และแล้วก็ใกล้ถึงเวลาที่ตุ้ยนุ้ยจะได้เดินทางไปกรุงเทพฯเพื่อเรียนต่อมหาวิทยาลัย ก่อนหน้านี้หญิงสาวได้ร่วมพิธีปัจฉิมนิเทศที่โรงเรียน โดยมีคุณพ่อและคุณแม่มอบช่อดอกไม้และของขวัญให้ในวันสำคัญ มาร์คเองเขาก็ได้เตรียมของขวัญให้หญิงสาวเช่นกัน แต่ว่ายังไม่ได้มอบให้เพราะว่าจะรอให้เจอกันที่กรุงเทพฯก่อนแล้วค่อยให้ทีเดียว
ตอนนี้เด็กสาวกำลังเก็บกระเป๋าเตรียมตัวเดินทางไปที่กรุงเทพฯ ส่วนเรื่องที่พักตอนแรกคุณพ่อจะให้อยู่หอใน แต่พอมาคิด ๆดูถ้าเกิดว่าขึ้นปี 2 จำเป็นต้องย้ายออกมาอยู่ข้างนอกอยู่ดี เพราะฉะนั้นเธอจึงคุยกับท่านว่าเช่าอยู่ข้างนอกไปเลยจะได้ไม่ต้องโยกย้ายไปมา ซึ่งท่านก็เห็นด้วยจึงเลือกคอนโดที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัย จะได้เดินทางสะดวกและปลอดภัยด้วย
"ตุ้ยนุ้ยหนูเก็บกระเป๋าเสร็จหรือยัง"
"เรียบร้อยแล้วค่ะคุณแม่ งั้นเดี๋ยวหนูเอากระเป๋าไปขึ้นรถก่อนนะคะ"
"ไม่เป็นไรลูกเดี๋ยวให้คุณลุงมาช่วยยกลงไป"
"งั้นก็ได้ค่ะ"
เด็กสาวยิ้มกว้างออกมาก่อนจะสวมกอดเอวคุณแม่เอาไว้แน่น เธอจะต้องคิดถึงพวกท่านมากแน่นอนเลยเพราะว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยจะต้องห่างจากอกของพวกท่าน แต่ยังไงเวลานี้ก็ต้องมาถึงในสักวัน และยิ่งมีลูกสาวด้วยพวกท่านจะต้องเผื่อใจเอาไว้
"ต้องคิดถึงคุณพ่อกับคุณแม่แน่นอนเลยค่ะ"
"ก็วิดีโอคอลคุยกันทุกวันก็ได้ ไม่ต้องคิดมากนะลูกหนูไปเรียนก็ต้องตั้งใจเรียนหนังสือรู้หรือเปล่า ถ้ามีอะไรก็โทรศัพท์มาหาพ่อกับแม่"
"หนูจะตั้งใจเรียนให้จบ จะไม่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังค่ะ"
เด็กสาวตกปากกับคำคุณแม่อย่างดี เธอจะตั้งใจเรียนให้จบจะได้มาช่วยงานที่ไร่ของคุณพ่อ พวกท่านมีเธอเป็นลูกเพียงคนเดียว อนาคตก็คงอยากจะให้เธอมาสานต่องานที่ท่านทำ เธอจึงเลือกเรียนบริหารเพื่อที่จะได้ต่อยอดธุรกิจของที่บ้าน
"เก่งมากเลยลูก หนูเป็นความหวังของพ่อกับแม่นะ ทุกคนคนรักหนูมากรู้ใช่ไหม"
"รู้ค่ะ หนูก็รักทุกคนมากเหมือนกัน ถ้างั้นไปกันเถอะค่ะพร้อมแล้ว"
สองแม่ลูกควงแขนกันเดินลงไปชั้นล่าง คุณลุงเดินขึ้นมาช่วยยกกระเป๋าไปใส่ที่รถตู้ และวันนี้คุณพ่อคุณแม่ของเธอจะขับรถพาลูกสาวไปส่งถึงที่กรุงเทพฯ ข้าวของที่พกติดรถมาด้วยมีหลายอย่างถ้าเดินทางมาเองคงเอาติดตัวมาด้วยลำบาก
ทั้ง 3 คนนั่งอยู่ข้างในรถคุยกันไปเพลิน ๆโดยมีคนขับรถขับให้ตลอดทาง สลับพักผ่อนบ้างเป็นเรื่องปกติและกว่าจะมาถึงใช้เวลาเดินทางเกือบ 10 ชั่วโมง
รถตู้เคลื่อนที่มาจอดหน้าคอนโดใกล้กับมหาวิทยาลัย ทั้งหมดช่วยกันขนของไปยังห้องของตุ้ยนุ้ย ช่วยกันจัดห้องอยู่เกือบ 2 ชั่วโมงก่อนจะพากันออกไปหาอะไรกินและขับรถสำรวจสถานที่โดยรอบ
"แถวนี้น่าอยู่เหมือนกันนะเนี่ย มีของกิน มีตลาดนัดเยอะแยะไปหมด"
"ดีแล้วค่ะลูกจะได้ไม่ต้องออกไปไหนไกล"
"ก็จริงนะ ถ้างั้นตุ้ยนุ้ยหนูไปพักผ่อนได้แล้วพ่อกับแม่จะเดินทางกลับ ส่วนเงินพ่อโอนให้ในบัญชีหนูแล้วนะเอาไปรายงานตัวด้วย และถ้าขาดเหลืออะไรก็โทรมาบอก เป็นเด็กดีนะลูก"
เด็กสาวสวมกอดเอวคุณพ่อเอาไว้น้ำตาคลอเบ้า เธอจะต้องห่างจากอกพ่อแม่ ทำใจยากมากมากพอสมควร แต่เธอจะต้องอยู่ให้ได้เพื่ออนาคตของตัวเอง อีกอย่างที่นี่เธอมีพี่มาร์คคอยดูแล จึงทำให้ไม่เหงาเท่าไหร่
"เดินทางปลอดภัยนะคะพ่อ รักพ่อนะคะรักแม่ด้วย"
"พ่อกับแม่ก็รักหนู ไปเถอะขึ้นห้องได้แล้วถ้าเกิดว่าถึงที่ไร่เดี๋ยวพ่อกับแม่จะโทรหา"
"รับทราบค่ะ"
เด็กสาวพระออกก่อนจะโบกมือลาคุณพ่อกับคุณแม่ด้วยใบหน้าเศร้าหมอง พวกท่านลูบผมลูกสาวอย่างอ่อนโยน ในใจอยากจะให้เรียนมหาวิทยาลัยใกล้บ้าน แต่เนื่องจากความประสงค์ของลูกคืออยากเรียนมหาวิทยาลัยดัง ๆ พวกเขาจึงปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของลูก
ตุ้ยนุ้ยมองตามรถตู้ของครอบครัวออกไปจนลับสายตา ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและมีข้อความจากมาร์คส่งมาอยู่หลายข้อความ
'หนูมาถึงกรุงเทพฯหรือยังคะ"
'หายไปเลยอยู่ไหนเนี่ย'
'ถึงคอนโดหรือยัง'
เด็กสาวยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะรีบโทรศัพท์กลับไปหาชายหนุ่ม เพียงไม่นานเขาก็กดรับสายด้วยความรวดเร็วเหมือนรออยู่แล้ว
(ว่าไงคะสุดสวยของพี่ มาถึงยัง)
"ถึงแล้วค่ะ พ่อกับแม่เพิ่งจะกลับไปเองทำไมเหรอคะคิดถึงอยากมาหาเหรอ"
(ตอนแรกว่าจะไปรับ แต่เห็นหนูเดินทางมาเหนื่อย ๆเลยว่าจะปล่อยให้พักผ่อนสักวัน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปรับออกมากินข้าวตอนเช้าค่ะ)
มาร์คระบายยิ้มออกมาอย่างโล่งอกที่หญิงสาวเดินทางมาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ไอ้เราก็ห่วงมากเพราะเดินทางมาไกลตั้ง 10 ชั่วโมง ไถ่ถามตลอดทางจะโทรศัพท์ก็ไม่กล้าเพราะเธอไม่ได้มาคนเดียว
"ก็ดีค่ะ ตุ้ยนุ้ยว่าจะขอนอนพักสักวัน นี่กำลังขึ้นคอนโดแล้วค่ะว่าแต่พี่อยู่ที่ไหนคะ คิดถึงจัง"
(ไปหาตอนนี้เลยได้มั้ย พูดขนาดนี้ ฮึ่มมมม)
เขาถึงกับคำรามออกมาด้วยความหื่นกระหาย ตั้งแต่ที่คุยกับตุ้ยนุ้ยมาสองปีกว่า เขาไม่เคยคุยกับผู้หญิงคนอื่นหรือไปนอนกับใครทั้งนั้นเพราะว่าจะต้องทำตัวบริสุทธิ์ผุดผ่องให้สุดที่รักภูมิใจในตัวของเขา
"ระวังคุกนะคะ ตุ้ยนุ้ยยังอายุไม่ถึง 18นะ"
(เดือนหน้าก็จะ 18 แล้วนี่นา กำลังคิดว่าจะให้ของขวัญอะไรดีนะหนูถึงจะซาบซึ้งใจและตราตรึงไปจนตาย)
ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ เดินออกมาจากห้องทำงานพร้อมกับผู้ช่วยและระหว่างยืนรอลิฟต์ก็คุยโทรศัพท์กับหญิงคนรักไปด้วย
"แค่มาอวยพรก็ดีใจแล้วค่ะ ไม่ต้องซื้ออะไรให้นะคะ"
(แต่พี่มีของขวัญให้หนูนะพรุ่งนี้ รับรองว่าต้องชอบแน่นอน)
"จริงเหรอคะ ถ้าแพงไม่เอานะคะ"
(ไม่แพงหรอกน่า งั้นพี่กลับบ้านก่อนเดี๋ยวดึก ๆพี่โทรหาค่ะ หนูนอนไปก่อนนะ)
"ได้ค่ะ รักนะคะ"
(รักเหมือนกันค่ะ จุ๊บ)
เขาจูบโทรศัพท์ประหนึ่งคนคลั่งรักจนผู้ช่วยถึงกับอดทนดูไม่ได้ และเมื่อเขากดวางสายก็หันไปหาผู้ช่วยทันที
"กฤต วันนี้นายไปซื้อรถเวฟ 125 สีแดงไปจอดทิ้งไว้ให้ที่คอนโดหน่อย แล้วก็เดี๋ยวตามไปที่รถ เอานาฬิกาปาเต๊ะไปใส่ถุงกระดาษให้หน่อย ส่วนกล่องกับใบรับประกันเอาไว้ที่ห้องทำงานฉันนะ"
"โห... เรือนห้าแสนคุณมาร์คจะให้ผมเอาไปใส่ถุงกระดาษเนี่ยนะ"
"ทำไงได้ แฟนฉันไม่ชอบของแพงอ่ะ คราวนี้บอกว่าราคา 999บาทก็พอ"