องครักษ์หนุ่มเกร็งร่างมิให้เผลอกระแทกนางแรงเกินไป ท่อนกายแข็งแรงค่อยๆ เบียดแทรกผ่านเนื้อหนุ่มทำให้แยกออกจากกัน
“อึ๋ย! นะ แน่นจังคุณชาย!” แม้นางจะเห็นว่าเจ้างูใหญ่ของเขาใหญ่กว่าของบุรุษทั่วไปไม่มากแต่ไม่รู้เหตุใดยามนี้เหมือนมันขยายขึ้นได้อีก
กังเฉินใช้มือข้างหนึ่งเอื้อมอ้อมมาหน้าขาด้านหน้าลูบเลื่อนมาจนถึงขาอ่อนด้านในขยับให้แยกออกห่างอีกหน่อยก่อนจะล้วงเข้าไปถึงไล้วนติ่งเนื้อน้อยที่เป็นจุดกระสันต์จนผานเจาจวินเผลอครางแรง กังเฉินอาศัยจังหวะนั้นดันท่อนเอ็นพรวดเข้าไปจนสุด
“อ๊ะ! อ๋า...”
เมื่อเขาเริ่มขยับออกช้าๆ แล้วดันเข้าไปใหม่ นางก็ครางยาวพร้อมแอ่นก้นรับ กังเฉินไม่เพียงแต่เคลื่อนเบาๆ แต่เข้าลึก หากยังควงวนจนนางเสียวซ่าน กังเฉินเห็นนางครวญโหยหวนเช่นนั้นก็เลื่อนมือสองข้างประคองช่วงเอวของนางไว้
“ข้าจะเร่งแล้วนะ” เสียงของเขาเริ่มแหบพร่าด้วยแรงพิสดารก่อนจะขยับเร่งเร้าขึ้น เสียงกระแทกระหว่างเนื้อกับเนื้อดังเป็นจังหวะกังวานไปทั่วห้อง
“โอว...อ๊า...โอว...”
เสียงของผานเจาจวินยิ่งทำให้กังเฉินยิ่งคึก เขาโน้มร่างขยับมือไปนวดเฟ้นหน้าอกทั้งสองของนาง ปลายนิ้วคลึงวนแตะส่วนยอดอก บั้นท้ายชายกระเด้งขึ้นลงอย่างไม่ลดละ
“เจาจวิน ไปต่อกันที่เตียงนะ” เขาชะลอแรงลงแต่ไม่ยอมดึงเจ้ามังกรออกจากถ้ำ ดึงร่างนางให้เอียงมายืนพิงอกก่อนจะใช้สองแขนช้อนใต้ขาสองข้างแบกนางเดินโถงๆ ไปคว่ำหน้าที่เตียงแล้วกระแทกกระทั้นต่อ
ปึก! ปึก! ปึก!
กังเฉินกระแทกจนร่างนางที่โก่งตัวค่อยราบไปกับฟูกนอนบนเตียง
“อึ๋ย...อ๊าย! คะ คุณชาย ท่านเบาหน่อยเจ้าค่ะ”
“เรามาเปลี่ยนท่ากัน....” กังเฉินดึงเจ้ามังกรออกจนได้ยินเสียงดังโพล๊ะ! เขาพลิกร่างนางให้นอนหงายแล้วขยับเข้าไปในเตียงให้ลึกขึ้นอีก สองแขนแข็งแรงสอดรองใต้หัวเข่ายกขานางขึ้นสูงก่อนจะจัดให้เจ้างูยักษ์มุดถ้ำเข้าไปอีกครั้ง
ผานเจาจวินครางรับการบุกทะลวงด้วยเสียงร้องดังอีกคราหนึ่ง
“โอวววว......”
เมื่อกังเฉินสอดเข้าไปจนสุดก็เริ่มขยับอีกครั้ง โพรงเนื้อของนางตอดรับการบุกเข้าของเขาจนชายหนุ่มต้องขบกรามขึ้นเป็นสัน นางทำให้เขารู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งร่าง
“จะ เจ้าทำดีจริง!”
สองมือของเขาเปลี่ยนเป็นมาบีบอยู่หน้าขาของนาง ช่วงบนที่เปลือยเปล่าขององครักษ์หนุ่มเหยียดขึ้นตรงทำให้แรงส่งส่วนร่างนั้นเข้าออกอย่างเต็มที่ ร่างนางสั่นกึกๆ หน้าอกอวบกระเพื่อมฟัดเฟียดไปมา กังเฉินโน้มตัวลงดูดหน้าอกนาง ผานเจาจวินวาบหวามจนต้องจิกปลายเล็บเข้าที่หลังบ่าของชายหนุ่ม เขาเงยหน้าขึ้นไปจูบปากดูดลิ้นกับนางในระหว่างที่ช่วงล่างยังคงเร่าร้อน
ตับ! ตับ! ตับ!
แรงกระทบทำให้เกิดเสียงเร้าใจดังต่อเนื่องครู่ใหญ่ กังเฉินพละกำลังมาก เขาทำให้ผานเจาจวินร้องสะอึกสะอื้นคล้ายคนร้องไห้
“ข้าใกล้จะเสร็จแล้วนะ เจ้าพร้อมหรือยัง?”
“ทะ ท่านพาข้าไปด้วยสิเจ้าคะ”
“ได้สิ!” เขาตอบเสียงพร่าขยับเข้าสู่ช่วงสุดท้าย ร่างของชายหนุ่มเกร็งกระตุกช้าๆ อีกสองสามครั้ง ผานเจาจวินกับกังเฉินครางออกมาพร้อมกัน แขนของนางรัดร่างเขาไว้แน่น กังเฉินยังไม่ขยับออกแต่ประกบปากแลกลิ้นกับนาง ชายหนุ่มค่อยๆ ดึงเจ้างูยักษ์ให้ออกจากถ้ำน้อยนุ่มนิ่มจนเกิดเสียงดัง พล๊ะ! ก่อนจะรีดน้ำรักออกมารดราดบนหน้าท้องขาวเนียนเปลือยเปล่าของหญิงสาว
“คุณชายกังเจ้าคะ คราวหน้าท่านอย่าหายไปนานเช่นนี้ได้หรือไม่?” นางออดอ้อนในขณะที่เขาหันไปหยิบผ้าชุ่มน้ำที่พาดไว้บนอ่างไม้เล็กๆ ที่วางบนโต๊ะเล็กข้างเตียงนอนมาเช็ดทำส่วนที่เขาทำเลอะเทอะบนตัวนาง
ชายหนุ่มเอียงนางลงนอนข้างๆ แล้วกอดนางไว้หลวมๆ “ขึ้นอยู่กับว่าข้ามีภารกิจมากหรือไม่? เรื่องนี้คงบอกไม่ได้”
“ครั้งนี้ท่านคงมิได้เพียงต้องการหลับนอนกับข้าใช่หรือไม่?”
“เจ้าฉลาดเสียจริง ข้าอยากให้เจ้าคอยสอดส่องดูทีว่ามีคนกลุ่มใดมาที่นี่แล้วพูดคุยกันเรื่องหอคณิกาเถื่อนบ้าง? บอกเจ้าตามตรง ข้ากำลังตามสืบเรื่องหอคณิกาเถื่อนและช่วยเหลือหญิงสาวที่ถูกจับมาเป็นบังคับให้เป็นนางคณิกา”
ผานเจาจวินพยักหน้ารับ หายากยิ่งนักสตรีที่อยากจะเป็นนางโลมโดยสมัครใจ แม้แต่ตัวนางเองในคราวแรกก็เป็นเพราะความยากจนและการถูกคนรักที่หนีตามกันมาหักหลังจึงได้พร้อมใจจะเข้ามาทำงานในหออิงราตรี ที่นี่ล้วนเต็มไปด้วยสตรีที่หน้าตาอยู่ในระดับพอใช้ได้ไปจนถึงงดงามอย่างยิ่ง พวกนางล้วนยินยอมจะมาเป็นนางคณิกาด้วยตนเอง บุรุษที่ถูกเรียกกันว่าผู้ดูแลในหอแห่งหนึ่งจึงมิได้มีหน้าที่คอยบังคับข่มเหงพวกนางอย่างในหอโคมเขียวเถื่อน หากแต่พวกเขาต้องคอยดูแลความปลอดภัยให้พวกนางเพื่อมิให้บุรุษที่มาเที่ยวสร้างความวุ่นวายหรือเดือดร้อนแก่พวกนาง
หญิงงามยกมือขึ้นลูบไล้แผงอกที่เป็นลอนสวยงามของเขาก่อนจะจูบลงเนินเนื้อแน่นใกล้ยอดอกของกังเฉิน “ท่านสั่งอะไรข้าก็พร้อมจะทำให้เจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นข้าจะให้รางวัลเจ้าอีกก็แล้วกัน” เขาเบียดท่อนกายส่วนล่างเข้ากับข้างสะโพกของนางช้าๆ “เจาจวินเจ้าปลุกเจ้างูใหญ่ให้ข้าที” เขาดึงมือนางให้กุมส่วนที่กำลังเริ่มแข็งขึ้นอีกครั้ง หญิงสาวหัวเราะคิกๆ ก่อนจะพลิกกายกลับมารูดส่วนอ่อนไหวของชายหนุ่ม
กังเฉินใช้ชันกายเอียงขึ้นแขนหนึ่งค้ำร่างเอาไว้ โน้มหน้าไปประกบกับนางอีกรอบอย่างเร่าร้อน ส่วนมืออีกข้างก็กอบกำเต้าอวบข้างหนึ่งของนางกระตุ้นแรงกำหนัด บนเตียงนอนร้อนฉ่าขึ้นอีกครั้ง
ครั้นจบศึกรักเรียบร้อยแล้ว องครักษ์ทั้งสองก็เดินออกมาพบกันที่โต๊ะด้านในชั้นล่างซึ่งเป็นที่นัดหมาย จงเหยียนยิ้มร่าเข้ามาตบบ่าสหายหนักๆ สองครั้ง
“สมแล้วที่ข้าเชื่อเจ้า...วันนี้แม่นางไห่ชมข้าไม่ขาดปาก ข้าจัดให้นางไปสองรอบ นางดูพออกพอใจมากเทียว คราวหน้าหากข้ามาล่ะก็นางจะงดรับแขกผู้อื่น”
“อืม...เราออกไปคุยกันข้างนอกเถิด ที่นี่คนพลุกพล่านเกินไป” กังเฉินหมุนตัวเดินนำหน้าออกไปทางลานฝากม้า เมื่อควบม้ากลับมาถึงวังพยัคฆ์ขาวแล้ว องครักษ์กังจึงได้เตือนสหายรัก
“เจ้าอย่าได้ติดใจในตัวนางมากนัก แต่ละวันพวกนางพบปะคนมากหน้าหลายตาเราไม่รู้ว่าพวกนางติดต่อกับผู้ใดบ้าง? หากเจ้าควบคุมนางไม่ได้อาจจะกลายเป็นเครื่องมือของนาง”
*********************