บทที่ 3 : เดินหน้าจีบ (3)

1402 คำ
เช้าวันต่อมา… “สวัสดีค่ะ คุณหมอ” เสียงหวานใสมาพร้อมร่างเพรียวระหงในชุดเดรสลูกไม้สีหวานเข้ากับบุคลิกอ่อนหวาน ราวกับตั้งใจสวมบทนางเอกในละครที่กำลังออนแอร์อยู่ในตอนนี้อย่างจงใจ เจษฎาเงยขึ้นหน้าจากกองเอกสารมองใบหน้างดงามของหญิงสาวที่ทำตัวหายเงียบออกไปจากชีวิตของเขานานเกือบสามวันเต็ม หลังจากที่เขาปฏิเสธดินเนอร์กับเธอไปคราวก่อน ชายหนุ่มตั้งใจไว้แล้วว่าจะเป็นฝ่ายติดต่อเธอกลับไปเอง หากเธอยังทำตัวเงียบหายไปแบบนี้ แต่ยังไม่ทันได้ทำอย่างที่ใจคิดสาวเจ้าก็มาปรากฏตัวให้เห็นเสียก่อน “สวัสดีครับ คุณพรชดา” นายแพทย์หนุ่มทักทายตอบเสียงเรียบ เก็บซ่อนความดีใจไว้ภายใต้สีหน้าเคร่งขรึม เขาคิดว่าเธอโกรธจนถอดใจจากเขาไปแล้วเสียอีก “เรียกชดาเฉยๆก็ได้ค่ะ เรียกชื่อเต็มฟังดูห่างเหินแปลกๆ” หญิงสาวบอกพร้อมกับเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับชายหนุ่มอย่างถือวิสาสะ “ก็เรายังไม่สนิทกันจริงๆนี่ครับ” เจษฎาย้อนตามความจริง เพราะการรู้จักและเจอหน้ากันเพียงครั้งสองครั้งจะถือว่าสนิทก็คงไม่ใช่ แม้ลึกๆจะรู้สึกถูกชะตาราวกับรู้จักกันมานานแล้วก็ตาม “ว่าแต่คุณเถอะ วันนี้มีธุระอะไรกับผมงั้นเหรอ” ชายหนุ่มขมวดคิ้วถาม ขณะจ้องใบหน้างามนิ่ง ในใจลุ้นตามว่าวันนี้สาวเจ้าจะมาไม้ไหน “ค่ะ ธุระสำคัญ ชดาอยากจะได้ตารางเวลางานของคุณหมอค่ะ” หญิงสาวแจ้งความประสงค์ที่มาวันนี้พร้อมระบายยิ้มรอคำตอบกลับจากชายหนุ่ม ส่งผลให้คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูงด้วยความไม่เข้าใจ “จะเอาตารางงานของผมไปทำอะไร” เจษฎาถามด้วยความสงสัย และก็ได้รับความกระจ่างในเวลาต่อมา “เอาไปวางแผนเวลาจีบคุณหมอไงละคะ เพราะถ้านัดคุณหมอผิดเวลาก็จะได้รับคำปฏิเสธกลับมา ชดาเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครปฏิเสธก็เลยต้องการรายละเอียดตารางเวลางานคุณหมอ จะได้วางแผนเวลานัดหมายคุณหมอได้ถูก” น้ำเสียงจริงจังและหนักแน่นบ่งบอกชัดว่าเธอไม่ได้พูดเล่น แต่คำขอของเธอทำให้ชายหนุ่มนิ่งเงียบไปพักหนึ่งอย่างใช้ความคิด “คุณหมอมีปัญหาอะไรงั้นเหรอคะ” เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไปนาน คนที่ไม่ค่อยจะมีความอดทนในการรอคอยใครนานๆอย่างพรชดาก็เอ่ยถาม “ถึงผมจะมีตารางงานที่ชัดเจน แต่เวลาของผมก็ไม่แน่นอนอยู่ดี เพราะผมไม่รู้ว่าจะมีคนไข้ฉุกเฉินเข้ามารักษาตัวเมื่อไหร่ ฉะนั้นถึงผมจะให้ตารางงานกับคุณไป ก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะไม่ถูกปฏิเสธ” “แต่อย่างน้อยก็ลดโอกาสที่จะถูกปฏิเสธมากกว่า 90% ” หญิงสาวไม่ยอมลดละความพยายาม ยังคงความตั้งใจแน่วแน่ไว้อย่างเต็มเปรี่ยม จนอีกฝ่ายเริ่มจะใจอ่อน “ก็ได้ ผมจะให้เลขาเอาตารางงานมาให้คุณก็แล้วกัน” เจษฎาตัดสินใจให้ในสิ่งที่เธอขอ ทั้งที่ไม่เคยคิดจะทำอะไรที่เสี่ยงกับเวลาส่วนตัวแบบนี้มาก่อน เพราะเขาไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายกับชีวิตของเขาสักเท่าไหร่ “ขอบคุณค่ะ” เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ พรชดาก็ระบายยิ้มกว้างอย่างพอใจ ไหนๆวันนี้ก็มาแล้ว เธอตั้งใจไว้ว่าจะบอกความประสงค์กับชายหนุ่มให้หมด จะได้ไม่เสียเที่ยว “ชดาจะไม่อ้อมค้อมแล้วนะคะคุณหมอ” พรชดาเริ่มเข้าเรื่อง ยืดอกนั่งตัวตรงจ้องใบหน้าหล่อเหลานิ่ง ‘ผมก็ไม่เคยเห็นว่าคุณจะอ้อมค้อมสักที’ เจษฎาเหน็บอีกฝ่ายในใจ ขณะที่ตั้งใจฟังว่าเธอจะเอ่ยอะไรที่ทำให้เขาเซอร์ไพสได้อีก “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ชดาจะเริ่มแผนปฏิบัติการช่วงชิงหัวใจของคุณหมอแล้วนะคะ” “แผนปฏิบัติการช่วงชิงหัวใจงั้นเหรอ” ชายหนุ่มผู้กำลังจะเป็นฝ่ายถูกช่วงชิงหัวใจย้อนถามด้วยน้ำเสียงขบขัน ท่าทางและสีหน้าจริงจังของนางเอกสาวกำลังทำให้เขาหลุดคุมมาดเคร่งขรึมของตัวเองไปชั่วขณะ “ค่ะ ปฏิบัติการนี้จะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ชดาจะเดินหน้าจีบคุณหมอแบบจริงจังค่ะ” หญิงสาวยอมรับ พร้อมบอกความตั้งใจของตัวเองด้วยน้ำเสียงหนักแน่น บ่งบอกชัดว่าเธอนั้นตั้งใจทำอย่างที่ประกาศไว้จริงๆ “อะไรที่ทำให้คุณคิดจะเดินหน้าจีบผมละครับคุณชดาพร” “เพราะคุณหมอหล่อ ใจดี อบอุ่น เป็นชายในฝันของผู้หญิงหลายๆคน และที่สำคัญคุณหมอยังโสดไงละคะ” ตอบแบบไม่ต้องคิด เพราะเธอเห็นและเคยสัมผัสมาบ้างแล้ว ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็เถอะ “ผมเป็นชายในฝันของผู้หญิงหลายคน รวมทั้งคุณด้วยหรือเปล่า” อันที่จริงเจษฎาก็พอจะรู้ตัวว่าตัวเองนั้นมีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามพอตัว ไม่เพียงแต่พยาบาลในโรงพยาบาลจะทิ้งสายตาให้อยู่บ่อยๆ แต่ยังมีคนไข้อีกหลายรายที่เลือกมารักษาตัวที่โรงพยาบาลนี้เพียงเพราะต้องการเห็นหน้าเขาเท่านั้น แต่ไม่มีสักครั้งที่จะรู้สึกดีกับคำชมและเสน่ห์เหลือล้นของตัวเองอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ “แน่นอนค่ะ” คำตอบหนักแน่นและรวดเร็วโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดนั้นส่งผลให้เจ้าของคำถามต้องคลียิ้มออกมาบางๆ “แล้วมั่นใจได้ยังไงละครับว่าผมยังโสด” ชายหนุ่มขมวดคิ้วถาม พลางเอนหลังพิงกับผนังเก้าอี้ตัวใหญ่ในท่าทางสบายพร้อมรอฟังคำตอบอย่างใจเย็น แอบรู้สึกดีอยู่ลึกๆที่เป็นชายในฝันของเธอด้วย “ที่ชดามั่นใจก็เพราะประการแรกคุณหมอไม่เคยมีข่าวรักๆใคร่ๆกับใคร ประการที่สองคุณหมอควบสองตำแหน่งทั้งผู้อำนวยการโรงพยาบาล ทั้งแพทย์ผ่าตัดมือหนึ่งของโรงพยาบาล แค่นี้ก็ไม่มีเวลาหาแฟนแล้วค่ะ” “อืม…แล้วคุณไม่กลัวเหรอถ้าเกิดได้ผมเป็นแฟน แล้วผมไม่มีเวลาให้กับคุณ” เจษฎาถามออกไปตรงๆ เพราะสิ่งที่เธอพูดมาเป็นเรื่องจริงทั้งหมด และปัญหาใหญ่ที่สุดของเขาตอนนี้ก็เห็นจะเป็นเรื่องของเวลาอย่างที่เธอพูดไว้จริงๆ “ถ้าชดากลัว ชดาจะจีบคุณหมอทำไมละคะ” หญิงสาวย้อนถามด้วยท่าทางที่ไม่ทุกข์ร้อน ขณะเดียวกันใบหน้างามก็ปรากฏรอยยิ้มบางๆที่สามารถเขย่าหัวใจของคนตรงหน้าได้อย่างจัง แค่ได้เห็นหน้าและพูดคุยก็รู้สึกดีมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดหวานหรือได้รับการเทคแคร์ตอบกลับมาจากชายหนุ่ม พรชดาก็มั่นใจว่าตัวเองสามารถรับมือไหว “งั้น…ผมอนุญาตให้คุณเดินหน้าจีบได้เลย” “พูดแล้วอย่าคืนคำนะคะคุณหมอ เพราะงานนี้ชดาทุ่มสุดหัวใจ และที่สำคัญชดารักจริงหวังแต่งนะคะ” ‘รักจริงหวังแต่ง!’ เจอประโยคนี้เข้าไปเจษฎาถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย แต่กระนั้นก็ไม่ได้รู้สึกแย่กับสิ่งที่เธอพูด ตรงกันข้ามกลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่างานนี้เขาควรจะเตรียมตัวรับมือกับเธอแบบไหนดี เพราะตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะเคยพบเคยเจอผู้หญิงที่ชัดเจนขนาดนี้ “วันนี้ชดารบกวนเวลาของคุณหมอเท่านี้นะคะ คุณหมออย่าลืมเตรียมตัวเตรียมใจถูกชิงหัวใจด้วยนะ เพราะถ้าเตรียมใจไม่ดีจะตกเป็นเจ้าบ่าวของชดาแบบไม่ทันตั้งตัว” เสียงหวานบอกก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วหมุนตัวก้าวยาวๆออกจากห้อง แต่ก็ไม่ลืมที่จะส่งยิ้มหวานทิ้งท้ายลาให้อีกฝ่ายใจละลายเล่น “อยากรู้จริงๆว่าเธอไปเอาความมั่นใจ และความขี้หลงตัวเองมาจากไหนกัน พรชดา” เจษฎาพึมพำตามหลังร่างเพรียวระหงเบาๆ พลางระบายยิ้มเอ็นดูกับความมั่นอกมั่นใจของเจ้าหล่อนที่ดูเหมือนจะไม่มีใครเกิน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม