แต่ดูเหมือนชีวิตเขาจะมีสีสันมากขึ้นก็เมื่อลักษณ์ณาราเข้ามาขวางกีดกันระหว่างเขากับดารัณตลอด การปรากฏตัวของเธอจึงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเขา ทว่ามันคือความบันเทิงอย่างหนึ่งไปแล้ว หรือเพราะที่เขารู้สึกเบื่อหน่ายเพราะหลายวันนี้ไม่ได้เจอผู้หญิงคนนี้ก็ไม่รู้ ยังไม่ทันที่การ์เร็ตจะพูดอะไร บริกรก็ยกเครื่องดื่มมาให้ลักษณ์ณารา
“Margarita น่าจะเหมาะกับคุณ” การ์เร็ตพยักหน้าให้
“จะมอมเหล้าฉันหรือคะ” ลักษณ์ณารายิ้มเจ้าเล่ห์ “ฉันคออ่อนนะคะ”
“แหม! พูดแบบนี้เห็นทีต้องขอพิสูจน์ว่าคอคุณอ่อนแค่ไหน” เขาท้าทายแล้วเรียกบริกรของเครื่องดื่มเพิ่ม
“การ์เร็ต! คุณมากับพวกเรานะคะ” หญิงสาวที่ขนาบซ้ายขอการ์เร็ตถึงกับปรี๊ดออกมาอย่างเหลืออด
“เอ...เท่าที่จำได้ผมมาคนเดียวนะครับ” การ์เร็ตหันไปมองด้วยสายตาเย็นชาจนหญิงสาวเสียวสันหลังวาบขึ้นมา “และคนอย่างผมคงไม่ต้องพึ่งพาให้ใครต้องพามาเข้าผับด้วย”
หญิงสาวรู้สึกได้ยินเสียงแตกเพล้ง! จากใบหน้าของตัวเอง เมื่อผู้ชายไม่เล่นด้วยทั้งสองสาวจึงพร้อมใจกันลุกขึ้นสะบัดหน้าเดินออกมา
ลักษณ์ณารายกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบซ่อนรอยยิ้มของตนเองไว้ แต่เขาก็ยังมองออกแล้วยักไหล่
“อย่าคิดว่ามาก่อกวนผมเป็นผลสำเร็จนะ เพราะผมไม่ได้สนใจผู้หญิงสองคนนั้นอยู่แล้ว”
“แหม! มองฉันเลวร้ายไปหรือเปล่าคะ” ลักษณ์ณาราแสร้งทำหน้าใสซื่อซึ่งตรงข้ามกับความจริง เธออยากกวนประสาทเขาทำให้เขาพลาดเหยื่อ
“มันก็คงไม่ต่างจากที่คุณมองผมนักหรอก” เขาหัวเราะ “ว่าแต่คุณหายไปไหนมาหลายวัน”
“คิดถึงฉันขนาดนั้นเชียว ควรดีใจใช่ไหมคะ” อาจเพราะแอลกอฮอร์และน้ำผลไม้ที่ผสมกันอย่างลงตัวทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายลงไปมาก
“ไม่อยากพูดให้คุณดีใจแต่ผมก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ”
“ใช้มุขนี้กับฉันไม่ได้ผลหรอกนะ” ลักษณ์ณาราส่ายหน้าไปมา เธอคิดว่าเขายั่วเธอกลับให้เธอคิดว่าเขาให้ความสำคัญเธอ เหอะ! มันก็แค่ลูกไม้ตื้นๆ ที่ผู้ชายทั่วไปชอบใช้กัน
“ฉันไปดูสินค้าเข้าร้านก็เลยไม่อยู่กรุงเทพฯ หลายวัน”
“ต้องไปดูเองเลยรึ” เขาถามอย่างสนใจ “สั่งให้เขามาส่งก็ได้นี่”
หญิงสาวถอนริมฝีปากจากแก้วเครื่องดื่ม “ได้แต่ถ้าไปดูเองมันจะได้ของที่ถูกใจมากกว่า ถ้าเป็นคุณล่ะจะสร้างโรงแรมทั้งที่จะดูแค่แปลนหรือไปยืนบนที่ดินผืนนั้นจริงๆ”
“คุณพูดก็ถูก” เขาเอนหลังแล้วแกะกระดุมเสื้อเม็ดบนออกด้วยความรู้สึกผ่อนคลายและเป็นกันเองกับผู้หญิงที่ตั้งหน้าเป็นศัตรูกับเขา
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีท่าทีต่อล้อต่อเถียงเธอเหมือนทุกครั้งก็เล่นลักษณ์ณาราไปไม่เป็นเหมือนกัน “เจองานหินเข้าให้หรือไง”
“หน้าตาผมบอกแบบนั้นเหรอ” เขายิ้ม “ใช้แผนแสร้งทำเป็นห่วงใยให้ผมตายใจหรือเปล่า”
“คุณเองก็ท่าทางจะงานยุ่งนะ หนวดเคราไม่ได้โกนเลย”
มือใหญ่ยกมือลูบคางตัวเองแล้วยิ้มมุมปาก “ผู้หญิงบางคนชอบ”
ลักษณ์ณาราเบ้ปาก แล้วดื่มเครื่องดื่มของตนเป็นแก้วที่สี่ ท่าทางไร้ความเมามายของเธอทำให้การ์เร็ตชอบใจ ท่าทางจะไม่ ‘คออ่อน’ อย่างที่เธอออกตัวเสียแล้ว
“ผมไม่ค่อยเห็นผู้หญิงดื่มหลายแก้วแล้วยังไม่ออกอาการเหมือนคุณเลยนะ”
“ฉันมันของหายากนะ” ลักษณ์ณาราหัวเราะ ดูเหมือนวันนี้ไม่เหมาะกับการปะทะคารม
“ดื่มกับคุณแล้วสนุกดี ไปดื่มต่อที่บ้านผมนะ”
เธอเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ “อะไรนะ นี่ชวนฉันไปบ้านคุณเหรอ”
“แค่ดื่ม” เขายักไหล่ “ผมหลายแก้วแล้วจะขับรถกลับลำบาก”
“คุณอยากดื่มก็กลับไปดื่มคนเดียวซิ”
“มันไม่เหมือนกันนี่น่า” เขายิ้มที่มุมปาก “หรือคุณกลัวจะหลงเสน่ห์ผม”
“โธ่! พูดออกมาได้” ลักษณ์ณาราย่นจมูก “ถ้าคุณไม่เป็นตัวการที่ทำให้เพื่อนรักฉันต้องลำบากใจนะ คุณไม่ใช่ผู้ชายที่ฉันจะมาเสียเวลาด้วยเลย”
คราวนี้การ์เร็ตถึงกับผิวปากออกมา “ถ้าคุณคิดแบบนั้นก็ไปดื่มที่บ้านผมได้ซิ”
“ก็ได้ แค่ดื่ม มันจะมีอะไร”
“โอเค ตามนั้น” การ์เร็ตเรียกบริกร
ลักษณ์ณาราลุกขึ้นยืนโดยไม่มีอาการเซแต่การ์เร็ตก็ถือโอกาสโอบไหล่เธอไว้ นิ้วมือสัมผัสหัวไหล่ เขาเลื่อนมือลงเพื่อได้ลูบผิวกายเนียนละเอียดที่อยู่นอกผ้าลูกไม้ ลักษณ์ณารามองมือใหญ่ก่อนจะมองหน้าคมเข้มที่ระบายยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่หญิงสาวกลับส่ายหน้าไปมา เธอเจอผู้ชายเจ้าชู้มาเยอะเรื่องแค่นี้ไม่ยากเกินรับมือแน่นอน ขณะที่ทั้งสองเดินออกจากผับมาที่ลานจอดรถ ลักษณ์ณาราไม่รู้เลยว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตาของชายคนหนึ่งที่มากับกลุ่มเพื่อนของเขา เขาทำเหมือนอยากเดินเข้ามาหาแต่ไม่อาจปลีกตัวออกมาได้ จึงมีเพียงสายตาอาลัยที่จับจ้องจนทั้งสองขึ้นรถเก๋งคันหรูแล้ว
ลักษณ์ณาราไม่ได้เอารถยนต์ของตัวเองมา เพราะตั้งใจจะมาดื่มนิดๆ หน่อยๆ เพื่อผ่อนคลาย แต่ก็บังเอิญเจอโจทก์เข้าให้ ก็แค่อยากมากวนอารมณ์เขาให้ตัวเองอารมณ์ดีแต่ไม่ได้คิดวางแผนถึงขนาดนั่งรถคันเดียวกันไปถึงบ้านเขาแบบนี้ เขาเองก็ขับรถสบายๆ เหมือนพาเพื่อนไปเที่ยวบ้านแม้ว่าเขากับเธอจะไม่มีคำนั้นเลยก็ตาม ใช้เวลาไม่นานนักรถเก๋งก็แล่นผ่านกลางคืนของกรุงเทพฯ มาโรงแรมหรูของเขา