14 : แอบช่วยแม่สามี

2224 คำ
อาหารบนโต๊ะมีซุปเยื่อไผ่ ปลาตุ๋นสมุนไพรจีน ผัดผักป่า แล้วยังมีไข่ตุ๋นเห็ดหอมอีกด้วย เซี่ยซือซือหุงข้าวขาวให้สองแม่ลูก ส่วนนางกับน้อง ๆ ยังคงกินโจ๊กธัญพืชหยาบผสมกับมันฝรั่ง นางถานเห็นอาหารบนโต๊ะแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าใดนัก สองแม่ลูกจึงกินแค่ผัดผักป่ากับไข่ตุ๋นเห็ดหอม ไม่กล้าแตะต้องซุปเยื่อไผ่กับปลาตุ๋นสมุนไพรจีน เซี่ยซือซือเห็นเช่นนั้นจึงหยิบถ้วยมาตักอาหารทั้งสองชนิด วางตรงหน้าของนางถานก่อน “ท่านแม่ปลาตุ๋นกับซุปเยื่อไผ่นี่ข้าตั้งใจทำเลยนะเจ้าคะ ท่านลองชิมดูหน่อยว่าฝีมือข้าเป็นอย่างไรบ้าง” ก่อนจะยื่นอีกถ้วยให้ถานจ้าน “พี่จ้านท่านก็ลองดูหน่อย ข้าไม่ค่อยถนัดเรื่องทำอาหาร พวกสมุนไพรที่ใส่วันนี้ก็เก็บเอาตามป่าเขานั่นแหละ” นางใช้ขิง ต้นหอมป่า เห็ดหอมป่า มาเป็นส่วนผสม ปรุงรสด้วยเกลือเพียงอย่างเดียว รสชาติจึงไม่อาจรู้ได้ ว่าจะอร่อยถูกใจผู้อื่นไหม เซี่ยซือซือไม่รอฟังความเห็นของสองแม่ลูก นางหันไปใส่ใจน้องชายของตัวเองต่อ “น้องเล็กเนื้อปลานี่ดูก้างดี ๆ ด้วยล่ะ เผื่อหลุดรอดสายตาข้าไป” เซี่ยซือหยางคีบเนื้อปลาเข้าปาก แล้วทำตาวาวอย่างมีความสุข “ท่านพี่ปลาตุ๋นอร่อยมากขอรับ” “อร่อยก็กินเยอะ ๆ” นางลูบศีรษะน้อย ๆ ของน้องชายอย่างเอ็นดู “ทำไมท่านป้ากับพี่เขยไม่กินล่ะขอรับ มันอร่อยจริง ๆ นะ ข้าไม่ได้โกหก” เด็กน้อยนั่งงง ที่สองแม่ลูกสกุลถานไม่ยอมแตะเนื้อปลาตุ๋นเสียที ถานจ้านมองไปที่ถ้วยของตนเอง สลับกับถ้วยของเซี่ยซือหยางพร้อมตั้งคำถาม “ทำไมพวกเจ้ากินโจ๊กล่ะ” ในถ้วยของเขากับมารดานั้นเป็นข้าวขาว “ท่านพี่ทำอะไรข้าก็กินหมดนั่นแหละ” เซี่ยเซือหยางไม่ได้ใส่ใจในคำถาม เขาตั้งหน้าตั้งตากินเนื้อปลาตุ๋น ที่พี่สาวตักให้อย่างเอร็ดอร่อย คนที่กระอักกระอ่วนใจเป็นที่สุดกลับเป็นนางถาน นางย่อมเข้าใจดีว่าลูกสะใภ้ของนางทำเช่นนี้ เพราะต้องการรักษาคำพูดที่ได้สัญญาเอาไว้ “ต่อไปพวกเจ้า...” ถานเจ้ายังเอ่ยไม่จบ เซี่ยซือซือก็โพล่งขึ้นเสียก่อน “ข้าวที่บ้านพวกท่านเหลือติดก้นถัง หุงกินแค่วันสองวันก็หมดแล้วเจ้าค่ะ ข้ากับน้องพอมีธัญพืชหยาบกับมันฝรั่งติดมา เลยทำกินไปก่อน พรุ่งนี้พอข้าขายของป่าที่ตำบลได้แล้ว ข้าจะซื้อข้าวกับแป้งแล้วก็พวกธัญพืชกลับมาเพิ่ม” “พรุ่งนี้เจ้าจะเข้าตำบลหรือซือซือ” นางถานนึกแปลกใจ ในตะกร้าของเซี่ยซือซือมีของป่าไม่เยอะ เหตุใดจึงคิดว่าเห็ดเยื่อไผ่จะสามารถขายได้ราคา จนซื้อข้าวหรือแป้งธัญพืชกลับมาได้ “เจ้าค่ะท่านแม่ ท่านมีอะไรจะฝากข้าไปทำหรือเปล่าเจ้าคะ” “เช่นนั้นข้าขอฝากผ้าปักไปขายที่ร้านหยู่จี้ให้หน่อย หมู่นี้ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบายไอก็บ่อยไม่อยากเดินทางไกล จ้านเออร์เจ้าจะฝากตำราที่คัดลอกไปส่งที่หอหนังสือผู่เยว่ด้วยเลยไหม” ถานจ้านหันไปทางเซี่ยซือซือ “รบกวนเจ้าแล้วซือซือ” สีหน้าเขาราบเรียบจนนางรู้สึกอึดอัดใจขึ้นมา “ข้ายินดีเจ้าค่ะ” “เจ้าไม่ต้องทำอะไรมาก ที่ร้านขายผ้าหยู่จี้เถ้าแก่ร้านรู้จักกับข้าดี แค่บอกว่าเจ้าเป็นลูกสะใภ้ของข้า เดี๋ยวเถ้าแก่โจวก็จัดการให้เอง ลายปักผ้าของข้ามีเอกลักษณ์ คนรู้เรื่องลายปักมองคราเดียวก็จำได้” นางถานบอกให้นางรับรู้เอาไว้ พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องกังวลใจ “ที่หอหนังสือผู่เยว่เจ้าก็แค่บอกว่าเป็นภรรยาของข้า เถ้าแก่ร้านดูแค่ลายมือก็รู้ว่าเป็นของข้าจริง ๆ เดี๋ยวจะฝากจดหมายไปด้วย จะได้เป็นหลักฐานว่ามาจากข้าจริง” ถานจ้านเอ่ยขึ้นบ้าง นางมาอยู่บ้านเขาแค่ไม่กี่วัน เขากลับมีเรื่องต้องไหว้วานนางเสียแล้ว “ได้เจ้าค่ะ วันพรุ่งนี้ข้าจะไปจัดการให้เอง พวกท่านกินข้าวต่อเถอะ ดูน้องเล็กของข้าสิเจ้าคะกินไม่รอพวกเราเลย” “ก็มันอร่อยเกินไป” เซี่ยซือหยางตักโจ๊กหอม ๆ เข้าปาก แทบไม่ต้องเคี้ยวก็กลืนลงคอไปเลย สองแม่ลูกสกุลถานรู้สึกว่าบรรยากาศเป็นกันเองกว่าก่อนหน้า จึงลงมือกินเนื้อปลาตุ๋นกับซุปเยื่อไผ่ ทันทีที่ได้ลิ้มรสนางถานถึงกับตกตะลึง รสชาตินี่มันอร่อยเกินกว่าที่นางคาดไว้เสียอีก ไม่มีกลิ่นคาวของปลาเลยสักนิด ซุปเยื่อไผ่ก็หวานหอมรสชาติของเห็ดเยื่อไผ่ “ฝีมือเจ้าไปเปิดร้านอาหารได้เลยนะซือซือ” “ท่านแม่ชมข้าเกินไปแล้วเจ้าค่ะ ข้าก็ทำไปเรื่อยพวกท่านกินได้ข้าก็สบายใจแล้วเจ้าค่ะ” เซี่ยซือซือยิ้มรับอย่างภาคภูมิใจ แม้ถานจ้านไม่ได้เอ่ยอันใดออกมา แต่เขาก็ขอเติมข้าวถึงสองถ้วย คืนนี้เป็นคืนแรกที่เซี่ยซือซือต้องนอนห้องเดียวกันกับสามี นางรู้สึกเป็นห่วงน้องชายเล็กน้อย นางถานรับปากว่าจะพาเจ้าน้อยไปนอนที่ห้องของนางด้วย เซี่ยซือซือถึงได้วางใจ นางเดินเข้ามาในห้องนอนของสามี เห็นเขากำลังจัดเตรียมตำราสำหรับนำไปส่งในวันพรุ่งนี้ พร้อมกับเขียนจดหมายฝากฝังอีกด้วย บัณฑิตในยุคโบราณช่างสง่างามนัก อายุเพียงเท่านี้เหตุใดชอบทำหน้าเคร่งขรึมราวกับเฒ่าชราก็ไม่ปาน นางลอบมองสามีตัวเองระหว่างมองหาที่หลับนอน นางถานบอกไว้ก่อนหน้าแล้ว ถานจ้านไม่ชอบให้คนอื่นนอนบนเตียงด้วย นางจำต้องนอนที่พื้นห้อง แต่แม่สามีก็ไม่ได้ใจร้าย นำฟูกเก่าพร้อมผ้าห่มผืนหนึ่งมาวางให้นาง แม้สภาพจะเก่าแต่กลิ่นของมันก็สะอาดสะอ้านดี “จดหมายข้าเขียนเสร็จแล้ว พรุ่งนี้รบกวนเจ้าด้วยก็แล้วกัน ตำราที่คัดลอกไว้ทั้งหมดห้าเล่ม ตกเล่มละสองร้อยอีแปะ ห้าเล่มก็ตกหนึ่งตำลึงพอดี” ถานจ้านบอกกล่าวนาง โดยที่สายตาของเขายังจดจ้องอยู่ที่โต๊ะหนังสือของตนเอง “ข้ารู้แล้วเจ้าค่ะ ท่านไม่ต้องเป็นห่วง” “ปกติท่านแม่เป็นคนจัดการเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนตอนนี้ท่านจะไม่ไหวแล้ว” น้ำเสียงราบเรียบไม่แสดงความรู้สึกใดออกมา แต่ใครจะรู้ว่าในใจของถานจ้านนั้น กำลังถูกแผดเผาไปด้วยความเสียใจ เซี่ยซือซือกำลังจะเอ่ยบางอย่างออกมา แต่เสียงไอแห้ง ๆ ของนางถาน ทำให้นางต้องชะงักไปเสียก่อน อาการไอต่างจากตอนกลางวันที่ไอโขลก การไอแห้งไม่ใช่ว่าลุกลามไปถึงปอดแล้วหรอกหรือ นางมองไปที่ถานจ้าน เห็นเขาทำหน้านิ่งเฉย ราวกับว่าได้ยินเสียงไอของมารดาตนเองจนเคยชิน แต่ข้าไม่ชิน ! เซี่ยซือซือลุกขึ้นเดินออกจากห้องนอน นางเดินตรงไปยังห้องครัว นำขิงที่เก็บมาจากบนเขาออกมาต้ม โชคดีที่พอมีน้ำตาลเหลืออยู่นิดหน่อย นางจึงใส่ลงไปเพียงเล็กน้อย หันซ้ายมองขวาแล้วหยดน้ำพุวิเศษลงไปสองหยด หากหายทันทีคงน่าสงสัยจนเกินไป นางจะลองให้น้ำพุวิเศษไปก่อนวันละสองหยด เมื่ออาการหายเป็นปกติถึงจะหยุด “ท่านแม่ข้าซือซือเจ้าค่ะ” นางยืนอยู่หน้าห้องของแม่สามี อึดใจหนึ่งบานประตูก็ถูกเปิดออก “ท่านพี่” เซี่ยซือหยางเป็นคนเดินมาเปิดประตูให้นาง น้องชายของนางจะนอนหลับได้อย่างไร เมื่อมีคนป่วยหนักไอรุนแรงอยู่ในห้อง ขนาดนางอยู่ห้องถัดไปยังได้ยินเลย “ข้าเอาน้ำขิงร้อน ๆ มาให้ท่านแม่เจ้าค่ะ ช่วยให้อาการไอน้อยลงได้” นางเดินไปหานางถานที่หัวเตียง วางกาน้ำขิงร้อน ๆ ลงบนโต๊ะ “ขอบใจเจ้ามากซือซือ ข้าไอเสียงดังเจ้าเลยรำคาญล่ะสิ” “ข้าไม่รำคาญหรอกเจ้าค่ะ ท่านลุกมาจิบน้ำขิงก่อนเถอะ” นางถานวางเท้าลงข้างเตียง มองดูลูกสะใภ้รินน้ำขิงให้นางด้วยสายตาอ่อนโยน “ลำบากเจ้าแล้วซือซือ” “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ขิงนี่ก็หามาจากบนภูเขา ส่วนน้ำตาลข้าแอบเอาของท่านใส่ไปนิดหน่อย จะได้ไม่เผ็ดมาก” ทันทีที่นางถานดื่มน้ำขิงลงไป ร่างกายของนางก็ร้อนวูบวาบขึ้นมา นางมองเซี่ยซือซือด้วยความสงสัย “เจ้าไม่ได้ใส่ยาลงไปในน้ำขิงใช่ไหมซือซือ” “ข้าจะไปมียาที่ไหนกันล่ะท่านแม่ ท่านดื่มแล้วรู้สึกไม่ดีหรือเจ้าคะ” “ไม่ใช่ ๆ ข้าแค่รู้สึกว่าร่างกายมันร้อนแบบแปลก ๆ ความอยากไอก่อนหน้าก็ไม่มีแล้ว นึกว่าเจ้าแอบใส่ยาลงไปเสียอีก” “ท่านไม่ไอแล้วไม่ใช่เรื่องดีหรือเจ้าคะ ดื่มอีกสักจอกเจ้าค่ะ” นางรินน้ำขิงให้อีกจอก “ไหนเลยจะดีง่ายปานไหน เอาเถอะเจ้ารีบไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้เจ้าต้องเข้าตำบลไปขายของอีก” “เจ้าค่ะ ท่านแม่ท่านนอนได้แล้วล่ะ น้องเล็กเจ้าก็นอนได้แล้ว” “อื้ม” เซี่ยซือหยางนอนไม่หลับเพราะเสียงไอของนางถาน เขาเลยกลิ้งไปมาอยู่ตั้งนาน ก่อนจะปีนลงไปเปิดประตูให้พี่สาวเมื่อครู่นี้ “มานี่เสี่ยวซือหยางข้าไม่อยากไอแล้ว หนนี้เจ้านอนให้สบายเลยรู้ไหม” “ขอรับท่านป้า” เด็กน้อยง่วงเต็มทน พอล้มตัวลงนอนก็ปิดเปลือกตาลงในทันที “เป็นเด็กดีจริง ๆ” นางถานลูบหลังเด็กน้อยเบา ๆ นางไม่ได้เลี้ยงเด็กเล็กขนาดนี้มานาน รู้สึกว่าเด็กคนนี้น่าเอ็นดูเป็นอย่างมาก “เดี๋ยวข้าจะไปดูอาซานก่อน หากท่านอยากไออีกให้จิบน้ำขิงได้เรื่อย ๆ ถึงไม่ร้อนแล้วก็ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ” “ข้ารู้แล้ว เจ้าไปเถอะ” เซี่ยซือซือเดินไปยังห้องนอนน้องสาว นางแอบหยิบถ้วยข้าวที่แบ่งเอาไว้ในมิติพิเศษ ออกมาให้น้องสาวกินภายในห้อง เซี่ยซานซานได้กินแค่ผลผิงกั่วที่นางทิ้งไว้ให้ ไม่รู้ป่านนี้จะหิวจนตาลายไปหรือยัง นางเคาะสามทีเป็นสัญญาณให้น้องสาวรู้ตัว “ท่านพี่ข้านึกว่าท่านนอนไปแล้ว” เซี่ยซานซานแลดูไม่สดชื่น เพราะถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพังภายในห้อง “ข้าไม่ลืมเจ้าหรอกอาซาน แค่ปลีกตัวมาไม่ได้ เดี๋ยวคนในบ้านจะสงสัยเอา โชคดีที่ท่านแม่เอาน้องเล็กไปนอนด้วย” นางยกถาดไม้ที่มีอาหารอยู่บนนั้นเข้ามาด้วย “ท่านขึ้นเขาไปคนเดียวเป็นอันตรายหรือไม่” “จะไปมีอันตรายได้อย่างไร ข้าไม่ได้ไปครั้งแรกเสียหน่อย แถมได้ปลามาตั้งหลายตัว เจ้ารีบกินเถอะถ้าข้าหายไปนานพี่เขยเจ้าจะสงสัยเอา” “เจ้าค่ะ” เซี่ยซานซานรีบกินมื้อเย็นของตัวเอง นางเอ่ยปากชมตลอดเวลาว่ารสชาติอาหารอร่อยมาก สองพี่น้องตกลงกันว่าพรุ่งนี้จะให้เซี่ยซานซานฟื้น แต่รอฟื้นหลังจากเซี่ยซือซือกลับมา จากการขายของป่าในตำบลเสียก่อน หลังได้ยินเซี่ยซานซานถึงกับกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ นางอึดอัดมากแค่ไหนไม่มีใครเข้าใจหรอก “แต่เจ้าอย่าเพิ่งไปโผล่หน้าให้คนในหมู่บ้านเห็นเข้าล่ะ เมื่อฟื้นแล้วข้าจะไปตามท่านหมออวี่มาดูอาการเจ้าด้วย” “ได้ท่านพี่ข้าจะเชื่อฟังท่านอย่างแน่นอน” “พรุ่งนี้ก่อนไป ข้าจะเอาเฉ่าเหมยกับผิงกั่วมาให้เจ้า เจ้าก็เก็บซ่อนจากน้องเล็กให้ดี ๆ ล่ะ ข้าเก็บมาค่อนข้างเยอะ กินรองท้องไปก่อน ส่วนมื้อเย็นข้าจะกลับมาทำให้เจ้ากินเอง” “ได้เจ้าค่ะ” “คืนนี้เจ้าเช็ดตัวไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวข้าเอาถังน้ำกับผ้ามาให้” เซี่ยซือซือหายไปครู่หนึ่งก็กลับเข้ามา นางรอน้องสาวเช็ดเนื้อเช็ดตัวเสร็จเรียบร้อย ถึงได้เอาอ่างน้ำออกไปเท จากนั้นก็กลับไปยังห้องนอนของถานจ้าน เห็นเขานอนอยู่บนเตียงแล้ว รีบจัดการปูที่นอนของตัวเอง ดับตะเกียงแล้วเอนตัวลงนอน “ขอบใจเจ้ามากเรื่องน้ำขิงของท่านแม่” เสียงของถานเจ้าดังขึ้นในความมืด มุมปากของเซี่ยซือซือยกขึ้นเล็กน้อย ห้องอยู่ติดกันทั้งยังไม่เก็บเสียงอีกด้วย คงได้ยินทุกคำที่นางคุยกับนางถานเป็นแน่ เด็กคนนี้นิสัยไม่เลว อย่างน้อยก็รู้จักขอบคุณนาง “ไม่เป็นไรท่านรีบนอนเถอะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม