บทที่ 1
"เธอรู้ใช่ไหมว่าการหมั้นของเรามันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความรัก"
"รู้ค่ะ"
"ถ้าเราสองคนจะมีงานแต่ง และงานแต่งนั้นมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นมาจากความรักเช่นกัน"
"ค่ะ"
"ฉันหวังว่าถ้าวันไหนที่ฉันต้องการอิสรภาพ เธอจะคืนมันให้กับฉัน"
"ค่ะ"
"มีอะไรอยากจะพูดกับฉันไหม" เห็นอีกฝ่ายเอาแต่นั่งเงียบและตอบว่าค่ะอย่างเดียวเลย ตกลงเธอเข้าใจสิ่งที่เขาพูดจริงไหม ไม่ใช่ว่าถึงวันนั้นมาจริงๆ จะมานั่งบีบน้ำตาขอความเห็นใจ
"ฉันไม่มีอะไรจะพูดค่ะ"
"เราอาจต้องอยู่บ้านหลังเดียวกันไปก่อน แต่เธออย่ามาก้าวก่ายงานและเรื่องส่วนตัวของฉันเท่านั้นพอ"
"ค่ะ" แต่ก่อนไอรีสเคยเป็นที่อิจฉาของเพื่อนๆ หลังจากที่พ่อแต่งงานใหม่ มีครอบครัวใหม่ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเธอเหมือนกาฝากของบ้านเลย มันน่าขำอยู่อย่างหนึ่งลูกสาวคนใหม่ของพ่ออายุห่างจากเธอแค่ปีเดียว แถมยังเป็นลูกแท้ๆ ของพ่อด้วย นั่นหมายถึงพ่อนอกใจแม่ตั้งแต่ตอนที่แม่กำลังท้องเธออยู่ด้วยซ้ำ
________________
"สวัสดีค่ะคุณพ่อ" ไอรีสเดินออกมาจากในครัวก็เห็นว่าพ่อของคู่หมั้นกลับมาบ้าน เกือบเดือนแล้วมั้งที่เธอมาอยู่บ้านหลังนี้เจอท่านอยู่แค่ครั้งเดียว
"มาอยู่บ้านหลังนี้ก็หลายวันแล้วชินบ้างหรือยัง"
"ค่ะ" จะให้ชินคงไม่ชินง่ายๆ หรอก แต่ก็ดีกว่าอยู่บ้านตัวเอง
"พ่อมีของฝากมาให้เราด้วยนะ เดี๋ยวให้คนเอาไปให้บนห้อง"
"ขอบคุณมากค่ะ"
"พ่อกลับก่อนกำหนดเหรอครับ" นรสิงห์กลับมาก็เห็นพ่อกำลังคุยอยู่กับไอรีส คู่หมั้นที่ผู้ใหญ่หาให้เพราะอยากจะต่อยอดทางธุรกิจ
"อีก 2-3 วันจะขึ้นเหนือ พ่อเลยต้องกลับมาพักก่อน แล้วนี่เราไปไหนมา"
"ออกไปหาเพื่อนมาครับ"
"ไปหาเพื่อนกลุ่มนักเลงของแกน่ะเหรอ"
"กลุ่มนักเลงที่ไหนล่ะพ่อ" เรียกซะเสียชื่อมาเฟียหมดเลย
"วันหยุดแบบนี้แทนที่จะพาน้องออกไปช้อปปิ้งหน่อย"
"เธอก็ไปเองได้นี่ครับ" ตอนที่พูดเขาแค่ปรายหางตามองไปดูคนที่ท่านพูดถึง เพราะเธอก็มีขาน่าจะเดินเองได้
"แกชักจะเอาใหญ่แล้วนะ วันจันทร์นี้เข้าประชุมผู้ถือหุ้นด้วย หลังการประชุมพ่อจะเดินทางเลย"
"ครับ"
"หนูเข้าประชุมด้วยนะ"
"คะ?"
"ทำไมต้องให้เธอเข้าด้วยล่ะครับ"
"ก็เธอเป็นเมียของแก จะไม่พาไปแนะนำให้ผู้ถือหุ้นรู้จักเลยหรือไง"
"ผมว่าอย่าเพิ่งเลยดีกว่าครับ และอีกอย่างยังไม่ได้แต่งงานจะเรียกเมียได้ยังไง"
"ดูมันพูดน่ะ ลูกสาวเขามาอยู่บ้านด้วยยังจะพูดแบบนั้นอยู่อีก"
"ใครอยากให้มาล่ะ" คำพูดประโยคนี้เขาพูดแค่ลมผ่านปาก ถ้าไม่มองริมฝีปากเขาด้วยก็คงไม่รู้ว่าพูดอะไร และเผอิญว่าเธอมองอยู่ "งานของพ่อยังยุ่งไม่พออีกหรือไงครับ" จะยุ่งอะไรกับเรื่องของเขานักหนา อยากให้หมั้นก็ยอมหมั้นให้แล้ว
"ไม่รู้ล่ะ วันจันทร์แกพาน้องไปทำงานด้วย"
หลังจากที่พ่อขึ้นบ้านไปแล้วเขาก็เดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟารับแขก เรื่องน้องสาวก็ยังไม่รู้ว่าจะเอายังไง ยังจะมาเรื่องผู้หญิงคนนี้อีก
คิดถึงเรื่องน้องสาวแล้วเขาต้องทำอะไรสักอย่าง ที่แน่ๆ คงให้พ่อรู้เรื่องนี้ยังไม่ได้
นรสิงห์เพิ่งรู้ว่าตัวเองมีน้องสาวก็เมื่อวานนี้เอง ในเวลาเดียวกันนั้นก็ได้มารับรู้ว่าตัวเองเสียแม่ไปได้หลายปีแล้ว เพราะเท่าที่จำได้แม่หนีตามผู้ชายไปทิ้งให้เขาอยู่กับพ่อ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาไม่รู้เรื่องของแม่อีกเลย เคยถามหาแม่ครั้งหนึ่งแต่ก็ถูกพ่อสั่งห้ามไม่ให้ถาม
"วันจันทร์เตรียมตัวเข้าบริษัทด้วยแล้วกัน" มองไปก็ยังเห็นว่าเธอยืนขวางหูขวางตาอยู่
"ค่ะ"
"ถามหน่อยเถอะ นอกจากคำนี้เธอพูดคำอื่นไม่เป็นเลยหรือไง"
"พูดเป็นค่ะ"
ได้ยินคำตอบแล้วมันยิ่งทำให้เขาเสียอารมณ์ "จะไปทำอะไรก็ไป"
"ค่ะ"