“บ้าชะมัด เป็นอะไรอีนิวริน ทำไมต้องใจสั่นด้วยวะ”
เธอสบถด่าตัวเองอย่างรู้สึกอารมณ์เสีย ที่อยู่ๆ คิดเรื่องบ้าๆ ไม่เข้าเรื่องในหัว
“บ้าอะไรของแก”
เสียงทุ้มต่ำของชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้น ปรเมศผู้เป็นพ่อเอ่ยถามลูกสาวของตัวเองด้วยท่าทีสงสัย เมื่อเห็นเธอทำหน้าตาบูดบึ้ง เดินเข้ามาภายในตัวบ้าน นิวรินหยุดชะงักไปชั่วขณะ
“เปล่าค่ะ...แค่เพื่อนหนูทำอารมณ์เสีย”
“ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
นิวรินเอียงคอมองผู้เป็นพ่อ พลางพ่นลมหายใจออกจากปากอย่างรู้สึกเบื่อหน่าย
“เรื่องเดิมใช่ไหมคะ หนูบอกแล้วไงว่าหนูยังอยากใช้ชีวิตโสดอยู่ หนูยังไม่อยากแต่งงาน”
“แต่แกต้องแต่ง ฉันคุยกับทางโน้นไว้แล้ว นัดให้แกดูตัวกับลูกชายเขา”
ปรเมศทำสีหน้าเคร่งขรึม จ้องมองหน้าลูกสาวตัวเองอย่างเอาจริงเอาจัง จนนิวรินรู้สึกเสียวสันหลังวาบไปทั้งตัวกับสายตาของผู้เป็นพ่อ
“นัดแล้ว!! คุณพ่อคิดจะถามนิวรินก่อนไหมคะ”
เธอสาวเท้าก้าวเดินมากระแทกก้นนั่งที่โซฟาตัวนิ่ม พลางเอามือกอดอกตัวเองไว้หลวมๆ แล้วตวัดหางตามองหน้าของพ่อตัวเอง
“แกไม่ต้องมามองหน้าฉันแบบนี้เลยนะ สิ่งที่แกต้องทำตอนนี้คือทำตามที่ฉันบอก”
“เพื่อธุรกิจของพ่อน่ะเหรอคะ”
“ใช่!!” ปรเมศเอ่ยขึ้นอย่างไม่อ้อมค้อม เพื่อที่จะสานต่อธุรกิจให้ยิ่งใหญ่ไพรศาล เขาต้องการรวมทั้งสองตระกูลให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน
“ชีวิตอิสระของหนู ไม่นะคะพ่อหนูยังไม่อยากแต่งงาน คุณพ่อไม่สงสารหนูเหรอคะ”
สายตาออดอ้อนราวกับเด็กน้อย ทำให้สีหน้าแววตาขอผู้เป็นพ่ออ่อนลง ปรเมศเอามือข้างขวาลูบหัวเธอเบาๆ อย่างรู้สึกเอ็นดู
“ไปดูตัวก่อนนะลูก พ่อขอแล้วกัน”
“อาทิตย์หน้านี้ห้ามไปไหนเด็ดขาดนี่เป็นคำสั่ง”
ปรเมศเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ แล้วย่างก้าวเดินออกไป ทิ้งให้นิวรินนั่งหน้ามุ่ยอยู่ที่โซฟาตัวนิ่มคนเดียว
ครืดดดด...ครืดดดด...ครืดดดด (อิงทัช)
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น มือเรียวเปิดกระเป๋าใบหรูแล้วหยิบมันขึ้นมาดู เธอยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากเมื่อเธอเห็นเป็นเบอร์อิงทัช นิวรินรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกที่เห็นเบอร์นี้ที่หน้าจอ หรือเธอกำลังเอาใจลงไปเล่น นิวรินกำลังทำผิดกฎที่ตัวเองตั้งไว้หรือนี่ ถ้าเป็นแบบนั้นคนที่ต้องเจ็บคือเธอ นิวริน
(ฮัลโหล ว่ายังไงคะคุณชายอิงทัช)
“จะโทรมาบอกว่าอย่าลืมกินยาคลุมฉุกเฉิน ผมปล่อยใน”
คำพูดเน้นย้ำทำเอานิวรินรู้สึกแปลบๆ อย่างบอกไม่ถูกทั้งๆ ที่เมื่อก่อนมันไม่เคยเป็นแบบนี้ แต่ทำไมตอนนี้เธอกลับรู้สึกหวั่นไหว แอบนอย น้อยใจในคำพูดของอิงทัช ตัวเธอเองไม่มีสิทธิ์จะไปหึงหวง หรือไปก้าวก่ายชีวิตเขาเลยเสียด้วยซ้ำ ทำได้เป็นเพื่อนบนเตียงของเขาเท่านั้น
(รู้แล้ว กลัวฉันปล่อยท้องรึยังไง?)
“ไม่รู้สิ...แต่ที่แน่ๆ ถ้าคุณท้องขึ้นมาจริงๆ ผมไม่เอาด้วยหรอกนะ ผมไม่อยากผูกมัดกับใคร”
เหมือนสายฟ้าฟาดลงตรงกลางใจเมื่อได้ยินประโยคนี้ออกจากปากของเขา นิวรินพยายามรวบรวมความเป็นตัวเองในแบบเมื่อก่อนเพื่อตอบกลับอิงทัช
(มันแน่อยู่แล้ว ฉันไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองท้องป่องกับคุณแน่นอน)
“รู้แบบนี้ก็ดี ผมไม่อยากผูกมัดกับใคร ว่าแต่คืนนี้เราไปข้างนอกกันไหม”
(ไม่ไป เซ็งๆ ไม่อยากไปไหนเลยตอนนี้)
“คุณโกรธที่ผมพูดเมื่อกี้เหรอนิวริน แล้วเรื่องที่จะบอกล่ะ”
(เรื่องมันยาวไว้เจอกันค่อยคุย)
เธอพ่นลมหายใจออกจากปากอย่างรู้สึกเซ็งๆ เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อครู่ที่ได้คุยกับพ่อตัวเอง แต่งงานรึ? ไม่มีทาง ขนาดอิงทัชที่นอนเอากัน เธอยังไม่อยากผูกมัดชีวิตไว้กับเขาเลย ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะรู้สึกแปลกๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนก็เถอะ
“งั้นผมไปหาคุณที่คอนโดได้ไหมคืนนี้”
(จะมาเอาฉันอีกล่ะสิ เมื่อกี้ยังไม่พออีกรึไง เฮ้อ...ผู้ชายอะไรตะกละ)
“ตะกละกับคุณคนเดียวนั่นแหละน่า...ผู้หญิงคนอื่นก็ไม่แซ่บเท่าคุณ”
(ย่ะ!!... คืนนี้เบื่อแล้ว ไม่ไป!!)
นิ้วเรียวกดปุ่มวางสายทันที นิวรินหย่อนโทรศัพท์มือถือลงไปในกระเป๋าอย่างเดิม แล้วพาตัวเองขึ้นไปด้านบน
“จะเอาอย่างเดียวเลย บ้าชะมัด”
เธอบ่นพึมพำอยู่คนเดียว พลางใช้มือข้างขวาเปิดประตูแล้วสืบเท้าก้าวเดินเข้าไปด้านใน คนตัวเล็กทิ้งตัวลงนอนอยู่ที่เตียงนุ่ม ในหัวคิดฟุ้งซ่านเต็มไปหมด ถ้าเธอต้องแต่งงานจริงๆ ชีวิตหลั่นล้าของเธอก็ต้องจบแน่ๆ นิวรินเองก็ไม่อยากผูกมัดกับใครเช่นกัน แต่ใจกลับหวั่นไหวเมื่ออยู่ใกล้อิงทัชนี่สิ ตอนนี้เธอแทบไม่อยากจะเจอหน้าเขาเลยเสียด้วยซ้ำ เพราะกลัวใจตัวเอง นิวรินไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังตกหลุมรักเขา หรือหลงรสรักเขากันแน่
ครืดดด...ครืดดด...ครืดดด (อิงทัช)
นิวรินหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูอีกครั้ง ชื่อบนหน้าจอเป็นอิงทัช เธอกลอกตามองบนแล้วกดตัดสายทิ้งไปทันที “จะโทรมาทำไมนักหนา” ตอนนี้เธอไม่อยากคุยกับใครทั้งสิ้น อยากจะนอนเงียบๆ อยู่คนเดียว ให้ตัวเองมีเวลาได้คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่กำลังสับสนอยู่ในหัว
ครืดดด...ครืดดด...ครืดดด.. (อิงทัช)
สายโทรเข้ามากว่ายี่สิบสาย แต่นิวรินไม่รับทำเอาเขาหัวเสียขึ้นมาทันที
“ตัดสายทิ้งแล้วไม่รับสายอีก โกรธกูรึเปล่าวะเนี่ย”
“แล้วทำไมกูต้องแคร์ด้วยวะ ไอ้บ้าเอ๊ย!!”
เขาสบถด่าตัวเอง ตอนนี้ใจอิงทัชเต้นระรัวราวกับกลองชุด ซึ่งเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องแคร์นิวรินขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยากผูกมัดกับเธอ นิวรินก็แค่เพื่อนร่วมเตียง แต่เขากลับกระวนกระวายใจเมื่อถูกปฏิเสธแบบนี้
ติ๊ง!! “ถ้าไม่รับสาย ไม่มาหาคืนนี้จะบุกไปหาที่บ้านเลยนะ...อิงทัช”
เสียงข้อความดังขึ้น นิวรินหยิบโทรศัพท์ขึ้นแล้วเปิดดูเธอถึงกับตาโต ถ้าเขามาหายันบ้านความต้องแตกแน่ๆ ว่าตอนนี้เธอกำลังแอบแซ่บอยู่กับเขา ทำตัวเหลวแหลกไม่สมกับเป็นกุลสตรีที่ดีพร้อมของตระกูลกิจธาดาวงศ์ คนตัวเล็กรีบกดโทรออกหาอิงทัชทันทีอย่างไม่รีรอ
“ฮัลโหล...ถ้าไม่ขู่ก็คงไม่โทรกลับมาสินะ โกรธผมเรื่องอะไร”
อิงทัชยิงคำถามออกมาโต้งๆ อย่างไม่รู้สึกกระดากปาก ราวกับว่าเขากำลังแคร์เธอ
(แคร์ด้วยเหรอ)
“.........”
เขานิ่งไปครู่ใหญ่เมื่อเธอพูดขึ้น อิงทัชรีบดึงสติตัวเองกลับมาอย่างไว
“เปล่า แค่สงสัยทำไมไม่รับสาย?”
(นิวรินเหนื่อย จะนอนพักผ่อนบ้างไม่ได้รึไงห๊ะ”
“คืนนี้เจอกันนะ ทำตัวให้ว่างด้วยเดี๋ยวไปรับที่คอนโด”
(อยากเอาอีกว่างั้น?)
“ถ้าให้ก็ไม่ปฏิเสธ...อยากคุยด้วยเหงา ไม่มีเพื่อนกินเหล้า”
(โอเคๆ งั้นเดี๋ยวนิวรินไปเองไม่ต้องมารับ ตอนนี้นิวรินอยู่บ้านเดี๋ยวพ่อรู้ว่าแอบแซ่บกับผู้ชาย หึ)
ณ ผับหรู
แสงสีวิบวับสาดส่องไปทั่ว กระทบลงบนเรือนร่างของชายหญิงที่กำลังเต้นกันอยู่อย่างสนุกสนาน สายตาคู่สวยสอดส่องมองไปยังมุม VIP ที่ประจำของเธอและอิงทัชแต่ก็ไม่เห็นเขานั่งอยู่ตรงนั้น
“เอาอีกแล้วให้มารออีกแล้ว น่าเบื่อชะมัด”
อยู่ๆ เอวบางถูกรวบเข้าหาแผงอกแกร่ง เธอตกใจไม่น้อยเมื่อปลายลิ้นอุ่นดุนดัน เข้าไปในโพรงปากของนิวริน ริมฝีปากหยักกดจูบเธออย่างดูดดื่มจนเธอแทบหายใจไม่ทัน อิงทัชค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง สายตาแห่งแรงปรารถนาจ้องมองใบหน้าสวยที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอ่อนๆ แต่กลับทำให้เธอดูเซ็กซี่ชวนมอง
“ตกใจหมดเลยนึกว่าไอ้หื่นที่ไหน”
“ถ้าไม่ใช่ผม คุณคงไม่ยอมใช่ไหมล่ะ”
อิงทัชโน้มใบหน้ามากระซิบข้างๆ กกหูของนิวรินจนขนอ่อนของเธอลุกตั้งเสียวซ่านไปทั้งตัว สายตาคมสำรวจไปทุกสัดสวนที่ชวนมอง วันนี้เธอใส่ชุดเดรสสายเดี่ยวสีแดงเลือดนก เผยให้เห็นเนินอกอิ่ม ใครเห็นเป็นต้องตาค้าง ขนาดอิงทัชเองยังอดมองไม่ได้ เหล่าบรรดาผู้ชายที่ยืนอยู่รายล้อมมองเธอตาไม่กะพริบ
“ทำไมต้องแต่งตัวมาโป๊ซะขนาดนี้”
“หึง? ...ถามแบบนี้”
“............”
“เปล่า กลัวคุณถูกไอ้หื่นกามลากไปกินต่างหาก”
เขายกยิ้มมุมปากก่อนที่จะคว้าเอวบางแล้วพาเธอเดินสาวเท้าก้าวเข้าไปที่นั่งประจำ นิวรินหย่อนก้นนั่ง พลางเอาขาขวายกขึ้นไขว่ห้างแล้วตวัดหางตาไปมองคนข้างๆ ที่กำลังซุกไซ้ซอกคอระหงส์ของตัวเอง ราวกับหิวกระหายในราคะมาแรมปี
“ไอ้หื่นกามที่ว่ามันคุณไม่ใช่เหรอ หึๆ”
นิวรินจับมือหนา ที่กำลังเคล้าคลึงหน้าอกกลมกึ่งของเธอออก
“หยุดก่อนได้ไหมจะเอาอย่างเดียวเลย ไหนบอกจะให้มานั่งกินเหล้าเป็นเพื่อนไง”
“กินคุณก่อนได้ไหม”
เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าออกมาจากลำคอ ยังคงไม่วายลุกล้ำ ซุกไซ้ไปทั่วเรือนร่างที่หอมหวนชวนดม
“หยุด...นิวรินมีเรื่องจะบอก”
อิงทัชหยุดชะงักแล้วจ้องมองคนข้างๆ ด้วยสายตาจริงจังรอฟังสิ่งที่เธอจะพูด