[ Up Skill ]
สิ้นสุดเสียงก็มีไพ่ปรากฏขึ้นกลางอากาศ ปริศนาการต่อไพ่ หากต่อได้สำเร็จเป็นแนวเดียวกันโดยเป็นสีเดียว จะสามารถปลดล็อกสกิลขากระต่าย
“ซ้าย ไปขวา สีชมพูสลับสีแดง ปัดโธ่! ผิดหรือนี่ ลองใหม่อีกที”
ต้องใช้ทั้งสองมือลากไพ่กลางอากาศมาสลับกัน เพื่อต่อให้เป็นแถวและสีแบบเดียวกัน เมื่อลากต่อกันได้สำเร็จ ปลดล็อกสกิลขากระต่าย เพิ่มเลเวลเสต็ปขาทำให้สามารถหลบหลีกได้รวดเร็ว
นอกจากนั้นยังสามารถใช้สกิลขากระต่ายไล่จับลูกหมูได้ด้วยความเร็วสูง
“เป็นยังไงเล่า ด่านนี้ตอนนั่งเล่นกดจนแทบมือหงิก แต่พอมาเล่นเองกระโดจนปวดเข่า แต่แบบนี้จะทำให้จับลูกหมูได้ง่ายกว่า แถมเร็วขึ้นด้วย”
[ เหลือเวลาอีก 10 นาที ]
ท้องฟ้าและอากาศเริ่มอึมครึม มีเมฆทะมึนตั้งเค้าพร้อมสายฟ้าฟาดลงมาเป็นครั้งคราว
“เฮ้ย แบบนี้มันขี้โกงนี่นา ไหนจะยังต้องหลบไข่เน่า ไล่จับหมู ยังต้องระวังสายฟ้าอีก แล้วมันจะจับได้ครบไหม”
บนพื้นปรากฏตารางรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เมื่อเดินผิดช่องจะถูกฟ้าผ่าใส่ จะเดินไปจับลูกหมูต้องไปตามช่องสี่เหลียมที่มีแสงสีเขียว และสีฟ้าผุดขึ้นเท่านั้น
ผินอินกว่าจะรู้ก็หวุดหวิดจะโดนฟ้าผ่าใส่หลายต่อหลายรอบ เมื่อเริ่มชำนาญและเดาได้ว่าจังหวะพื้นที่จะเปลี่ยนสีจากเข้มไล่มาจนเป็นสีเขียวและฟ้า ต้องอาศัยการกระโดดเข้ากับจังหวะดนตรี
“หนึ่ง สอง สาม สาม สอง หนึ่ง หนึ่ง สาม สอง”
ผินอินร้องไปด้วยกระโดดไปตามช่องแสงไฟเมื่อจังหวะดนตรีเร็วขึ้น สกิลขากระต่ายก็ต้องสอดคล้องกับแสงที่เจิดจ้าจากใต้พื้น
กลายเป็นจังหวะเพลงแดนซ์แบบสนุกสนานพร้อมกับการคว้าจับตัวลูกหมู
“เหลืออีกแค่สิบตัว รีบหน่อยเรา”
กระโจนไปมาพร้อมหมุนตัวแล้วคว้าเอาลูกหมูติดมือมาได้อีกหนึ่งตัว ยิ่งเมื่อจังหวะเร็วขึ้น พลังในการกระโดดก็เร็วขึ้นตาม
[ สายตาว่องไว มือต้องรวดเร็ว หมุนเอวพร้อมสะบัดฮิป ]
เสียงจากระบบกำกับราวกับต้องการ
“สะบัดฮิป ฮิป ฮิป”
เมื่อสะบัดสะโพกตามสกิลการอัพสกิลขากระต่ายจึงขึ้นมาถึงระดับสูงสุด เป็นพาวเวอร์ฟูล ภายในเวลาเพียงไม่ถึงสามนาที สามารถจับลูกหมูใส่คอกไปได้อีกห้าตัว
[ นับถอยหลัง ในอีกห้านาที ]
“ปัดโธ่! เร่งอะไรจะปานนั้น เจ้าลูกหมูตัวสีชมพูอยู่ไหนนะ ตัวนั้นคะแนนจะเยอะที่สุด ถ้าจับมันได้แค่สามตัวก็ไม่จำเป็นต้องจับให้ครบจำนวนที่กำหนด”
พูดง่ายทำยาก เพราะความเร็วของหมูสีชมพูเป็นความเร็วระดับสิบ ไม่ว่าจะเป็นสกิลขากระต่ายที่อัพจนเร็วสุดแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถไล่จับมันได้ง่าย
ในที่สุดผินอินไล่ต้อนเจ้าลูกหมูสีชมพูสามตัว สามตัวที่จะสามารถทำให้ย่นระยะเวลาการไล่จับลูกหมูระดับต่ำลงไปได้
“พวกแก ฉันจะต้องจับพวกแกให้ได้ เพื่อสิบคะแนนสุดท้าย เตรียมตัวเถอะ”
แต่เพราะเมื่อมาอยู่รวมกันหลายตัว ทำให้เป้าหมายที่คิดจะจับวอกแวก ผินอินมองไม่ทันจึงถูกสกิลพุ่งชนของลูกหมูสีชมพูจู่โจมเข้า
สกิลการพุ่งตัวโจมตีจะมีได้เพียงแค่ในหมูสีชมพู แรงกระแทกแตกต่างกันไปตามความใหญ่ของตัวลูกหมู
“โอ้ย! จุก ไอ้หมูอันธพาล แบบนี้มันน่าจับลงหม้อตุ๋นเสียจริง ว้าย!”
ยิ่งทำท่าคิดจะเร่งรัดจับ แต่พวกมันทั้งสามตัวกลับรวมตัวกันพร้อมเร่งพลังขึ้นจนเกิดไอละอองสีชมพู คล้ายเตรียมตัวสู้
“เฮ้ย ๆ นี่พวกแกอย่าบอกนะว่ากำลังจะรวมหัวกันรุมจัดการกินโต๊ะ อัยยะ!”
ยังไม่ทันจะเอ่ยจบ ผินอินกระโจนหลบการพุ่งตัวเข้ามาอีกระลอกของลูกหมูทั้งสาม พวกมันดูดุดันอีกทั้งมีการตั้งแผนเป็นชั้นเชิง
“พวกแกจะมาเป็นฝ่ายได้เปรียบได้ยังไง เหลืออีกไม่กี่นาทีแล้ว คราวนี้ล่ะ จะต้องจับพวกแกทั้งหมดให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็ต้องติดอยู่ในโลกนี้ไม่ได้กลับบ้าน”
ผินอินรวบรวมแรงทั้งหมด พร้อมกับหมุนตัวไปตามสเต็ปเพลงเร็วขึ้น เมื่อหมุนตัวจนครบพร้อมกับท่าทางตามเพลง สกิลการกระโจน ความเร็วเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุด
“มาเลย พวกแก คราวนี้กลับเข้าคอกไปเสีย”
ผินอินกระโจนไปไล่จับหนึ่งในกลุ่มหมูสีชมพู เล็งตัวหัวหน้าที่ใหญ่ที่สุดเพื่อเป็นการตัดกำลังก่อน
“แกล่ะ ตัวที่หนึ่ง เจ้าตัวหัวหน้า”
สอดมือเข้าใต้ท้องพร้อมตวัดมือช้อนเข้าใต้ท้องเพื่อป้องกันไม่ให้มันหันกลับมากัด
“อย่าคิดแม้แต่จะหันกลับมากัด ไม่หลงกลหรอกน่า”
มันยังคงพยายามหันแว้งตัวกลมอ้วน แต่ด้วยพละกำลังมหาศาลทำให้ผินอินยังต้องออกแรงรัดให้มากที่สุด แต่ด้วยเรี่ยวแรงของเจ้าลูกหมูตัวโต ซึ่งดิ้นจนสุดแรงอีกทั้งปากของมันคอยแว้งกัด
ผินอินจึงโยนมันขึ้นฟ้าพร้อมกับกระโดดขึ้นกลางอากาศ ก่อนเตะมันเข้ากรงไป
“เสร็จข้าล่ะ ตัวที่หนึ่ง”
เจ้าลูกหมูตัวหัวหน้าถูกเตะอัดเข้าไปในกรง จนนอนตาค้างสลบอยู่ภายใน
ผินอินหันกลับมายังลูกหมูสองตัวที่เหลือ พวกมันเห็นหันกลับมา ต่างก็ยืนเยื้องกันพร้อมเตรียมตัวสู้ แววตาของพวกมันคล้ายลูกหมูป่าก็มิปาน
“คิดจะแข็งข้อ ยังต้องรอไปอีกสิบปี จะจับเข้ากรงให้หมดแล้วจะได้จบเกมเสียที”
ผินอินกระโดดสลับไปมาตามจังหวะแสงสีเขียวและฟ้าที่ขึ้นไปตามจังหวะเพลง และเมื่อเข้าไปถึงตัวลูกหมูตัวหนึ่งได้ ลูกหมูสีชมพูอีกตัวก็พร้อมพุ่งตัวเข้าจู่โจม
จึงพลิกกายหมุนหลบจากนั้นคว้าเข้าที่ใต้ช่วงแขน ก่อนจับพวกมันทั้งคู่เหวี่ยงเข้าไปในกรง
[ Finish ]
“เย้ รอดแล้ว รอดแล้ว ชนะแล้วคราวนี้ได้กลับบ้านเสียที”
บรรยากาศท้องฟ้าเริ่มปลอดโปร่ง เสียงเพลงวัลเลย์ผสมผสานเสียงเครื่องดนตรีสายคลอเคล้า โรบอทชาวบ้านที่เคยขว้างปาไข่เน่า ผักเน่ามาใส่ ถอยหลังกลับเข้าไปด้านในบ้านดังเดิม
เสียงสกอร์คะแนนวิ่งรัวเร็วด้วยระบบตัวเลข ก่อนค่อย ๆ หยุดลง พลันคะแนนที่ปรากฏกลับมิได้เต็มร้อยคะแนน
“อะไรกันน่ะ ไม่ได้เต็มร้อยได้อย่างไร?”
[ ค่าการใช้สกิล สิ้นเปลืองสกิลมากกว่าที่กำหนด คะแนนจึงถูกตัด ]
“แล้วกัน แบบนี้มันขี้โกงนี่นา บอกให้จับก็จับได้ทั้งหมดแล้ว พูดแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน”
เสียงฟ้าผ่าดังสะเทือนเลือนลั่น พร้อมกับใบหน้าตุ๊กตาเด็กหญิงจีนปรากฏขึ้น
[ หากเคลียร์เสตจไม่ครบ ต้องทำการซ่อมด่าน ด่านต่อไปคือขายไข่ให้ได้ค่าโคมไฟ ]
“หมายความว่ายังไงกันน่ะ ยังต้องไปด่านต่อไปอีกเหรอนี่”
เสียงเตือนดังขึ้นรอบกายเมื่อผินอินโวยวาย พลันบรรยากาศรอบตัวสูญสลาย เกิดเป็นมิติใหม่ขึ้นมา
ฉากรอบกายที่เคยเป็นทุ่งนาป่าเขา บัดนี้กลับกลายเป็นกำแพงสูงตระหง่าน ตนเองอยู่ในชุดซอมซ่อสีมอซอด้ายดิบ
“นี่มันอะไรกันน่ะ ทำไมชุดเหมือนชุดไว้ทุกข์ขนาดนี้ แล้วจะไปขายไข่ให้คนซื้อได้ยังไงกัน”
เริ่มนับถอยหลัง ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง…
---------------------
เป็นกำลังใจให้ หลิวอี๋เหวิน ด้วยนะคะ
ฝากกดไลค์ กดแชร์ และให้หัวใจกันแบบรัว ๆ ด้วยนะ
กราบรอบทิศ สาธุ ภารกิจนี้ เพื่อพิชิตอันดับหนึ่งของ #ดรีม
#การประกวดนิยายภาษาไทยครั้งแรก