มาริสา Say ::
ทำไมอีตานี่มานอนห้องฉันอีกแล้วล่ะ ฉันมองคนที่ข้างฉัน คนที่เจ็บทั้งแขน เจ็บทั้งขา จะถีบลงไป ฉันก็คงจะดูเป็นคนที่โหดร้าย ฉันเลยพยายามจะผลักเขาลงไปแทน แต่คนที่เจ็บดันลืมตาพรึบตื่นขึ้นมาก่อน
“มานอนห้องฉันทำไม”
“พี่มาขอโทษที่พาครีมมาให้เธอรู้สึกไม่ดี แต่มันจำเป็น จำเป็นจริง ๆ ตอนนั้นเขาอุ้มอัณณ์เข้ามา แล้วบอกว่าเด็กคนนี้เป็นลูกพี่ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนแรกพี่พยายามพาอัณณ์ไปรู้จักกับเธอ กับคนอื่น ๆ อัณณ์ก็จะร้องหาแต่แม่ตลอด พอเด็กอยู่ได้โดยไม่มีแม่ ครีมก็กลับมาทำให้เด็กสับสนอีก” คุณชลเล่าทุกอย่างด้วยสีหน้าจริงจัง ฉันเองก็สงสาร ไม่ใช่ไม่สงสาร แต่ทำอะไรได้อ่า ฉันมันคนนอก
“ฉันมันคนนอกจะช่วยอะไรได้”
“เปล่า พี่บอกครีมไปว่า เธออยู่ที่นี่ในฐานะเมีย ฐานนะแม่ของลูก พี่ไม่อยากทำลายภาพครอบครัวหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาเลย เห็นเด็ก ๆ ได้ยิ้มได้หัวเราะ ได้มีความสุข ก็ไม่อยากเสียภาพพวกนี้ไป พี่อยากอยู่กับเธอและลูกนะ” คนที่พูดพยายามจะดึงฉันไปกอด แต่ก็เปลี่ยนมาเป็นลูบหัวแทน ลูบหัวอย่างงั้นเหรอ นานแค่ไหนแล้วนะที่เขาไม่ได้ลูบหัวฉันแบบนี้
“แล้วที่บอกว่าอัณณ์ไม่ใช่ลูกนี่โกหก ชะ…ใช่….” นิ้วเรียวแตะที่ปากของฉันเบา ๆ เพื่อบอกให้ฉันเงียบเสียงลงหน่อย
“จริง อัณณ์ ไม่ใช่ลูกพี่ทางสายเลือด แต่เราเลี้ยงเด็กคนนั้นมาตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ ต่อให้ไม่ใช่ลูก ก็รักเหมือนลูกไปแล้ว แต่จะให้เราคืนให้แม่ที่ทิ้งอัณณ์ไปแต่งงานใหม่ได้ สักวันเขาก็ต้องทิ้งอีก” คุณชลพูดในเสียงที่เบามาก แต่ก็จริงอย่างที่คุณชลว่า วันนี้กลับมาแค่อยากได้คืน แต่ถ้าลูกไม่ใช่สิ่งที่เธออยากได้แล้วเธอจะทิ้งอีกไหม เด็กก็มีหัวใจนะ
ตอนนี้น้องอัณณ์กำลังมีปัญหา ที่ไม่ยอมบอกใคร มีอาการต่อต้าน และปิดกั้นตัวเองจากสิ่งรอบ ๆ ตัว ฉันเองไม่ใช่หมอ จะให้รักษาก็คงไม่ได้ แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อของอัณณ์จะรู้หรือยัง ว่าลูกกำลังเรียกร้องความสนใจนะ
“เอาเถอะค่ะ ฉันจะช่วย ไม่ใช่ช่วยคุณ แต่ช่วยน้องอัณณ์”
“พี่เจ็บอยู่นะ เธอทำพี่เจ็บ ไม่ยอมฟังอะไรเลย ยังไงก็ต้องดูแลกันหน่อยสิ อย่างน้อยต่อหน้าครีม ได้ไหมช่วยเป็นครอบครัวสุขสันต์ ในตอนที่กระบวนการทางกฏหมายกำลังทำงาน จะให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องทางสายเลือดชนะแม่แท้ ๆ เราก็ต้องแสดงให้เห็นว่าครอบครัวเราอบอุ่นพอ ให้อัณณ์เลือกทางเรา ไม่ใช่ทางแม่ แล้วอัณณ์ก็รักน้าเซียงเซียงนะ” แหม่ ทีจะให้ช่วยปากหวานเชียวนะ
“ต้องทำยังไงบ้าง ไหนลองพูดมา มันไม่แปลว่าฉันยอมช่วยพี่แล้ว แค่เอาไปคิดดู”
“นอนห้องเดียวกันนี่ไง ทำให้ลูกรู้ว่าเราจะไม่ทิ้งเขา ถ้ามีเซียงเซียง อัณณ์ยอมแน่ อัณณ์รักน้องจะตาย นะไม่ช่วยพี่ ถือว่าช่วยเด็ก เป็นคู่รักปลอม ๆ กันสักระยะ จบเรื่องนี้พี่ได้ลูกคืน เธออยากจะได้อะไร พี่จะให้ทุกอย่าง เงิน บ้าน รถ อนาคตลูก” คำตอบที่แสนจะน่าพึงพอใจ
“ฉันช่วย ฉันจะขอจากพี่แน่ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ฉันจะร่างสัญญาก่อน แล้วค่อยว่ากัน”
“ขอบคุณนะ!!!” คุณชลดึงฉันเข้าไปกอดด้วยมือข้างเดียว หัวใจที่อยู่ในอกของเขาที่สะเทือนมาถึงฉันนั้นมันเต้นรัวมาก เหมือนว่ากำลังดีใจ แต่เขาจะรู้ไหม ว่าฉันจะขอให้เขาหายไปตลอดการ จากฉันและลูก
อีกด้าน
“อัณณ์ ลูกกกก แม่อยากอยู่แบบนี้กับหนูตลอดไปจังเลย” ครีมกอดเด็กชายเอาไว้แนบอก
“แม่ก็อยู่กับอัณณ์แล้ว”
“ปู่กับย่ารักหนูดีอยู่ไหม ทำไมเราไม่ไปอยู่บ้านใหญ่ ๆ จะมาอยู่บ้านเก่า ๆ แบบนี้ทำไม พี่เลี้ยงที่ห้อมล้อมหนูไปไหนหมด ทำไมอัณณ์ของแม่ต้องมาลำบาก แม่ไม่เข้าใจเลย ลูกควรจะได้อะไรที่มากว่านี้ ลูกเป็นทายาทวิศวหัตทัยรัตน์เลยนะ ทำไม ต้องมาอยู่ที่เก่า ๆ โทรม ๆ แบบนี้ บอกพ่อเขาดีไหมลูก ว่าลูกอยากกลับไปบ้านย่า แม่จะไปอยู่กับอัณณ์” ครีมพูดกับเด็กชายตัวน้อยด้วยรอยยิ้ม แต่เด็กชายไม่ได้อยากไปอยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่ไม่เห็นใคร เห็นแต่สาวใช้ กับพี่เลี้ยง อยู่ที่นี่เธอมีของขวัญ มีพ่อ และน้าเซียงเซียง แต่ถ้ากลับไป เด็กชายก็อาจจะได้มีแม่อย่างที่เขาต้องการ
“แม่จะไม่ทิ้งอัณณ์ไปอีกใช่ไหม”
“ไม่ทิ้งหรอกลูก ก็แม่เอง ก็เป็นเมียของพ่อนี่” ครีมลูบหัวของเด็กน้อยเบา ๆ แต่เด็กน้อยกลับสงสัยในสิ่งที่แม่ของเขาพูด
“แม่….เมียคืออะไร คนรักเหรอ” อัณณ์ถามด้วยความใสซื่อ ทำให้แม่ของเขาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
เมื่อถึงเวลาไปโรงเรียน เด็ก ๆ ก็ไปโรงเรียนแบบทุกที สายชลกับเซียงเซียงเองก็ต้องไปทำงาน มีแต่ครีมที่กลับมาบ้าน แล้วนั่งทำตัวเป็นคุณนายของบ้านเรือนไทยเก่า ที่มีคนปรนนิบัติดูแล มีคนทำอาหารให้ ไม่ต่างจากบ้านสามีที่เธอเพิ่งจะหย่าไป เพราะผู้ชายคนนั้นดันมีเมียน้อยไม่เลิก แถมตบตีเมื่อเธอบอกให้เขาเลิกกกับเมียน้อย เธอเลยเลือกที่จะหย่าแล้วกลับมาหาลูกชาย
“ส้มจ๊ะ เดี๋ยวของคุณชล ฉันจัดการเองนะจ๊ะ อ่อ ป้า เอาเสื้อผ้าของฉันไปซักด้วยนะ” ครีมสั่งให้ส้มเอาเสื้อผ้าไปซัก ทำให้ส้มเองนั้นต้องยอมทำอย่างไม่เต็มใจนัก เพราะขนาดของมาริสา และลูกสาว เธอก็ยังไม่เคยต้องทำให้เลย
“ได้ค่ะ” ส้มรับคำแล้วเดินจากไป
สายชล Say ::
“ช่วงนี้ดูรักครอบครัวดีนะครับ มีการลงคิวเวลาของทุกวันเป็นเวลาไปรับลูกด้วย ต้องไปรับคุณเซียงเซียงไหมครับ” พลถามผมที่กำลังนั่งดูเอกสารกองโต
“รับสิรับ”
“บอกคุณเซียงเซียงหรือยังครับ เธอยอมช่วยไหม”
“บอกแล้ว แล้วก็บอกไอ้เวรอชิไปแล้วด้วย มันต้องเข้าใจฉันนะ มันรู้ดีกว่าใครเลยเรื่องนี้ จีบแข่งกับกูอยู่ได้” มันเป็นเพื่อนผม แต่มาจีบเมียผม ได้เหรอวะ ว่าแต่เมื่อเช้าเธอยอมให้ผมลูบหัวด้วยนะ แถมได้เนียนกอดหนึ่งที
“เพราะเหตุนี้ใช่ไหมครับ เลยยอมถอยโรงแรมที่ภูเก็ตให้ ท่านประธานรู้ เอาตายเลยนะครับ” ไอ้พลนี่มันรู้มากไปซะทุกเรื่องเลย ผมจะต้องแฟร์กับเพื่อนด้วย
“เขาจะต้องเสียใจ ถ้าจะต้องเสียหลานทั้งสองคนไป นี่มันเป็นเวลาคุยเรื่อยเปื่อยเหรอไอ้พล!!! ทำงาน เรือเป็นยังไง จัดการเรื่องเครื่องทำลายขยะเสร็จหรือยัง แล้วคู่แข่งล่ะ เป็นยังไง”
“ถ้าเรือของคุณเซียงเซียง สวยงาม มีสวนน้ำแบบเรือเรา แต่ของเขามีห้องฝากเด็ก ที่จะมีแนนนี่ดูแลเด็กให้ตลอด แต่เราไม่มี ของเรารีโนเวทมุมถ่ายรูปหรูหรา….”
“อันนี้เรามี ทางนั้นมีเซียงเซียงทำงานให้ คงไม่น่าเป็นห่วงเธอเก่ง เรื่องทนายว่ายังไง”
“นี่มันเวลางานครับ” ไอ้พลย้อนผมขึ้นมาด้วยใบหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ชิชะ ไอ้นี่นี่!!!!!!
เวลา 16:00 น. ผมก็มารอรับลูกเหมือนทุกวัน แน่นอนว่าผมไปลากเซียงเซียงมารับด้วย เพราะเราต้องการภาพจำ มีภาพถ่าย มีพยานรู้เห็นการไปรับไปส่งลูก ว่าเราพร้อมจะดูแลเด็กทั้งสองคนแค่ไหน
“สัญญา ฉันร่างมาละ ไม่เซ็น ไม่ช่วย”
“ไหนขออ่านก่อน”
สัญญาของเธอนี่มันอะไร!!!
1. ห้ามแตะเนื้อต้องตัวหากอีกฝ่ายไม่ยินยอม (ไม่มีวันยินยอม)
2. ห้ามทำร้ายด้วยร่างกาย วาจา หรือทำใด ๆ ที่กระทบจิตใจ
3. ห้ามพา ด.ญ. ของขวัญไปไหนมาไหนลำพัง หากไม่ได้รับอนุญาต
4. ห้ามอ้างสิทธิ์ความเป็นบิดาในการตัดสินใจคนเดียวทุกกรณี แต่ฝั่งมารดาทำได้
5. อนุญาตให้กลับบ้านของฝั่งแม่ได้อาทิตย์ละ 2 วัน
จบการทำงาน (จบสัญญา) ทางฝั่งฝ่ายนายสายชล ต้องทำตามที่ทางนางสาวมาริสาขอทุกประการ
ค่าใช้จ่ายในการทำภารกิจ ทางฝ่ายนายสายชลต้องออกทุกบาททุกสตางค์ ไม่เว้นแม้แต่ค่าดูแลบุตร ค่าเล่าเรียน และจิปะถะต่าง ๆ
หาผิดสัญญาข้อที่กล่างข้างต้นมานี้ นายสายชลต้องชดใช้เงินในจำนวน 10,000,000.- เพื่อการศึกษาของเด็กหญิงของขวัญสืบไป และห้ามข้องแวะใด ๆ ทุกกรณี (ส่งมาแต่เงินก็พอ)
นี่มันสัญญาบ้าบออะไร ไม่อิงกฎหมาย ไม่อิงอะไรเลย เอาแต่ตัวเองล้วน ๆ ผมเสียเปรียบทุกประตู ไม่มีนักธุรกิจคนไหนยอมเซ็นสัญญานี้แน่!!!! คิ้วกระตุกไม่หยุด เป็นการร่างสัญญาได้…..ไร้ความยุติธรรม
“แลกกับการที่ฉันจะเป็นเมียปลอม ๆ ให้คุณ จนกว่า….เอ่อออ คดีความจะเสร็จสิ้น ประโยชน์เพียงเพื่อสิทธิ์ประโยชน์สูงสุดของน้องอัณณ์” ชัดเจน เอาเปรียบผมอย่างชัดเจน!!!!!!
“เมียงั้นเหรอ จะจับมือยังไม่ยอมเลย ฉันมีแต่ขาดทุน ผัวเจ็บเมียก็ต้องดูแลไหม” ผมสบถขึ้นมาเบา ๆ แต่ก็ต้องเซ็นอยู่ดี แต่ผมเขียนข้อที่ 8 ลงไปด้วย พร้อมกับเซ็นสัญญาทันที
8. ถ้านางสาวมาริสา กระทำผิดฐานคบชู้นอกใจ กาย หรือมีสัมพันธ์ิเชิงชู้สาวใด ๆ ด.ญ. ของขวัญจะอยู่ในการดูแลของฝั่งบิดาทันที
“น่าเกลียด มีสิทธิ์อะไรมาเรียกร้อง ฉันจะมีผัวใหม่ มันก็เรื่องของฉัน นั่งอยู่บนนี้แหละ ฉันจะไปรับลูก เดี้ยงแล้วยังวุ่นวาย” เธอดันขาผมให้พ้นทาง แล้วเดินลงจากรถตู้ไปเลย เดี้ยงแบบนี้ก็เพราะเธอไหม ยัยนี่นี่มัน!!!!
เธอหายไปนานกลับมาพร้อมกับของขวัญแค่คนเดียว เพราะน้องอัณณ์ แม่ของเขารับไปแล้ว แบบนี้จะทำยังไง รีบกลับบ้านดีกว่า ผมไม่ไว้ใจให้ครีมอยู่กับลูกนาน ๆ หรอก
หลังจากที่เราไปรับลูกกลับมาถึงบ้าน ที่น่าตกใจกว่าคือ ครีม กับ อัณณ์ไม่อยู่ ไปไหน!!! เธอเอาลูกผมไปไหน!!!! ผมรีบเดินกระเผลก ๆ ไปถามป้าส้ม ก็เห็นส้มกำลังซักเสื้อผ้ากองโตให้ครีมอยู่
“พี่ว่าคุณครีมจะไปไหนได้” เซียงเซียงถามผม ที่กำลังจะกดโทรศัพท์โทรหาครีม แต่ทำยังไงเธอก็ไม่รับ
“พี่ไม่รู้เลย ถ้าของเธอยังอยู่นี่ แสดงว่า น่าจะยังกลับมา” ผมโทรศัพท์หาครีมอยู่ตลอด แต่ยังไงเธอก็ยังคงไม่รับสาย
“ใจเย็น ๆ ก่อน” เซียงเซียงตบที่ไหล่ของผมที่กำลังร้อนรน
ป้าส้มเดินเข้ามาหาเราที่กำลังร้อนใจที่ลูกหายไป แล้วบอกถึงสิ่งที่ครีมคุยกับอัณณ์เมื่อเช้า ว่าเธออยากได้พี่เลี้ยงมาดูแลอัณณ์ จะต้องเอามาดูแลเพิ่มทำไม ที่นี่ก็มีคนดูแลมากมาย ผมกับเซียงเซียงได้แต่มองหน้ากัน
“พี่จะเอายังไงต่อ”
“ป๊าขาาาา พี่อัณณ์ไปไหนคะ พี่อัณณ์จะกลับมาไหม”
“มาสิของขวัญ พี่อัณณ์จะต้องกลับมา”
“หนูไปเอาก้างมะยมมาให้นะ ไปไหนไม่บอกพ่อแม่ ไม่เก่งเลย” ประโยคของของขวัญ ทำให้ผมต้องหันไปมองหน้าแม่ของลูก
“ม้าเคยตีหนูเหรอ” ผมก้มลงมามองลูกเพื่อสอบถาม นี่เธอตัวเล็กแค่นี้ โดนก้านมะยม ไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ
“ค่ะ แรงมาก เจ็บมาก ตีไปก็ร้องไห้ไป ไม่เก่งเลย” ของขวัญยืดอกที่ตัวเองเก่งกว่าม้า ตีไปร้องไห้ไป ก็คงต้องเจ็บปวดด้วยกันทั้งคู่สินะ ผมเองเคยสอนลูกไหมนะ เฮ้ออออ
ไม่นานนักอัณณ์กับครีมก็กลับมา พร้อมกับเค้กกล่องใหญ่ ผมโมโหมาก จะเข้าไปด่าเธอแต่กลับถูกมือของเซียงเซียงดึงเองไว้ แล้วตัวเธอเอง ก็เข้าไปหาอัณณ์ทันที ร่างบางย่อลงนั่งกับพื้น แล้วคุยกับเด็กชายด้วยรอยยิ้ม
“น้าเป็นห่วงมากเลยรู้ไหม”
“น้าเป็นห่วงผมเหรอ” อัณณ์ถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“ห่วงสิ น้าเคยไม่ห่วงอัณณ์เหรอ….” แต่เซียงเซียงไม่ทันจะพูดจบ ครีมก็ดึงอัณณ์เข้าไปในบ้านไม่ยอมให้คุยต่อ ทำให้เซียงเซียงต้องเดินกลับมาหาผม ด้วยใบหน้าเศร้านิด ๆ
“ทำไม พี่อัณณ์ไม่คุยกับของขวัญ ของขวัญจะไปเล่นกับพี่อัณณ์” เด็กหญิงตัวเล็ก วิ่งตามลูกชายของผมไปแต่แล้วไม่นานก็ตามมาด้วยเสียงร้องไห้ ของเด็กหญิง ทำให้แม่ของเธอต้องรีบวิ่งไปดู ส่วนผมได้แต่เดินกระเผลก ๆ ไป โอ้ยยย เมื่อไหร่จะหายวะเนี่ย ตามคนอื่นเขาไม่ทันเลย
กว่าผมจะมาถึงบ้านก็เจอเซียงเซียงวิ่งเข้ามากอดลูกแล้ว แล้วครีมก็เอาตัวเองมายืนบังลูกเอาไว้ นี่มันอะไรกันวะเนี่ย
“เด็กเล่นกัน คุณจะโกรธอะไรกันนักหนาคะ มีความเป็นผู้ใหญ่หน่อยสิ” ครีมตะโกนใส่เซียงเซียง ที่ตอนนี้ก้มหน้าเงียบไม่พูดไม่จา กับลูกสาวผม ที่พยายามปาดน้ำตาอย่างสะอึกสะอื้น
“ของขวัญ หนูรักพี่อัณณ์ไหมลูก บอกเขาไป”
“แต่พี่อัณณ์ทำของขวัญเจ็บ พี่อัณณ์ตีของขวัญนะม้า ฮึก ๆ” สิ่งที่ของขวัญพูด ทำให้ผมตกใจมาก อัณณ์ไม่เคยรังแกน้องแบบนี้ ผมจะเข้าไปดุลูก แต่กลับโดนเซียงเซียงดึงเอาไว้ อีกแล้ว!!!
“หนูรักพี่อัณณ์ไหมลูก!!!” เซียงเซียงตะโกนถามลูกอีกครั้งด้วยเสียงที่ดึงขึ้น
“รักค่ะ หนูรักพี่อัณณ์”
“ได้ยินแล้วนะอัณณ์ น้าพาของขวัญไปอาบน้ำก่อนดีกว่า กินเค้กให้อร่อยนะ” เซียงเซียงจูงมือของขวัญขึ้นชั้นบนของบ้านทันที ตอนนี้เธอเองคงอยากจะสงบใจมากกกว่านี้
“ครีม นี่มันอะไร!!!!……….” ผมยังไม่ได้พูดอะไรต่อ เสื้อของผมก็โดนลากโดยคนที่ผมคิดว่า ขึ้นชั้นบนไปแล้ว ผมโดนลากขึ้นมาข้างบนด้วย แต่ผมไม่ได้อยากขึ้นมา ผมอยากจะคุยเรื่องนี้ให้รู้เรื่อง!!!!
“เจ็บใจนัก นี่ไม่ใช่น้องอัณณ์เลยสักนิด ผู้หญิงคนนั้น ทำอะไรกับอัณณ์ที่น่ารักของฉัน ของขวัญ ทำไมพี่อัณณ์ถึงผลักหนู” เซียงเซียงย่อตัวลงเพื่อถามลูก
“หนู หนู เพราะหนู อยากกินเค้กค่ะ ไม่ตีพี่อัณณ์ได้ไหมคะ” ของขวัญตอบออกมาไม่เต็มเสียง ผมจะต้องไปดุหน่อยแล้วแบบนี้มันอันธพาล ผมไม่เคยสอนสักหน่อย
“ไม่เป็นไร มันไม่ใช่ของเรา เราไม่ควรอยากได้ของคนอื่น ม้าสอนหนูแล้วใช่ไหมคะ” เธอสอนลูกดีจังเลย
“ทำไม พี่อัณณ์เรียกหม่าม้าว่าเมียน้อยคะ” คำถามนี้ทำเอาผมกับเซียงเซียงช็อคไปเลย เด็ก แค่ 7 ขวบ จะไม่รู้คำนี้เลย ถ้าผู้ใหญ่ไม่สอน ผมจะต้องจัดการเรื่องนี้แล้ว