แสงสว่างไสวยิ่งกว่าแสงเทียน เสียงอึกทึกคึกโครมยิ่งกว่าเสียงของเกือกม้าควบตะบึงวิ่งกระทบพื้นดิน เสียงแปลกประหลาดเสียยิ่งกว่าเสียงการเข่นฆ่าฟาดฟันและตีกลองศึก
ทั้งแสงทั้งเสียงเหล่านั้นกำลังเรียกสติของผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังดำดิ่งคล้ายกับอยู่ภายใต้ท้องทะเลลึกกลางแก่นโลกให้ฟื้นตื่นคืนสติและลืมตาขึ้นมา เธอกำลังนอนหลับใหลไร้สติอยู่บนเตียงนอนผู้ป่วยอยู่ก่อนหน้านี้เป็นเวลาค่อนข้างนาน เธอค่อยๆ ขยับเปลือกตาเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ เปิดเปลือกตาออกเพื่อสู้กับแสงสว่างจ้าที่ไม่คุ้นชิน
เธอลืมตาขึ้นมาได้แล้วครั้งหนึ่งเมื่อชั่วโมงก่อนหน้าและก็หลับตาลงไปอีกคราเมื่อถูกของแหลมทิ่มแทง เธอเพียงหวังเอาไว้ว่าครั้งนี้จะไม่ถูกสิ่งใดทิ่มแทงลงมาที่แขนของเธออีก
ยามเมื่อเธอหลับใหลอยู่นั้น เธอคล้ายกับว่าตนเองกำลังควบม้าวิ่งตะบึงและกำลังสู้รบฆ่าฟันกับเหล่าทหารหลายคนในชุดเกราะแบ่งแยกแบ่งฝ่ายที่รุมล้อม และเธอก็พ่ายแพ้ให้กับศัตรูที่มีจำนวนมากกว่า เธอตายอยู่บนหลังม้า ในสภาพที่มีบาดแผลฉกรรจ์จากคมดาบหอกทวนอยู่จนเต็มเรือนกาย เลือดสีแดงสดสาดกระจุยกระจายไหลนองอยู่จนเต็มพื้นที่
นี่เป็นครั้งที่สองที่แล้วเธอฝันเห็นตัวเองก่อนจะตายแล้ววิญญาณเข้ามาที่ร่างของเด็กสาวคนนี้ มิรู้ได้ว่ามันเป็นไปได้อย่างไร
เมื่อครั้งแรกที่เธอได้เข้ามายังร่างของเด็กสาวผู้นี้นั้น เด็กสาวคนนี้มีอายุเพียงสิบสามปี ครั้งนั้นเธอกับครอบครัวที่ประกอบไปด้วยพ่อกับแม่ของเธอกำลังเดินทางจากประเทศจีนมาเที่ยวที่ประเทศไทยและในขณะที่กำลังขับรถเที่ยวชมเมืองก็เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำจนพ่อกับแม่เสียชีวิตมีเพียงเธอที่เหลือรอด ตอนนั้นเธอก็ฝันเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอในชาติภพก่อนได้อย่างชัดเจน
จนตอนนี้เก้าปีต่อมา เธอก็ได้ฝันเห็นทุกสิ่งอย่างได้ชัดเจนถนัดตาอีกครา ทุกอย่างเป็นเรื่องราวโดยละเอียดหลังจากที่เธอถูกรถชนอีกครั้งและกำลังนอนสลบไสลอยู่ภายในแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลแห่งนี้
เธอฝันเห็นตั้งแต่เธอเติบโตมาในชื่อว่าไป๋กุ้ยอิงเป็นบุตรสาวบุญธรรมของท่านแม่ทัพใหญ่นามไป๋หลิงแห่งแคว้นฉู่
ไป๋กุ้ยอิงเป็นถึงแม่ทัพหญิงด้วยฝีมือการต่อสู้ที่ไม่ด้อยกว่าบุรุษเพศและได้พบรักกับบุรุษผู้หนึ่งนามว่าจ้าวหยางหมิงเซียน
จ้าวหยางหมิงเซียนเป็นองค์ชายในจักรพรรดิแคว้นฉู่กับสนมเอกผู้โปรดปรานขององค์จักรพรรดิ
จ้าวหยางหมิงเซียนและไป๋กุ้ยอิงรักกันมากและสัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป
แต่ทว่าเมื่อเหตุการณ์พลิกโผ องค์รัชทายาทพระองค์ก่อนถูกลอบสังหารถึงแม้ไม่ตายแต่ก็มีสภาพร่างกายไม่เหมือนเดิม
ดังนั้นจ้าวหยางหมิงเซียนจึงถูกแต่งตั้งให้เป็นองค์รัชทายาทขึ้นแทนที่และไม่นานก็ถูกมอบสมรสพระราชทานกับบุตรสาวในสายเลือดของท่านแม่ทัพใหญ่ผู้ซึ่งเป็นที่ไว้วางพระทัยและเป็นฐานอำนาจขององค์จักรพรรดิ
หลังจากจ้าวหยางหมิงเซียนแต่งงานมีชายาเอกที่ไม่ใช่ไป๋กุ้ยอิงแล้วก็ได้แต่งงานอีกครากับชายารองที่เป็นบุตรสาวของอัครเสนาบดี หลังจากนั้นก็แต่งอนุชายาเข้ามาอีกหลายนางเพื่อปูทางสำหรับการขึ้นครองราชย์
แต่ถึงกระนั้นหัวใจของจ้าวหยางหมิงเซียนก็ยังคงมอบให้กับสตรีนางเดียว นามว่าไป๋กุ้ยอิง
จนเมื่อองค์จักรพรรดิได้สั่งการให้ไป๋กุ้ยอิงนำกองกำลังทัพที่เป็นความลับไปปราบกบฏก่อนที่พวกมันจะเหิมเกริมและสุดท้ายจากศึกลับกลับกลายเป็นศึกรบที่ใหญ่โตและหนักหน่วง และไป๋กุ้ยอิงก็มารู้ทีหลังเมื่อสังเกตได้ว่าทหารส่วนหนึ่งเป็นคนของบิดาบุญธรรมซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้การศึกของไป๋กุ้ยอิงเสียศูนย์จนต้องแตกพ่ายแล้วไป๋กุ้ยอิงก็ตายในที่สุด
หลังจากที่ไป๋กุ้ยอิงตายนั้นวิญญาณของไป๋กุ้ยอิงก็เร่ร่อนอยู่เป็นนานจนไป๋กุ้ยอิงได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดของใครบางคนได้อย่างซึ้งใจ
ใครคนนั้นก็คือจ้าวหยางหมิงเซียน
เขาได้ขึ้นครองราชย์และครองบัลลังก์มังกรอยู่หลายรัชศกโดยตลอดระยะเวลาที่เขาครองราชย์นั้นเขาได้กลายเป็นบุรุษไร้ใจไปโดยสมบูรณ์ วันๆ ทำแต่งานราชกิจออกว่าราชการมิสนใจใคร่ดีสตรีนางใดไม่ว่าจะเป็นฮองเฮาหรือเหล่าสนม เขาไม่ใส่ใจใครสักเท่าไหร่ มีเพียงการเข้าหออุ่นเตียงแค่หน้าที่กับสนมบางคนที่เหล่าขุนนางเห็นสมควรว่าต้องมีทายาทจากเชื้อมังกรแห่งเขา
ไป๋กุ้ยอิงได้เห็นและรับรู้เรื่องราวของเขาในลักษณะของวิญญาณเร่ร่อนที่ยังคงมีห่วงผูกใจเอาไว้ที่เขาโดยที่เขาไม่รู้เลยว่ามีวิญญาณของนางคอยวนเวียนอยู่รอบกายเขา
ไป๋กุ้ยอิงได้เห็นเขานั่งหน้าเศร้าแม้ต้องฝืนยิ้ม ได้เห็นเขานั่งอยู่อย่างเดียวดายแม้นั่งอยู่ท่ามกลางฝูงชน ได้เห็นเขาหลั่งน้ำตาจากใจชายที่เป็นถึงโอรสสวรรค์ ได้เห็นเขาปานขาดใจตายยามเมื่อคิดถึงไป๋กุ้ยอิง
และนั่นจึงทำให้ไป๋กุ้ยอิงไม่ยินยอมที่จะเป็นเฉกเช่นวิญญาณดวงอื่นที่ดับสลายไปพร้อมกับความทรงจำที่จางหาย
ไป๋กุ้ยอิงไม่ยินยอมดื่มน้ำจากแม่น้ำลืมเลือน ไป๋กุ้ยอิงไม่ยอมห่างหายไปจากการมองเห็นจ้าวหยางหมิงเซียน
จนกระทั่งจ้าวหยางหมิงเซียนเสด็จสวรรคตเพื่อสละราชสมบัติให้เหล่าโอรสได้แย่งชิง เขาตายไปแล้วในขณะที่ไป๋กุ้ยอิงก็ยังมิได้ดับสลายหายไปที่ใด
ไป๋กุ้ยอิงจึงเป็นวิญญาณเศร้าสร้อยที่สุดในสามโลกและเร่ร่อนอย่างไร้จุดหมายอีกเนิ่นนาน
จนกระทั่งเทพเส่อเต๋อ*หนึ่งในเทพเหอเหอ*นึกรำคาญกึ่งเห็นใจจึงส่งไป๋กุ้ยอิงมาเข้าสิงร่างของเด็กสาวผู้นี้ ผู้ซึ่งควรจะเป็นไป๋กุ้ยอิงในชาติภพนี้เมื่อเนิ่นนานมาแล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่เธอลืมตาตื่นขึ้นมาคราแรกในตอนนั้นเธออายุเพียงสิบสามปีและกลายเป็นเด็กกำพร้าจนถูกน้องสาวของแม่รับมาเลี้ยงดูแล เธอเติบโตมาในร่างของสาวน้อยนามว่าอิงอิงลูกครึ่งไทย-จีน เธอถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีด้วยน้าสาวของอิงอิงที่ชื่อว่ากัญญา ซึ่งน้ากัญญามีอาชีพเป็นเมียน้อยของผู้ชายคนหนึ่งผู้ที่บอกได้คำเดียวว่ารวยมาก
ผู้ชายของน้ากัญญาเป็นถึงเจ้าสัวเทียนชัยผู้เป็นเจ้าของบริษัทจิวเวอร์รี่อินเทรคเซ็นเตอร์คอนสตรัคอาร์ต เป็นบริษัทเกี่ยวกับการนำเข้าเครื่องประดับประเภทเพชรพลอยต่างๆ เป็นจิวเวอร์รี่ระดับอินเตอร์พรีเมี่ยม มีเครือข่ายหลายสาขาไปทั่วโลก
หลังจากนั้นอีกเก้าปีต่อมาอิงอิงที่อายุยี่สิบสองปีซึ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยหมาดๆ เจ้าสัวเทียนชัยจึงได้ให้เข้าทำงานในบริษัทแห่งนี้ด้วยเส้นสายที่เรียกได้ว่าแอบใหญ่ ที่บอกว่าแอบใหญ่ก็เพราะว่าเรื่องที่น้ากัญญาเป็นเมียน้อยของเจ้าสัวเทียนชัยนายเหนือหัวแห่งบริษัทแห่งนี้นั้นนับได้ว่าเป็นความลับระดับชาติ
ในภพภูมิชาตินี้ไม่เหมือนกับดินแดนแห่งมังกรในอดีตกาล ที่ผู้ชายสมควรมีหลายเมียเพื่อเหตุผลแห่งเกียรติภูมิของบุรุษเพศและเสริมอำนาจแก่วงศ์ตระกูล ยิ่งถ้าเป็นผู้ชายที่นับได้ว่ายิ่งใหญ่ด้วยแล้วการมีเมียมากกว่าสิบยังนับได้ว่าธรรมดา
หากแต่ที่นี่ เวลานี้ ยุคนี้ ไม่ใช่…
ในเมื่อการเป็นเช่นนั้นย่อมถือว่าดีสำหรับผู้หญิงที่เป็นเมียหลวงและถือว่าอัปยศอดสูเป็นที่สุดกับผู้หญิงที่เป็นเมียน้อย เรื่องราวเหล่านี้อิงอิงไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ อิงอิงจึงหลับหูหลับตาไม่สนใจมาตลอดเก้าปีเต็ม
จนกระทั่งวันนี้ วันที่อิงอิงได้เข้ามาเริ่มทำงานเพียงวันแรกในตำแหน่งเลขาหน้าห้องของรองประธานบริษัทหนุ่มสุดเนี๊ยบผู้มีนามว่าอานนท์หรือคุณหมิง
เจ้านายสายตรงของอิงอิงผู้นี้เขาเป็นลูกชายของท่านเจ้าสัวเทียนชัย เขามีใบหน้าหล่อเหลาคมคายเป็นที่หมายปองของผู้หญิงหลายๆ คนไม่เว้นแม้แต่ดาราหรือนางแบบกระทั่งพนักงานสาวๆ ในบริษัทเดียวกัน
เขามีหน้าตาเหมือนจ้าวหยางหมิงเซียน คล้ายกับว่าเป็นคนๆ เดียวกัน และเขาก็เป็นคนขับรถชนเธอ จนเธอต้องมานอนหลับลึกอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ เสมือนจงใจให้เธอได้ตอกย้ำเรื่องราวในอดีตกาลคล้ายกับว่ากลัวเธอจะลืมเลือน…