Sign on love ❤️ เดิมพันรัก มาเฟียร้าย

Sign on love ❤️ เดิมพันรัก มาเฟียร้าย ตอนที่ 6 บังเอิญตกหลุมรักเธออีกครั้ง

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

สาวสวยผมสั้นที่สวมแว่นตาปกปิดใบหน้างดงามสาวเท้าเดินไปข้างหน้าด้วยความเร่งรีบเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นกองทัพนักข่าวที่ไม่รู้ว่าพากันไปสืบมาจากไหนว่าเธอไปเที่ยวอิตาลีและมีกำหนดกลับในวันนี้ทุกคนจึงได้พร้อมใจกันมารอคอยเธอที่นี่ทั้งที่การไปเที่ยวของเธอครั้งนี้มินตรามั่นใจว่าตัวเธอนั้นไม่ได้เผลอหลุดปากบอกใครนอกจากเพื่อนสาวทั้งสามคนที่เธอลากไปเที่ยวด้วยกันแล้วก็มีพี่เอื้อยผู้จัดการส่วนตัวกับพี่จ๋าสไตลิสต์ของเธอเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้

มินตราพยายามคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆนานาก่อนที่สายตาของเธอจะปะทะเข้ากับนักข่าวสายบันเทิงช่องหนึ่งที่คอยตามจิกตามกัดเธอราวกับเจ้ากรรมนายเวรทันใดนั้นมินตราก็หมุนตัวเลี้ยวไปอีกด้านหนึ่งทันทีท่าทีที่ดูมีพิรุธของเธอทำให้ไอลดานักข่าวสาวที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับมินตรามาตลอดรีบสาวเท้าตามเธอไปทันทีต่อให้อีกฝ่ายจะผมสั้นเสมอหูหรือใส่แว่นดำปกปิดใบหน้าไอลดามั่นใจว่าคนที่กำลังเดินหนีเธอคือมีน มินตราแน่นอน หึ คิดว่าจะหลบเธอพ้นเหรอไม่มีทางซะหรอก

“นี่กะจะกัดกันไม่ปล่อยจริงๆสินะ”

มินตราพึมพำเสียงเบาอย่างไม่สบอารมณ์เธอเหลือบมองไปทางด้านซ้ายทีทางด้านขวาทีก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาของใครบางคนที่เธอบันทึกเอาไว้ในความทรงจำเป็นอย่างดีจะค่อยๆสะท้อนเข้าสู่ม่านตาทันใดนั้นความคิดแผลงๆก็ผุดขึ้นมาในหัวมินตราสาวท้าวก้าวไปไวๆก่อนที่เธอจะตรงเข้าไปควงแขนของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนนั้นเอาไว้อย่างสนิทสนมส่งผลให้ฝีเท้าของเขาพลันชะงักด้วยความตกใจ

“อ๊ะ นี่คุณ”

กรรฐ์ร้องขึ้นด้วยความตกใจเมื่ออยู่ ๆมือของเขาที่ไม่เคยมีใครได้คล้องแขนนอกจากมารดากับพี่สาวก็ถูกผู้หญิงผมสั้นหน้าตางดงามราวกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบคว้าไปกอดอย่างสนิทสนมทำเอาหัวใจที่เคยแข็งแกร่งดุจหินผาถึงกับเต้นไม่เป็นจังหวะไปเลยทีเดียว ว่าแต่ทำไมหน้าตาของผู้หญิงคนนี้ถึงได้ดูคุ้นตานักนะในขณะที่กรรฐ์กำลังลอบคิดอยู่ในใจด้วยความสงสัยรอยยิ้มหวานที่อีกฝ่ายจงใจส่งมาทำให้ความรู้สึกนึกคิดของกรรฐ์พลันกระเจิดกระเจิงคล้ายกำลังถูกอาวุธที่มีอานุภาพร้ายแรงโจมตีทำให้คนที่ไม่เคยหวั่นไหวกับผู้หญิงง่ายๆแบบเขาถึงกับหลงเคลิ้มไปชั่วขณะ

จนกระทั่งกลิ่นน้ำหอมราคาแพงลอยมาแตะจมูกนั่นถึงทำให้กรรฐ์ได้สติกลับคืนมาและรีบสะบัดมืออีกฝ่ายออกทันทีด้วยความตกใจแต่สาวสวยที่อยู่ข้างกายกลับเกาะกุมแขนของเขาเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยราวกับตุ๊กแกที่กำลังเกาะอยู่บนฝาผนังบ้านก็ไม่ปานทำให้กรรฐ์กลายเป็นผู้ประสบภัยที่แม้แต่กระทั่งลูกน้องที่เดินตามมาห่างๆก็ยังไม่กล้าเข้ามาช่วยด้วยกลัวจะถูกพายุอารมณ์ของเจ้านายซัดกระเด็นไปไกลอย่างหมดท่าเพราะพวกเขารู้ดีมากกว่าใครว่าผู้ชายที่กำลังพยายามสะบัดมือของสาวสวยคนนั้นออกเกลียดการแตะเนื้อต้องตัวกับผู้หญิงที่ตัวเองไม่รู้จักมากแค่ไหนมีเพียงคนไข้เท่านั้นที่เป็นข้อยกเว้นสำหรับเจ้านายของพวกเขา

“ขอยืมตัวควงแขนสัก 5 นาทีได้ไหมคะ ?”

น้ำเสียงหวานใสที่เอ่ยขออนุญาตคนที่ไม่ชอบให้ผู้หญิงแตะต้องร่างกายไม่ได้ทำให้กรรฐ์หลงเคลิ้มไปกับเสน่ห์ที่ชวนให้คนหลงใหลและนึกเอ็นดูของเธอเลยแม้แต่น้อยกรรฐ์ยังคงพยายามที่จะสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของสาวสวยเช่นเดิมโดยที่ไม่สนใจเลยว่าอีกฝ่ายเป็นสุภาพสตรีร่างกายอรชรอ้อนแอ้นเขาเพียงสะบัดแขนครั้งเดียวฝีเท้าของมินตราก็พลันซวนเซทรงตัวไม่อยู่แต่ถึงอย่างนั้นมินตราก็ยังคงเกาะแขนอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ยอมปล่อยก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นสบสายตากับดวงตาดอกท้องดงามของกรรฐ์อย่างขอร้องอ้อนวอนท่าทีที่พยายามจะปฏิเสธความใกล้ชิดสนิทสนมกับหญิงสาวแปลกหน้าของกรรฐ์จึงพลันสงบลง

“ผมไม่ชอบให้ผู้หญิงมาควงแขนทั้ง ๆที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน”

ถึงแม้ว่าดวงตาคู่งามที่คลอไปด้วยน้ำใสของสาวสวยคนนี้จะทำให้กรรฐ์นึกใจอ่อนอยู่ไม่น้อยแต่ถึงอย่างนั้นด้วยความที่ไม่ชอบให้ใครมาทำตัวรุ่มร่ามกับร่างกายของตัวเองโดยเฉพาะสาวๆเขาจึงก้มหน้าลงไปกระซิบข้างใบหูของอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเย็นชาลอดไรฟันใบหน้างดงามหมดจดของมินตราพลันเผลอชักสีหน้าใส่เขาทันทีอย่างแง่งอนโดยที่สาวเจ้าไม่รู้ตัวเองเลยสักนิดว่าได้เผลอทำกิริยาราวกับว่าเธอกับเขานั้นคือคู่รักที่กำลังทะเลาะกันอย่างไรอย่างนั้นพอมินตรามาคิดได้ทีหลังต่อให้นึกเสียใจแค่ไหนก็ไม่ทันแล้ว

“นี่คุณไม่รู้จักฉันจริงๆเหรอคะ ?”

ในขณะที่หัวใจดวงน้อยกระหน่ำเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นที่ได้ใกล้ชิดกับเขาเพียงไรมินตราก็ยังต้องแสร้งทำเป็นหน้างอเมื่อคนข้างกายนั้นดูจะไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไรที่เธอถือวิสาสะควงแขนเขายิ่งสายตาของเขาที่มองมายังเธอนั้นแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเต็มไปด้วยความรำคาญก็ทำให้มินตรารู้สึกเสียหน้าอย่างบอกไม่ถูกเธอคือมีน มินตรา นักแสดงแถวหน้าของวงการบันเทิงเมืองไทยที่สวยติดอันดับหนึ่งในห้าของโลกเชียวน้าแล้วสีหน้าที่เขาแสดงออกมานั่นมันอะไรกัน?

หน้าตาหล่อเหลาแล้วอย่างไรทำหน้าแบบนี้ใครจะอยากมองช่างไม่รู้จักวิธีรักหยกถนอมบุปผาเลยสักนิดแต่จะว่าไปไม่ว่าเขาจะแสดงสีหน้าเช่นไรดวงตาไม่รักดีของเธอก็เอาแต่จ้องมองเขาไม่ละสายตา ฮือ ทำไมนะทำไม ? ร่างกายของเธอถึงไม่ฟังคำสั่งเลยสักนิดโดนตกรอบแรกยังเพ้อจนตัดใจแทบไม่ทันรอบนี้ดันโดนตกเข้าอย่างจังแล้วเธอจะทำอย่างไรดี?คนที่หล่อและหน้าตาดีแบบนี้เธอต้องทำอย่างไรนะถึงจะได้มาครอบครอง

“แล้วทำไมผมจะต้องอยากรู้จักคุณด้วยล่ะครับคุณไม่ใช่แฟนผมสักหน่อย”

คำตอบที่ช่างแสนเย็นชาตรงข้ามกับหน้าตาของคนข้างกายทำให้มินตราถึงกับอึ้งเพราะท่าทีของเขาดูเหมือนไม่สนใจอยากจะทำความรู้จักกับเธอเลยแม้แต่น้อยเธอออกจะสวยน่ารักน่าเอ็นดูถึงเพียงนี้แต่เขาไม่แม้แต่จะชายตามองเธอเลยอย่างนั้นเหรอ นะ นี่ นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกันความสวยที่เธอมั่นใจมาโดยตลอดว่าเป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใครถูกผู้ชายคนนี้ทำลายลงในชั่วพริบตา โธ่! ชีวิต เพิ่งจะตกหลุมรักใครสักคนโชคชะตาก็ดันมาเล่นตลกให้ความสวยถูกเมินอย่างไม่ใยดีเสียอย่างนั้น

“แล้วก็รบกวนปล่อยผมได้แล้วครับแขนผมมันราคาแพงถ้าไม่ใช่แฟนก็ไม่มีสิทธิ์ควง”

คำพูดที่แลดูหยิ่งยโสของเขาทำให้มินตรานึกอยากจะปล่อยแขนเขาให้เป็นอิสระในทันทีหากไม่ติดว่ากลุ่มนักข่าวที่กำลังเดินตามไอลดาอยู่ห่างๆจะกำลังมองมาที่เธอกับเขาด้วยสายตาจับผิดว่าเธอจะใช่มีน มินตราอย่างที่พวกเขาคิดหรือเปล่า ? มินตราคงยอมปล่อยแขนเขาไปตั้งนานแล้ว เฮอะ แขนราคาแพงแล้วอย่างไรวันนี้เธอมีโอกาสได้จับแล้วใครจะยอมปล่อยให้โอกาสดีๆแบบนี้หลุดลอยไปง่าย ๆกันล่ะไม่มีทางหรอกยะพ่อคนรูปหล่อพอคิดได้แบบนี้มินตรายิ่งกระชับอ้อมแขนให้แนบแน่นขึ้นมากกว่าเดิมทำเอากรรฐ์ถึงกับถลึงตาใส่เธอด้วยความไม่พอใจทันที

“ถ้าอย่างนั้นช่วยแกล้งเป็นแฟนกันแค่ 5 นาทีได้ไหมคะ นะคะ มีนขอร้อง”

น้ำเสียงหวานใสเอ่ยขึ้นอย่างออดอ้อนดวงตากลมโตของเธอสบตาเขาอย่างเว้าวอนทำให้กรรฐ์ถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่ายก่อนที่เขาจะยอมเดินนิ่งๆให้เธอควงแขนอย่างสบายใจทำเอามินตราถึงกับยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจจนกระทั่งไอลดาพร้อมด้วยนักข่าวกลุ่มใหญ่ที่รอสัมภาษณ์เธอพากันเดินจากไปมินตราถึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

“5 นาทีแล้วครับ”

น้ำเสียงเย็นชาที่ดังขึ้นข้างหูของมินตราทำให้เธอถึงกับหันมามองคนข้างกายด้วยความตกใจโดยหารู้ไม่ว่ากรรฐ์นั้นยื่นหน้ามากระซิบข้างหูเธออย่างแนบชิดส่งผลให้แก้มเนียนของเธอจรดลงบนจมูกโด่งของกรรฐ์อย่างเหมาะเจาะทำเอาหนุ่มสาวทั้งสองคนต่างชะงักไปด้วยความตกใจ

กรรฐ์ “_” นี่มันจังหวะนรกอะไรเนี่ย ?

มินตรา >>_<< อ๊าย พ่อแก้วแม่แก้วจ๋าในที่สุดสวรรค์ก็เป็นใจสร้างจังหวะตกหลุมรักให้มีนตราแล้ว

ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นครั้งแรกเพราะความไม่ตั้งใจทำให้กรรฐ์ถึงกับพูดไม่ออกในขณะที่มินตราเองก็เผลอทำตัวไม่ถูกเช่นกันที่อยู่ ๆก็เกิดจังหวะที่ชวนให้หน้าแดงหัวใจเต้นแรงแบบนี้ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นนักแสดงชื่อดังที่ผ่านการเข้าฉากเลิฟซีนมาหลายครั้งแต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่เกิดความรู้สึกหัวใจเต้นแรงจนหน้าแดงเหมือนครั้งนี้

“อ๊ะ ขอโทษครับ”

“ขะ ขอโทษค่ะ”

กรรฐ์ที่เพิ่งรู้ตัวว่าทำตัวเสียมารยาทด้วยการหอมแก้มอีกฝ่ายนานเกินไปรีบผละออกมาและเอ่ยขอโทษมินตราด้วยความรู้สึกผิดส่วนมินตราที่ถูกคำขอโทษของเขาดึงสติกลับคืนมาก็รีบเอ่ยขอโทษเขาเช่นกัน เหตุการณ์ที่ชวนให้ใจคนหวั่นไหวก่อนหน้านี้ถ้าจะถามว่าเป็นความผิดของใครมินตรามองว่าเป็นความผิดของเธอต่างหากที่หันหน้าไปในตอนที่เขากำลังก้มลงมากระซิบข้างใบหูของเธอเพราะถ้าเธอไม่หันไปก็คงจะไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นแต่ก็ช่างมันเถอะวันนี้เธอได้กำไรต่อให้ต้องแกล้งหันอีกหลายๆครั้งมินตราก็ยินดีนี่เธอไม่ได้บ้าผู้ชายนะทุกคนเธอก็แค่รู้สึกดีที่ได้ใกล้ชิดกับเขาแค่นั้นเอง

“จบการละครแล้วใช่ไหมครับ? โอเคงั้นเราก็เลิกกันตอนนี้และจบกันแค่นี้นะครับ”

เมื่อถูกใช้งานจนพอใจคำบอกเลิกที่ฟังดูตัดบัวแบบไม่เหลือเยื่อใยจึงหลุดออกมาจากปากของกรรฐ์ทันทีทำให้มินตราได้แต่หลุดยิ้มออกมาด้วยความขบขันห้านาทีก็ห้านาทีจริงๆไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ควงแขนแกล้งเป็นแฟนกับเขาต่อเลยในขณะที่มินตรากำลังจะตอบกลับเขากรรฐ์ก็พยักเพยิดใบหน้าไปที่มือของเธอที่ยังคงคล้องแขนเขาอยู่เธอถึงเพิ่งรู้สึกตัวว่าแอบแต๊ะอั๋งเขานานเกินไปแล้วว่าแต่ทำไมเขาเป็นผู้ชายที่ตัวหอมจังเลยนะหอมจนเธอแทบอยากจะทุ่มตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาเสียจริงๆ

“ขอบคุณนะคะที่ให้ยืมควงแขน 5 นาที”

มินตราเอ่ยขอบคุณคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มกว้างก่อนที่กรรฐ์จะหันหลังและเดินจากไปทันทีโดยที่ไม่คิดจะหันกลับมามองมินตราเลยแม้แต่น้อยทำเอาหัวใจดวงน้อยของมินตรานั้นรู้สึกห่อเหี่ยวอย่างบอกไม่ถูกตั้งแต่เธอเกิดมาจนเธออายุยี่สิบปียังไม่เคยมีผู้ชายคนไหนที่สามารถทำให้เธอหัวใจเต้นแรงและรู้สึกหวั่นไหวตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบเหมือนเขาคนนี้เลยมินตราถอนหายใจมองตามแผ่นหลังกว้างของเขาไปด้วยความเสียดายก่อนที่เธอจะรีบเดินจากไปเมื่อเห็นว่ากองทัพนักข่าวเริ่มจะพากันมองมาที่เธออีกแล้ว

“มีน มีน ทางนี้ๆ”

เสียงร้องเรียกชื่อเธอที่ดังอยู่ไม่ไกลทำให้มินตราที่เพิ่งเดินออกมาถึงบริเวณลานจอดรถรีบเร่งฝีเท้าไปยังรถของพี่เอื้อยผู้จัดการส่วนตัวของเธอทันทีจนกระทั่งเข้าไปนั่งในรถเรียบร้อยแล้วมินตราจึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

“นึกว่าจะหนีไม่รอดแล้วซะอีก” มินตราเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าโล่งใจพร้อมรับแก้วน้ำหวานจากพี่เอื้อยมาดื่มแก้กระหาย

“เจ้าเล่ห์แบบเราไม่มีทางหรอกที่จะถูกจับได้” เอื้อยเอ่ยแซวมินตราที่ยักไหล่น้อยพร้อมยิ้มออกมาด้วยสีหน้าได้ใจ

“ว่าแต่นักข่าวพวกนี้รู้ได้ยังไงคะว่ามีนไปเที่ยวอิตาลีมีนจำได้ว่าไม่ได้บอกใครเลยนอกจากพี่เอื้อยกับพี่จ๋า”

มินตราเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัยแต่เอื้อยกลับรู้สึกเย็นวาบที่แผ่นหลังเธอแสร้งยิ้มน้อยๆแล้วเอ่ยตอบกลับมินตราอย่างไม่ใส่ใจเพราะเรื่องแบบนี้คือเรื่องปกติของวงการบันเทิงไปแล้ว

“มีนก็รู้ว่าสมัยนี้ไฟล์บินของดาราวางขายกันเป็นว่าเล่นก่อนหน้านี้ก็ไฟท์บินของพระพายไงที่หลุดออกไปจนทำให้สนามบินวุ่นวายไปหมด”

“แต่มีนไม่ได้ใช้ชื่อตัวเองจองตั๋วนะคะ”

มินตรายังคงไม่หายสงสัยเพราะการเดินทางในครั้งนี้ถึงจะเป็นการตัดสินใจอย่างกะทันหันแต่มินตรามั่นใจว่าเธอไม่ได้ทิ้งช่องโหว่ให้ใครตามสืบได้ง่ายๆที่สำคัญชื่อของคนที่จองเที่ยวบินให้เธอก็คือพี่ชายของดรีมอีกอย่างเธอไม่ได้พูดเรื่องนี้ออกจากปากแต่เป็นการพิมพ์ข้อความบอกเพื่อนๆกับพี่เอื้อยและพี่จ๋าต่างหากดูท่าเรื่องนี้จะมีลับลมคมในไม่น้อยเลยทีเดียว

“ช่างมันเถอะน้า ตอนนี้มีนก็กลับมาอย่างปลอดภัยไม่ถูกฝูงแร้งการุมทึ้งแล้วไงตอนนี้พี่ว่าเราควรคิดดีกว่าว่าเที่ยงนี้อยากจะกินอะไร ?”

เอื้อยพูดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเพื่อกลบเกลื่อนความตื่นตระหนกหลังจากนั้นเรื่องที่มินตราสงสัยก็ถูกพับเก็บไปตามระเบียบเมื่อเอื้อยเอาแต่ชวนมินตราคุยถึงเรื่องงานที่ต้องทำหลังจากวันนี้ซึ่งมีหลายงานที่เอื้อยรับไว้บางงานมินตรารับทราบแต่บางงานเธอยังไม่ตอบตกลงเอื้อยก็ชิงให้คำตอบแทนเธอไปแล้วทำให้มินตรารู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไรแต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อพี่เอื้อยคือคนที่พาเธอเดินเข้ามาในวงการบันเทิงและช่วยหางานพร้อมผลักดันเธอทุกทางจนทำให้วันนี้ชื่อของมีน มินตรา กลายเป็นชื่อที่ทุกคนต่างรู้จักคงจะมีเพียงชายหนุ่มคนนั้นที่ไม่รู้จักทั้งชื่อและหน้าตาของเธอถ้าหากว่าเรื่องบังเอิญมีอยู่จริงมินตราก็อยากจะพบกับเขาอีกสักครั้งเธอสัญญาเลยว่าครั้งนี้เขาคนนั้นจะต้องจดจำชื่อของเธอจนขึ้นใจอย่างแน่นอน