Sign on love ❤️ เดิมพันรัก มาเฟียร้าย ตอนที่ 7 ไม่ใช่คนดีแต่ก็ทนเห็นคนสวยถูกรังแกไม่ได้

2860 คำ
หลังกลับจากอิตาลีมินตราใช้วันหยุดที่เหลือก่อนเริ่มงานด้วยการพักผ่อนอยู่ที่บ้านเธอปิดประตูไม่ต้อนรับแขกแม้กระทั่งเพื่อนสนิททั้งสามคนที่พร้อมใจกันมากดออดหน้าห้องเพื่อชวนเธอไปชอปปิงแต่มินตราไม่แม้แต่จะเยี่ยมหน้าออกมาให้เพื่อนได้เห็นเธอทำเพียงส่งข้อความบอกให้ทั้งสามคนให้ไสหัวกลับไปส่วนตัวเองก็คลุมโปงนอนต่อด้วยความง่วงเมื่อคืนเธอเผลอดูซีรีส์ดึกจนเกินไปวันนี้เธอจึงไม่มีอารมณ์อยากจะออกไปไหนจริงๆอีกทั้งพรุ่งนี้เธอยังต้องเริ่มทำงานอีกเพราะฉะนั้นวันนี้เธอจะขอนอนพักผ่อนให้ฉ่ำปอดไปจนถึงบ่ายเลยใครจะโทรมาก็ดีหรือส่งข้อความมาก็ช่างมินตราไม่สนซะอย่างใครจะทำอะไรเธอได้ พรีม : กลับเหอะพวกมึงสงสัยเมื่อคืนมีนมันดูซีรีส์หนักไปเช้านี้ถึงลุกจากเตียงไม่ขึ้นแล้ว พรีมเอ่ยชวนเพื่อนทั้งสองคนกลับเมื่อต่างคนต่างได้รับข้อความ ‘ไสหัวไปไกลๆ’ กันถ้วนหน้า ดรีม : เออ กลับก็กลับกูบอกพวกมึงแล้วว่าให้โทรมาชวนมันก่อนไม่ใช่บุกมาถึงคอนโดแบบนี้แล้วเป็นไงหอนไหมล่ะมึง ? ดรีมเอ่ยตำหนิเพื่อนสาวทั้งสองคนอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนหน้าที่พวกเธอจะมาที่นี่เธอเสนอความคิดเห็นแล้วว่าให้โทรมาชวนมินตราก่อนจะได้ไม่มาเสียเที่ยวแต่เพื่อนที่แสนดีของเธอทั้งสองคนไม่รู้ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงได้คิดว่าพอไปถึงจะต้องลากมินตราออกไปเที่ยวด้วยกันให้ได้สุดท้ายแล้วเป็นอย่างไรแม้กระทั่งลุกมาจากเตียงเพื่อเปิดประตูให้พวกเธอเข้าไปข้างในมินตรายังไม่คิดจะทำ ควีน : ใครจะไปรู้ล่ะว่ามันจะไล่พวกเรากลับไปแบบนี้ทุกทีมาทีไรก็เห็นลุกมาเปิดประตูห้องให้ตลอด ควีนเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าง้ำงออย่างดื้อดึงไม่ยอมรับผิดถ้าเธอยอมฟังที่ดรีมเตือนสักนิดตอนนี้พวกเธอก็คงจะเดินทางไปถึงห้างสรรพสินค้าที่พวกเธอคุยกันเอาไว้แล้ว พรีม : เออ เออ เออ ช่างมันเหอะเถียงกันไปก็ไม่มีประโยชน์พวกเรารีบไปร้านกระเป๋าดีกว่านี่ก็ใกล้จะห้าโมงเช้าแล้วขืนไปช้ากระเป๋าที่พวกมึงเล็งเอาไว้ถูกพวกชะนีอวดรวยสอยไปก่อนไม่รู้น้า พรีมพูดจบเธอก็หันหลังเดินจากมาทันทีทิ้งให้เพื่อนอีกสองคนที่กำลังถลึงตาใส่กันวิ่งตามหลังมาแทบไม่ทันหลังจากที่ทั้งสามสาวจากไปแล้วมินตราก็หลับไปจนถึงช่วงบ่ายโดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นถ้าเสียงท้องไม่ร้องประท้วงขึ้นมาก่อนเธอผุดลุกขึ้นนั่งด้วยอาการสะลึมสะลือพร้อมพยายามเบิกตาที่แทบจะลืมไม่ขึ้นแล้วมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนหัวเตียง เมื่อเห็นว่าตอนนี้ใกล้จะบ่ายสองโมงแล้วมินตราจึงยอมฝืนความง่วงที่ยังคงถาโถมเข้ามาไม่หยุดลงจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกไปหาอะไรทานนอกบ้าน ร้านอาหาร มินตราเลี้ยวรถเข้ามาจอดยังร้านอาหารญี่ปุ่นที่เธอชอบแอบมาทานคนเดียวเป็นประจำเธอค้นพบที่นี่ด้วยความบังเอิญเมื่อสองปีก่อนตอนที่เธอเพิ่งถ่ายละครเสร็จด้วยความหิวที่แทบจะทนรอไม่ไหวทำให้เธอตัดสินใจแวะมาทานอาหารที่นี่เธอไม่คาดหวังว่ารสชาติจะอร่อยเหมือนร้านอาหารชื่อดังในเมืองใหญ่แต่พอได้ลองชิมเพียงครั้งเดียวความอร่อยที่เหมือนได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นจริงๆทำให้เธอติดใจและยกให้ที่นี่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่อร่อยที่สุดสำหรับเธอ มินตราเดินเข้ามาในร้านด้วยความคุ้นเคยใบหน้าสวยเฉี่ยวที่แต่งแต้มเครื่องสำอางบางเบาเผยรอยยิ้มทักทายพนักงานต้อนรับที่โค้งหัวให้เธอด้วยความยินดีเมื่อเห็นดาราสาวชื่อดังมาทานอาหารที่นี่ก่อนที่จะมามินตราได้โทรมาจองห้องส่วนตัวเอาไว้เรียบร้อยแล้วหลังจากทักทายกับพนักงานของทางร้านพอหอมปากหอมคอมินตราก็เดินต่อไปยังห้องที่เธอจองเอาไว้ทันทีแต่คิดไม่ถึงว่ายังไม่ทันที่เธอจะเดินไปถึงห้องมือเรียวบางนุ่มนิ่มกลับถูกใครบางคนกระชากเอาไว้พร้อมดึงเธอหายเข้าไปในมุมลับตาคน “ว่าไงจ๊ะมินตราคนสวยลมอะไรหอบมาถึงที่นี่ได้ ?” เกริกพลเอ่ยถามสาวสวยที่เขาฉวยโอกาสในตอนที่เธอเดินผ่านกระชากเธอเข้ามาในมุมลับตาคนด้วยวาจากระเซ้าเย้าแย่พร้อมใช้สายตาเจ้าเล่ห์จ้องมองไปทั่วร่างกายของเธอด้วยความหื่นกระหาย ในขณะที่มินตราได้แต่ถอยหลังไปจนชิดติดกับผนังสุดท้ายเธอก็ถูกอีกฝ่ายกักขังเอาไว้ภายใต้อ้อมแขนด้วยท่าทีคุกคามเธอจึงทำได้เพียงยกมือขึ้นมาดันหน้าอกของอีกฝ่ายที่พยายามจะโน้มใบหน้าลงมาแนบชิดกับใบหน้าของเธอด้วยความรังเกียจ “ปล่อยมีนเดี๋ยวนี้นะคะคุณเกริกพล” มินตรากระแทกเสียงใส่อีกฝ่ายด้วยแววตาดุดันเธอพยายามออกแรงผลักผู้ชายที่ทำตัวน่ารังเกียจคนนี้สุดกำลังแต่เรี่ยวแรงอันน้อยนิดของเธอไหนเลยจะสู้แรงผู้ชายอย่างเกริกพล “เอาเบอร์มีนให้พี่ก่อนสิคะพี่ถึงจะยอมปล่อย” เกริกพลใช้น้ำเสียงอ่อนหวานเอ่ยข่มขู่มินตราด้วยสีหน้าท่าทางผ่อนคลายแววตาหื่นกระหายของเขายังคงจ้องมองใบหน้างดงามของมินตราด้วยความลุ่มหลงก่อนหน้านี้เขาเคยขอเบอร์ของเธอผ่านผู้จัดการส่วนตัวหลายครั้งแต่ทุกครั้งกลับถูกปฏิเสธอย่างไม่ใยดีทำให้เกริกพลนึกขุ่นเคืองใจไม่น้อยคิดไม่ถึงว่าวันนี้เขาจะมีโอกาสได้พบกับเธออย่างไม่คาดฝันด้วยความร้อนใจจึงทำให้เขาขาดสติฉุดกระชากเธอเข้ามาในมุมลับตาคนจนกระทั่งตกอยู่ในสภาพที่ชวนให้คนที่บังเอิญผ่านมาพบเห็นเข้าคิดไปในทางที่ไม่ดีซึ่งเกริกพลไม่คิดจะใส่ใจเพราะถ้าเทียบความเสียหายแล้วย่อมเป็นมินตราที่ชื่อเสียงเสียหายมากกว่าเขาแน่นอน “ปล่อยมีนเดี๋ยวนี้นะคะถ้าคุณไม่ปล่อยมีนจะร้องให้คนช่วยจริงๆด้วย” มินตราแยกเขี้ยวเอ่ยข่มขู่ท้าทายอีกฝ่ายด้วยความโมโหและตระหนกกลัวเธอรู้สึกอึดอัดใจจวนเจียนจะระเบิดเมื่อพบว่าไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้นอกจากพูดจาข่มขู่ให้เขารู้สึกกลัวแต่มีหรือที่เกริกพลจะหลงกลเธอง่ายๆก็แค่ร้องตะโกนเธออยากจะร้องดังเท่าไหร่ก็ร้องไปยิ่งดังจนเกิดไทยมุงก็ยิ่งดี “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถ้าไม่กลัวว่าชื่อเสียงของมีนจะด่างพร้อยก็เชิญร้องดังๆไปเลยใครเขาจะคิดว่าพี่จะฉวยโอกาสกับมีนกันล่ะ พี่เป็นผู้กำกับชื่อดังส่วนมีนก็เป็นดาราสาวสวยที่กำลังมีชื่อเสียงคนที่เข้ามาเห็นเราสองคนกำลังโอบกอดกันไม่ว่าใครก็คงเข้าใจว่าเรากำลังพลอดรักกันอยู่ต่างหาก” คำพูดของมินตราไร้ผลเกริกพลยังคงโน้มใบหน้าลงมาพูดจาท้าทายเธอด้วยน้ำเสียงแหบกระเส่าใบหน้าเจ้าเล่ห์ปรากฏร่องรอยของความได้ใจแต่เขาไหนเลยจะคาดคิดว่ามินตราเองก็ใจเด็ดเช่นกันเธอไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอที่ยอมสยบเพียงเพราะคำข่มขู่ที่ทำให้ผู้หญิงตกเป็นรองระหว่างชื่อเสียงกับศักดิ์ศรีมินตราขอเลือกอย่างหลังก็แล้วกัน “กรี๊ด ไอ้คนสารเลวปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะได้ยินไหม นี่แหนะ นี่แหนะ บอกให้ปล่อย” เสียงกรีดร้องของหญิงสาวทำให้ฝีเท้าของใครบางคนพลันหยุดชะงักมุมปากของเขากดมุมลึกปรากฏเป็นรอยยิ้มบางเบาราวกับว่ากำลังเจอเรื่องสนุกก่อนที่ดวงตาดอกท้อคู่งามที่เจือไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนจะค่อยๆหันไปมองเหตุการณ์ตรงหน้าที่หญิงสาวพยายามผลักไสชายหนุ่มแต่ชายหนุ่มคนนั้นกลับออกแรงดึงรั้งเธอที่ดิ้นรนขัดขืนไม่ยินยอมสุดชีวิตเข้ามาแนบชิดวินาทีนั้นมือของกรรฐ์พลันยื่นไปหยิบขวดเหล้าบนถาดรองอาหารของพนักงานเสิร์ฟที่เดินผ่านมาพร้อมก้าวขายาวๆตรงไปหาทั้งสองคน เพล้ง !! “โอ๊ย” เสียงขวดแก้วที่กระทบกับของแข็งแตกกระจายพลันดังสนั่นไปทั่วบริเวณตามมาด้วยเสียงร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของเกริกพลมือของเขาที่กำลังฉุดกระชากมินตราจำต้องปล่อยให้เธอเป็นอิสระมินตราเองเมื่อเห็นว่าสบโอกาสก็ไม่รอช้าที่จะวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้ชายใจดีที่เข้ามาช่วยเธอเอาไว้โดยที่ไม่ทันสังเกตเลยว่าเขาคนนี้ไม่ใช่คนอื่นคนไกลสองมือของมินตราจับชายเสื้อของกรรฐ์เอาไว้แน่นใบหน้างดงามหมดจดเยี่ยมหน้าออกมามองสภาพใบหน้าอาบเลือดของเกริกพลด้วยความสะใจ “สารเลวตัวไหนมันกล้าตีกู?” เกริกพลที่ใช้สองมือกุมศีรษะเอาไว้ด้วยความเจ็บปวดตะคอกถามคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดแววตาที่จ้องมองอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความดุดัน “กูเอง ทำไม ? หรือว่าตีรอบเดียวมันน้อยเกินไปเลยอยากได้อีกรอบ” กรรฐ์เอ่ยตอบอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงราบเรียบเย็นชาทว่ามุมปากกลับมีรอยยิ้มเล็กน้อยดวงตาดอกท้อจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่หลบหลีกการกระทำที่ดูไร้ซึ่งความละอายใจแถมดูเหมือนยังจงใจท้าทายเขาทำเอาความเดือดดาลของเขายิ่งทวีความรุนแรงขึ้นทุกที “ไอ้เด็กเมื่อวานซืนมึงอย่าอวดเก่งให้มันมาก เรื่องของผัวเมียคนนอกอย่างมึงอย่าเสือก” คำว่า ‘ผัวเมีย’ ที่หลุดออกมาจากปากของเกริกพลทำให้มินตราที่หลบอยู่ด้านหลังโมโหจนเลือดขึ้นหน้าใบหน้างดงามแดงก่ำด้วยโทสะราวกับมีประกายไฟมาระเบิดบนผิว “ใครเป็นเมียคุณไม่ทราบสมองฉันยังไม่เสื่อมคุณไม่ต้องมาแกล้งรับบทว่าเป็นสามีฉันหรอกค่ะ หรือต่อให้เสื่อมจริงๆฉันก็มั่นใจว่าตาของฉันไม่มีทางมองต่ำ” มินตราตอกกลับเกริกพลซะจนอีกฝ่ายได้แต่อ้าปากค้างยกมือชี้หน้าเธอด้วยความเดือดดาล “มินตรา เธอ เธอ” “ฉันมันทำไม ? ที่พูดไปคือความจริงก่อนที่จะมาบอกคนอื่นว่าอย่าเสือกตัวคุณนั้นแหละที่ควรหยุดวุ่นวายกับฉันได้แล้ว ขอเบอร์ครั้งแรกฉันไม่ให้ครั้งที่สองฉันยิ่งไม่อยากให้แค่นี้คุณก็น่าจะรู้แล้วว่าฉันไม่ได้อยากทำความรู้จักกับคุณเลยแม้แต่น้อย เป็นผู้กำกับชื่อดังแล้วยังไงสร้างหนังออกมาแต่ละทีร้อยล้านพันล้านแล้วยังไงก็แค่ขยะของวงการบันเทิงที่ยังคงส่งกลิ่นเหม็นฉาวโฉ่ไปทั่ววงการ” ทั้งคำด่าและคำสบประมาทของมินตราทำให้เกริกพลรู้สึกปวดหัวจนแทบล้มทั้งยืนส่วนมินตราเมื่อได้ระบายโทสะจนพอใจแล้วก็หันหลังตั้งใจจะไปหลบอยู่ที่เดิมคิดไม่ถึงเลยว่าใบหน้าหล่อเหลาที่คุ้นตาของชายหนุ่มที่กำลังยืนล้วงกระเป๋าพิงกำแพงด้วยท่าทีเกียจคร้านจะทำให้เธอชะงักไปเล็กน้อยด้วยความตกใจ “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ?” มินตราเอ่ยถามกรรฐ์ด้วยความตื่นเต้นดวงตาคู่งามของเธอเผยความยินดีออกมาอย่างไม่ปิดบังที่ได้พบกับเขาอีกครั้ง “นี่คนสวยตั้งแต่ผมเข้ามาช่วยคุณไม่ได้ตั้งใจมองหน้าผมดีๆเลยสินะ” คำตอบที่ต้องการกลายเป็นคำถามที่ทำให้รอยยิ้มของมินตราพลันกระอักกระอ่วนเธอไม่ได้ตั้งใจจะมองเมินเขาสักหน่อยเธอแค่ไม่ทันมองหน้าเขาดีๆต่างหากถ้ารู้ว่าเป็นเขาที่เข้ามาช่วยตั้งแต่ทีแรกเธอคงกระโดดเขาตัวลอยด้วยความดีใจไปนานแล้ว อ๊าย หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะมินตราเธอจะมาคิดฉวยโอกาสลวนลามผู้มีพระคุณแบบนี้ไม่ได้ออกไปเดี่ยวนี้เลยนะเจ้าพวกทะลึ่ง ออกไป ชิว ชิว ชิว เฮ้อ ได้กอดสักทีคงฟินยันหว่าง “ถ้ารู้ว่าเป็นคุณมาช่วยฉันคงไม่ทำแค่ตั้งใจมองหรอกนะ” คำพูดที่แฝงไปด้วยเลศนัยของมินตราทำให้ดวงตาดอกท้อที่เจือไปด้วยรอยยิ้มชวนให้คนหลงใหลหรี่ลงเล็กน้อยราวกับว่าเขารู้ทันความคิดของเธอในจังหวะที่กรรฐ์ตั้งใจจะเอ่ยตอบกลับมินตราน้ำเสียงเย็นชาข่มขู่ของเกริกพลพลันดังขึ้นก่อน “มีน มินตรา เธอจำคำพูดของเธอวันนี้เอาไว้ให้ดีเธอบอกว่าฉันเป็นแค่ขยะของวงการบันเทิงแต่เธอรอดูก็แล้วกันว่าขยะอย่างฉันจะทำให้เธอไม่มีที่ยืนในวงการบันเทิงยังไงถึงตอนนั้นต่อให้เธอวิ่งมาแก้ผ้าต่อหน้าแล้วเอ่ยขอร้องฉันๆก็ไม่มีทางเห็นใจเธอจำเอาไว้ แล้วก็มึงที่กล้าตีหัวกูมึงอย่าคิดนะว่าเรื่องนี้จะจบง่ายๆถ้าไม่ได้เอามึงถึงตายกูไม่ยอม” ทันทีที่เกริกพลเอ่ยจบกรรฐ์พลันเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็วพริบตาเดียวเขาก็ไปยืนอยู่ข้างหน้าของอีกฝ่ายมือเรียวยาวขาวดั่งหยกพลันยื่นไปบีบคอเกริกพลเอาไว้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มก่อนหน้านี้พลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาดวงตาดอกท้อคู่งามพลันมีประกายเหี้ยมโหดวาบผ่านทำเอาเกริกพลถึงกับตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว “คนกระจอกอย่างมึงไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงคิดจะข่มขู่คนอย่างกู คิดว่าตัวเองมีอำนาจล้นฟ้าเวลาพูดจาข่มขู่ใครแล้วเขาต้องกลัวหรือไง ? หึ มึงมันก็แค่กบที่อยู่ในกะลาโลกนี้มันกว้างมากกว่าที่มึงคิดรู้เอาไว้ซะด้วย ต่อไปนี้ห้ามไปยุ่งวุ่นวายกับผู้หญิงคนนี้อีกถ้ากูรู้ว่ามึงยังยุ่งอยู่กูไม่เก็บมึงไว้เป็นขยะประดับวงการบันเทิงแน่” เมื่อกระซิบเสียงลอดไรฟันข่มขู่อีกฝ่ายจนพอใจแล้วมือที่บีบคอเกริกพลเอาไว้จึงค่อยๆคลายออกเล็กน้อยก่อนที่กรรฐ์จะสะบัดอีกฝ่ายใส่กำแพงจนล้มลงไปนอนกองอยู่บนพื้นมินตรายกมือขึ้นปิดปากมองภาพตรงหน้าด้วยความตกใจในขณะที่กรรฐ์กลับเดินจากไปอย่างไม่ใยดีในเมื่อช่วยคนเสร็จแล้วเขาก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไปส่วนเรื่องของเกริกพลหน้าที่เก็บกวาดลูกน้องของเขานั้นรู้ดีกว่าใคร หมับ ในขณะที่กรรฐ์กำลังจะเดินผ่านมินตราไปเธอก็พลันยื่นมือออกมาคว้ามือของเขาเอาไว้ทำให้ฝีเท้าของกรรฐ์ที่กำลังก้าวเดินไปข้างหน้าพลันหยุดชะงักลง “แล้วเขา...” “เดี๋ยวจะมีคนมาจัดการคุณไม่ต้องกังวลยังไงซะคุณก็ไม่มีวาสนาได้พาดหัวข่าวขึ้นหน้าหนึ่งแน่นอน” คำพูดที่ฟังดูเหมือนว่าเขากำลังดูแคลนเธอทำให้มินตราเผลอหัวเราะออกมาด้วยความขบขันเพราะเธอเข้าใจความหมายของคำพูดนั้นดีว่าเขาหมายความว่าอย่างไร “ขอบคุณนะคะที่เข้ามาช่วยคิดไม่ถึงเลยว่าฉันจะติดหนี้บุญคุณคุณถึงสองครั้ง” มินตราเอ่ยขอบคุณกรรฐ์ด้วยความซาบซึ้งใจมือของเธอยังคงจับมือของเขาเอาไว้ไม่ยอมปล่อยแถมยังทำใจกล้าลูบมือเขาเล่นเบาๆอีกด้วย ฮึ่ม “_” เด็กคนนี้ชักจะเอาใหญ่แล้วนะเห็นเขาไม่พูดไม่เตือนก็ลูบมือเขาซะจนเพลินดูหน้านั่นสิฟินจนยิ้มตาหยีแล้วแม่คุณเอ๊ย! “ระหว่างเราสองคนไม่มีหนี้บุญคุณอะไรทั้งนั้นครับผมก็แค่อยากช่วยคุณไม่ต้องคิดมากถ้าเข้าใจที่ผมพูดแล้วก็ช่วยปล่อยมือผมด้วยครับ” “อ๊ะ ขอโทษค่ะ” มินตราที่กำลังลูบมืออีกฝ่ายจนเพลินจำต้องปล่อยมือเขาด้วยความเสียดายเธอกำลังคิดว่าจะเอ่ยถามชื่อเขาแต่กลับพบว่าตรงหน้าของเธอไม่มีแม้แต่เงาของเขาแล้ว “เอ๋ หายไปไหนของเขานะเมื่อกี้ยังอยู่ตรงนี้เลย” มินตราเหลียวมองรอบตัวด้วยความสงสัยก่อนที่เธอจะตัดใจเดินเข้าไปในห้องอาหารส่วนตัวที่จองเอาไว้ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นซึ่งทันทีที่เธอจากไปลูกน้องของกรรฐ์ก็ตรงเข้ามาจัดการเก็บกวาดงานที่เจ้านายของพวกเขาทิ้งเอาไว้ด้วยความรวดเร็ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม