7| ป่วย

1542 คำ
ตกดึก “หนาวจังเลย” “ไม่สบายแน่ ๆ เลย” “ไปบอกรุ่นพี่ดีกว่า” อาการของหนูเล็กไม่ดีขึ้นเลยหลังจากรุมเช็ดตัวและกินยาลดไข้ทุกๆ สี่ชั่วโมง “ขับรถดีๆ” “ดูแลน้อง ๆ ด้วย กูผิดเองที่ทำให้หนูเล็กป่วย” ภูผาวิ่งหาสัญญาณมือถือและต่อสายด่วนไปหาที่บ้านให้ส่งรถมาที่ตนอยู่ เพราะธุรกิจครอบครัวที่ฝังตัวอยู่ทุกภาคของประเทศจึงทำให้รอไม่นาน “ให้แก้วไปด้วยมั้ยผา” “ไม่ต้องหรอก” ภูผารีบปิดประตูแล้วออกรถทันที เพราะพี่ชายของเด็กสาวต้องอยู่คุมน้อง ๆ ทำกิจกรรมจึงฝากให้เพื่อนสนิทดูแลน้องสาวแทน อาจไม่สนิทใจเท่าไหร่ที่ปล่อยน้องสาวไป แต่ความเป็นเพื่อนที่มีมาอย่างยาวนาน ภูผาคงไม่คิดอกุศลกับคนป่วยแบบนั้นได้ลง กลิ่นแก้วมองตามรถที่ขับออกไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย แม้จะรู้ว่าภูผาเป็นผู้ชายแบดบอยแต่เธอก็หวังลึกๆว่าสักวันภูผาจะหยุด “ไปเรียกน้องมารวมได้แล้ว” เน็ตสะกิดแขนกลิ่นแก้วให้ได้สติ “อืม ไปสิ” “หนาวจังเลย” ระหว่างทางคนตัวเล็กก็เอาแต่เพ้อเพราะพิษไข้ รุ่นพี่อาสาขับรถเองโดยมีลูกน้องที่นำรถมาให้ขับตามมาด้วยอีกคัน “อดทนหน่อยนะ ใกล้จะถึงแล้ว” หากเธอมีสติคงร้องกรี๊ดตลอดทาง ภูผาขับรถด้วยความเร็ว เส้นทางก็น่ากลัว หากพลาดท่าไปก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าจะรอดกลับมาท่าไหน “เหี้ยเอ๊ย! ฝนเสือกตกอีก” เขาต้องชะลอความเร็วเพราะสายฝนที่เทลงมาอย่างหนักทำให้การมองเห็นลดน้อยลง “พี่ขา เราจะไปไหนกันคะ” น้ำเสียงอ่อนแรงของรุ่นน้องทำให้เขาต้องลดความเร็วลงมากกว่าเดิม “ไปโรงพยาบาล เธอตัวร้อนแล้วก็ไข้สูงมาก หนาวมากหรือเปล่า” เธอพยักหน้าน้อยๆ เพราะเริ่มรู้สึกหนาวจากข้างในอีกครั้ง ผ้าห่มสองผืนที่พี่ชายยดใส่มือมาให้ก็ไม่ช่วยทำให้อุ่นขึ้นเลย “ต้องเช็ดตัว” ภูผาเปิดไฟผ่าหมากและหักพวงมาลัยนำรถเข้าข้างทางพร้อมกับโทรบอกลูกน้องของพ่อให้นำหน้าไปก่อน เขายื่นมือไปปิดน้ำยาแอร์เพื่อให้เป็นลมธรรมดา ฝนข้างนอกก็กำลังเทลงมาอย่างหนักหากพ้นเขาลูกนี้ไปอาจจะซาลงบ้าง แต่ว่าตอนนี้คนตัวเล็กที่พามาด้วยอาการไม่ค่อยดีนักต้องรีบเช็ดตัวก่อนที่จะแย่ไปมากกว่านี้ “นะ หนาวค่ะ” เธอพยายามยื้อแย่งผ้าห่มแต่ก็ถูกคนตัวโตทำหน้าดุใส่จนเกือบร้องไห้ ไม่ใช่เพราะเขาหรือไงที่ทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้ “อย่าดื้อได้มั้ย” “หนูเล็กไม่เคยดื้อกับพี่ขาเลย มีแต่พี่ขานั่นแหละที่ใจร้าย อุ๊บ” ปากเล็กถูกปิดสนิท ไอร้อนจากพิษไข้ที่ระบายออกมาถูกเขากลืนกิน ภูผาไม่สนว่าเธอกำลังไข้ขึ้น เพราะตอนนี้หงุดหงิดที่เธอเถียง ทั้งๆที่ตัวเองกำลังแย่ “อย่าเถียงพี่อีก แค่จูบก็ทำให้พี่มีอารมณ์ หรือว่าเธออยากโดนบนรถ” เขาถอนริมฝีปากออกพร้อมบอกความต้องการของตัวเองที่เป็นอยู่ตอนนี้ “แต่หนูเล็กป่วยอยู่นะ” คนตัวเล็กขู่ ทั้งๆที่รู้ว่าเขาไม่เคยกลัวเลยสักนิด “แล้วไง ถอดเสื้อของเธอออกซะ” หนูเล็กตาโตเมื่อเห็นว่าผู้ชายที่จูบเธอเมื่อครู่กำลังถอดเสื้อของตัวเองและออกคำสั่งให้เธอถอดเสื้อของตัวเองออกด้วยเหมือนกัน “พี่ขา จะทำอะไรคะ” ตาแป๋วกะพริบถี่ๆ เมื่อซิกแพ็กที่เคยสัมผัสลอยอยู่ตรงหน้า “เช็ดตัว ถ้าช้าก็อาจจะทำมากกว่านั้น” เขามองต่ำกดดันให้เธอรีบถอดเสื้อออกโดยเร็ว หากช้ากว่านี้อาจคุมไม่อยู่ แม้จะเป็นผู้ชายภูผาก็สามารถจัดการเรื่องแบบนี้ได้อย่างสบายๆ “ถอดแล้วค่ะ” เสื้อชั้นนอกถูกวางกองลงข้างๆ คนตัวโตโน้มต่ำลงไปใช้มือปรับเบาะเพื่อให้ร่างบางได้เอนตัวลงนอน ระหว่างที่ใบหน้าหล่อเข้าใกล้เพียงคืบลมหายใจอุ่นร้อนก็ปะทะเข้าที่ลำคอของเธอจนรู้สึกขนลุกขึ้นมาอีกครั้ง “ชั้นในด้วยสิ” “ด้วยเหรอคะ” เธอถามกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “ทั้งข้างบนแล้วก็ข้างล่าง” คำสั่งของรุ่นพี่เลี่ยงได้ที่ไหน ร่างเปลือยเปล่าขดตัวบนเบาะ ภูผาใช้เสื้อของตัวเองชุบน้ำดื่มขวดเล็กที่มีติดรถแล้วลงมือเช็ดตัวให้ทันที “อื้อ เย็นจังเลยค่ะ” “อดทนหน่อย” ไม่ใช่แค่บอกเธอ บอกตัวเองด้วยว่าอดทนหน่อย “ขอผ้าห่มได้มั้ยคะ ไม่ห่มก็ได้แค่กอดเฉยๆ” หากทำแบบนั้นไข้จะลดได้อย่างไร “ไปนอนเบาะหลัง ลุกไหวมั้ย” เจ้าของร่างเปลือยรีบพยักหน้า หากได้กอดผ้าห่มอย่างที่หวังเธอพร้อมและไหวเสมอ แต่ว่าพอขยับย้ายมาที่เบาะหลังชายหนุ่มก็โยนผ้าห่มทั้งสองผืนไปไว้ที่เบาะหน้าแทนและกระชากเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตัวเองแทน “กอดผ้าห่มไม่ได้เหรอคะ” “กอดพี่แล้วมันจะทำไม เกลียดพี่นักหรือไง” ใครจะเกลียดเขาลง มีบ้างบางอารมณ์ชั่ววูบที่เขามักเอาแต่ใจ “หนูเล็กไม่ได้พูดนะคะ” พูดจบก็หลับตาลง แนบแก้มนิ่มลงบนบ่าของชายหนุ่ม ผิวกายที่ร้อนระอุเริ่มคลายกลายเป็นอุณหภูมิปกติ เธอหลับในอ้อมกอดของเขาอย่างสนิทใจ แม้รู้ว่าเขาชอบรังแกและล่วงเกินเธอหลายต่อหลายครั้งที่มีโอกาสแต่หนูเล็กยังไว้ใจเขาเหมือนเดิม โรงพยาบาล “หมอบอกเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา ถ้าอาการดีขึ้นแล้วกูจะให้ที่นี่ส่งตัวหนูเล็กกลับกรุงเทพเลย มึงไม่ต้องห่วง” ภูผาโทรแจ้งความคืบหน้าอาการป่วยให้เพื่อนสนิทคลายกังวลว่าน้องสาวปลอดภัยดีหลังจากเข้าตรวจเรียบร้อย “ไม่ห่วงได้ไงวะ ถ้าพ่อกับแม่รู้กูนี่แหละที่โดนด่า” “บอกไปว่ากูดูแลอยู่ ไม่ต้องห่วง” ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ของการเป็นเพื่อนที่มีมาอย่างยาวนาน ครอบครัวด้วยเช่นกัน “เออ ระวังจะถูกจับเป็นลูกเขยเข้าสักวัน กูช่วยไม่ได้นะ อดปี้หญิงไปตลอดชีวิตเลยนะเว้ย” ชายหนุ่มอดขำไม่ได้ที่เพื่อนสนิทรู้ทัน “ก็ไม่ตายป่าววะ” “พูดแบบนี้ จริงจัง?” เน็ตถามกลับ “ยังว่ะ ยังไม่พร้อมหยุดที่ใคร” ระหว่างที่คุยโทรศัพท์อยู่นั้น คนป่วยที่นอนให้น้ำเกลืออยู่บนเตียงก็รู้สึกตัวขึ้นมา หนูเล็กได้ยินทุกอย่างที่หลุดออกมาจากปากของภูผา ทุกอย่างที่เขาทำคือความสนุกเพียงเท่านั้น เป็นเธอเองที่เข้าข้างตัวเองและพยายามคิดตลอดว่าภูผาจะหยุด “เออ ยังไม่พร้อมก็อย่าคิดแอบกินน้องสาวกูเด็ดขาด” “อืม” เขาขานรับอย่างไม่เต็มใจนัก หางตาแอบเหลือบมองคนป่วยที่กำลังหลับแล้วบอกลาเพื่อนสนิท “เป็นไงบ้างตัวแสบ” “หายดีแล้วค่ะ อยากกลับบ้านแล้วด้วย” อาการของหนูเล็กดีขึ้นตามลำดับและถูกส่งตัวมารักษาต่อที่กรุงเทพตามความต้องการของพี่ชายและเพื่อนพี่ชายที่เป็นคนจัดการเดินเรื่องทุกอย่างให้จนเสร็จเรียบร้อย แต่ว่าตอนนี้ไม่รู้ว่าเขาคนนั้นหายไปไหน ตั้งวันนั้นที่เธอย้ายโรงพยาบาลเขาก็หายเงียบไปเลย "รอคุณหมออนุญาตก่อนนะ” “หนูเล็กเบื่อแล้วนี่คะ วันนี้ซื้ออะไรมาคะ เยอะแยะเชียว” ตั้งแต่กลับมาจากค่ายอาสาพี่ชายคนนี้ก็ดูแลเอาใส่เธอไม่ห่าง เรื่องเที่ยว กับเรื่องผู้หญิงแทบไม่แตะ “อะไรมั่งเนี่ย” “ไม่ได้ซื้อเองเหรอคะ ถึงไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร” สายตาจ้องจับผิดของน้องสาวเริ่มทำให้พี่ชายเริ่มลนลาน “ซื้อเองก็มี แล้วก็เพื่อนๆ พี่มันก็ซื้อฝากมาให้ด้วย” “อ่อ เหรอคะ” หวังว่าหนึ่งในนั้นจะมีคนที่เธอคิดถึง “กินส้มมั้ย พี่ปอกให้” “ไม่เอาค่ะ พี่เน็ตปอกส้มไม่น่ากินเลย ช้ำหมด เอามาให้หนูเล็กปอกเองดีกว่า” “ก็พี่ไม่เคยปอกให้ใครกินนี่” เพราะไม่เคยปราณีตทำเรื่องแบบนี้ให้ใครมาก่อนนอกจากน้องสาว แล้วก็น้อยครั้งนักที่จะทำ ผลก็เลยออกมาไม่ค่อยน่าดูสักเท่าไหร่ “ปอกให้น้องนี่แหละ มีแฟนจะได้ทำเป็น” “มีแฟนก็ต้องอ้อนให้แฟนปอกให้กินสิ” นั่นสิ ทำไมต้องเป็นฝ่ายยอมทำให้ตลอดด้วย พอคิดแบบนี้ก็นึกถึงใครบางคนขึ้นมาอีกครั้ง ทำไมเขาคนนั้นต้องวนอยู่ในหัวเธอตลอดเวลาด้วย หรือว่าเธอเสพติดเขาไปแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม