เมื่อกังเฉินตัดสินใจนำนางเข้าไปพบญาติผู้ใหญ่ในคฤหาสน์ คนทั้งตระกูลกังก็รีบมารวมตัวกัน ซุนลี่มี่จึงสารภาพความจริงต่อหน้าคหบดีกังและฮูหยินใหญ่ บิดาของกังเฉินได้ยินนางเล่าถึงครอบครัวที่เมืองฉู่จิ้งพลันตบเข่าฉาด
“ที่แท้เจ้าก็คือบุตรสาวของคหบดีซุนนี่เอง! ข้ารู้จักกับท่านพ่อเจ้าเมื่อครั้งไปเยือนเมืองฉู่จิ้งตั้งแต่วัยหนุ่ม ไม่น่าเชื่อเลยบัดนี้ลูกของคนผู้นั้นจะโตขึ้นเป็นสาวสวย ซ้ำยังกลายมาเป็นลูกสะใภ้ของข้า ฮ่าๆ ดียิ่งนัก!”
ท่านผู้อาวุโสทั้งหลายในตระกูลต่างโล่งอกที่ได้รู้ว่าแท้จริงนางก็คือคุณหนูตระกูลเศรษฐีในเมืองฉู่จิ้งที่ถูกคนร้ายจับตัวมาขายในหอโคมเขียวแล้วบังเอิญผู้ที่ร่วมห้องกับนางในคืนแรกนั้นคือ..กังเฉิน
“ในเมื่อเจ้ามั่นใจว่าต้องการแต่งงานกับนาง พวกเราก็ไม่ขัดข้อง”
จงเหยียนถึงกับตาเหลือกเมื่อได้ยินว่ากังเฉินกำลังจะจัดพิธีแต่งงานภายในปลายเดือนนี้
“อ๊ะ! ก็อีกแค่สิบห้าวันเองนี่ กังเฉิน! เจ้ากล้าตัดหน้าข้าไปอีกคนแล้ว ครั้งก่อนก็เหล่าลู่ ครั้งนี้ก็เป็นเจ้า! ข้ากับฟางเอ๋อร์รักกันก่อนพวกเจ้าสองคู่เสียอีก เหตุใดสวรรค์จึงกลั่นแกล้งข้า?”
“ท่านพ่อกับท่านแม่ของข้าเกรงว่านางจะท้องป่องออกมาเสียก่อนน่ะสิ! เจ้าก็รู้ว่าข้ากับนางร่วมห้องกันตั้งแต่ครั้งแรกที่พบหน้า ยิ่งตอนนี้ข้าอยู่ใกล้นางทีไรก็อดใจไม่ไหวทุกที ข้าจะบอกความลับให้...ข้าแอบย่องเข้าหานางทุกคืนเทียว ญาติผู้ใหญ่ทั้งหลายกลัวว่าหลานชายอาจจะอยู่ในท้องของนางแล้วจึงได้เร่งรีบกันเช่นนี้”
จงเหยียนได้แต่รำพึงรำพันกับตนเองว่า...หากเขาเชื่อเหล่าลู่ ป่านนี้ก็คงไม่ต้องระทมทุกข์อยู่เป็นคนสุดท้าย!
ว่าที่เจ้าบ่าวคนใหม่สดชื่นรื่นเริงยิ่งนัก ทำให้จงเหยียนกับองค์ชายสิบห้าพลอยรู้สึกเขม่นเข่นเขี้ยว คหบดีกังให้นำตัวว่าที่ลูกสะใภ้เข้าไปอยู่ในเรือนอีกหลังที่ฟากหนึ่งของคฤหาสน์ เดิมทีก่อนแต่งงานเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต้องห้ามพบหน้า แม้มารดาของกังเฉินจะปรามไว้ แต่เจ้าองครักษ์หนุ่มตัวร้ายก็ลอบเข้าห้องซุนลี่มี่ในยามค่ำคืนและมอบความรักให้นางเต็มอัตราศึก
“เจ้าคอยดูเถิด...ข้าจะต้องมีบุตรก่อนเหล่าลู่ให้ได้!” กังเฉินประกาศหนักแน่น
คณิกาในหอโคมเขียวชั้นนำในเมืองหลวงต่างเศร้าโศกที่กังเฉินประกาศจะแต่งงาน บรรดาสตรีที่เคยร่วมเตียงกับกังเฉินเริ่มปรึกษาหารือและรวมตัวกันไปหาซุนลี่มี่เพื่อต่อรองขอให้กังเฉินมาหลับนอนกับพวกนางบ้าง
“พวกข้ายอมรับได้ที่เจ้ากับเขาจะแต่งงานกัน แต่เจ้าก็ต้องเห็นใจพวกข้าบ้าง คุณชายกังเป็นสมบัติส่วนรวมของพวกเรามาหลายปี แต่พอมีเจ้าเขากลับประกาศตัดสัมพันธ์กับพวกข้า...เจ้าช่วยทบทวนอีกทีเถิด แบ่งคุณชายกังให้พวกเราเชยชมบ้างพอจะได้หรือไม่?” ผานเจาจวินสาวงามอันดับหนึ่งแห่งหออิงราตรีนำขบวนสตรีกลุ่มแรกเข้ามาเจรจากับซุนลี่มี่ถึงในคฤหาสน์ตระกูลกัง
คราแรกซุนลี่มี่ปฏิเสธอย่างแข็งขัน “ได้อย่างไรเล่า? ผู้ใดบ้างจะยอมใช้สามีร่วมกับผู้อื่น ข้ายังไม่เข้าพิธีวิวาห์เลย พวกเจ้าก็มาขอสมัครเป็นสาวใช้อุ่นเตียงแล้ว เช่นนี้จะให้ข้าทำใจอย่างไร?”
กังเฉินคอยพยักเพยิดเป็นลูกคู่เห็นด้วยที่ซุนลี่มี่แสดงความหึงหวงออกนอกหน้า ชายหนุ่มภูมิใจยิ่งนักที่นางไม่ยอมให้ผู้ใดแตะต้องเขาอีก ทว่าซุนลี่มี่ที่ต้องคอยรับศึกหนักบนเตียงจากว่าที่สามีเริ่มจะทบทวนสิ่งที่ผานเจาจวินพูด นับตั้งแต่นางกลับมาหาเขาในครั้งนี้ไม่มีคืนใดที่จะว่างเว้นจากการถูกเขาปรนนิบัติบนเตียงอย่างหลงใหล เร่าร้อน…ท่านพี่ช่างมีแรงเหลือเฟือ!
งานแต่งงานขององครักษ์กังเฉินเป็นงานใหญ่อีกงานหนึ่งในเมืองหลวง ประธานในพิธีคือองค์ชายสิบห้าผู้เป็นนายโดยตรง หมิงเฉิงอวี่ทั้งแสดงความยินดีทั้งอิจฉาที่กังเฉินมีความสุขกับการมีสตรีที่รักอยู่ในอ้อมกอดทุกค่ำคืนแต่พระองค์ต้องกล้ำกลืนฝืนทนรอคอยให้ทุกอย่างลงตัวเสียก่อน กังเฉินดื่มสุราไปไม่น้อยเมื่อกลับไปยังห้องหอแต่เขาก็ช่างแข็งแรงนักทำเอาเจ้าสาวแทบจะคร่ำครวญร้องขอชีวิต
“น้องหญิง คืนนี้ข้าจะจัดให้เจ้าเป็นพิเศษ เราอย่าทำท่าเดิมกันเลยดีกว่า วันนี้วันแต่งงานของพวกเรา ข้าจะทำให้เจ้าลืมไม่ลงเลยทีเดียว”
ซุนลี่มี่ขนลุกขนชันเมื่อได้ยินเจ้าบ่าวรับรองเช่นนั้น เกือบหนึ่งเดือนตั้งแต่นางพบเขาอีกครั้งในยามกลางวันนางแทบจะมิได้ทำอันใด เนื่องเพราะความเหนื่อยอ่อนจากการที่เขาย่องเข้ามามอบความรักในยามค่ำคืน
“ท่านพี่...ท่านยังรักข้าไม่มากพออีกหรือเจ้าคะ?”
“มี่เอ๋อร์ มามะ ข้าจะปรนนิบัติบนเตียงเจ้าเอง เจ้าแค่นอนเฉยๆ ก็พอแล้ว”
เพราะ “ท่าใหม่ๆ” ที่สามีรับรองกับนาง ทำเอาซุนลี่มี่ปวดเนื้อเมื่อยตัวไปอีกสองวันจนต้องขอลาป่วยกับท่านพี่...
“ไหนว่าข้าแค่นอนเฉยๆ ก็พอ...คนโกหก!”
กังเฉินเห็นสภาพภรรยาก็หัวเราะพอใจ เขาจึงยอมนอนกอดคลอเคลียกับนางโดยมิทำอันใดมากกว่าไปกว่านั้นได้ถึงสองวัน
ต่อมาไม่นานนัก ขบวนเหล่าแม่นางที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ในเมืองหลวงก็พากันรวมตัวมาหาซุนลี่มี่อีก นับเป็นครั้งที่สองที่นางได้ต้อนรับบรรดาสตรีของสามี หญิงงามกลุ่มนั้นพากันมาวิงวอนขอให้ซุนลี่มี่ยอมอนุญาตให้กังเฉินเลือกหนึ่งในพวกนางไปร่วมเตียงบ้างเป็นบางครั้ง
“พวกข้าคอยช่วยงานเขาอยู่ตลอด แต่ก่อนองครักษ์กังจะให้รางวัลพวกเราบนเตียงเป็นบางครั้งแต่นี่...พอเขาตกเป็นของเจ้า เขาก็ปฏิเสธพวกเรามาตลอด เช่นนี้แล้วพวกเราจึงได้แต่อดอยากปากแห้ง ต่อให้มีผู้ชายคนอื่นพัวพันกับพวกเราบ้างแต่ก็ไม่มีผู้ใดทำให้ลืมไม่ลงได้อย่างองครักษ์กังหรอกนะ”
ซุนลี่มี่เริ่มรู้สึกเห็นใจพวกนางจึงได้เอ่ยอนุญาต “หากว่าท่านพี่อยากจะร่วมเตียงกับพวกเจ้าก็ให้เขามาขอกับข้าเป็นครั้งคราวไป หากว่าเขาประสงค์เช่นนั้นจริง ข้ารับปากว่าจะพิจารณาอนุญาต...ดีหรือไม่?”
ถ้อยคำยินยอมของซุนฮูหยินขององครักษ์กังถูกถ่ายทอดในหมู่สตรีของกังเฉินทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรกลับเป็นกังเฉินเองไม่ยอมให้ความร่วมมือกับพวกนาง ผานเจาจวินอดรนทนไม่ไหวถึงกับเชิญเขาไปนั่งดื่มสุราในห้องของนางบนหออิงราตรี ทั้งเปลือยกายต่อหน้า ทั้งเต้นรำยั่วยวนในชุดยั่วยวนสุดขีดแล้วก็ยังไม่อาจปลุกความซ่านกระสันต์ของเขาได้
“ใช่ว่าข้าไม่อยากจะตอบสนองพวกเจ้า! แต่นี่ดู! เจ้าก็เห็นแล้วว่างูยักษ์ของข้าไม่อยากจะมุดถ้ำผู้ใดอีกแล้วนอกจากมี่เอ๋อร์ เจ้าเชื่อข้าหรือยังเล่า?”
*************************
จบไม่บริบูรณ์นะคะ...ไปอ่านต่อที่เรื่องหลักจ้า! "เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย"