บทที่ 5 ข้ารอหญิงที่รัก

1317 คำ
“อย่างไรหรือ?” “เราสามารถเห็นนางเป็นสหายและให้คอยช่วยหาข่าวให้ แต่นั่นต้องสืบสอบพฤติกรรมของนางให้ละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อน ข้าได้ตรวจสอบเบื้องหลังผานเจาจวินแล้วจึงได้กล้ากลับไปร่วมห้องกับนางอีกและบัดนี้นางก็กลายเป็นหนึ่งในผู้ช่วยในการสืบหาข่าวด้วย” “ไอหยา! ที่แท้เจ้าก็ได้ทั้งขึ้นทั้งล่องนี่เอง” “ข้าก็เพียงแค่ใช้ชีวิตวัยหนุ่มให้คุ้มค่าเท่านั้นเอง ต่อไปหากข้าเจอสตรีที่ข้ารักแล้ว ข้าจะไม่ร่วมเตียงกับพวกนางอีก” จงเหยียนยิ้มน้อยๆ “เจ้าจะอดใจได้หรือ? ตอนที่เจ้าเดินลงจากบันไดสวนทางกับเตียวลี่หลินข้าเห็นนางมองเจ้าด้วยสายตาละห้อย ถ้าไม่ติดว่าคหบดีจูกอดนางอยู่คงจะพุ่งมาหาเจ้าแล้ว” เตียวลี่หลินผู้นั้นคือหญิงงามอันดับสองของหออิงราตรีที่เฝ้าถวิลหาคุณชายกังเช่นเดียวกับผานเจาจวิน นางพลาดไปที่คืนนี้นัดแขกคนสำคัญเอาไว้ล่วงหน้า “จงเหยียน เจ้าไม่อยากมีหญิงที่รักบ้างเลยหรือ?” กังเฉินเลิกคิ้วข้างหนึ่ง ก่อนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เขาได้ยินว่าคนในสกุลจงล้วนต้องการเห็นจงเหยียนแต่งงานเสียที “ยังไม่มีวี่แววเลย! ข้ายังไม่สะดุดตาสะดุดใจผู้ใดทั้งนั้น” กังเฉินถอนหายใจยาว...เมื่อมองดูจงเหยียนยืนกุมมือสาวใช้สกุลชิง ‘จังเสี่ยวลิ่ง’ อยู่ในสวนท้ายจวนชิงในอำเภอเฉิน หลังจากที่สหายองครักษ์ผู้นี้ตามเสด็จองค์ชายสิบห้ามายังควบคุมดูแลการบูรณะวัดพระโพธิสัตว์ได้ไม่นานก็พลันตกหลุมรักเสี่ยวลิ่ง สาวใช้ของคุณหนูชิงที่องค์ชายสิบห้าทรงว่าจ้างให้มาวาดรูปบนฝาผนังวิหารเก้าเทพร่วมกับจิตรกรหลวงคนอื่นๆ บทสนทนาเมื่อหนึ่งเดือนก่อนมายังอำเภอเฉินองครักษ์กังยังจดจำได้ แต่มิคาดว่ามาได้ไม่กี่เดือน จงเหยียนจะกลายเป็นผู้มี ‘หญิงที่รัก’ ไปเสียแล้ว “ข้ารู้แล้วว่าการมีหญิงอันเป็นที่รักมีความสุขเช่นไร? ตอนนี้ข้าไม่ต้องการหญิงงามคนใดทั้งนั้นนอกจากเสี่ยวลิ่ง” สีหน้าเปี่ยมสุขของสหายทำให้เขาอดอิจฉามิได้ เขาอยากจะโชคดีได้พบสตรีที่รักอย่างจงเหยียนบ้างแต่...สวรรค์ก็ยังไม่เมตตา หลังจากจงเหยียนมีคนรักเมื่อต้องไปสืบข่าวในหอคณิกาอีกคำรบ จงเหยียนก็ปฏิเสธที่จะใช้บริการสาวงามที่มายืนรายล้อมในทันที เขาเกรงว่าหากเสี่ยวลิ่งรู้เข้านางจะเสียใจและอาจจะทิ้งเขาไป นับว่าจงเหยียนคิดถูกเพราะภายหลังองค์ชายสิบห้าแสดงท่าทีชัดเจนว่ามีใจให้กับคุณหนูชิงเจ้านายของเสี่ยวลิ่ง หนำซ้ำหลังจากหมั้นหมายกับเสี่ยวลิ่งได้สำเร็จแล้ว สาวใช้ผู้นั้นยังถูกพิสูจน์ว่าแท้จริงนางเป็นถึงบุตรีของรองแม่ทัพใหญ่มู่ที่ถูกลักพาตัวไปในวัยแรกเกิด “เอาเถิดคราวนี้ไปสืบข่าวในหอคณิกานอกเมืองเจ้าก็แค่เฝ้าข้าอยู่ด้านนอกก็พอ” ยามนี้ข่าวใหม่ที่คุณชายจินได้นำไปบอกกล่าวแก่องค์ชายสิบห้าคือ มีหอโคมเขียวแห่งใหม่ลอบเปิดอยู่สุดตรอกถนนจี้ฮุย ด้านทิศใต้ของเมืองหลวง ส่วนนั้นเรียกรวมกันว่าย่านจี้ฮุยตามชื่อถนน บรรดาพ่อค้าต่างถิ่นที่เข้ามาค้าขายกันมากขึ้นตามนโยบายใหม่ของหมิงฮ่องเต้นิยมมาเช่าอยู่อาศัยบริเวณนั้น พวกเขามักจะเอาสินค้าที่นำมาปูเสื่อกับพื้นแล้ววางขายบนท้องถนน ต่อมาจึงกลายเป็นย่านสินค้าต่างแดนที่สำคัญ ในครึ่งปีหลังนี้องค์ชายสิบห้าได้รับการแจ้งข่าวว่าเหล่ามือสังหารก็มักจะมาอยู่อาศัยปะปนในย่านนี้ กังเฉินที่ช่วยองค์ชายติดตามคดีอดีตมือปราบเฉาอวิ๋นจือที่ลักลอบจับหญิงสาวชาวบ้านบังคับให้เป็นหญิงคณิกาจึงต้องออกไปสืบที่หอโคมเขียวเถื่อนแห่งนี้ “จงเหยียนเจ้าไปหอซิงซิงกับข้า” หัวหน้าองครักษ์กวาดตามองแล้วชี้ไปยังสหายคนสนิท “ส่วนที่เหลือเจ้าแต่งกายเป็นพ่อค้าต่างถิ่นไปปะปนอยู่บนท้องถนน เผื่อเราพบผู้ต้องสงสัยหรือนักโทษตามหมายจับ” “หอคณิกาเถื่อนเกิดขึ้นบ่อยเหลือเกินช่วงนี้” “นี่ทำให้เห็นว่าอิทธิพลของนายท่านที่คนของอู่ฉางชิงพูดถึงคงมีอยู่ทั่วเมืองหลวงน่ะสิ! งานนี้เราต้องระวังตัวสักหน่อย ดูเหมือนหูตาพวกมันก็ว่องไวไม่น้อย” กังเฉินกับจงเหยียนแต่งกายคล้ายคนมาจากชนเผ่าทะเลทรายเข้าไปในหอซิงซิง กังเฉินแสดงตัวเป็นคหบดีหนุ่มที่เดินทางมาไกลอยากจะได้สาวน้อยมาร่วมเตียง “ราคาข้าสู้ได้ แต่ขอดูตัวคนเสียก่อน” แม่เล้าสุยเดินนวยนาดออกมารับแขกด้วยท่าทางระริกระรี้ นางไม่เจอบุรุษรูปร่างกำยำ หน้าตาคมคายแถมยังกระเป๋าหนักเช่นนี้มานานแล้ว นางเดินสำรวจรอบตัวกังเฉินรอบหนึ่งแล้วยิ้มอย่างพึงพอใจ “นี่ถ้าข้าเป็นสาวเป็นแส้อยู่ล่ะก็ คงจะปรนนิบัติคุณชายเองแล้วเจ้าค่ะ” องครักษ์หนุ่มยิ้มน้อยๆ ก่อนจะหยิบตั๋วแลกเงินออกจากสาบเสื้อด้านในมาปึกหนึ่งแล้วกรีดไปมาหน้าสตรีวัยกลางคนที่แต่งหน้าเสียหนาเตอะผู้นั้น “เจ้ามีสินค้าใหม่ล่าสุดจะเสนอข้าหรือไม่ล่ะ เถ้าแก่เนี้ย?” “โอ๊ะ! ในเมื่อนายท่านพร้อมจ่ายเช่นนี้ ข้าน้อยก็ต้องมีสิเจ้าคะ?” นางเห็นเงินเป็นฟ่อนของชายหนุ่มตรงหน้าถึงกับเบิกตากว้าง “อาเป่าเจ้าไปเอาน้องใหม่ของเราเข้าไปรอที่ห้องจันทราเดี๋ยวนี้!” น้ำเสียงของนางแข็งขันเมื่อหันไปสั่งบุรุษที่คอยดูแลความเรียบร้อยในหอคณิกาแห่งนี้ ก่อนจะผินกลับมาทางกังเฉินกับจงเหยียน “เดี๋ยวคุณชายน้อยผู้นี้เล่าเจ้าคะ? จะรับแม่นางสักคนมาเป็นเพื่อนคลายเหงาหรือไม่?” “แย่จริงเถ้าแก่เนี้ย! ช่วงนี้ข้าจำต้องงดสักระยะหนึ่งก่อน ร่างกายของข้าไม่สู้ดีนักเพราะเดือนก่อนเที่ยวหนักไปหน่อย เอาไว้ฟื้นตัวได้เมื่อไหร่จะมาใช้บริการอย่างแน่นอน” แม่เล้าสุยได้ยินเช่นนั้นก็แสร้งทำตาโตส่งเสียงจิ๊กจั๊กๆ “โอว...นับเป็นข่าวร้ายสำหรับข้าน้อยนัก! แต่มิเป็นไรเจ้าค่ะ เอาไว้ร่างกายท่านพร้อมรบเมื่อใดที่นี่ยินดีต้อนรับท่านเสมอ” กังเฉินรวบตั๋วแลกเงินในมือเก็บเข้าคืนในสาบเสื้อ “ไปกันเถอะ ข้าอยากเห็นสตรีที่จะปรนเปรอข้าในคืนนี้แล้ว” เถ้าแก่เนี้ยสุยเดินนำทางเถ้าแก่หนุ่มจากแดนไกลไปยังห้องชั้นบนที่อยู่ลึกเข้าไปด้านในสุด หอโคมเขียวซิงซิงแห่งนี้มิได้ติดป้ายด้านหน้าเอาไว้ การให้บริการล้วนแล้วเป็นลูกค้าที่ถูกแนะนำต่อๆ กันมา หากไม่มีผู้พาเข้ามา แม่เล้าก็ไม่กล้าต้อนรับเพราะเกรงจะเป็นคนของทางการเข้ามาสืบสอบ นายท่านร่างสูงสง่ารูปงามด้านหลังผู้นี้มีพ่อค้าขาประจำจากเมืองฉู่จิ้งนำมานางจึงคิดนำเด็กใหม่มาเรียกเงินก้อนโตจากเขา ร่างอ้อนแอ้นทว่าอวบอิ่มนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงใหญ่ที่ตั้งชิดด้านผนังด้านใน แม่เล้าโบกพัดกลมเดินนำหน้าชายหนุ่มไปยืนดูใกล้ๆ “นางเดินกลางมาไกลสักหน่อยเลยนอนเอาแรงอยู่เจ้าค่ะ อีกประเดี๋ยวก็คงจะได้เวลาตื่นแล้ว นางเพิ่งขัดสีฉวีวรรณมาเลยเทียว ที่สำคัญข้าคัดนางมาให้ท่านโดยเฉพาะ” *********************************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม