ให้เวลาคิด

1498 คำ
"ใช่แล้ว คุณไทเกอร์เขาเสนอที่จะให้ทุนกับโรงเรียนงั้นอาจารย์รบกวนเต้าหู้พาไปหน่อยนะลูก" อาจารย์บงกชพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนทว่ามันกลับแฝงความกดดันมาให้ฉันนิดๆ "ได้ค่ะ อาจารย์" ฉันยิ้มรับแต่ในใจนี่เดือดปุดๆยิ่งกว่าหม้อน้ำเต้าหู้ของแม่อีก เด็กในโรงเรียนมีเป็นร้อยทำไมเอาภาระอันยิ่งใหญ่มาทิ้งไว้ที่ฉัน "ไปสิ ฉันมีเวลาไม่มาก" พี่เสือเอ่ยบอกแล้วเดินนำหน้าฉันไปจนฉันต้องรีบสาวเท้าตามให้ทันคนตัวโตกว่า นี่ตกลงใครจะเป็นคนนำกันแน่ เดินไวอย่างกับคนรู้ทางอยู่แล้วเลย "ดะ เดี๋ยวก่อนค่ะ" ฉันวิ่งไปขวางหน้าร่างสูงแล้วอ้าแขนไม่ให่เขาผ่านไปได้ "อะไรอีก" เขาย่นคิ้วมองฉันอย่างเอือม แต่ก็ยอมหยุดนิ่งอยู่กับที่ "พี่เสือตามหนูมาเหรอ ไม่ใช่สิพี่ชื่อเสือหรือไทเกอร์กันแน่" ฉันถลึงตาถามอย่างเอาเรื่องแล้วมองหน้าเขาอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ "แล้วแต่จะเรียกเพราะความหมายของชื่อมันก็ไม่ต่างกัน" "ชั่งเรื่องนั้นเถอะค่ะ แต่ตอนนี้หนูอยากรู้ว่าพี่มาหาเรื่องหนูเหรอ" "แล้วเธอคิดว่าฉันมาทำไมล่ะ" ใบหน้าคมโน้มตัวลงมาใกล้แล้วยกยิ้มบางเบาราวกับเขากำลังปั่นประสาทฉัน "ไม่รู้ไงคะถึงถาม คงไม่ได้มาขายเครื่องกรองน้ำหรอกไหม" ฉันไล่มองเขาด้วยสายตาไม่เชื่อเมื่อเขาเล่นใส่ชุดสูจเต็มยศแล้วเซทผมต่างจากเมื่อวานราวกับสส.ลงพื้นที่ขอคะแนนเสียง "จะมีสักวันไหมที่เธอจะพูดดูปกติ" "นี่ก็ปกติค่ะ" "ไม่ มันไม่ปกติ" เขากอดอกแล้วเลิกคิ้วอย่างครุ่นคิดไปเพียงนิดจนฉันอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม "ยังไงคะ" "ปัญญาอ่อน" คำตอบสั้นๆกระชับใจความของเขาทำเอาฉันเกือบเซราวกับคนตบหน้าหัน "นี่ถือว่าพี่เป็นแขกของโรงเรียนนะไม่งั้นหนูฟาดกับกระเป๋าหน้าแหกไปแล้ว" ฉันขู่พร้อมยกกระเป๋าในมือขึ้นประกอบเพื่อความสมจริง "ดุจริงตัวแค่นี้" เขาใช้มือหนาโยกศีรษะฉันจนเกือบหงายแล้วเดินล้วงกระเป๋ากางเกงผ่านหน้าฉันไป "....." "จะไปไหมลีลาอยู่นั่น" เมื่อพี่เสือยังเห็นว่าฉันไม่ตามเขาไปร่างสูงก็เอี้ยวตัวกลับมาเร่ง "ชิ~ ก็ต้องไปอยู่แล้วปะคะ" ฉันบ่นอุบแต่ก้ยอมเดินตามร่างสูงไปโดยดี ฉันพาเขาไปยังที่ๆคิดว่าน่าจะจำเป็นต้องบอกแล้วไล่รายละเอียดของโรงเรียนให้ฟังคร่าวอย่างตั้งใจ "โอเค วันนี้พอแค่นี้ฉันมีงานต้องทำ" เขาบอกเมื่อก้มดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือของตัวเอง "ค่ะ งั้นกลับดีๆนะคะหนูต้องเข้าเรียนแล้ว" "ตั้งใจเรียนล่ะ" เขาเอ่ยบอกเสียงเรียบเมื่อฉันกำลังจะหมุนตัวเดินไปขึ้นตึกเรียน "ทำไมต้องตั้งใจด้วยคะ อนาคตหนูคิดจะหาสามีรวยๆอยู่แล้วไม่ต้องตั้งใจเรียนให้ปวดหัวก็ได้" ฉันตอบอย่างจริงจัง ที่ฉันพูดน่ะความจริงล้วนๆเลยนะ จะให้ฉันไปลำบากกัดก้อนเกลือกินกับสามีในอนาคตเหรอ บ้าไปแล้ว.. หาสามีทั้งทีก็เอาให้รวยไปเลยสิ ถึงจะเลิกกันแต่อย่างน้อยก็แบ่งสมบัติให้ฉันสักครึ่งก็ยังดี "นี่คิดดีแล้วหรือไงที่พูดออกมา" "ทำไมต้องคิดด้วยคะ ก็มันคือความจริง" "ยัยเต้าฮวย!" ร่างสูงเอ่ยเรียกเสียงแข็งแล้วชี้หน้าฉันอยู่แบบนั้นไม่ยอมพูดอะไรออกมาอีก เอาละชื่อไม่ซ้ำจำไมได้ หรือจงใจก็ไม่รู้... "อะไรคะ ทำไมต้องเรียกเสียงดังด้วย" "ช่างแม่งเถอะ ปวดหัวกับเธอจริงๆ" ว่าจบคนตัวโตก็เดินออกไปทันทีโดยไม่บอกลาแม้แต่คำเดียว ฉันเบะปากใส่ไล่หลังเขาอย่างหมั่นไส่แล้วหมุนตัวกลับเพื่อที่จะขึ้นตึกเรียนให้ทันคาบแรก "เต้าหู้คนนั้นใครอ่ะ หล่อมากเลย" ใบปอรีบหันมาหาฉันทันทีที่ฉันหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะเรียนในห้อง "ไม่รู้ ไม่รู้จัก" ฉันตอบปัดๆอย่างไม่ใส่ใจแล้วหยิบหนังสือออกมาจากกระเป๋าเตรียมตัวเรียนวิชาต่อไป "ได้ไงอ่ะ แกไปพาเขาชมโรงเรียเหมือนกับสนิทกัน" "เหอะ! สนิทกันเหรออย่างกับเจ้ากรรมนายเวรมาก" ฉันตอบเสียงแข็ง นึกแล้วมันก็น่าโมโหนักตั้งแต่เจอเขาชีวิตฉันก็ไม่เคยที่จะปกติอีกเลย "เขาออกจะหล่อดูรวยด้วย ถ้าเป็นฉันจะยอมทุ่มตัวถวายหัวให้เลย" "งั้นแกไปเอามีดมา" "เอามาทำไม?" ใบปอย่นคิ้วบางถามอย่างไม่เข้าใจ จนฉันต้องถอนหายใจพรืดแล้วตอบมันกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เริ่มจะรำคาญมันนิดๆ "เอามาตัดหัวแกไปให้เขาไง" ฉันเดินกลับมายังร้านขายน้ำเต้าหู้หลังเลิกเรียนเสร็จแล้ว แต่มันกลับน่าแปลกที่หน้าร้านของแม่ดันมีชายฉกรรจ์หลายคนมายืนอยู่แล้วมีข้าวของบางอย่างถูกปาออกมาหน้าร้านจนแตกกระจาย "แม่!" ฉันวิ่งไปหาแม่ในร้านด้วยความกลัวจับใจ "เต้าหู้อย่าเข้ามากลับบ้านไปลูก" แม่ฉันร้องบอกด้วยสีหน้าที่หวาดกลัวจนทำให้ชายร่างถึกต้องจับแม่เอาไว้ไม่ให้มาหาฉันได้ "ปล่อยแม่ฉันนะไอ้ชั่ว" ฉันใช้กระเป๋านักเรียนตัวเองตีไปยังท่อนแขนของชายถึกคนนั้นอย่างแรงจนมันต้องจับคอเสื้อนักเรียนของฉันเหวี่ยงไปให้พ้นทาง "เต้าหู้ แกทำลูกฉันได้ยังไง" แม่ทุบตีไอ้คนชั่วที่เหวี่ยงฉันไปกระแทกกับโต๊ะด้วยความโกรธฉันเลยรีบวิ่งไปแล้วใช้สองมือทุบรัวๆใส่มันช่วยแม่อีกแรง "ไอ้พวกบ้านี่" มันขบฟันแน่นแล้วพูดออกมาก่อนจะเหวี่ยงฉันกับแม่ไปคนละทิศละทาง โครมม! อึก! ความเจ็บจุกประดังเข้ามาทันทีเมื่อหน้าท้องของฉันดันกระแทกเข้ากับขอบโต๊ะไม้หนาๆอย่างแรง ฉันทรุดตัวนั่งลงอย่างไร้เรี่ยวแรงเพราะความจุกเสียดจนต้องงอตัวใช้มือบางกุมหน้าท้องของตัวเองเอาไว้ โครมม! เสียงของโต๊ะที่ถูกฝ่าเท้าหนักถีบจนล้มลงเรียกสายตาจากแันกับแม่ให้หันไปมองกันเป็นตาเดียว รวมถึงพวกไอ้ชั่วตัวถึกพวกนี้ด้วย "อ่า...รู้ไหมว่าฉันตั้งใจมากินน้ำเต้าหู้ร้านนี้ขนาดไหน" ดวงตาคมเฉี่ยวดุดันยามสบตามอง เขากวาดมองผู้คนในร้านเรียงตัวจนสายตานั่นมันบรรจบมาหยุดที่ฉันพอดี "พะ พี่เสือ" ฉันเอ่ยเรียกชื่อเขาแผ่วเบาจนเขาแทบไม่ได้ยิน แต่ดูเหมือนคนตัวโตจะรับรู้ได้จากการอ่านปาก เขาจึงยกยิ้มบางๆขึ้นให้ฉันแล้วเดินตรงมาหาฉันด้วยท่าทางใจเย็น "มึงเป็นใครทำไมมาวุ่นวายกับเรื่องของพวกกู" หนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์พูดขึ้นด้วยความโกรธแล้วเดินสืบเท้าเข้ามาหาพี่เสือที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันพอดิบพอดี "ไม่ใช่เรื่องของมึง" พี่เสือเอ่ยตอบเสียงเหี้ยมโดยที่สายตายังคงจดจ้องอยู่ที่ฉัน "อย่าแส่ไม่เข้าเรื่องดีกว่า ไอ้พวกนี้เป็นหนี้ไม่ยอมจ่ายยังไงวันนี้ก็ต้องโดนสั่งสอน" "....." "ไม่มีเงินก็เอาลูกมันไปแทนดอกเบี้ย" ไอ้คนร่างถึกผิวเข้มจะเข้ามาคว้าตัวฉันแต่กลับถูกพี่เสือใช้มีดพกเล่มสั้นตวัดจี้ไปที่ลำคอของมันจนต้องหยุดชะงัก "ถ้ากล้าก็ลองดู" พี่เสือพูดขู่เสียงเหี้ยมน่ากลัว เขาในตอนนี้ผิดจากคนกวนๆดุๆเมื่อก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง "....." "กูจะจ่ายหนี้ให้ทั้งหมด พวกมึงอย่ามาให้กูกับพวกเขาเห็นหน้าอีก" "เฮอะ มึงน่ะเหรอจะจ่ายหนี้แทน" คนที่ถูกมีดจี้อยู่แค่นหัวเราะออกมาอย่างนึกตลก "พี่เสือพี่ไม่ต้องใช้หนี้แทนหนูกับแม่หรอกค่ะ" ฉันพูดเสียงอ่อนไม่อยากจะให้เขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องให้เขาลำบากไปด้วย "เท่าไหร่ว่ามา จะเอาเงินสดหรือมึงจะไปรูดเอาเอง" ทว่าคนตัวสูงกลับไม่ฟังคำพูดของฉันแถมยังล้วงเอากระเป๋าตังค์ออกมาควัก Black card ออกมาถือได้หน้าตาเฉย "....." "กูให้เวลาคิดแค่สามวิก่อนที่มึงจะไม่ได้อะไรกลับไปเลย" **** อิพี่ออกโรงช่วยน้องแล้วน้ำตาจะไหล ​​​​​​
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม