อุโมงค์สีดำเริ่มเห็นแสงสว่างยังปลายทาง
ผินอินเดินออกมาจากอุโมงค์เมื่อวาร์ปเปิดออกมายังท้ายวังหลัง กลับออกมาจากอาเขตสะสมคะแนน นอกจากเครื่องแต่งตัวของเธอกลายเป็นนางกำนัลชั้นสูง
หลังจากการทายปัญหาเทศกาลโคมที่อารามหลวง ก็ไม่ได้พบหน้ากับชายที่เรียกว่ารัชทายาท รอยยิ้มของเขายังทำให้เธอรู้สึกร้อนวูบวาบ บนแก้มได้อยู่จนกระทั่งตอนนี้
ความน่ากลัวของอาเขตสะสมคะแนน ทำให้ผินอินไม่กล้า แม้แต่จะประมาทอีกต่อไป หากยังคิดจะอยากกลับไปโลกเดิมให้ได้ จะต้องไม่มีคำว่าพลาด
“นั่นใครอยู่ตรงนั้นน่ะ?”
ขณะที่เดินผ่านสระน้ำมีศาลากลางน้ำตั้งตระหง่าน
ผินอินในชุดนางกำนัลชั้นสูงเดินเข้าไปตามเสียงเรียก
“ข้าน้อยผินอินเจ้าค่ะ”
คนที่เรียกหา คือ สตรีสูงศักดิ์ ใบหน้างดงามได้รับการตกแต่งอย่างประณีต
“เจ้าเป็นนางกำนัลใหม่หรือ?”
“เพคะ เพิ่งผ่านการคัดเลือกเมื่อหลายวันก่อนเจ้าค่ะ”
“มิน่าถึงได้ไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร เอาเถอะ ข้าไม่ถือสาเจ้าจะดีกว่า เอาเป็นว่าข้าอยากให้พวกเจ้าช่วยไปเตรียมห้องเพื่อรับรองแขกคนสำคัญของตำหนัก พวกเจ้ารีบไปเตรียมเรือนรับรองให้เรียบร้อย”
“เรือนรับรองอยู่ทางไหนเจ้าคะ ข้าน้อยเพิ่งเข้ามายังไม่ทราบว่าที่ทางอยู่หนใด”
“ไม่เป็นไร ข้าจะให้คนไปส่งเจ้าพร้อมอธิบายงาน ดีหรือไม่?”
คล้อยหลังสตรีสูงศักดิ์สั่งการ ผินอินเดินตามหลังของคนนำทาง เมื่อเดินเข้าสู่ตรอกแคบ กระทั่งทะลุออกมาจนถึงทางกว้าง
อยู่ ๆ กระแสลมรุนแรงพัดเข้ามาในตรอก พร้อมกับใบไม้จากดงหลิวลู่เข้ามาขวางทาง
เกมมาสเตอร์ค่อยๆโผล่หน้าออกมาจากกำแพง ในขณะที่ทุกสิ่งรอบกายหยุดนิ่งอยู่กับที่
“มาแล้วเหรอ มาเสียทีนะ”
[ มาสเตอร์ มาสเตอร์ ]
“รู้สึกพักนี้ชอบปล่อยให้ต้องอยู่กับคนในฉากบ่อยขึ้น จนตอนนี้แทบแยกไม่ออกแล้วว่าอันไหนเป็นอาเขต อันไหนเป็นโลกเสมือนจริง”
[ เนื่องจากตอนนี้ระบบตรวจพบการบุกรุกของไวรัสจำนวนมาก จึงต้องเพิ่มระยะเวลาในการสร้างอาเขต อีกทั้งเพื่อให้ผู้เข้าเล่นเกมมีความรู้สึกเหมือนหนึ่งอยู่ในเกมจริง จึงต้องให้พบปะสร้างปฏิสัมพันธ์กับตัวละคร ]
“แหม... ร่ายเสียยาวเชียวนะ เอาเถอะด่านนี้ คือ ด่านอะไร แจ้งกติกามาให้ชัดเจน แล้วอีกเรื่องทีหลังบอกด้วยว่าหากคะแนนติดลบจะเกิดอะไรขึ้น”
ตัวมาสเตอร์นิ่งงันไป ได้ยินเสียงการประมวลผล พร้อมแสงสีน้ำเงินสลับขาววิ่งไล่ไปมาบนตารางกลางอากาศ
[ ด่านนี้ มีชื่อว่า ตัดฟืน ต้มน้ำ ]
“เฮอะ... เข้ากับบทเหลือเกินนะ เมื่อครู่เพิ่งถูกสั่งงานมาหยก ๆ”
[ อาเขตนี้มีความเสมือนจริง ดังนั้นผู้เข้าแข่งขันต้องอาศัยความอดทนในการเคลียร์สเตจให้มาก ]
“ฉันใช้ความอดทนมากอยู่แล้ว ทั้งที่เพิ่งจะหายจากโดนต่อยมาไม่กี่ชั่วโมง ก็ต้องมายืนอยู่ในอาเขตใหม่แล้ว”
[ เรียนท่านผู้เข้าแข่งขัน ด่านนี้มีชื่อว่า ตัดฟืน ต้มน้ำ มีกติกาอยู่เพียงอย่างเดียว คือต้องต้มน้ำเพื่อให้แขกใช้อาบน้ำพร้อมกับร้อยคน ให้ครบตามเวลากำหนด ]
“หา! แขกร้อยคน ตายแน่... ต้องผ่าฟืนเป็นครึ่งป่าเลยมั้งถึงจะพอ!”
[ สกิลการช่วยเหลือมีสามอย่าง แต่ละอย่างแตกต่างกันออกไป และเมื่อเรียกใช้จะมีการตัดแต้มแต่ละครั้งไม่เท่ากัน ]
“อธิบายมาให้ชัดเลย”
[ 1. สกิล ถุงมือเทพเจ้าสายฟ้า สามารถรัวสกิลการใช้แรงโดยไม่บาดเจ็บ บวก ลบ ห้าคะแนนทุกครั้งที่ใช้
2. สกิล พัดเหล็กเพิ่มกระแสลมดาเมจบวกสิบ บวก ลบ ห้าคะแนนทุกครั้งที่ใช้
3. ขวานเทพเจ้า ตัดหนึ่งครั้งสามารถแบ่งฟืนออกมาทั้งหมดสามสิบท่อน บวก ลบ ห้าคะแนนทุกครั้งที่ใช้ ]
ผินอินรีบบวกลบคะแนนที่ต้องถูกหักในใจ นั่นหมายถึงว่าจะต้องถูกหักไปเกือบยี่สิบคะแนน
“เอาเรื่องเหมือนกันนะ แล้วเรื่องเวลาเล่า”
[ เวลาทั้งหมด ไม่เกินครึ่งชั่วโมง หากทำได้ตามเวลาที่กำหนด มีโบนัสเวลาคูณสอง ]
“มีอุปสรรคอะไรบ้าง พูดมาให้หมดเลย”
[ ในด่านมีอุปสรรคเพียงอย่างเดียว คือห้ามทำให้ความร้อนลดระดับลงเด็ดขาด หากมีแขกคนไหนโวยวาย จะถูกปรับคะแนนสะสมลงครั้งละหนึ่งคะแนน ]
[ เมื่อจบเกม สามารถทำตามได้ตามกติกา อาเขตจะสร้างพื้นที่เพื่อให้ท่านผู้เข้าแข่งขัน เข้าพักส่วนตัว ไม่ปะปนกับตัวละครใด เพื่อเป็นสถานที่ส่วนตัวในการฟื้นฟูพลัง ]
“พิกัดที่จะต้องไปผ่าฟืนคือที่ไหน?”
[ จะมีเจ้าหน้าที่แจ้งพิกัด หลังจากที่เกมมาสเตอร์แจ้งกติกาเป็นที่เรียบร้อย ]
เมื่อเสียงดนตรีเริ่มบรรเลง อาเขตกำลังกลายสภาพจากพื้นดินธรรมดาเป็นรูปร่างของส่วนประกอบในอาเขตเกม
พื้นดินมีสภาพคล้ายตัวต่อสี่เหลี่ยม แยกออกให้เห็นชัดเจนว่าเกมกำลังจะเริ่ม
[ Ready Go 5 4 3 2 1 ]
[ Game Start! ]
เสียงดนตรีจากเมโลดี้เบาบางเข้าสู่โหมดกะฉับกระเฉง
คีย์เสียงชวนสนุกตื่นเต้น
ผินอินถูกพาตัวมาส่งไว้ยังด้านหลังโรงอาบน้ำ
“โอ้โห! นี่เขาเรียกว่าโรงเชือดเลยละมั้ง มีแค่ขวานกับแท่นผ่าฟืน”
เมื่อหันไปทางอีกฝั่งเห็นกองฟืนสูงท่วมศีรษะจนต้องแหงนคอตั้งบ่า
ผินอินถึงได้ทราบว่าเกมนี้เป็นอีกเกมที่ไม่ได้ง่ายดาย
ในมือของตนถือขวานด้วยท่าทางถนัด
ไม่รอช้ารีบตวัดแขนสับท่อนฟืนลงอย่างรวดเร็ว แต่เพราะมือสองข้างไม่เคยทำงานหนักมาก่อน เมื่อหน้าขวานสับลงบนเนื้อแข็งกระด้าง จึงถึงกับชาไปทั้งไหล่
“อุ๊ย! ไม่ง่ายเลยนะนี่”
เมื่อทราบดีว่า อุปสรรคไม่ได้มีเพียงเรื่องที่เกมมาสเตอร์แจ้ง แต่มันคือขอบเขตการทำงานของตนเองอีกด้วย
“หากไม่เริ่มด้วยการสปีดแต่แรก คงต้องจบลงเพราะถูกคนโวยวาย แล้วสุดท้ายคะแนนก็จะลดลง เราต้องตัดสินใจแล้วว่า จะเอายังไงดี”
ในขณะที่กำลังคิดตัดสินใจ เหลือบไปเห็นทหารที่เริ่มเดินเข้ามายังสวนด้านหลัง
“อย่าบอกนะว่า ต้องต้มน้ำเข้าโรงอาบน้ำให้ทหารทั้งหมดนี่ ตายแน่ ข้าต้องตายแน่ ๆ รอช้าไม่ได้แล้วล่ะ ต้องเร็วกว่านี้”
ผินอินทำใจก่อนเรียกใช้สกิล
“ปุ่มเอฟ”
[ มาสเตอร์ ]
“ขอเปิดใช้สกิลถุงมือเทพเจ้า”
[ สกิลถุงมือเทพเจ้าทำงาน ]
ทันทีที่สวมถุงมือเทพเจ้าอัตราการเร่งและความทนทานต่อการกระทบกระเทือนเพิ่มขึ้นเกินเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์
"เยี่ยมเลย ไม่รู้สึกเจ็บมือสักนิด แถมยังเบามากจนเหมือนไม่ได้มีอะไรสวมมือให้เหนอะหนะเลย”
[ มาสเตอร์ มาสเตอร์ ]
“มีอะไรเหรอ?”
[ เทคนิคเพื่อลดค่าพลังที่จะถูกตัดโดยไม่จำเป็น เกมมาสเตอร์ขอเสนอเทคนิค นั่นคือ หนึ่งแดนซ์เพิ่มพลัง ]
“อะไรนะ?”
[ หากทำงานไปพร้อมขยับร่างกายเข้าจังหวะ จะทำให้สกิลการใช้งานเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว อีกทั้งเพิ่มความทนทานของสกิลแต่ละชนิดให้เพิ่มเวลามากขึ้นจากเดิม ]
“ท่าทางจะชอบกิจกรรมเข้าจังหวะมากสินะ มีโหมดเต้นแทบจะทุกด่าน แต่เอาเถอะจะเต้นให้หลุดโลกเลย ขอแค่อย่ามีมอนสเตอร์โผล่ออกมาให้ต้องสู้ด้วยก็พอ”
ผินอินเริ่มต้นด้วยการนำฟืนที่ตัดแล้วยัดใส่เข้าไปในเตาหลังโรงอาบน้ำ