เทศกาลโคมไฟสิ้นสุดลง พร้อมกลิ่นควันจางหาย สกอร์คะแนนไม่ได้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้ผินอินรู้สึกยินดี เมื่อกลับเข้าสู่อาเขตด้วยสกอร์สูงสุดติดกันสามด่าน ทำให้มีโอกาสได้พบกับช่วงเวลาโกลเดนโกลด์
รอบห้องเคยเป็นเพียงห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัส ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีประตู เกิดเป็นห้องซึ่งมีภาพรอบข้างเป็นสถานการณ์จริงของโลกที่จากมา
ผินอินได้พบว่าตนเองยังคงนอนอยู่บนเตียง โดยมีคุณย่ากับพี่สาวมาคอยเฝ้าดูอาการ
ในอาเขตอันแสนอ้างว้าง ผินอินเก็บเกี่ยวเรี่ยวแรงและความหวัง เมื่อได้มองเห็นว่าตนยังมีลมหายใจ เหลือการเข้าแข่งขันอีกยี่สิบสองด่าน ตนก็จะสามารถกลับสู่โลกแห่งความจริงได้
“รอหน่อยนะคะคุณย่า หนูจะต้องกลับไปให้ได้”
คืนนั้นแม้ทิ้งตัวลงนอน แต่สุดท้ายกลับมีบางอย่างทำให้ข่มตาหลับไม่ลง
“ฮืม... หลับเสียทีสิ”
ความมืดหลังเปลือกตา ทว่ารอยยิ้มของรัชทายาทกลับผุดขึ้นมาแจ่มชัด สุดท้ายต้องลุกขึ้นมานั่งอีกครั้ง ทั้งที่ใจอยากหลับ
“โอ้ย ทำไมต้องมาเห็นแต่หน้าอีตานั่นด้วยนะ อยากนอน จะได้มีแรงไปเล่นต่อ!”
“ปุ่มเอฟ!”
เกมมาสเตอร์เดินออกมาจากเงามืด
ผินอินสะดุ้งตัวโยน
“ทุกวันนี้แทบจะเป็นผีอยู่แล้วนะมาสเตอร์ ใจหายเลย!”
[ ท่านผู้เข้าแข่งขัน มีข้อสงสัย หรือไม่เข้าใจเกี่ยวกับกติกาในข้อไหน ท่านสามารถสอบถามได้ ]
“เปล่าหรอก แค่อยากรู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะหลับสนิท”
[ ไม่มีข้อมูล ไม่มีข้อมูล ไม่มีข้อมูล ]
“เออ... ฉันผิดเองแหละที่คาดหวังเรื่องแบบนี้จากโปรแกรม”
[ แต่หากต้องการสลบ เราสามารถโปรแกรมให้ผู้เข้าแข่งขัน เขาไปในแคปซูล เพื่อเข้าสู่การต่อสู้ในขณะหลับได้ค่ะ ]
“เฮ! แบบนี้ก็มีด้วย นี่เอากันถึงชนิดที่ว่าต่อให้หลับตาก็ต้องเล่นเกมสินะ”
[ หากมีความประสงค์จะผ่านด่าน ทั้งที่กำลังนอนหลับ สามารถแจ้งความประสงค์ พร้อมเดินเข้าอุโมงค์หลังจากเราทำการเปิดวาร์ปได้ทันที ]
“ก็ดีสิ ไหน ๆ ก็นอนไม่หลับอยู่แล้ว เปิดวาร์ปเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลา รออาเขตเปิดทำการ”
[ รับทราบ อาเขต เตรียมพร้อม เปิดการวาร์ปใน 5 4 3 2 1… ]
[ Start Area! ]
อุโมงค์ขนาดใหญ่ถูกเปิดขึ้นท่ามกลางแสงสีรุ้งสลับแดงหมุนราวกับหัวสว่าน ก่อนหน้าผินอินเคยหวาดกลัวกับเรื่องเหล่านี้ ทว่าเมื่อคุ้นชินก็ไม่เคยคิดใส่ใจ
ทันทีที่เดินผ่านเข้าไปในอุโมงค์ ทางของมันเริ่มแคบลงเรื่อย ๆ กระทั่งความสูงของทางเดินเหลือเพียงเท่าลำตัว
เมื่อมาถึงทางเข้าประตูทรงไข่โปร่งแสง ด้านในมีหลุมซึ่งจัดวางคล้ายแคปซูลยานอวกาศที่เคยเห็นในหนัง
[ มาสเตอร์ มาสเตอร์ รีรัน การเข้าแคปซูล ในอีก 5 4 3 2 1 ]
“เร่งจริงน๊า เอาเถอะ... ยังไงเสียก็ไม่มีอะไรต้องกลัว ไหน ๆ เราก็ครึ่งเป็นครึ่งตายอยู่แล้วนี่นา จะกลัวไปทำไมกัน”
ประตูแคปซูลถูกปิดลงอย่างนุ่มนวล
ในแคปซูลผินอินรู้สึกกำลังเคลิ้มด้วยบรรยากาศแปลก ๆ แม้จะตื่นกลัวอยู่บ้าง ทว่าสุดท้ายเปลือกตาก็ปิดลง
[ เช็คคลื่นสมอง ]
[ All Ready ]
ผินอินลืมตาขึ้น อาเขตเปลี่ยนรูปแบบไป ทุกอย่างเป็นโลกของโรบอท ตัวละครเป็นรูปร่างของตัวต่อทั้งหมด รูปทรงเหลี่ยม แม้แต่ตัวของผินอินเองก็เช่นกัน
“โอ้ ที่นี่คืออีกอาเขตสินะ เยี่ยมเลย! หน้าตาอย่างกับเกมอีกเกมที่เคยเล่นเลย”
ในโลกอาเขตต่างแดน ผินอินไม่ว่าจะชนหรือหกล้ม กลับไม่มีบาดแผลเกิดขึ้น คล้ายกับตนเองกลายเป็นหนึ่งในโปรแกรมไปจริง ๆ
เสียงประกาศดังขึ้น
[ อาเขตเรียกผู้เข้าแข่งขัน อาเขตเรียกผู้เข้าแข่งขัน กรุณายืนหลังเส้นสีขาวทุกท่าน ]
“เส้นสีขาวไหน?”
บนพื้นปรากฏเส้นสีขาวขึ้นหลังจากเสียงประกาศจบลง
“โอ้แจ่มมาก อาเขตว่องไวกว่าเกมโลกเก่า แต่ไม่รู้กติกาเป็นยังไง?”
เจ้าหน้าที่เป็นตัวโรบอทรูปร่างคล้ายตุ๊กตาจีน แต่เท่าที่ดูออกจะแตกต่างกันมาก เพราะไม่ได้มีความเข้มงวด อีกทั้งเป็นเพียงแค่ตัวแทนที่แม้จะมองด้วยตาเปล่าก็เห็นว่าต่างมาก
[ กรุณายืนหลังเส้น กรุณายืนหลังเส้น เพื่อฟังกติกา ]
กลางอากาศปรากฏเจ้าหน้าที่ตัวจริง ตุ๊กตาหน้าจีนที่เคยเป็นเกมมาสเตอร์ของโลกเกมเก่า
ก๊อก ๆ เสียงคล้ายเคาะไมค์ดังขึ้น
[ กติกามีเพียงแค่ วิ่งให้เข้าเส้นชัยตามที่กำหนดเวลา ]
“อ้าว ไหงมันง่ายอย่างนั้นล่ะ?”
[ บนศีรษะของผู้เข้าแข่งขัน จะมีสกอร์พลังการวิ่ง หากต้องการเร่งความเร็ว สามารถเพิ่มระดับการเผาไหม้พลังงานคะแนนสะสม หากไม่ต้องการเร่งความเร็ว ก็ไม่ต้องกดปุ่มเร่งพลังงาน ]
“นั่นไง แมพไหนก็เหมือนกัน ง่ายเหมือนปอกกล้วยใส่ปากแมว กติกาแมว ๆ แบบนี้จะพูดทำไม!”
[ เส้นชัย คือ ต้นไม้ที่อยู่บนเนินเขาที่เห็นอยู่ด้านหน้าของท่านผู้เข้าแข่งขัน ]
แสงสีทองปรากฏส่องสว่างอยู่หลังต้นแอปเปิลยักษ์ซึ่งยืนต้นตระหง่านอยู่บนเนินเขา
[ เมื่อเข้าถึงเส้นชัย ผู้เข้าแข่งขันต้องหาทางกินลูกแอปเปิลบนต้นให้ได้ จึงจะถือว่าเข้าเส้นชัยสำเร็จ ]
นาฬิกาดิจิตัล เริ่มเดินถอยหลัง เป็นตัวเลขขนาดใหญ่ ค่อย ๆ เลือนหายไป เมื่อนับถอยหลังครบ
[ Game Start! ]
ออกสตาร์ท
ผินอินรู้เพียงว่าตัวเองต้องวิ่งอย่างสุดกำลัง ไม่ใช่เพราะมีคู่แข่ง แต่เพราะทุกครั้งเมื่อเข้าแข่งขัน กติกาเข้มงวดก็จริง แต่อุปสรรคในเกมใช่ว่าจะไม่มี
เสียงอึกทึกไล่มาจากทางด้านหลัง เหลียวหน้ากลับไปดูถึงกับอ้าปากร้องลั่น
“เผลอไม่ได้ เผลอไม่ได้ ดูสินั่นอะไรมา!?”
ผินอินช่ำชองในการระแวดระวัง วิ่งไปไม่นานเห็นฝูงวัวกระทิงวิ่งไล่มากจากทางด้านหลัง
“ชิ... ไม่มีกติกา ไม่มีอุปสรรค โป้ปดชัด ๆ ถ้าไม่วิ่งก็ตาย วิ่งช้าก็ตาย ซักวันจะต้องเอาคืนอีตาเกมมาสเตอร์ให้ได้เลย”
เท้าทั้งสองข้างยังคงก้าวเท้าวิ่งไม่หยุดยั้ง กระทั่งเรี่ยวแรงที่มีเริ่มลดน้อยถอยลง ผินอินเหลียวกลับไปครั้งใด ยังคงสยองพองขนกับเหล่าวัวกระทิงรูปร่างพิลึกพวกนั้น
“ตัวก็เหลี่ยม หน้าก็เหลี่ยม แต่ดันวิ่งเร็วอย่างกับอะไร ไอ้เรื่องหาอุปสรรคมาทรมานคนเข้าแข่ง จำไว้เลย จำไว้เลย” ตะโกนเสียงสูง และสุดเสียง
สุดท้ายแม้แต่กำลังวิ่งยังต้องคิดหาแผนการรับมือ
ผินอินใช้ความได้เปรียบเรื่องรูปร่างกระโดดขึ้นที่สูงบ้าง ไต่ไปตามบันไดต่างระดับบ้าง แต่เหล่าวัวกระทิงตัวเหลี่ยมยังสามารถวิ่งไล่หลังมาได้อย่างไม่ลดละ
“ดีล่ะ ในเมื่อไม่มีกำหนดเวลา งั้นเราก็หลบได้ใช่ไหม?”
ผินอินทำทีวิ่งหลอกล่อ กระทั่งเจอโอ่งใบใหญ่จึงรีบกระโจนลงไปอยู่ด้านใน เสียงฝูงกระทิงวิ่งผ่านไป นางจึงค่อย ๆ ชะโงกหน้าขึ้นมอง
“เฮ้อ ยังไงมันก็แค่วัวกระทิง มีเหรอจะมาสู้สมองคนได้ คราวนี้ก็ออกไปวิ่งต่อได้แล้วสินะ”