สายตาคมจ้องคนใบหน้าสวยที่กำลังมองตาเขา สีหน้าแววตาบ่งบอกว่าเป็นเรื่องจริงจังและซีเรียสมากสำหรับเธอ อิงทัชค่อยๆ ขยับตัวเข้ามาใกล้ๆ นิวริน รอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
“เรื่องอะไร?” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบปนสงสัย
“ฉันกำลังจะถูกจับแต่งงาน”
“อะไรนะ!!”
เสียงตะโกนดังก้องข้างๆ หูของนิวริน ทำเอาเธอถึงกับต้องยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหู พลางทำหน้ายู่ใส่อิงทัชอย่างไม่สบอารมณ์ ใบหน้าสวยมนราวกับเทพธิดามาจุติหม่นหมองลงทันทีที่เอ่ยขึ้นถึงเรื่องนี้
“จะตะโกนทำไม อยู่ใกล้กันแค่นี้”
คนตัวเล็กหันไปตวาดอิงทัชที่กำลังทำหน้าเหวอ ใจเขาเต้นระรัวอย่างบอกไม่ถูก ที่ได้ยินคำนั้นออกจากปากของนิวริน ความจริงมันไม่เกี่ยวกับเขาเลยเสียด้วยซ้ำ แต่ทำไมใจถึงเต้นแรงได้ขนาดนี้ราวกับว่ามันกำลังจะหลุดออกมาจากอก เหมือนกำลังจะโดนฉกฉวยของรักของหวงไป
“แล้วคุณจะแต่งรึเปล่า?”
“ยังไม่รู้ อาทิตย์หน้าคุณพ่อนัดให้ไปดูตัว เฮ้อ!!...มาดื่มกันดีกว่าแก้เซ็ง”
มือเรียวสวยยกแก้วไวน์ขึ้นกระดกเข้าปากเพียงพรวดเดียวจนหมดแก้ว ราวกับว่ามันคือน้ำเปล่า
“แล้วเรื่องของเราล่ะจะทำยังไง”
อิงทัชอดไม่ได้ที่จะถามคำถามนี้ ถ้านิวรินไปจากเขาแล้วใครล่ะจะรู้ใจเขาเท่าเธอ ท่วงท่าลีลารักที่แสนพลิ้วไหว มันทำให้เขาหลงรสรักของเธอจนไม่อยากให้ไปไหน แต่ในใจรู้สึกหวั่นไหวแปลกๆ เมื่อรู้ว่าเพื่อนร่วมเตียงไว้นอนบำบัดความใคร่ กำลังจะไปมีอะไรกับคนอื่นที่ไม่ใช่เขา คิดแล้วมันแปลบๆ ในใจอย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าเขาอยากจะครอบครองเธอไว้เพียงคนเดียว ไม่อยากให้ชายใดแตะต้องเธอได้แม้แต่ปลายเล็บ
“ทำไมกลัวไม่มีใครให้เอาว่างั้น?”
นิวรินเอียงคอมองอิงทิชที่กำลังนั่งหน้ายู่คิ้วผูกโบ จ้องมองเธอตาไม่กะพริบ ตอนนี้เหมือนเขากำลังจะปล่อยให้ลูกโปร่งใบสวยหลุดลอยไปจากมือ
“อืม...ถ้าแต่งงานแล้วยังจะเป็นแบบเดิมไหม?”
คำถามนี้ทำเอานิวรินหันขวับมามองหน้าอิงทัชทันที ผู้ชายอะไรนึกถึงแต่เรื่องอย่างว่า จนเธออดที่จะเอามือหยิกเข้าไปที่สะเอวเขาไม่ได้ จนอิงทัชต้องเอี้ยวตัวตามแรงมือ
“โอ๊ยๆๆ เจ็บๆๆ ปล่อย ก็แค่ถามเฉยๆ”
“ไม่เอาอะ ถ้าแต่งงานแล้วคงไม่มาจ้ำจี้กับคุณหรอก นิวรินมีศีลธรรมพอย่ะ”
คำตอบของนิวรินยิ่งทำให้ใจเขาสั่นไม่น้อย นี่เขากำลังจะไม่ได้เจอเธออีกแล้ว ถ้าไม่ได้เจอกันเขาคงคิดถึงเธอแน่ๆ ในใจอิงทัชรู้สึกหวั่นใจ เมื่อรู้เรื่องนี้แต่ก็ไม่พูดอะไรออกไป เพราะเกรงว่านิวรินจะรู้ว่าลึกๆ แล้วเขาก็แอบหวั่นไหวให้เธออยู่เหมือนกัน
“อืมคิดได้ก็ดี มันก็เรื่องของคุณจะแต่งหรือไม่แต่ง เพราะผมก็ไม่คิดอะไรอยู่แล้ว หึ”
เหมือนเข็มนับพันทิ่มแทงใจนิวริน เมื่อได้ยินคำพูดแบบนี้ออกจากปากของอิงทัช ทำไมนะเธอถึงต้องรู้สึกแบบนี้ด้วยนะ ทั้งๆ ที่เขาและเธอไม่ได้คิดผูกมัดกันอยู่แล้วตั้งแต่ต้น
“งั้นนิวรินไปก่อนแล้วกัน มาบอกแค่นี้แหละ”
“งอน?” อิงทัชเอ่ยโพล่งขึ้นมาทันทีเมื่อนิวรินเตรียมตัวที่จะลุกขึ้นยืน ร่างบางถูกรวบตัวเข้ามาชิดแผงอกแกร่ง เขาใช้มือข้างขวาเชยคางมน แล้วบดขยี้ริมฝีปากอวบอิ่ม ดุนดันปลายลิ้นเข้าไปด้านในโพรงปากอุ่น ไม่ยอมละริมฝีปากออกจากนิวริน
“อืออออ...”
เสียงร้องประท้วงว่าตอนนี้เธอกำลังจะขาดอากาศหายใจ ทำให้อิงทัชค่อยๆ ละริมฝีปากออกจากเธอ แล้วส่งสายตาเป็นประกายเต็มไปด้วยแรงปรารถนาให้นิวริน ทีท่าดูเป็นห่วงและหึงหวงไม่อยากให้เธอพรากจากไปไหน สายตาทั้งสองจ้องประสานทำเอานิวรินถึงกับต้องหลบสายตาคมของอิงทัชอย่างเร็ว
“เปล่าไม่ได้งอน จะงอนได้ไง มีสิทธิ์อะไรที่จะมางอน”
“ประชด?” เขาเอ่ยโพล่งขึ้นมาอีกครั้ง
“ไม่ได้ประชดก็ตามกฎไง ต่างคนต่างมีสิทธิ์เป็นของตัวเอง จะไปมีใคร ที่ไหน กับใครก็ได้”
คำพูดของนิวรินทำให้อิงทัชนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ เขากำลังลืมพันธสัญญาที่ตั้งไว้ ตามข้อตกลงแล้วเขาสองคนเป็นเพียงเพื่อนร่วมเตียงก็เท่านั้น เหงาเมื่อไรก็โทรหา win win กันทั้งสองฝ่าย ต่างคนต่างมีความสุข ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ แต่กฎเหล็กคือใครเอาใจลงไปเล่นก่อนแพ้ ห้ามรัก ถ้ารักเท่ากับเจ็บ เพราะความสัมพันธ์นี้ไม่ได้มีอะไรมาผูกมัด
“คิดได้แบบนั้นก็ดี แต่ก่อนจะไป มาลำลึกความหลังกันก่อนไหม”
“เหอะ!!...ยังจะมีอารมณ์อยากเอาอีก นิวรินไม่มีอารมณ์ด้วยหรอกตอนนี้ ไปก่อนนะ”
พูดจบเธอก็สาวเท้าก้าวเดินออกไปทันที ปล่อยให้อิงทัชนั่งเหี่ยวอยู่ตรงนั้นคนเดียว เขานั่งมองแผ่นหลักเล็กๆ ที่กำลังเดินเข้าไปในฝูงชนแล้วค่อยๆ ลับตาไป อิงทัชใจหายไม่น้อยที่ได้รู้เรื่องนี้จากปากเธอ ถึงปากบอกว่าไม่ได้คิดอะไรแต่ในใจลึกๆ ก็แอบหวั่นๆ ราวกับเป็นหมาหวงก้างไม่อยากให้ใครได้เธอไปครอง
ครืดดด...ครืดดด...ครืดดด
เสียงสายโทรศัพท์เข้าเขาใช้มือข้างขวาล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาจากกางเกงแสล็คตัวหรู กดสายรับแล้วยกขึ้นมาแนบหูทันที