Chapter 3
แสนรัก...แสนชัง (1)
นคินทร์เดินกลับห้องหลังจากทิ้งให้บิดายืนนิ่งอยู่กลางบ้านทั้งที่ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง สูดลมหายใจให้ลึกขณะปิดประตูห้องเบาๆ เพื่อไม่ให้คนที่นอนเล่นอยู่บนเตียงตกใจ เขาแค่ไม่อยากทำให้บรรยากาศต้องกร่อยเพราะปัญหาส่วนตัว ไม่อยากให้มาลีรินทร์ต้องรับรู้ เพราะเขารู้แค่ว่าทุกวินาทีที่ได้อยู่ด้วยกัน ความสุขเท่านั้นที่เขาและหล่อนควรจะตักตวงเอาไว้ หล่อนคือความสุขเพียงหนึ่งเดียวของเขา ทำให้เขาหายเครียดไม่ว่าจะเจอกับอะไรหนักหนามาก็ตาม
"มิ้นต์จ๋า ทีนี้ก็ได้เวลาของเราแล้วนะ"
ชายหนุ่มคลานขึ้นเตียง ขยับเข้าหาคนที่นอนตะแคงหันหลัง คิดว่าหล่อนนอนเล่นโทรศัพท์ฆ่าเวลา แต่เปล่าเลย…ยามท่อนแขนแกร่งรั้งร่างนุ่มเข้ามากอด เขาต้องชะงักเมื่อสัมผัสได้ถึงความไม่ปกติ
"มิ้นต์...ร้องไห้...ทำไมครับ"
กายนั้นสั่นสะท้านตามแรงสะอื้นที่กำลังเก็บกลั้น เขาจับให้เจ้าหล่อนพลิกกายนอนหงายเพื่อสบตา...ใจหายเมื่อเห็นแววตาคู่สวยเอ่อท้นไปด้วยหยาดน้ำตา หล่อนร้องไห้ ซึ่งเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะเหตุใด
"ร้องไห้ทำไม ไหนบอกอาสิครับ"
น้ำเสียงนั้นแสนอ่อนโยนต่างจากที่ใช้กับแก้วกัลยา ปลายนิ้วไล้เช็ดหยาดน้ำตาบนร่องแก้มขาวเนียน...มาลีรินทร์จับจ้องมองหน้าเจ้าของแววตาอาทร เสียงตัดพ้อเจือสะอื้นบาดลึกใจคนฟัง
"คุณพ่อของอาภูรังเกียจมิ้นต์ใช่มั้ยคะ ดูก็รู้...แววตาของท่านเวลาที่มองมิ้นต์ ต่างจากเวลามองแก้วอย่างสิ้นเชิง"
"มิ้นต์..."
"มิ้นต์คงไม่คู่ควรกับอาภู ผู้หญิงที่จะช่วยเชิดหน้าชูตาอาภูได้ต้องเป็นคนที่คุณพ่อเลือก และแน่นอน...คนที่ท่านปลื้ม คงไม่ใช่มิ้นต์"
"ไม่สิครับ อย่าคิดอย่างนั้นสิมิ้นต์ ไม่มีใครบังคับชีวิตใครได้ การที่อาจะรักใคร อยากแต่งงานกับใคร ก็เป็นสิทธิ์ของตัวเองไม่มีใครมาบงการชีวิตของอาได้ อย่าคิดมากเลยนะ ไม่ต้องไปสนใจใคร สนใจแค่ว่าอารักมิ้นต์มากแค่ไหนก็พอ"
"แม้จะต้องผิดใจกับคุณพ่อ อาภูก็จะไม่ทอดทิ้งมิ้นต์ใช่มั้ยคะ"
ชายหนุ่มคลี่ยิ้มอบอุ่นแทนคำตอบ แมวน้อยของเขาทำหน้าออดอ้อนจนอดไม่ได้ที่จะต้องปลอบใจด้วยจูบแสนอ่อนละมุน ความอุ่นซ่านบดเคล้าลงบนกลีบปากนุ่มสื่อสายสัมพันธ์ลึกซึ้ง บอกหล่อนด้วยการแสดงออกทางภาษากายถึงความรักที่มีให้...สองแขนเรียวเคลื่อนโอบกอดแผ่นหลังกว้างเมื่อร่างหนักโถมทับบดเบียดจนร่างกลมกลึงแทบจะจมหายลงบนที่นอนนุ่มๆ จูบที่นำพาซึ่งสัมพันธ์ลึกซึ้งทางกาย ในห้วงราตรีนี้ที่ยังอีกยาวนาน
+++++
เช้าวันใหม่ที่แสงแรกของดวงตะวันกับมวลหมู่ดอกไม้ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง กับวันหยุดที่ทำให้แก้วกัลยาลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความวิตก...วันหยุดที่ไม่รู้ว่าจะพบเจอกับอะไรบ้าง พราวนภาน้องเล็กของบ้านนั้นไม่เท่าไหร่ อีกฝ่ายแค่ไม่ยุ่งไม่สุงสิงไม่คุยด้วย แต่นั่นก็ยังดี...ดีกว่าที่ต้องใช้วันหยุดร่วมกับนคินทร์ เพราะในแต่ละวันที่ต้องเผชิญหน้ากับเขา หล่อนไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าจะพบเจอกับอะไรบ้าง เพราะเขาช่างสรรหาเรื่องมาแกล้งกันเสียทุกครั้ง ไม่เคยเลยที่จะอยู่กันอย่างสงบนับตั้งแต่หล่อนเข้ามาอาศัยภายใต้ชายคาบ้านเหล่าศิริชัยกุล
หญิงสาวลงจากเตียงเดินไปแง้มม่านแล้วมองลงไปข้างล่าง...มุมมองจากห้องนอนของตนจะพบกับสระน้ำสีครามที่ทุกคนในบ้านใช้ร่วมกัน ทุกอย่างยังอยู่ตรงนั้น อาหารที่ยกไปให้เขาเมื่อตอนหัวค่ำที่ยังไม่มีใครเก็บเข้าไป อีกทั้งเศษแก้วไวน์ที่กระจายเกลื่อนพื้น และ...แม่บ้านไม่อยู่แบบนี้ คงเป็นหน้าที่ที่หล่อนจะต้องรีบลงไปเก็บกวาด ก่อนที่นคเรศจะตื่นมาเจอแล้วรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีกจนได้ หล่อนไม่อยากมีปัญหากับนคินทร์อีกแล้ว
บนเส้นทางหินเรียงเล็กๆ ที่กลมกลืนอยู่กับสวนทรอปิคอลสไตล์รอบตัวบ้าน...แก้วกัลยาวิ่งออกกำลังกายหลังจากรีบเก็บกวาดเศษแก้วตรงสระน้ำเสร็จทันก่อนทุกคนจะตื่น ในยามเช้าตรู่ที่หยาดน้ำค้างยังหลงไว้ซึ่งร่องรอยแห่งความชุ่มฉ่ำ หล่อนมักลงมาวิ่งออกกำลังในวันหยุด...สวนป่าแสนร่มรื่นที่อุดมไปด้วยมวลหมู่ดอกไม้ผลิบาน เหมาะสำหรับใช้เป็นที่ผ่อนคลายความเคร่งเครียด หล่อนรู้มาว่านคินทร์จ้างบริษัทมาตกแต่งเมื่อปีที่แล้วก่อนที่หล่อนจะเข้ามา
'บ้าจริง! คิดว่านอนกกเมียอยู่ในห้องเสียอีก'
สองขาเรียวผ่อนแรงลงจนเกือบหยุด...ตรงมุมม้านั่งไม้ตัวยาวที่ซุกซ่อนตัวอยู่ใต้ร่มเงาเขียวรื่นอย่างกลมกลืน นคินทร์ยืนวอร์มอัพร่างกายในชุดออกกำลังเช่นเดียวกัน...ไม่ทันเสียแล้วที่จะผลุนผลันหันหลังกลับด้วยไม่อยากเผชิญหน้า เพราะอีกฝ่ายคล้ายมีพรายกระซิบ เขาหันมาทางจุดที่หล่อนยืนขาแข็งอยู่ข้างพุ่มยี่โถออกดอกสะพรั่งส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณ
นคินทร์หรี่ตามองคนที่อยู่ในชุดออกกำลังเน้นส่วนสัด กางเกงขาสั้นสีดำอวดเรียวขาขาวกับเสื้อกีฬาสีชมพูพอดีตัว...ความคิดในหัวแล่นพล่าน กระตุกยิ้มหยันหาเรื่องขณะเดินเข้าไปหา
"แต่งตัวแบบนี้...ในบ้านที่มีผู้ชายอยู่แบบนี้...มาวิ่งทั้งๆ ที่รู้ว่า
ฉันเองก็วิ่งแบบนี้ทุกวัน ต้องการอะไรมากกว่าการออกกำลังหรือเปล่าฮึ...ที่รัก..."
ชายหนุ่มขบริมฝีปาก ไล่มองไปทั่วร่างคนที่ยืนเงียบจ้องหน้ากลับคล้ายไม่พอใจ...ป่วยการที่จะแก้ตัวกับคนจ้องจะหาเรื่อง แก้วกัลยาจึงเลือกเงียบไม่ตอบโต้ ผ้าขนหนูผืนเล็กที่ใช้ซับเหงื่อถูกพาดคล้องไว้กับลำคอ ทำท่าจะไปต่อไม่ยุ่งวุ่นวาย หากแต่ว่าเขากลับขวางทางเอาไว้