ผินอินคิดได้เช่นนั้นจึงทิ้งตัวลงนอน การผ่อนคลายสมองที่ดีที่สุดคือการนอนหลับ
[ เกมหยุดชั่วคราว ผู้เข้าร่วมแข่งขัน อยู่ในสภาวะโหมดพักผ่อน ]
และราวกับว่าเป็นปาฏิหาริย์ เมื่อล้มตัวลงนอน ผินอินกลับได้ยินเสียงเช่นนั้น เมื่อได้พักผ่อนสมองไปชั่วครู่ คำตอบที่ได้จึงปรากฏในความคิด
“คิดออกแล้ว”
ผินอินรีบผุดลุกขึ้นมานั่งแล้วตอบออกไป
“อรุณรุ่งแย้มเยือน บุปผาเบ่งบาน ผู้วายปราณคือวีรชน พญาอินทรีหวนคืนสู่รัง”
เสียงเมโลดี้บรรเลงอย่างต่อเนื่องก่อนเงียบลง
รอบกายท้องฟ้ากลายเป็นสีชมพูสลับม่วง เมฆกลายเป็นสีดำเทา ท่าทางน่ากลัวจนผินอินวุ่นวายใจ
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ ทำไมบรรยากาศมันน่ากลัวแบบนี้ หรือว่าเราต่อกลอนผิดกันแน่”
ทันใดนั้นมีเสียงคล้ายพลุถูกจุดขึ้นมา
แสงสว่างพร้อมดอกไม้ไฟหลากสีผุดขึ้นมาจากพื้นติดต่อกันจนเสียงสะเทือน
ตุ๊กตาหน้ายักษ์สลับหน้าและหมุนร่างจนกระทั่งกลับมาเป็นตุ๊กตาหน้ารัชทายาท ก่อนสลับไปมาจนกระทั่งเกิดเสียงคล้ายหวูดรถไฟไอน้ำร้อง
“ว้าย... เกิดอะไรขึ้น ทำไมหมุนเร็วขนาดนั้น มันจะระเบิดไหมเนี่ย อ้าก... อย่าทำให้ข้ากลัวสิ”
เมื่อมันหยุดหมุน แสงสว่างกลับมาเป็นปกติ
ตุ๊กตาหน้ารัชทายาทยิ้มกว้างจนปากของมันแทบหลุดออกมา
[ สเตจเคลียร์ ]
“โอ้ย! โล่งอก... เฮ้อ... แต่ละด่านทำเอาหัวใจจะวาย ตกลงมันใช่ด่านพิเศษแน่เหรอ มีความรู้สึกเหมือนจะโดนรัชทายาทกินหัวซะอย่างนั้นล่ะ”
สเตจเคลียร์...
เสียงคะแนนนับอย่างรวดเร็วตามสกอร์ บนศีรษะของผินอินปรากฏรูปร่างของโถแก้วเป็นรูปหัวใจใบเดิมปรากฏขึ้น พร้อมกับคะแนนที่สะสมได้กลายเป็นขนมลูกกวาดตกลงมาใส่อย่างต่อเนื่อง
“ว้าว... สวยมาก แถมน่ารักจังเลย” นัยน์ตาชวนฝัน หันมองหน้าองค์รัชทายาทที่ยิ้มให้
[ สเตจเคลียร์ ท่านผู้เข้าแข่งขัน กรุณาเปลี่ยนคะแนนเป็นไอเทมช่วยเหลือชนิดถาวร ]
“แล้วถ้ายังไม่แลกคะแนนเป็นไอเทมล่ะ สามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง”
[ หากไม่แลกในตอนนี้ สามารถสะสมไว้แลกอาวุธทรงพลัง และกุญแจมหาสนุกเมื่อมีการจัดทัวร์นาเมนท์ได้ค่ะ ]
“อะไรนะ มีการจัดทัวร์นาเมนท์ด้วยเหรอนี่ แล้วเราจะได้ใครมาแข่งด้วยล่ะ”
[ ผู้เข้าแข่งขัน จากอาเขตอื่น ]
ผินอินเกิดความสงสัยขึ้นอีกครั้ง หากสะสมกุญแจมหาสนุกได้ครบสิบดอก จะสามารถนำไปแลกไอเทมที่สูงขึ้น เหมือนอย่างในเกมที่ตนเคยเล่นประจำหรือไม่
“มาสเตอร์”
[ มาสเตอร์ มาสเตอร์ ผู้เข้าแข่งขันมีคำถาม ]
“ถ้าหากเราสะสมกุญแจมหาสนุกจนครบสิบดอก จะสามารถนำไปแลกแรไอเทมได้หรือไม่”
[ แรไอเทม ที่เป็นสุดยอดไอเทม คือ กระดิ่งคืนวิญญาณ ]
ผินอินตาลุกวาว เมื่อภาพบนมอนิเตอร์ปรากฏขึ้นกลางอากาศ รอบกรอบมอนิเตอร์เป็นตารางหมากรุกสลับสีวิ่งวนไปมา พร้อมกับปรากฏรูปร่างคล้ายจี้หยกสีเขียวมรกต ถูกห้อยแขวนด้วยกรงสีทองเป็นรูปก้าน
“เฮ... สวยขนาดนี้เชียวหรือ ว้าว...”
[ เมื่อคะแนนชีวิตเต็มเปี่ยม จะสามารถนำมาบรรจุในหลอดพลัง และสามารสปาร์คได้ ]
“สปาร์คได้ ก็หมายความว่าสามารถกลับไปโลกเดิมได้น่ะสิ”
เกมมาสเตอร์ทำท่าเต้นแบบเจ้าปลาบ้าสะโพก ผินอินเห็นแล้วอยากปวดหัว
[ สเตจเคลียร์เชิญท่านผู้เข้าแข่งขัน กลับสู่อาเขตเนื้อเรื่อง ]
แสงสว่างพุ่งกระจาย กล่องของขวัญที่อยู่บนศีรษะเรียกตัวตุ๊กตาหน้าจีนกลับเข้าไปในกล่อง พร้อมปิดฝากล่องแล้วเลือนหายไป
ผินอินกลับสู่โลกของเนื้อเรื่องตามอาเขตเดิม กลิ่นกำยานโชยมาแตะจมูก เสียงน้ำชาถูกรินจากกาลงสู่ถ้วยชาซึ่งถูกอุ่นมาแล้วอย่างพร้อมสรรพ
“จิบชาใบไผ่สิ ข้าเชื่อว่าเจ้าต้องชอบมัน”
ผินอินคล้ายเพิ่งตื่นจากภวังค์ แต่เมื่อได้รับถ้วยชาจากมือชายหนุ่ม ความอบอุ่นนั้นกลับแผ่ซ่านเข้ามาถึงหัวใจ
“อุ่นจัง”
“เจ้าช่างดูงดงามน่าถนอม”
“องค์รัชทายาทกล่าวล้อเล่นเกินไปแล้วเพคะ หม่อมฉันคงต้องกลับตำหนักของหนิวกุ้ยเฟยแล้ว” ใบหน้าร้อนแดงจนเหมือนสีหน้าขององค์รัชทายาทในเกมเมื่อครู่ที่ใกล้จะระเบิด หัวใจสาวเต้นสั่นระรัว เกิดมายังไม่เคยมีชายใดเกี้ยวพาราสี
“ดูเจ้ามิคล้ายอยากอยู่กับข้าสักเท่าใด เอาเถอะหญิงชายไม่ควรอยู่ใกล้ชิด ไว้ข้าจะรอวันที่เจ้าพร้อมจะอยู่ข้างข้าโดยมิคิดบ่ายเบี่ยง”
คำพูดสุดท้ายของรัชทายาทคล้ายแฝงนัยบางอย่าง
แม้กระทั่งรอยยิ้มของเขาที่ส่งให้ตนเมื่อตอนที่อันหนานมารับตัวกลับ มองยังไงก็ยิ่งชวนให้นอนไม่หลับอีกครั้ง
เมื่อกลับมาถึงตำหนักของหนิงกุ้ยเฟย
ผินอินเข้าไปในห้องของตนที่ถูกเตรียมไว้ เป็นห้องที่อยู่ติดกับหนิวกุ้ยเฟย เปลี่ยนชุดที่สวม เมื่อออกมาจากห้องพัก ถูกเรียกตัวไปพบหนิงกุ้ยเฟยทันที
“เจ้าเข้ามานี่ก่อน ข้ามีเรื่องต้องอบรมเจ้าเสียใหม่”
“เพคะ หนิวกุ้ยเฟย”
ผินอินรับรู้ถึงความกดดัน เมื่อเข้าไปถึงพบกล่องไม้วางอยู่บนโต๊ะ ด้านในเป็นสิ่งใดไม่ทราบ
“อาอิน เจ้าเข้ามาใกล้ ๆ ข้าอีกนิด”
ผินอินเขยิบเข้าไปใกล้ขึ้น
หนิวกุ้ยเฟยวันนี้มีสีหน้าซีดขาว จ้องมองมาทางตนอย่างไม่วางตา
“เจ้าได้รับเลือกเข้าคัดตัวเพื่อเป็นผินตำหนักรัชทายาท รู้ตัวหรือไม่”
“ข้าเพิ่งทราบเพคะ”
“เจ้าทำเช่นไร จึงได้ถูกเลือกเข้าคัดเลือกตัวได้”
“หม่อมฉันไม่ทราบเพคะ”
“รู้หรือไม่ หนทางแห่งการเข้าถวายตัวน่ากลัวเพียงใด อาอินเอ๋ย เจ้ารู้หรือไม่วันนี้ข้าเพิ่งไปพบผู้ใดมา”
“ใครกันเพคะ?”
“องค์ฮ่องเต้”
ผินอินรู้สึกว่าคล้ายจะเป็นเรื่องใหญ่ จึงทำท่าวางเฉยไม่ได้คิดอยากใส่ใจ แต่เมื่อหันหน้าไปทางด้านนอก พบว่ามีนางกำนัลจากวังหลังเข้ามาสมทบ พวกนางเข้ามาอยู่ภายในห้องด้วย
“ข้ามีหน้าที่อบรมเจ้าให้เตรียมพร้อมสำหรับการเข้าสู่การคัดเลือกเป็นผิน”
“แต่หม่อมฉันยังไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่นะเพคะ”
“เจ้าต้องทำให้ได้ ข้ารู้ว่าเจ้าทำได้ อีกอย่างในเมื่อเบื้องบนมีบัญชาลงมา ย่อมหมายความว่ามีคนหนุนหลังให้เจ้า”
“แต่... แต่ว่า... หม่อมฉัน”
“เจ้ามาจนถึงจุดนี้ มิใช่เรื่องง่าย มีคนมากมายอยากเข้ามายังจุดที่เจ้ายืน อย่าลืมว่าหากเจ้าบากบั่นไปจนถึงจุดสูงสุด ตำแหน่งจักรพรรดินีย่อมมิไกลเกินเอื้อม”
‘ฮ่องเฮา... ไม่จริง...’
ผินอินส่ายหน้าไปมาพลางน้ำตาจะไหล ตนไม่ได้หวังว่าจะไปยังจุดนั้น ความต้องการเพียงอย่างเดียวคือการได้กลับไปยังโลกเดิม ตำแหน่งจักรพรรดินีมันไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ
“ไม่เอานะ ไม่เอา หม่อมฉันไม่อยากเป็นผิน หม่อมฉันไม่เข้าร่วมแข่งคัดเลือก พระสนมเมตตาหม่อมฉันด้วยนะเพคะ”
“ลากตัวนางออกไป ขัดเนื้อตัว เตรียมให้พร้อม จัดเสื้อผ้าให้นางเพื่อเตรียมส่งเข้าเรือนคัดเลือก ส่งพี่เลี้ยงเพื่อการฝึกมารยาทตามไปเรือนคัดเลือกในนามของข้าด้วย”
“เพคะกุ้ยเฟย”
ผินอินถูกลากออกไปจากห้องบรรทมของหนิวกุ้ยเฟย นางถูกส่งตัวตรงไปยังเรือนคัดเลือก และที่นั่นบนหลังคา มีป้ายเด่นหลาว่า
[ Stage Fight ]
‘เอาแล้ว เอาแล้ว เรื่องใหญ่กว่าที่คิด แค่ในเกมเท่านั้นใช่ไหม มันเหมือนจริงจนหัวใจข้าเต้นแบบจะหลุดออกจากร่างแล้ว’