"ว่าแต่พี่ชื่ออะไรคะฉันยังไม่รู้จักชื่อพี่เลย"
"พี่ชื่อสิธาจ้ะ แล้วเราล่ะชื่ออะไร"
"ไอรีสค่ะ"
"ชื่อเพราะหน้าตาก็สะสวย ถ้าเราแต่งตัวดีๆ ถอดแว่นตานี่ออก พี่ว่าแมวมองคงชวนเข้าวงการแน่เลย"
ไอรีสได้แต่ยิ้มบางๆ ให้กับเพื่อนใหม่ จริงๆ ในชีวิตประจำวันเธอก็ไม่ได้ใส่แว่นตาหรอก แต่เรื่องแต่งตัวเธอชอบแต่งตัวง่ายๆ บางวันกางเกงขาสั้นเสื้อยืดก็อยู่ได้ทั้งวันแล้ว
พ่อเคยจ้างคนมาปรับลุคใหม่ของเธอ เพราะเวลาอยู่บ้านเธอกลมกลืนกับแม่บ้านมาก จนคนดูไม่ออกว่าคนไหนคุณหนูคนไหนแม่บ้าน
"แม่สีทาบ้าน เลขาผู้จัดการตามกาแฟแล้ว" เสียงเดิมตะโกนเข้ามาในห้องเครื่องดื่ม พอได้ยินชื่อที่คนข้างนอกเรียกไอรีสก็อดหันมามองดูแม่บ้านประจำชั้นผู้บริหารไม่ได้ พี่เขาชื่อสิธาไม่ใช่เหรอทำไมเรียกสีทาบ้านล่ะ
"ตายแล้วมัวแต่คุยกันลืมกาแฟผู้จัดการเลย ห้องผู้จัดการอยู่ถัดจากห้องท่านรองไปนะ"
ไอรีสเก็บความสงสัยไว้ก่อน เพราะเธอต้องรีบเอากาแฟไปเสิร์ฟเจ้าใหญ่นายโต
"กาแฟของผู้จัดการค่ะ"
"เราเป็นพนักงานใหม่เหรอ" เลขาหน้าห้องของผู้จัดการเห็นว่าเธอไม่คุ้นหน้าเลย
"ใช่ค่ะ"
"เอาเข้าไปบริการผู้จัดการเลย"
ก๊อกๆ "กาแฟมาแล้วค่ะ"
"เข้ามา"
หลังจากที่ได้รับอนุญาตไอรีสก็ยกแก้วกาแฟนั้นเข้าไป
"เอาวางไว้"
ไอรีสแอบมองหน้าผู้จัดการก่อนจะวางกาแฟลง
"ฉันไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อน"
"ฉันเพิ่งเข้าทำงานวันแรกค่ะ"
"เป็นผู้ช่วยหรือว่าเป็นแม่บ้าน" ถึงแม้จะมองแค่แว๊บเดียวก็เห็นความโดดเด่นในตัวเธอคนนี้ และคนที่จะขึ้นมาบนชั้นผู้บริหารได้ ต้องเป็นคนที่ถูกคัดกรองมาแล้วอย่างดี
"ฉันยังไม่มีตำแหน่งค่ะ"
"ยังไม่มีตำแหน่งหมายความว่ายังไง"
"หมายความว่าฉันกำลังรอตำแหน่งอยู่ค่ะ"
"เธอใช้เส้นสายของใครเข้ามา"
"คะ?" ถามตรงขนาดนี้เลยเหรอ แล้วเราจะบอกว่าเส้นสายใครดี ชั่วขณะเดียวกันนั้นเธอก็นึกอะไรสนุกๆ ได้ "ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าเส้นสายไหมนะคะ แต่ถ้าคุณอยากรู้คุณลองถามกับท่านรองประธานดูค่ะ ฉันขอตัวนะคะ"
"รองประธาน? คุณสิงห์น่ะเหรอ?"
ห้องเครื่องดื่ม..
"มีอะไรหรือเปล่าทำไมเอากาแฟเข้าไปให้ผู้จัดการนานจัง"
"มันแปลกนักเหรอคะที่มีพนักงานใหม่ขึ้นมาทำงานที่ชั้นนี้" เห็นสายตาทุกคนที่มองเธอเหมือนมันไม่ใช่เรื่องปกติ
"ส่วนมากชั้นนี้จะมีแต่คนที่ไว้วางใจได้เท่านั้นที่ขึ้นมาทำ เพราะกลัวว่าข้อมูลของบริษัทจะรั่วไหล"
"แสดงว่าพี่ก็เป็นบุคคลที่น่าไว้วางใจ"
"แม่พี่เป็นแม่บ้านเก่าแก่ที่นี่"
"ถึงว่า"
เธอยังคงช่วยงานแม่บ้านมาจนถึงช่วงเย็น ตอนกลับรถที่บ้านก็มารอรับเหมือนเดิม
"ลุงฉันถามอะไรหน่อยสิ"
"ถามอะไรครับ" ลุงที่ทำหน้าที่ขับรถอยู่หันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้ไปนั่งด้านหลังเหมือนเจ้านายทั่วไปหรอก เพราะเธอให้คุณค่าของคนเท่ากันหมด
"ลุงรู้จักผู้จัดการทั่วไปไหม"
"ผู้จัดการทั่วไป?"
"ถ้าลุงไม่รู้จักก็ไม่เป็นไรนะคะ" เพราะลุงทำหน้าที่ขับรถที่บ้านไม่น่าจะรู้เรื่องงาน
"คุณหมายถึงคุณอัญญาเหรอครับ"
"ลุงรู้หรือคะ"
"คุณอัญญาเคยไปที่บ้านครับ"
"เขามีความสัมพันธ์อะไรกับเจ้านายของลุงเหรอคะ"
กึก! เท้าลุงคนขับเผลอไปแตะถูกเบรก
"คุณถามทำไมครับ"
"เขาเป็นมากกว่าเจ้านายกับลูกน้องเหรอคะ"
"ผมก็ไม่แน่ใจหรอกครับ คงมาเจอกันเพราะเรื่องงานมั้งครับ"
ขนาดคนขับรถยังมีพิรุธเลย ถ้ามีคนรักอยู่แล้วทำไมต้องรับหมั้นกับเราด้วย ยังไงเธอก็ไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปแน่ ถึงแม้ว่าอยากจะช่วยเรื่องธุรกิจของพ่อ แต่ถ้าเป็นเรื่องผิดศีลธรรมเธอก็ไม่เอาด้วยหรอก
ใช้เวลาอยู่บนท้องถนนนานพอสมควรกว่าจะกลับมาถึงบ้าน เพราะช่วงเลิกงานเป็นช่วงเวลาที่รถติดมาก
>>{"ไว้วันเสาร์นี้เจอกันนะ"}
เดินเข้ามาก็เห็นว่าเขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่ แต่พอเห็นเธอเข้ามาเขาก็วางสายไป
"คุณผู้หญิงมาพอดีเลยค่ะ เดี๋ยวป้าตั้งโต๊ะเลยนะคะ"
"คุณพ่อไปดูงานแล้วใช่ไหมคะ"
"ใช่ค่ะ"
โต๊ะอาหาร..
นานๆ ทีทั้งสองจะนั่งร่วมทานอาหารด้วยกันแบบนี้ แต่ถึงแม้จะนั่งทานร่วมกันมันก็ไม่ได้แตกต่างจากทานคนเดียวหรอก เพราะไม่มีการสนทนาใดๆ เกิดขึ้นในระหว่างทานข้าวเลย
ไอรีสอยากจะถามเรื่องงาน แต่มองอีกฝ่ายแล้วคงไม่มีอารมณ์ตอบเธอ เพราะมือข้างหนึ่งจับช้อนตักข้าวใส่ปาก ส่วนมืออีกข้างก็เลื่อนโทรศัพท์เหมือนว่ากำลังนั่งทานข้าวอยู่คนเดียวยังไงยังงั้น
เช้าวันต่อมา..
"คุณผู้ชายล่ะคะ"
"ออกไปทำงานแล้วค่ะ"
"ออกไปแล้วเหรอ?" ว่าจะถามเรื่องงานสักหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกวันนี้เลขาของเขาคงจัดงานให้เธอแล้ว
[บริษัทดำรงฤทธิ์]
ไม่คิดว่ารถจะติดขนาดนี้ กว่าจะมาถึงก็สายมากแล้ว
"รอด้วยค่ะ" มาถึงประตูลิฟต์กำลังจะปิดพอดี แต่ทำไมพนักงานถึงไม่รีบเข้ากัน หญิงสาวเดินเข้าไปในลิฟต์ ด้านในมีคนยืนอยู่ไม่กี่คนเอง ส่วนพนักงานคนอื่นเหมือนจะรอลิฟต์เที่ยวถัดไป
"......." เข้ามาด้านในก็รู้เลยว่าทำไมพนักงานถึงไม่ติดลิฟต์ขึ้นมาด้วย
"วันหลังถ้ามีผู้บริหารใช้งานอยู่เธอรอใช้ลิฟต์รอบถัดไปนะ" เป็นเสียงของเลขาท่านรองประธาน และตอนนี้ทั้งท่านรองประธานและผู้จัดการทั่วไปก็กำลังอยู่ในลิฟต์ตัวเดียวกับเธอ