เกมครั้งที่แล้วทำเอาผินอินรู้สึกปั่นป่วนในท้องแบบบอกไม่ถูก
พอกลับออกมาจากแคปซูลสุญญากาศกลับรู้สึกทั้งง่วงและเพลียหนักกว่าเดิม อาจเป็นเพราะสภาพของบรรยากาศในโลกเกมแบบทางลัด เป็นลักษณะไร้แรงโน้มถ่วงมากกว่าโลกเดิม
เมื่อฟื้นตื่นออกมานอกจากอาการอิ่มจนจุก ทำให้คล้ายจะท้องเสียตลอดเวลา ยังมีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย
“ตายล่ะ กินเยอะขนาดนี้ นอกจากจะอยากอาเจียน ยังเหมือนตูดจะใหญ่ขึ้นด้วย”
ผินอินรู้สึกถึงน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว เธอมันพวกอ้วนง่าย แตะนิดแตะหน่อยน้ำหนักก็คอยจะขึ้น
“ทำไงดี ทำไงดี แบบนี้สเตจหน้าตายแน่ แถมต้องกลับเข้าโลกเดิมด้วย”
แสงสว่างปรากฏขึ้นเหนืออาเขต
ผินอินนอนหงายท้องแผ่หลามองดูเกมมาสเตอร์กำลังลอยลงมาอย่างช้า ๆ
“แหม ลอยลงมาอย่างกับนางฟ้าเชียวนะ”
[ มาสเตอร์ มาสเตอร์ ขอแจ้งชื่อสเตจต่อไปให้ได้ทราบ ]
“แข่งไม่ไหวย่ะ พุงออก ตูดปลิ้นขนาดนี้ จะเอาแรงไหนไปสู้ ถ้าขืนจับเข้าไปเล่นจะประท้วงด้วยคำร้องผ่านอาเขตให้ดู”
[ ระบบของอาเขต รันไปตามโปรแกรม เวลาก็เช่นกัน ดังนั้นหากท่านผู้เข้าแข่งขันต้องการแจ้งความผิดปกติ กรุณาติดต่อฝ่ายประสานงาน ]
“หื้อ... มีด้วยเหรอ?”
[ ผู้เข้าแข่งขันต้องการแจ้งเหตุไม่สะดวกเพื่อรับการแก้ไขหรือไม่คะ ]
“เอาสิ เอาสิ แจ้งแน่นอน ว่าแต่... จะแจ้งตรงไหนล่ะ?”
[ ซ้ายมือของอาเขต เมื่อเดินไปสุดกำแพงจะพบปุ่มสีชมพู กรุณากดเพื่อรายงานปัญหา ]
ผินอินรู้ดีว่าแค่เดินยังคงเดินแทบไม่ไหว แต่เมื่อลุกขึ้นพร้อมความหวังเพื่อต้องการหนทางการแก้แค้น เดินไปกระทั่งพบเขตสุดท้าย มีป้ายแถบผ้าเหลืองดำพาดปิดทางเข้าไว้
“โห่! ทำอย่างกับพื้นที่หวงห้าม”
เมื่อเดินเข้าไปใกล้พบว่ามีตู้ไปรษณีย์สีชมพูเข้มดีดตัวขึ้นมาจากพื้น
ผินอินแทบช็อกเพราะมันผุดขึ้นมาเหมือนดอกเห็ด
[ มาสเตอร์ มาสเตอร์ ไม่ทราบมีเรื่องอะไรให้ช่วยคะ ]
“ให้ตายสิ มันมีมาสเตอร์หน้าตาแบบอื่นบ้างไหมนะ รู้อยู่หรอกว่าเป็นอาเขตจีนโบราณ แต่ก็น่าจะมีมาสควอตตัวอื่นบ้างก็ดีนะ”
ผินอินพาร่างอืดอาดของตนลุกขึ้น
“อยากได้ยาอะไรสักอย่างที่ทำให้หายพะอืดพะอม หรือไม่ก็มีโปรแกรมอะไรที่ทำให้ร่างกายกลับสู่สภาพเดิมบ้างไหม”
[ รับทราบค่ะ ]
เสียงดนตรีไล่ระดับเหมือนตัวโน้ตดนตรีไต่ไปตามกำแพง ปรากฏปุ่มสีชมพูขนาดเท่าไข่ไก่ขึ้นมายังหน้าเคาน์เตอร์
[ กดหนึ่งครั้ง ปุ่มรีเซต จะสามารถรีสภาพร่างของโปรแกรมกลับไปที่จุดเริ่มต้น ]
“อ้าว แล้วถ้ากดสองครั้งล่ะ”
[ ไม่ทราบค่ะ ]
“อ้าว แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ”
[ เนื่องจากข้อมูลยังไม่มีปรากฏ กรุณาอย่ากดเกินหนึ่งครั้งค่ะ ]
หากจะบอกว่ากดหนึ่งครั้งคือความพอดี สำหรับรูปร่างอืดอาดของตนเองนั้นผินอินรู้สึกคล้ายว่า อยากจะกดมากกว่าหนึ่งครั้ง แต่เพราะไม่อยากเสี่ยงกับโลกที่ไม่คุ้นชิน จึงกดลงไปแค่เพียงหนึ่งครั้ง
รอบร่างกายกลายเป็นสีชมพูเข้ม ร้อนเหมือนอยู่ในตู้อบซาวน่า เผลอเพียงครู่เดียวอาการอึดอัดค่อย ๆ หายไป รูปร่างที่บวมฉุก็กลับกลายเข้าสภาพเดิมอย่างช้า ๆ
“ว้าว... ไม่น่าเชื่อเลย สมเป็นโลกอาเขต ทุกอย่างว่องไวสมใจเหลือเกิน แบบนี้ก็เล่นสเตจอื่นต่อได้แล้วสิ”
[ ท่านผู้เข้าแข่งขันได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้องครบถ้วนแล้วนะคะ ]
ผินอินรีบกลับเข้าไปในอาเขต เสียงดนตรีเริ่มต้นขึ้นราวกับว่าอาเขตกำลังสร้างสเตจใหม่รอท่า ไม่นานท้องฟ้ากลับกลายเป็นสีเหลืองส้มสลับสีรุ้ง
[ ติ่ง ติง ติง ติ้ง... ]
[ ท่านผู้เข้าแข่งขันโปรดทารบ ขณะนี้กำลังจะเข้าสู่สเตจต่อไป กรุณาเตรียมตัวให้พร้อม ]
ท้องฟ้าสลับกลายเป็นสีม่วง จากนั้นเริ่มเกิดลมหมุนเป็นสีดำสนิท
“ทำไมอาเขตแปรปรวนขนาดนี้ แล้วจะดึงเราไปที่ไหนอีก”
เมื่อลมหมุนหยุดลงผินอินถูกดูดร่วงลงมาอยู่บนเวทีผ้าใบ มีเสาสี่มุม รอบด้านมีเสียงเชียร์จากผู้เข้าชม ชุดของตนถูกเปลี่ยนเป็นนักมวยยุคเก้าศูนย์
“เอ๊ะ! นี่มันอะไรกัน ทำไมอาเขตมันเปลี่ยนชุดให้เราเร็วนัก”
[ ท่านผู้เข้าแข่งขันโปรดทราบ จากนี้ไปกำลังจะเข้าสู่สเตจนักสู้สังเวียน ]
“ต่อยมวยเลยเหรอ โหดไปไหม แล้วคู่ต่อสู้ของฉัน คือ ใครกันน่ะ?”
สแตนด์ปรากฏตัว เป็นนักมวยรูปร่างสูงใหญ่สองคน
ผินอินเดินถอยหลังติดมุมด้วยความกลัว
“โอ้โห! ทำไมตัวมันใหญ่ขนาดนี้เล่า แล้วจะสู้ได้ยังไง”
[สเตจนี้ คือ สเตจนักสู้สังเวียนเดือด ท่านผู้เข้าแข่งขันต้องเอาชนะนักสู้จากต่างสังเวียนให้ได้ภายในสามยก ]
“ต้องเอาชนะแบบไหนกัน มีสกิลช่วยเหลือไหมน่ะ ขืนไม่มีตายแน่ ๆ”
[ สกิลการช่วยเหลือมี ดังนี้
1. นวมชูชีพ
2. สเต็ปขาขั้นเทพ
3. ระเบิดสามหลุม ]
ผินอินได้ยินเสียงระฆังตีดังลั่น เสียงโห่ร้องรอบตัวยิ่งดังมากขึ้น
[ Game Start! ]
ระฆังดังสนั่นผินอินถูกดีดขึ้นไปบนเวทีที่สูงกว่า
[ Round 1 ]
เสาเวทีที่สูงขึ้นจนต้องแหงนคอมอง ไม่คิดว่าเวทีมวยที่เคยเห็นจะกลายเป็นกรงขังชั้นดี แต่เรื่องที่ต้องระวังคือนอกจากเวทีที่ถูกดีดขึ้น ยังรวมไปถึงเสียงดนตรีที่เริ่มบรรเลงถี่กระชั้นขึ้น
นวมที่ถูกสวมกลายเป็นนวมสีชมพูเข้ม ชุดนักมวยของผินอินเป็นลวดลายกระต่าย
“เวรกรรม ชุดของฉันทำไมมันหน่อมแหน้มแบบนี้เล่า”
อีกฝ่ายรุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว ผินอินทำได้เพียงวิ่งไปรอบ ๆ เวที เพราะตนเองไม่ได้มีทักษะเรื่องการต่อยมวยแม้แต่น้อย
“คู่มืออยู่ไหน คู่มืออยู่ไหน”
ทันทีที่หมัดของอีกฝ่ายถูกต่อยออกมาเป็นชุด ผินอินยังคงวิ่งวนหลบหลีกไปรอบ ๆ สกิลพิเศษลอบเด่นขึ้นมากลางอากาศทันทีโดยที่ไม่ต้องเรียก
“สกิลขาเสต็ปเทพ ทำงาน!”
รอบกายช่วงล่างปรากฏแสงสีชมพูระเบิดออกมาพร้อมตุ๊กตารูปกระต่าย ขาของผินอินกลายเป็นขาของนักมวยสากลทันที จังหวะการก้าวเท้ากลายเป็นของนักมวยมากประสบการณ์ แต่แม้จะหลบหลีกได้ กลับไม่สามารถตอบโต้สวนกับหมัดของอีกฝ่าย
เสียงหมูป่าร้องครืดคราดพร้อมหัวเราะออกมาอย่างน่ากลัว
“ปัดโธ่เว้ย! ด่านนี้ทำไมมันหินกว่าทุกด่านเลย ไอ้หน้าอุบาทว์นี่ก็ดันแหกปากไม่หยุด”
มันยากตรงที่ไม่สามารถตอบโต้ แต่เพราะกติกาคือต้องเอาชนะให้ได้ จำเป็นต้องรีบคิดหาวิธีเอาชนะแบบที่ไม่ต้องออกแรงปะทะ
“ปุ่มเอฟ”
แก๊ง แก๊ง แก๊ง…
ผินอินเลิกคิ้วสูงเมื่อเสียงนั้นดังขึ้น
[ หมดยกที่หนึ่ง กรุณาเข้ามุมค่ะ ]
“อ่าว หมดยกแล้วเหรอ”
แม้จะเหนื่อยเอาเรื่องแต่รีบเปิดคู่มืออ่านทันที กติกาภายในคู่มือทั้งสามสิบสามข้อ ไม่ได้บอกว่าห้ามล่อลวงด้วยแผนการ
ผินอินคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา