ก่อนถึงบ้านสกุลถาน เซี่ยซือซือได้นำปลา หน่อไม้ และเห็ดเยื่อไผ่ส่วนหนึ่งออกมาใส่ตะกร้าบนหลัง ยังมีผักป่ากับสมุนไพรอีกหลายชนิดที่นางเก็บกลับมาด้วย นางเหลือเห็ดเยื่อไผ่เอาไว้ในมิติพิเศษ เพื่อนำไปขายในวันพรุ่งนี้ พอกลับมาถึงหน้าบ้านสกุลถาน บรรยากาศภายในบ้านกลับดูแปลกไป นางถานนั่งหน้าเครียดอยู่ตรงห้องโถงเพียงลำพัง
“ท่านแม่เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ” เซี่ยซือซือปลดตะกร้าบนหลังวางลงที่พื้น
“เจ้าบอกข้ามาตามตรงซือซือ เจ้ารังเกียจจ้านเออร์ของข้าหรือไม่”
“ท่านแม่เหตุใดถึงถามข้าเช่นนี้”
“ชาวบ้านต่างหาว่าข้าโง่นักที่ซื้อเจ้ามาเป็นภรรยาให้จ้านเออร์ ทั้งที่เจ้าไม่ได้เต็มใจอีกทั้งยังรังเกียจ ที่ลูกชายของข้าพิการ จนคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย”
ตอนเย็นนางถานเดินไปซื้อไข่ไก่ที่บ้านของหวางชุนลี่ กลับได้ยินหวางชุนลี่พูดกับอวี่กุ้ยสามีของนาง ว่าเห็นกับตาตอนเซี่ยซือซือกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย นางไม่ได้พลัดตกน้ำไปเองอย่างที่ทุกคนคิดกัน
“สามีข้าน้าเหลียนฮวาช่างโง่นัก ซือซือรังเกียจที่ถานจ้านพิการ จนเลือกกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย วันนี้น้าเหลียนฮวาไปรับนางเข้าบ้าน ยังเอาน้องสองคนของนางเข้าไปเลี้ยงดูอีก”
ผลัวะ !
“เจ้าอย่าพูดจาเลื่อนเปื้อนนะชุนลี่” ในคราแรกนางถานคิดว่าอีกฝ่ายพูดโป้ปด
“น้าเหลียนฮวา !” หวางชุนลี่ไม่คิดว่านางถานจะมาอยู่หน้าบ้านของตนเองในยามนี้ “ข้าไม่ได้พูดไปเรื่อยนะน้าเหลียนฮวา ข้าเห็นกับตาตัวเองจริง ๆ”
“ใช่แล้วน้าเหลียนฮวา เรื่องนี้ชุนลี่บอกข้าตั้งแต่วันแรกที่ซือซือเกิดเรื่องแล้ว เพียงแต่ชาวบ้านบอกว่านางตกน้ำไปเอง ข้าสองคนเลยไม่ได้พูดอะไรออกไป” อวี่กุ้ยรีบอธิบายเพิ่ม มองเห็นนางถานหิ้วตะกร้ามาด้วยหนึ่งใบ พลันนึกถึงเงินอีแปะที่กำลังจะได้รับ “น้าเหลียนฮวาท่านจะซื้อไข่ไก่ใช่ไหม วันนี้เอากี่ฟองดีล่ะ”
“ชุนลี่เจ้าบอกข้ามาก่อน ที่เจ้าพูดเมื่อครู่นี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่” นางถานยังไม่ยอมยื่นตะกร้าในมือให้อวี่กุ้ย กลับหันไปคาดคั้นเอาความจริงกับหวางชุนลี่แทน
“น้าเหลียนฮวาเป็นความจริงเจ้าค่ะ ข้าเองก็ไม่อยากพูดเหมือนกัน เพราะท่านพานางเข้าบ้านไปแล้ว จึงได้แต่มาบ่นให้สามีข้าฟัง ข้าหวังดีต่อท่านจริง ๆ ไม่ได้มีใจคิดเป็นอื่นเลย”
นางถานหลับตาลงแน่น ๆ ก่อนลืมขึ้นใหม่อีกครั้ง “ซือซือกระโดดน้ำฆ่าตัวตายจริงหรือชุนลี่”
“จริงเจ้าค่ะ ยามนั้นนางตั้งใจกระโดดน้ำลงไปเองจริง ๆ ข้ายืนอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำ เห็นตอนนางกระโดดกับตาเลยเจ้าค่ะ” คำพูดและสีหน้าของหวางชุนลี่ดูไม่เหมือนคนโกหกแม้แต่น้อย
นางถานเซถอยหลังไปสองก้าว ยื่นตะกร้ากับเงินสิบอีแปะให้อวี่กุ้ย “เอาไข่ไก่มาสิบฟอง”
หลังรู้เรื่องทั้งหมดเซี่ยซือซือถึงกับหนังตากระตุก พยายามคิดหาทางออกให้เรื่องนี้ เจ้าของร่างเดิมเหตุใดจึงคิดสั้นเช่นนั้น ถานจ้านไม่ได้เลวร้ายถึงขั้นต้องไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย เขาพิการก็จริงแต่ยังดูแลตัวเองได้ ยังคิดหาเงินด้วยการคัดลอกตำรา
แต่พอรื้อฟื้นความทรงจำขึ้นมา พบว่าคนในหมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ต่างเยาะเย้ยถากถางนาง ยิ่งสตรีรุ่นราวคราวเดียวกัน ทั้งหัวเราะเยาะทั้งต่อว่าต่อขาน เห็นนางเป็นตัวตลกที่กำลังจะได้สามีเป็นคนพิการ ครั้งแรกไม่เท่าไรแต่พอนานวันเข้า จิตใจของเจ้าของร่างเดิมก็อ่อนแอลง กระทั่งตัดสินใจลงไปแบบนั้น นี่ไม่เรียกว่าคำพูดฆ่าคนได้หรอกหรือ
“ท่านแม่เจ้าค่ะ ก่อนหน้าข้าโง่เขลานัก ได้แต่นึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป ข้าเลอะเลือนไปชั่วขณะหนึ่ง ท่านอย่าได้โกรธเกลียดข้าเลยนะเจ้าคะ คำสาบานที่ข้าให้แก่ท่านย่อมเป็นความจริงจากใจข้า วันนั้นพอข้าฟื้นขึ้นมาเห็นน้องทั้งสองคน ข้าก็นึกเสียใจจนถึงทุกวันนี้” เซี่ยซือซือไม่สามารถปฏิเสธสิ่งที่เจ้าของร่างเดิมทำลงไปได้ นางต้องรับผลที่กำลังจะตามมา
นางถานกำมือใต้แขนเสื้อจนแน่น “เจ้าบอกข้ามาคำเดียวซือซือ เจ้ารังเกียจจ้านเออร์ของข้าหรือเปล่า”
“ไม่เจ้าค่ะ พี่จ้านเป็นบัณฑิตมากความรู้ ข้าจะไปรังเกียจเขาได้อย่างไร ท่านแม่ท่านอย่าไปฟังคำคนอื่นมากเลยนะเจ้าคะ ดูสิ วันนี้ข้าหาปลามาได้ตั้งหลายตัว ยังมีเห็ดเยื่อไผ่อีกด้วย พรุ่งนี้ข้าจะเอาเห็ดเยื่อไผ่เข้าไปขายในตำบล จะได้ซื้อข้าวสารแป้งขาวกับพวกธัญพืชกลับมา” เซี่ยซือซือรีบเบี่ยงเบนความสนใจของนางถาน เดินไปทางตะกร้าที่ตัวเองวางไว้เมื่อครู่นี้
ซึ่งมันก็ได้ผลนางถานเดินตามหลังลูกสะใภ้ไปดูของที่อยู่ในตะกร้า แต่ยังไม่ทันเปิดผักป่าที่คลุมอยู่ด้านบนออกดู เสียงเจ้าตัวน้อยก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ท่านพี่ ! ท่านกลับมาแล้ว” เสียงเล็ก ๆ ของเซี่ยซือหยางดังมาก่อน ไม่ช้าตัวสั้น ๆ ของเขาก็วิ่งออกมา
นางถานตกใจเพราะเจ้าตัวน้อยวิ่งเร็วเกินไป “เจ้าอย่าวิ่งแบบนั้นเสี่ยวซือหยาง เดี๋ยวก็ล้มลงไปหรอก !”
“ไอหยา !” เพราะกลัวล้มเด็กน้อยจึงหยุดกึก นั่นยิ่งทำให้เขาหัวแทบคะมำไปกองอยู่บนพื้น เซี่ยซือซือเดินไปอุ้มน้องชายขึ้นมา พลางแนบแก้มถูไถอย่างเคยชิน
“เจ้าเป็นเด็กดีหรือไม่ ดื้อกับท่านป้าหรือเปล่า”
“ข้าไม่ดื้อ” ศีรษะน้อยส่ายไปมาเร็ว ๆ
“วันนี้ข้าได้ปลามาด้วย เย็นนี้เราจะมีปลากินกันแล้ว”
“จริงหรือท่านพี่ ข้าจะได้กินปลาอีกแล้วรึ นี่ข้าไม่ได้ฝันไปใช่ไหม”
“ฝันที่ไหนกัน เจ้าไปดูที่ตะกร้าเร็วเข้า” เซี่ยซือซือวางน้องชายลงบนพื้น เขาก็ใช้ขาสั้น ๆ วิ่งไปทางนางถาน แล้วชะโงกหน้าเข้าไปดูภายในตะกร้า
“ปลาจริงด้วย !”
“พี่สาวเจ้าเก่งจับปลามาได้ตั้งหลายตัว” นางถานเห็นปลาแล้วอดชื่นชมลูกสะใภ้คนนี้ไม่ได้ แต่ก็ยังหวาดระแวงเรื่องที่ตนได้ยินมาก่อนหน้า
“เจ้ารีบทำกับข้าวให้น้องเจ้ากินเถอะ วันนี้ข้าไปซื้อไข่ไก่มาด้วย วานเจ้าทำไข่ตุ๋นให้จ้านเกอร์ด้วยแล้วกัน”
“ท่านแม่ท่านไม่ทำอาหารให้พี่จ้านเองหรือเจ้าคะ ข้าเกรงว่าฝีมือของข้าจะไม่ถูกปากพี่จ้าน”
นางถานยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “เจ้าทำเถอะซือซือ อีกหน่อยต้องเป็นเจ้าได้ทำอยู่แล้ว” นางถานไม่คิดว่าตนเองจะมีชีวิตอยู่ได้นาน ท่านหมอในตำบลเคยบอกว่า หนาวนี้อาจเป็นเหมันตฤดูสุดท้ายของนาง
เซี่ยซือซือย่อมเข้าใจในคำกล่าวนี้ของแม่สามี นางมองตามหลังนางถานไปจนลับสายตา แล้วหันกลับมาสนใจกับวัตถุดิบที่ตนหามา
“ท่านพี่วันนี้ข้าพูดเรื่องต่าง ๆ ให้พี่รองฟังด้วย”
“หืม”
“นิ้วพี่รองกระตุกด้วยล่ะ”
“เอ่อ”
“ข้าว่าเสียงของข้าต้องทำให้พี่รองประทับใจ จนอยากลืมตาตื่นขึ้นมาแน่ ๆ”
อาซานของนางช่างน่าสงสารนัก เห็นทีต้องให้นางฟื้นในเร็ววันนี้แล้ว
“เอาที่เจ้าสบายเถอะ อ้อ นี่ข้าทำกังหันไม้ไผ่ให้เจ้าเล่นด้วย เจ้าเอาไปวิ่งเล่นตรงลานหน้าบ้านนะ ห้ามออกนอกบ้านไปเสียล่ะ เล่นรอข้าทำของอร่อยให้เจ้ากิน” นางหยิบกังหันไม้ไผ่ที่นางทำเองกับมือออกมาให้น้องชาย
“ได้ขอรับ” เซี่ยซือหยางยื่นมือออกไปรับกังหันไม้ไผ่ ดวงตาประกายขึ้นอย่างดีใจ เด็กน้อยไม่เคยได้รับของเล่นอีกเลย นับจากบิดามารดาได้จากโลกนี้ไป ใช้ปากน้อย ๆ ของตนเป่าลมฟู่แล้วฟู่เล่า แต่เจ้ากังหันไม้ไผ่ดันหมุนเฉื่อยช้าไม่ทันใจ เจ้าตัวน้อยเลยออกแรงวิ่งไปยังลานหน้าบ้านแทน
หลังทำกับข้าวมื้อเย็นเสร็จ เซี่ยซือซือแอบเก็บอาหารไว้ให้น้องสาวในมิติพิเศษ ระหว่างนั้นมีแอบเอาผิงกั่วไปให้นางกินรองท้องก่อน กระซิบบอกเซี่ยซานซานไปว่านางเก็บมาจากบนเขาไฉ่หง น้องสาวของนางถึงได้คลายความสงสัยลง
เซี่ยซือหยางได้รับมอบหมายหน้าที่จากพี่สาว เรียกทุกคนในบ้านให้มากินข้าว เขายังคงเดินเอามือไพล่หลังมองพี่เขยตัวเองเช่นเดิม นางถานเห็นแล้วยังต้องแปลกใจ เด็กน้อยคนนี้คิดว่าตัวเองเป็นพ่อเฒ่าเดินตามหลังลูกหลานหรืออย่างไรกัน
“ทำไมเจ้าต้องเดินหลังค่อมแบบนั้นล่ะเสี่ยวซือหยาง” นางถานอดถามไม่ได้
“ข้ากลัวพี่เขยจะสะดุดล้ม อยู่ข้างหลังจะได้ช่วยทันไงขอรับท่านป้า”
นางถาน “...”
“เจ้าอย่าได้คิดไปช่วยพี่เขยตอนล้มเชียว มิเช่นนั้นเจ้าจะแบน !”
“แบน ?” เซี่ยซือหยางไม่เข้าใจ เขาคิดไว้ว่าหากพี่เขยของเขาล้ม เขาจะต้องยื่นมือออกไปช่วยเหลือให้จงได้ เพราะข้าเป็นเด็กดีอย่างไรเล่า