ร่างของผินอินร่วงลงมาจากหลุมดำกลางอากาศ ระดับความสูงของพื้นแม้ไม่สูงมาก แต่เพราะไม่มีที่รองรับ ยังไงย่อมเจ็บตัวอยู่ดี
“โอ้ย ก้นพังหมดแล้ว เจ้าหลุมงี่เง่า นึกอยากสูบก็สูบ นึกอยากทิ้งก็ทิ้ง เริ่มจะเหลืออดกับพวกแกแล้วนะ”
คลื่นน้ำซัดสาดเข้าไปกระแทกร่างของผินอิน ความเย็นเฉียบบวกกับกลิ่นไอของน้ำทะเล ทำให้ผินอินต้องเบนหน้าไปมอง
มองไปสุดลูกหูลูกตา เบื้องหน้าคือมหาสมุทร เห็นเรือล่องลอยอยู่กลางนาวา ส่วนตนเองนั่งอยู่บนเรือลำเล็กเสากระโดงเรือปุปะ
“นี่มัน ทะเล ไอ้จีเอ็มบ้า นี่แกส่งฉันมาอยู่กลางทะเลเลยหรือนี่ ถ้าเกิดโดนปลาฉลามงาบขึ้นมาจะทำยังไง”
เช่นเคย ปรากฏรูปหน้าตุ๊กตาจีนหญิงแก้มแดงขึ้นบนกลางท้องฟ้า เสียงของโปรแกรมดังก้อง
[ ขอต้อนรับสู่สเตจเก็บคะแนนเสริม ท่านผู้เข้าแข่งขัน กรุณาอ่านกติกาที่มีอย่างละเอียด ]
รอบนี้ผินอินไม่ยอมพลาด เมื่อสมุดในมือเปล่งแสงขึ้นมา จึงตั้งใจเปิดออกอ่านอย่างถี่ถ้วน
[ สเตจนี้มีชื่อว่า ร้อยพัน หวนคืนนาวา ]
“ร้อยพันหวนคืนนาวา”
อะไรกันนี่
[ ผู้เข้าร่วมแข่งขัน มีหน้าที่จับปลาให้ได้มากที่สุด ขนาดปลา คือจำนวนคะแนนที่ได้รับ ยิ่งปลาน้ำหนักตัวมากเท่าใด คะแนนจะยิ่งเพิ่มมากเท่านั้น ]
“มีกำหนดเวลาใช่ไหม?”
[ เนื่องจากเป็นเกมเก็บคะแนนตกหล่น จึงไม่มีกำหนดเวลา แต่หากไม่สามารถทำคะแนนได้ตามที่กำหนด สกอร์ชีวิตจะลดลงจนถึงศูนย์ ]
“อ้าว เฮ้ย ไม่มีกำหนดเวลา แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ตาย แบบนี้มันไม่โหดไปหน่อยรึไง?”
ภาพบนท้องฟ้าปรากฏขึ้น ผินอินเห็นร่างของตนเองกำลังถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่มีความพร้อมมากกว่าโรงพยาบาลเดิม
นั่นหมายความว่าสัญญาณชีพของตนกำลังเริ่มอ่อนลง ในสองเกมที่ผ่านมาแม้จะผ่านได้อย่างเฉียดฉิว แต่กลับไม่สามารถทำคะแนนได้ตามที่ระดับมาตรฐานกำหนดไว้
ดังนั้นหากแม้แต่เกมเก็บคะแนนยังทำไม่ได้ดี ย่อมไม่ต้องคาดหวังถึงเกมหน้า
“ครั้งนี้จะพลาดไม่ได้เด็ดขาด พลาดไม่ได้!”
ผินอินแหงนหน้าขึ้นไปมองภาพร่างของตัวเองบนจอมอนิเตอร์กลางอากาศ เห็นพี่สาวและคุณย่ากำลังร่ำไห้ วิ่งตามรถเข็นเตียงผู้ป่วยที่มีร่างของตนเองนอนอยู่
“ส่งอุปกรณ์มาเร็วเข้า ต่อให้ลำบากแค่ไหนก็ต้องตกปลาตัวที่ใหญ่ที่สุดให้ได้!”
อุปกรณ์ตกปลาปรากฏขึ้น ค่อยๆแจ่มชัดขึ้นบนพื้นเรือ ผินอินตั้งแต่เกิดมาเคยตกปลากับบิดาที่เสียไปเพียงไม่กี่ครั้ง แต่อาศัยที่ว่าเป็นคนความจำดี จึงเริ่มทบทวนวิธีการเกี่ยวเหยื่อ
ทว่าเบ็ดที่ได้รับมานั้นเป็นเพียงเบ็ดชิงหลิว ผินอินเข้าใจในทันที เพราะมันคือเกมหากไม่ยากย่อมไม่ใช่การเล่นเกม
“จะเบ็ดอะไร ก็จะตกให้ได้ปลามากที่สุด ถ้าจะให้ดีเทพเซียนทั้งหลายโปรดเมตตาข้าด้วยเถิด ส่งจ้าวสมุทรมาให้เลยก็ดี”
แม้จะพูดวิงวอนเช่นนั้น
แต่ในความจริง ที่นี่คือโลกของเกม…
ผ่านไปนานเท่าใดผินอินไม่ทราบ นั่งอยู่บนเรือโคลงเคลงไปตามระลอกคลื่น แต่สุดท้ายปลาที่ติดเบ็ดขึ้นมายังคงเป็นเพียงปลาเล็กปลาน้อย
สภาพแต่ละตัวที่ตกขึ้นมาได้ ใหญ่โตไม่เกินครึ่งฝ่ามือ อีกทั้งเมื่อเจ้าปลาพวกนี้หลงกินเหยื่อเข้าสักตัว พวกที่เหลือก็พากันแตกกระเจิง ว่ายหนีไปไกลตา
ผินอินนั่งจนหลังคดเหมือนเบ็ดในมือ แสงแดดแผดเผาจนตัวไหม้เกรียม
“เฮ้อ นั่งมานานเพียงนี้กลับไม่เห็นแม้แต่เงาปลาตัวใหญ่ แล้วอีแบบนี้เราจะทำคะแนนเพิ่มได้ยังไงกัน”
ที่น่ากังวลกว่านั้นคือเมื่อผ่านไปทุกหนึ่งชั่วโมง สกอร์คะแนนชีวิตของตนก็เริ่มลดลงหนึ่งระดับ แม้ตอนนี้จะมีอยู่เก้าสิบสองเปอร์เซ็นต์ ตามคะแนนที่สะสมไว้ในสเตจที่ผ่านมา แต่หากปล่อยทิ้งเนิ่นนานไป ก็ไม่แน่ว่าอาจจะผลาญคะแนนที่มีจนหมดสิ้น
จะทำเช่นไรดี!?
ผินอินเลิกคิ้วสูง นึกถึงคู่มือขึ้นมาได้ ในเมื่อกำหนดกติกา ย่อมมีทางออกให้คนที่รู้ช่องโหว่ดีเสมอ
“ในกรณีที่ผู้เข้าแข่งขัน ไม่สามารถทำแต้มได้ คะแนนชีวิตจะลดลงทุกหนึ่งชั่วโมง”
พลิกหน้าต่อไปพร้อมอ่านอย่างตั้งใจ
“เมื่อคะแนนที่ทำได้ ถูกนำไปหักลบกันแล้วยังคงเหลือสกอร์ที่สูงกว่าแต้มที่ได้ในสเตจนั้น ๆ ย่อมหมายความว่าสเตจต่อไป ไม่จำเป็นต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนด”
“พูดน่ะมันง่าย หากคิดจะจับปลาที่มีแต้มเหลือขนาดไปถึงสเตจหน้า ตอนนี้คะแนนยังถูกหัก จะเอาอะไรไปบวกเพิ่มได้เล่า”
ไล่สายตาอ่านลงไปอีกกระทั่งเกือบถึงข้อหมายเหตุ
“หากมีข้อสงสัย สามารถกด F เพื่อติดต่อเกมมาสเตอร์”
ผินอินทำท่าไหล่ห่อ สเตจนี้เป็นสเตจที่สาม นอกจากปุ่มช่วยเหลือที่ต้องคิดให้รอบคอบก่อนใช้ ปุ่มนอกเหนือจากนั้นยังไม่เคยได้เห็นสักครั้ง
“ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ลองดูละกัน”
“ปุ่มเอฟ”
สิ้นเสียงสั่งการปรากฏปุ่มเอฟ ลอยขึ้นมาตรงหน้า
ผินอินตะลึง ไม่คาดคิดว่าการสั่งการด้วยเสียงจะสามารถใช้ได้จริง
เมื่อกดลงไป เกิดแสงเจิดจ้า ทันใดนั้นปรากฏตุ๊กตาหน้าจีนแก้มแดงขึ้นกลางอากาศ
[ ผู้เข้าร่วมแข่งขัน มีคำถาม หรือข้อผิดพลาดใด เชิญแจ้งไว้ในระบบได้เลยค่ะ ]
“ไม่มีปลาตัวใหญ่แบบนี้ จะตกปลาเพื่อทำคะแนนได้ยังไงกัน”
[ หากต้องการเปลี่ยนฉาก สามารถใช้คำสั่ง Move ได้ทันทีค่ะ ]
“หา แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ แล้วทำไมไม่บอกแต่แรกล่า ปล่อยให้นั่งตากแดดตัวดำเป็นครึ่งวัน!”
[ หากมีข้อสงสัย สามารถกดปุ่ม F ได้ตามที่แนบท้ายในสมุดคู่มือ ขอบคุณค่ะ ]
เมื่อจบการแจ้งปัญหา เกมมาสเตอร์หายไปจากหน้าจอทันที ผินอินไม่รอช้ารีบลุกขึ้นยืนแล้วสั่งการด้วยเสียง
“Move!”
ทันทีที่ออกคำสั่ง ฉากรอบกายหมุนสลับไล่จากสีครามเข้มไปเป็นเทา ก่อนมืดดับลง
ชั่วอึดใจเรือลำเล็กที่ผินอินยืนอยู่ ถูกย้ายมาสู่อีกฝั่งของท้องทะเล
“ว้าว ปลาเต็มไปหมดเลย ที่แท้พวกมันว่ายน้ำตามกระแสน้ำนี่เอง ดีล่ะงั้นตอนนี้ขอตกปลาให้มันมือหน่อยเถอะ”
ผินอินเหวี่ยงเบ็ดออกไป เพียงไม่นานก็สามารถตกปลาตัวแรกได้ ตัวที่สอง ที่สาม ตามมา ในถังเก็บปลามีจำนวนปลาเพิ่มขึ้นทุกขณะ
แต่ปลาที่ตกได้ยังไม่ใช่ขนาดที่ทำให้สกอร์บนศีรษะ สามารถทำคะแนนตีตื้นขึ้นได้
เมื่อสกอร์สูงขึ้นจนเต็มขั้นหนึ่ง คันเบ็ดจะเปล่งแสงและอัพเกรดคันเบ็ดขึ้นมา
“ว้าว เปลี่ยนจากเบ็ดกิ่งไม้ไผ่ เป็นเบ็ดมีลอกแล้ว สุดยอดไปเลย!”
เมื่ออัพเกรดอุปกรณ์ สกิลการตกปลาจึงเพิ่มเป็นเงาตามตัว
“เหวี่ยงเบ็ดไปไกลสิบเมตร เริ่ม...”
Skill Up!
เบ็ดที่ได้รับการอัพสกิล สามารถเหวี่ยงไปไกลได้สิบเมตร ในระยะสิบเมตร เบ็ดถูกเพิ่มขอเป็นสามขอ
“ไม่ได้ ขืนเป็นแบบนี้เราคงต้องนอนกลางทะเลแน่ ๆ ต้องหาปลาที่ตัวใหญ่มากพอ ทำให้สกอร์ทะลุ จึงจะสามารถสะสมคะแนน พร้อมกับได้กลับขึ้นฝั่ง”
ผินอินจำได้ว่านิสัยของปลาตัวใหญ่คือมักจะออกหากินในเวลากลางคืน แต่นั่นคือปลาดุร้าย ส่วนปลาตัวใหญ่ที่มักออกหากินกลางวัน ส่วนมากเป็นปลาที่กินแพลงตอนเป็นอาหาร
แล้วจะทำอย่างไรจึงจะได้เจอปลาเหล่านั้น
------------------------
น่าสงสารผินอินจัง มาลุ้น และส่งใจให้เธอกันนะคะ
เป็นกำลังใจให้ หลิวอี๋เหวิน ด้วยนะคะ
ฝากกดไลค์ กดแชร์ และให้หัวใจกันแบบรัว ๆ ด้วยนะ
กราบรอบทิศ สาธุ ภารกิจนี้ เพื่อพิชิตอันดับหนึ่งของ #ดรีม
#การประกวดนิยายภาษาไทยครั้งแรก