“แยกย้ายกัน”

1740 คำ
“เชี่ย กูไม่ทำเด็ดขาด มึงหุบปากไปเลย เรื่องนี้ไม่มีในหัวกู” ตองเก้ารีบเอ่ยปฏิเสธอย่างรวดเร็ว เรียกค่าไถ่มันเป็นอะไรที่ใหญ่เกินตัว อีกอย่างก็ไม่เคยมีในหัวของเธอด้วย “งานนี้งานเดียว ถ้าทำแล้วได้เงินมาเยอะ ๆ แบ่งกันแล้วเลิกทำอาชีพนี้ เราจะได้ไปเริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่กันที่อื่นไง ถ้ามันสำเร็จ เราจะไม่ต้องลำบากกันอีกแล้ว” หมัดเอ่ย “แล้วตระกูล​ที่ต้องจ่ายให้เราตระกูล​ไหนวะ ทวนให้กูฟังอีกสิ” “ดำรงค์​พงษ์​เมธา​” “ตระกูล​นี้อย่างน่ากลัว กูไม่เสี่ยงเด็ดขาด อีกอย่างกูก็ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของตระกูลนี้ด้วย กูรู้แต่ว่าตระกูลเขาเป็นมาเฟีย รู้แค่นั้นจริง ๆ” โขงเอ่ย “ใครจะอยากไปยุ่งกับตระกูลดำรงค์พงศ์เมธาวะ ตระกูลนี้เป็นตระกูลใหญ่ ถ้าพลาดมามึงกูแล้วก็มันตายห่าแน่นอน รีบกลับกันเถอะตอนบ่ายกูมีเรียน” ตองเก้าเอ่ย “เพิ่งจะเริ่มเอง มึงอย่าเพิ่งกลัวไปอีตอง มึงไม่อยากมีเงินไปเรียน มีเงินไปไว้ให้ป้ามึง มีเงินแล้วเลิกทำอาชีพโจรเหรอวะ?” หมัดว่าแล้วนั่งลงบนเสาศาลพระภูมิที่เขาเอามาทิ้งข้างวัด “ไอ้อยากมีมันก็อยากมี แต่ความเสี่ยงมันไม่คุ้มนะ ไอ้กูกับมึงไม่เท่าไหร่หรอก ถ้าไอ้โขงมันโดนจับล่ะ ลูกกับแม่มันจะอยู่ยังไง” “กูมั่นใจว่ากูจะไม่พลาด” “เฮ้อ กูไม่เอาด้วยวะ ขายตัวค้ายา จับตัวคนไปเรียกค่าไถ่ กูไม่เอาเด็ดขาด หัวเด็ดตีนขาดกูก็ไม่ทำ” ตองเก้าทรุดกายลงนั่งที่โคนต้นไม้ ทั้งสามใบหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที เครียดกับความเสี่ยงที่ไม่รู้ว่ามันจะคุ้มหรือเปล่า “ใครว่ากูจะให้พวกมึงกับกูไปจับคนมาเรียกค่าไถ่วะ” “ถ้าไม่จับคนไปเรียกค่าไถ่แล้วมึงจะจับอะไรไปเรียกค่าไถ่ หมาของตระกูลนี้เหรอ?” “หึ ไม่ใช่หมา” “แล้วมันคืออะไร?” “นั่นสิ” ตองเก้าทำท่าทางครุ่นคิด แต่ก็คิดไม่ตก รู้สึกงงระคนสงสัย ไม่ได้เรียกค่าไถ่คน ไม่ได้เรียกค่าไถ่หมา แล้วจะเรียกค่าไถ่อะไร “มึงลุกแล้วดูมือกู” ตองเก้าลุกแล้วเพ่งสายตามองปลายนิ้วของหมัดที่ชี้ไปยังเป้าหมาย “เชี่ย” โขงทำหน้าตาตื่น “นี่แหละที่กูจะเรียกค่าไถ่” “ลุงชัยสัปเหร่อ​นี่นะ” เพี๊ยะ! ฝ่ามืออรหันต์ของหมัดฟาดลงบนหัวโขงทันที “โอ๊ย เชี่ย สมองกูเคลื่อนหมดแล้วมั้ง” “ลุงชัยพ่องมึงสิ” หมัดตะคอก​โขงเสียง​ดังลั่น จ้องหน้าเพื่อนรักอย่างไม่พอใจ “เอ้า ไอ้เวรนี่” โขงลูบหัวปอย ๆ “เราจะเอาโกศกระดูกไปเรียกค่าไถ่กัน เรียกสักสามสิบล้านแล้วแบ่งกันคนละสิบล้าน ถ้าสำเร็จเราก็เลิกทำอาชีพโจรกันสักที เสี่ยงครั้งเดียวถ้ามันสำเร็จ มันจะคุ้มที่สุด คุ้มกว่าทุกครั้งที่เราทำอาชีพนี้มา” “กูไม่เอา กูไม่เอาด้วยหรอกนะ... เรื่องนี้มัน...” ครืด! ครืด!. ตองเก้าพูดไม่ทันจบเสียงโทรศัพท์​ก็แผดเสียง​ร้องขึ้น มือเล็กหยิบโทรศัพท์​ซัมซุงฮีโร่รุ่นยางรัดขึ้นมากดรับ “โอ้โห โทรศัพท์​ของมึงนี่สุดยอดเมื่อไหร่จะซื้อใหม่สักทีวะ “รุ่นนี้แหละทนทาน” ตองเก้ายกโทรศัพท์​แนบหู “ฮัลโหล” (อีตอง มึงมาประกันตัวกูหน่อยสิวะ)​ ป้าของตองเก้าเอ่ยเสียงสั่น เหมือนกำลังหวาดกลัวในสิ่งที่เกิดขึ้น ตองเก้าขมวดคิ้วคิดหนัก ป้าเธอจะสร้างวีรกรรม​เหมือนทุก ๆ ครั้งเป็นแน่ “เฮ้อ ไหนป้าบอกว่าจะไม่เล่นไพ่เพราะกลัวติดโควิด คล้อยหลังฉันป้าก็ไปเล่นอีก ไม่รู้จักเกรงกลัวอะไรเลย” (กูไม่ได้โดนจับไพ่ แต่กูโดนจับเพราะหวยใต้ดินต่างหาก)​ “งั้นป้าก็นอนคุกไปสักวัน” ตองเก้าเอ่ยน้ำเสียงระอา ถึงจะไม่อยากแสดงกิริยา​หรือวาจาที่ไม่ดีกับผู้เป็นป้า แต่ระอาเต็มทน ที่ป้าของเธอเอาแต่หาเรื่องมาให้ปวดหัว (ไม่ได้นะตอง กูโดนอีกคดีด้วย)​ “โอ๊ย ป้าโดนก็นอนคุกไปเถอะ” (กูโดนตำร​วจ​จับเรื่องยาพีด้วย” “ห้ะ!” ตองเก้าอุทานออกมาดังลั่น ป้าของเธอข้องเกี่ยว​เรื่องยาได้อย่างไร (ไอ้เวรตะไลไหนไม่รู้เอายามาซ่อนไว้กระถางบ้านเรา ตำรวจไม่จบแน่ ตองต้องมาประกันป้านะ” “เงินประกันเท่าไหร่ ตำร​วจ​ได้บอกไหม” (ห้าแสน)​ “ห้ะ!” ตองเก้าอุทานออกมาอีกรอบ (ห้าแสน) “โอ๊ย ป้าดวงสมร ป้าจะให้ฉันไปหาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากที่ไหน” (ไม่รู้แหละรู้แต่ว่ามึงต้องช่วยกู ถ้ามึงไม่ช่วย มึงก็คือหลานอกตัญญู กูอุตส่าห์เลี้ยงมึงมาตั้งแต่มึงตีนเท่าฝาหอย จนตอนนี้หอยเท่าฝาตีนแล้ว มึงต้องตอบแทนกู ตอบแทนคนที่ให้ที่อยู่ที่กินที่ซุกหัวนอน ถ้ามึงไม่ทำมึงก็คือหลานอกตัญญู หลานเนรคุณ)​ ดวงสมรใส่หลานเป็นชุด ๆ พร้อมกับก่นด่าไล่หลังอีก ตองเก้าถึงกับกรอกตามองบนพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ “แต่เงินมันเยอะป้าก็รู้นี่ว่าฉันไม่มีตังค์ ที่ฉันหาเงินมาได้ทุกวี่ทุกวันฉันก็ให้ป้าไปหมด ตอนนี้สถานการณ์โรคระบาดก็ยังไม่ดีขึ้น จะให้ฉันไปหาเงินจากที่ไหน” (กูไม่รู้​แต่มึงต้องหา)​ “ไม่มีใครคิดอยากจะออกจากบ้านกันเลยเหยื่อก็ไม่มี ตอนนี้ฉันก็อับจนหนทางเหมือนกัน ป้าอย่าบีบบังคับฉันหน่อยเลย” ตองเก้าเอ่ยอย่างเหนื่อยใจ ที่ผ่านมาเธอหยิบยื่นเงินให้ผู้เป็นป้าตลอด ไม่มีวันไหนที่เธอจะไม่ให้เลย แต่ครั้งนี้เธอไม่มีจริง ๆ แล้วเงินจำนวนห้าแสนบาทมันก็ไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ สำหรับคนที่ไม่ได้มีงานดี ๆ ทำ ไม่ได้มีเงินเก็บอย่างเธอ มันถือว่าเป็นเงินจำนวนมากมาย ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะหามันมาได้ “ไม่รู้แหละ มึงต้องไปหามา ถ้ามึงไม่หามากูก็จะโดนจับเข้าคุกใหญ่ มึงต้องช่วยกูนะอีตองมึงต้องช่วยกู มึงต้องช่วยกูนะ ยังไงกูก็เป็นป้ามึงที่เลี้ยงดูมึงมาตั้งแต่มึงยังเด็ก” ปลายสายร้องไห้แล้วกดวาง ตองเก้าเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ อีกครั้ง เธอรู้สึกเหนื่อยล้าและรู้สึกเซ็งเป็นอย่างมาก บางครั้งก็รู้สึกระอาผู้เป็นป้า สร้างเรื่องสร้างราวตลอด เวลาที่ป้าดวงสมรถูกจับเรื่องการเล่นพนันเธอจะไปประกันตัวตลอด มันก็ไม่ได้เสียเงินจำนวนมากมายเธอจึงช่วยมาได้ทุกครั้ง แต่นี่ป้าของเธอพ่วงกับคดียาเสพติด แล้วเธอจะหาเงินจากไหนมากมาย ไปประกันตัวป้าผู้เลี้ยงดูมา ตองเก้าคิดไม่ตกจริง ๆ “มึงเป็นอะไรวะอีตอง” หมัดเอ่ยถามพร้อมกับจ้องเพื่อนรักอย่างรอคำตอบ “ก็ป้ากูสิวะโดนจับทั้งหวยใต้ดินทั้งยาพี แล้วก็รอให้กูไปประกันตัวด้วย กูนี่อย่างเซ็งเลยจะปล่อยให้นอนคุก กูก็เป็นหลานอกตัญญูอีก” “เชี้ย ทำไมมันเกิดเรื่องแบบนี้ได้วะ ปกติป้าดวงสมรแกจะเป็นคนเล่นไพ่เล่นหวย ปากไม่ดีด่าคนไปทั่ว แต่แกก็ไม่เคยยุ่งเรื่องยาเสพติดไม่ใช่เหรอวะ” “ก็ไม่รู้ไอ้เวรตัวไหนเอายาไปไว้หน้าบ้านกูน่ะสิ ป้าก็เลยซวยไปด้วย ตอนนี้คือกูต้องหาเงินจำนวนห้าแสนไปประกันตัวป้ากู” “งั้นมึงก็ต้องทำงานนี้แล้วแหละ” “งานอะไรวะ?” ตองเก้าขมวดคิ้วพร้อมกับจ้องหน้าเพื่อน “เอ้า ก็งานที่กูว่านี่แหละ เรียกค่าไถ่สามสิบล้าน ถ้าได้เงินมาเราเลิกทำอาชีพโจร มึงก็จะได้มีเงินไปตั้งตัวไปประกันป้ามึง แล้วเราจะหายไปจากสลัมแห่งนี้ด้วยกัน” “ถ้าพลาดคือตายนะ” ตองเก้าเลิกคิ้วขึ้น “ที่เราใช้ชีวิตทุกวันนี้ก็ลำบากแทบตาย ยอมเสี่ยงบ้างก็ไม่เป็นไรหรอก เผื่อทุกอย่างมันจะดีขึ้น” “...” “มึงเชื่อกูสิตอง มันไม่มีทางเลือกแล้ว มึงต้องลองเสี่ยง” “...” “มึงเชื่อกูสิตอง ไอ้โขงด้วย พวกมึงสองตัวต้องเชื่อกู ถ้าไม่พลาดคือคนละสิบล้านแน่นอน” “แบบนี้ก็ดีนะ กูจะได้พาแม่พาลูกกูไปอยู่ที่อื่น อยู่ในที่ที่มีพวกมึงสองคนที่เป็นเพื่อนรักเพื่อนแท้ของกู” โขงเอ่ยแทรก ตอนแรกเขาก็รู้สึกกลัว แต่ตอนนี้อยากลองเสี่ยงดู คนที่มีเงินมากมายขนาดนั้น เขาอาจจะยอมเสียเงินจำนวนสามสิบล้าน เพื่อแลกกับกระดูกของเมียรัก พวกเขาจะได้หลุดพ้นจากความยากลำบากกันสักที คนที่รวยเขาก็จะไม่รู้หรอกว่าคนที่เขาจนมันลำบากแค่ไหน ต่อให้พยายามกัดฟันดิ้นรนทุกอย่าง ก็ใช่ว่าจะมีขึ้นมาได้ง่าย ๆ ความลำบากที่แบกรับทุกวัน มันทำให้ทั้งสามเกิดความสิ้นคิด และเลือกที่จะทำอะไรโง่ ๆ “งั้นกูทำ เริ่มวันไหน” ตองเก้าตัดสินใจเอ่ยออกมา “วันนี้ พอลุงแกเก็บกระดูกเสร็จ​กูจะจัดการเอง ส่วนมึงอีตอง มึงไปเปลี่ยน​โทรศัพท์​แล้วหาข้อมูล​ตระกูล​นี้ เราจะได้เริ่มกันสักที” “แต่วันนี้กูมีเรียน​” “เพื่อนมึงที่เรีย​นมหา'ลัยน่าจะมีข้อมูล​ มึงรีบไปจัดการ” “แล้วไอ้โขงทำไร” “แดกเหล้าเป็นเพื่อนลุงชัย” “โอเค งั้นพวกมึงเริ่มเลย กูจะไปหาข้อมูลจะเอาโอเลี้ยงไปฝากป้ากูด้วย พอเสร็จ​เรื่องป้ากูจะไปซื้อโทรศัพท์​แล้วไปมหาวิทยาลัย​” “อื้ม” “แยกย้ายกัน” ตองเก้าว่าแล้วเดินออกมา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม