถียง" "เถียงแพ้ละสิไม่ว่า" มันน่าไหมล่ะยัยเด็กนี่ Rrrrrr ~ เสียงริงโทนแผดเสียงร้องดังในกระโปรงของยัยตัวเล็กทำให้เธอละความสนใจจากผมหันไปล้วงโทรศัพท์ขึ้นมากดรับ "ฮัลโหล ต้นกล้า...ว่างสิวันนี้เหรอ.." "....." ผมนั่งฟังบทสนทนาของเธอกับปลายสาย ทว่าเสียงมันเบาเกินกว่าที่ผมจะได้ยิน "ได้สิ ไม่ไปได้ไงงานกลุ่มก็ต้องช่วยกันทำสิ" "....." "โอเคแล้วเจอกัน ฉันจะชวนใบปอไปด้วย" เมื่อคนตัวเล็กวางสายแล้วใบหน้าจิ้มลิ้มจึงหันมาส่งยิ้มหวานให้ผมได้น่า... ขนลุก.. "อะไรของเธอ" ผมถามออกไปตรงๆเมื่อเธอเอาแต่ใช้สายตาหวานๆนั่นมองผมด้วยรอยยิ้ม "หนูขอไปทำงานกลุ่มกับเพื่อนนะคะ" คนตัวเล็กพูดเสียงอ้อน ไม่พอยังใช้มือบางมาจับเข่าผมราวลุกแมวน้อยอ้อนขอปลาทู "หึ แน่ใจว่างานกลุ่ม" "แน่สิคะ ต้องส่งวันจันทร์หน้าด้วยหนูไปทำกับเพื่อนได้ไหมจะไม่กลับเกินหกโมงเย็น" "....." "นะคะ พี่เสือสุดหล่อใจดี๊ดี~" ใบหน้าสวยคลอเคลียไปมากับท่อนแขนแกร่งของผม ยัยนี่ไปหัดนิสัยอ้อนแบบนี้มาจากไหนกัน แม่งน่าตีฉิบ "มาทำที่บ้าน บอกเพื่อนเธอมาทำที่นี่" "ได้ไง หนูนัดกับเพื่อนแล้วนะคะ" "จะทำงานกลุ่มหรือจะอยู่บ้านเฉยๆ" ผมกดเสียงต่ำให้คนตัวเล็กได้เลือก แม้ว่าทางที่ผมจะให้เลือกมันไม่ได้อยู่ในความคิดเธอก็ตาม "มันก็แน่อยุ่แล้วปะคะ.." "....." "ว่าต้องเลือกทำงานกลุ่มอยู่แล้ว" ร่างบางหยัดกายลุกขึ้นเดินขึ้นไปยังชั้นบน ไม่วายร้องเพลงแทนใจจนดังลั่นขึ้นมาอีกครั้ง "แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหม เลือกให้เธอไม่ไปได้หรือเปล่าาา " "เฮ้อ ชักไม่แน่ใจแล้วว่านี่บ้านหรือโรงบาลบ้า" ผมถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนใจ นับวันยิ่งอาการประหลาดเข้าทุกที [ เต้าหู้ ] "โอ๊ยยย เมื่อยจัง" ฉันนอนแผ่หลาอยู่บนพื้นภายในห้องนั่งเล่นของบ้านพี่สิงโตหลังจากเพื่อนๆฉันทำงานกลุ่มเสร็จและพากันกลับบ้านไปแล้ว "เหมือนจะตาย" น้ำเสียงกระแนะกระแหนของร่างสูงที่ยืนค้ำศีรษะฉันอยู่พูดขึ้นพร้อมกับกอดอกจ้องมองมาด้วยสายตาเรียบเฉย "งื้ออ ตายได้เลยนะคะแต่ยังไม่ตาย" ฉันเบะปากคว่ำเพราะเพิ่งผ่านอาการโคม่ามาเมื่อครู่ แล้วฟื้นคืนชีพมาสดๆร้อนๆ คนสวยๆอย่างฉันไม่เหมาะกับการเรียนคณิตเลยจริงๆ "ขนาดนั้นเลย" "ก็ใช่สิคะ เพราะงี้ไงหนูถึงตั้งใจไว้ว่าจะหาสามีรวยๆ" "ยังไม่หยุดความคิดนี้อีกเหรอ" ร่างสูงขดคิ้วหนาเข้าหากัน น้ำเสียงของเขาบ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจฉันนิดๆ "หื้อ? ทำไมอ่ะคะ" "ไม่รู้โว้ย" พี่เสือตวาดลั่นเล่นเอาฉันสะดุ้งกับความแปรปรวนของเขา อารมณ์ขึ้นๆลงๆตามไม่ทันแล้วนะ "ไอ้เกอร์" เสียงเรียกทุ้มเข้มดูดุดันที่หน้าห้องนั่งเล่นทำให้ฉันดีดตัวลุกขึ้นอย่างไว คุณพระนี่ตาฉันฟาดหรือเปล่าเนี่ย! ฉันขยี้ตาแรงๆเมื่อชายร่างสูงตรงหน้าหน้าตาเหมือนพี่เสือไม่มีผิด ผีหลอก!! "อ่า..กูว่ามึงน่าจะบอกกูก่อนล่วงหน้านะไอ้สิง" พี่เสือที่อยู่ข้างฉันพูดขึ้นแล้วเหลือบมองฉันที่เอาแต่เกาะแขนเขาซ่อนอยู่ด้านหลัง "คะ ใครคะพี่เสือ" ฉันช้อนดวงตาขึ้นถามพี่เสือด้วยความงงงวยที่อยู่ๆจะมีพี่เสือมาอีกคนได้ยังไง "หึ ซ่อนเด็กหรือมึง" ชายร่างสูงที่หน้าเหมือนพี่เสืออย่างกับแกะแค่นหัวเราะออกมาแล้วปรายตามองฉันด้วยสายตาน่ากลัว "ไม่ใช่ แค่เด็กในปกครองชั่วคราว" "มึงเนี่ยนะ เกลียดเด็กไม่ใช่รึไง" คำพูดของอีกคนเล่นเอาฉันชาวาบกับคำว่าพี่เสือเกลียดเด็ก "เออ...ไม่ต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นมันชื่อสิงโตพี่ชายฝาแฝดฉันเอง" พี่เสือขานตอบพี่ชายของเขาในตอนแรกแล้วหันมาพูดกับฉันในประโยคหลัง "พะ พี่ชายเหรอคะ คนแบบพี่มีพี่น้องกับเขาด้วยเหรอ" "อุ๊บ! หึๆกูเห็นด้วยกับเด็กคนนี้นะคนอย่างมึงเนี่ยไม่น่ามีใครคบ" พี่สิงโตกลั้นหัวเราะแต่ก็ไม่วายหลุดหัวเราะออกมาอยู่ดี ฉันพยักหน้าให้เขาเป็นเชิงเห็นด้วยสุดๆ "หัวเราะเหรอยัยสาคู" สายตาคมหันมามองอย่างเกรี้ยวกราด" "อะไรคะ สาคูมาจากไหน" ฉันย่นคิ้วบางถามเขาด้วยความไม่เข้าใจที่อยู่ดีๆก็เรียกฉันว่าสาคู "ไม่รู้ แค่หมดชื่อจะเรียกไม่อยากซ้ำกับใคร ไม่ชอบ" *** งอแงน้องเก่งนะพี่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม