ปุณณ์ป่วยเข้าโรงพยาบาล #2

995 คำ
คล้อยหลังเพื่อนไปไม่ทันไร เสียงโทรศัพท์ใกล้ตัวก็ดังขึ้น ปุณณ์เอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมา แล้วใบหน้าของคนป่วยก็เปื้อนยิ้มขึ้นทันใดเมื่อเห็นรายชื่อของสายเรียกเข้านี้ “คุณแม่สวัสดีครับ กำลังคิดถึงอยู่พอดีเลยครับ” (ไม่ต้องมาฝืนทำเสียงร่าเริงเลยปุณณ์ แม่เพิ่งได้ข่าวจากทรงพลว่าเราป่วย ถึงขั้นโอ้กอ้ากหมดสภาพจนต้องให้วาทิตหามส่งโรงพยาบาลเลย) คุณหญิงนวลพรรณ ศรีภรรยาเพียงหนึ่งเดียวของเจ้าสัวกษิดิษ เริ่มโวยลูกชายหัวแก้วหัวแหวนด้วยความเป็นห่วง แทบอยากจะบินลัดฟ้าจากอิตาลีกลับไทยเพื่อมาดูอาการลูกชายด้วยตัวเองในทันที “โธ่ คุณแม่ครัย ผมไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย แค่นอนพักผ่อน ทานยา ก็มีแรงขึ้นมาแล้วครับ” ปุณณ์ทำเสียงออดอ้อนเหมือนอย่างทุกครั้งที่คุยกัน (แม่เป็นห่วงลูกมากนะปุณณ์ ถ้าหมอที่ไทยตรวจหาที่มาของโรคไม่เจอ ปุณณ์มารักษาที่อิตาลีไหมลูก หมอที่นี่อาจจะช่วยได้ แม่ไม่สบายใจเลยเวลาลูกป่วย) ผู้เป็นแม่ยังคงพูดด้วยความเป็นห่วงและกังวล “อาการมันไม่ได้รุนแรงมากครับ อีกไม่นานผมก็หายดีเป็นปกติ คุณแม่ไม่ต้องห่วงผมนะครับ ผมสัญญาเลยว่าจะอัปเดตอาการให้คุณแม่ฟังอยู่ตลอด และถ้าหายดีเมื่อไหร่ก็จะรีบไปหาคุณแม่กับคุณพ่อที่อิตาลีเลยครับ” (ขอให้หายดีในเร็ววันแล้วกันนะคะคุณลูก แม่รักปุณณ์มากนะ แก้วตาดวงใจของแม่ พ่อเราเขาก็เป็นห่วง กระวนกระวายไม่หยุดเลยตั้งแต่อาหมอโทร.มาบอก) “คร้าบ คุณแม่ ทราบแล้วครับผม ผมก็รักคุณแม่ครับ เดี๋ยวผมจะรีบแข็งแรงให้ไวที่สุดแล้วรีบไปกอดคุณแม่ถึงอิตาลีเลยครับ” (จ้ะลูก ได้ยินเสียงลูกแบบนี้แม่ก็สบายใจ งั้นแม่ไม่กวนเวลาพักผ่อนแล้วนะคะลูก ไว้เจอกันจ้ะ) คุณหญิงนวลพรรณกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะวางสายไป …… อาการป่วยของปุณณ์ยังคงมีอยู่เป็นช่วง ๆ กระทั่งเข้าสู่เดือนที่สี่ จู่ ๆ อาการวิงเวียน หน้ามืด คลื่นไส้ อาเจียน ที่ปั่นป่วนชีวิตชายหนุ่มมาตลอดหลายเดือนก็หายขาดอย่างน่าประหลาดใจ คนหายป่วยร่าเริงแต่เช้าเมื่อลงจากเตียงแล้วสามารถยืนตัวตรงได้โดยไม่หน้ามืดเหมือนทุกวัน ปุณณ์คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาโทร.หาน้องสาวอันเป็นที่รักทันทีเพื่ออัปเดตอาการป่วยให้ได้ทราบ “สวัสดีค่ะตัวเล็ก” เขาส่งน้ำเสียงสดชื่นไปตามสาย “พี่จะโทร.มาแจ้งว่าพี่หายป่วยแล้วนะคะ วันนี้ลุกขึ้นยืนได้ไม่มีอาการหน้ามืดเลย” (เย่ หนูดีใจที่สุดเลยค่ะ ฟังพี่อารมณ์เสียบ่นเรื่องสุขภาพตัวเองมาหลายเดือนแล้ว เป็นห่วงจนอยากบินไปหาจะแย่) แป้งหอมตอบรับกลับมาด้วยน้ำเสียงสดใสไม่ต่างกัน ก่อนจะเอ่ยถามต่อเสียงดุเล็กน้อยเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายอาจมีสาวสวยคอยดูแล (แล้วทำไมอยู่ดี ๆ ก็หายป่วยล่ะคะ ไปได้ยาใจดี ๆ ที่ไหนมาหรือเปล่า) “ไม่ใช่นะคะตัวเล็ก ไม่มียาใจอะไรทั้งนั้นแหละ อยู่ ๆ วันนี้พี่ก็ไม่เวียนหัว ไม่อาเจียน ไม่คลื่นไส้ ไม่พะอืดพะอมด้วย ตอนนี้กำลังจะลงไปทานมื้อเช้าเลยค่ะ” ปุณณ์รีบปฏิเสธก่อนจะได้ยินเสียงน้องดา หรือนิรดา ลูกสาวตัวน้อยของแป้งหอมและลูเซียโน่ ดังแทรกขึ้นมา จึงกดปุ่มขอเปิดกล้องไป “เซย์ไฮจากไทยแลนด์ครับน้องดา ลุงปุณณ์คิดถึงที่สุดเลย แล้วน้องวินไปไหนล่ะ” ปุณณ์ยกมือขึ้นโบกให้กล้อง เมื่อเห็นหน้าของเด็กหญิงจุ่มลงมาก็อดเอ็นดูไม่ได้ (สวัสดีค่ะยุงปุณณ์ น้อนคิดถึงยุงปุณณ์ค่ะ) เด็กหญิงยิ้มแป้นใส่กล้อง “ลุงปุณณ์ก็คิดถึงหนูที่สุดเลยค่ะ เดี๋ยวลุงจะไปหานะ หนูอยากได้อะไรไหมคะ” (เย่! ๆ ดีใจที่สุดเลยค่ะ น้อนอยากได้ช้างตัวโตค่ะ) “ได้ค่ะ เดี๋ยวลุงจะซื้อไปฝากนะคะ” (ไม่ต้องซื้ออะไรมาแล้วค่ะพี่ปุณณ์ ของเล่นเต็มบ้านแล้ว ส่วนตาวินออกไปกับฟิโอน่าค่ะ พอดีบ้านนู้นเขากำลังจะทำซุ้มให้เด็ก ๆ เล่นกัน งั้นเดี๋ยวหนูพาน้องดาไปอาบน้ำก่อนนะคะ เพราะคุณปู่จะมารับพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวสวนสัตว์ค่ะ) “บ๊ายบายค่ะน้องดา จุ๊บลุงปุณณ์ก่อนเร็ว” (บายค่ะยุงปุณณ์) เด็กหญิงยกมือขึ้นโบกไปมา พร้อมกับส่งจูบมาให้ปุณณ์ จากนั้นแป้งหอมก็อุ้มเด็กหญิงเดินออกจากหน้าจอไป แล้วใบหน้าหล่อเหลาที่ดูสดชื่นของลูเซียโน่ก็ปรากฏขึ้นมาแทน เขาดูมีความสุขมากกับชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ พรั่งพร้อมไปด้วยภรรยาแสนสวยและลูก ๆ ที่น่ารักน่าชัง (ได้ข่าวว่าป่วยถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลเลยเหรอครับพี่ปุณณ์ ว่าแต่อาการตอนนี้ดีขึ้นแล้วเหรอครับถึงเปิดกล้องได้) ลูเซียโน่ถามขึ้น “ทั้งเวียนหัว ทั้งคลื่นไส้ กินอะไรไม่ได้มาหลายเดือน เพิ่งจะหายวันนี้นี่แหละ อยู่ ๆ ก็หายแบบงง ๆ ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร ยาก็ไม่ได้รับมาเพิ่ม” (อาการคุ้น ๆ นะครับเนี่ย นี่ถ้าพี่มีเมียผมคงคิดว่าพี่แพ้ท้องแทนเมียแบบผมไปแล้ว ตอนแป้งหอมท้องนะ ผมนี่ตายทั้งเป็นเลย ทั้งอ้วก ทั้งเวียนหัว หน้ามืดทุกวัน แทบจะนอนในห้องน้ำ แต่ที่แพ้ท้องแทนเมียก็เพราะรักเมียมากนั่นแหละครับ) ในช่วงท้ายประโยคลูเซียโน่ตั้งใจพูดใส่ภรรยาที่เดินกลับมาพอดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม