ตอนที่ 6

1867 คำ
“อะไรของแกเนี่ย คาฟาห์... หนูปรางหายไปไหน” โมฮัมหมัดโวยวายเสียงดังลั่นเมื่อเห็นลูกชายเดินกลับมาพร้อมกับผู้หญิงผอมแห้งคนหนึ่งข้างกาย โดยไร้เงาของปรางสิตาหญิงสาวที่เขาถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็น “เธอคงมีเป้าหมายใหม่แล้วน่ะครับ” “แกพูดบ้าอะไรเนี่ย” คาฟาห์หรี่ตาแคบมองบิดาด้วยสายตาเย็นชา “ผมก็หมายความว่าผู้หญิงคนนั้นเจอเป้าหมายใหม่ที่รวยกว่าและแก่กว่าท่านพ่อน่ะครับ” “ไอ้ลูกคนนี้นี่” โมฮัมหมัดเค้นเสียงหงุดหงิดลอดไรฟันออกมา และพยายามมองหาปรางสิตา แต่ไม่เห็น “ท่านพ่อหยุดมองหาเธอเถอะครับ เพราะท่านพ่อจะไม่ได้เจอเธออีกแล้ว” โมฮัมหมัดหันขวับมามองลูกชายด้วยความไม่พอใจ “แกหมายความว่ายังไงคาฟาห์” “เธอน่าจะแต่งงานครั้งที่สิบในเวลาอันใกล้นี้ และเจ้าบ่าวก็ไม่ใช่ท่านพ่อยังไงล่ะครับ” “ทำไมแกต้องใส่ร้ายหนูปรางด้วย เธอเป็นคนดีนะ แถมน่าสงสารอีกต่างหาก” คาฟาห์กัดฟันแน่น สัมผัสนุ่มนิ่มจากเรือนกายสาวสะพรั่งของหล่อนยังคงตามมาหลอกหลอนราวกับผีร้าย เขาต้องใช้ความพยายามมากมายที่จะสะกดมันเอาไว้ภายใต้สีหน้าเย็นชา “ผู้หญิงคนนี้ใช้ความน่าสงสารเป็นสะพานเพื่อให้ตัวเองได้ในสิ่งที่ปรารถนาจากชายแก่ แต่ท่านพ่อสบายใจเถอะครับ เพราะผมจะปกป้องท่านพ่อด้วยลมหายใจของผมเอง” “ไอ้ลูกบ้า นี่แกเป็นบ้าไปแล้วหรือไงเนี่ย” คนเป็นพ่อโวยวายอย่างขัดใจ และผิดหวัง “ถ้าท่านพ่อเหงา เดี๋ยวผมจะให้เพื่อนนักธุรกิจของผมมาคุยเป็นเพื่อนครับ” “ไม่ ไม่ ไม่ต้องเลย ให้พ่อนั่งอยู่เฉยๆ ตรงนี้ดีกว่า” โมฮัมหมัดปฏิเสธ ก่อนจะปรายตามองผู้หญิงที่ยืนกอดแขนล่ำของลูกชายราวกับตุ๊กแกอย่างประเมินราคา “รสนิยมเรื่องผู้หญิงของแกยังแย่เหมือนเดิมนะคาฟาห์” ชลันดาหน้าตาซีดสลับแดง ทั้งโกรธทั้งอาย แต่ก็ไม่กล้าแสดงอาการใดๆ ออกไป “ทั้งผอม ทั้งแกร็น เหมือนคนเป็นโรคไม่มีผิด” ชลันดานับหนึ่งถึงสิบในใจแต่ก็ไม่อาจจะควบคุมอารมณ์ได้อีก จึงโต้ตอบออกไป “คุณพ่อแก่แล้วคงตามเทรนด์ไม่ทันน่ะค่ะ เดี๋ยวนี้สาวๆ ต้องหุ่นผอมบางแบบหนูถึงจะมีเสน่ห์ค่ะ” โมฮัมหมัดแสยะยิ้มดูแคลน “จับตรงไหนก็เจอแต่กระดูกแบบนี้น่ะเหรอที่เรียกว่ามีเสน่ห์ หึ... ฉันว่าหนูน่าจะเป็นโรคขาดสารอาหารมากกว่านะ” ชลันดาหน้าร้อนผ่าวด้วยความอับอาย หันไปมองคาฟาห์อย่างขอความช่วยเหลือ แต่เขาก็ยืนนิ่ง หล่อนกำมือแน่นจนเจ็บ “หุ่นสวยๆ แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าขาดสารอาหารหรอกค่ะคุณพ่อ เขาเรียกกันว่าหุ่นของนางแบบค่ะ” “แล้ววันๆ หนูกินอาหารบ้างไหม หรือว่ากินแต่ผักแต่หญ้า ถึงได้สมองน้อยนิด แยกไม่ออกว่าหุ่นแบบไหนสวย หุ่นแบบไหนเรียกว่าขี้โรค” “ท่านพ่อพอเถอะครับ” คาฟาห์ยืนฟังอยู่นานจึงอดไม่ได้ที่จะห้ามปรามออกมา “ถ้าแกอยากให้พ่อหยุดพูด ก็พายายผู้หญิงขี้โรคคนนี้ไปให้พ้นๆ หน้าฉัน ยิ่งเห็นยิ่งไม่เจริญหูเจริญตา” โมฮัมหมัดเบือนหน้าหนี และนั่นก็ยิ่งทำให้ชลันดาหน้าชาดิก “คาฟาห์คะ ดาว่าเราไปที่อื่นกันเถอะค่ะ” “งั้นคุณไปรอผมที่รถก่อน เดี๋ยวผมจะตามไป” “ค่ะ” ชลันดากระแทกลมหายใจออกมา และก็กลั้นใจไม่ตอกกลับโมฮัมหมัดอย่างเสียไม่ได้ ก่อนจะเดินจากไปทันที เมื่อชลันดาหายวับไปแล้ว คาฟาห์ก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบเย็นชา “ท่านพ่อไม่น่าไปว่าดาแบบนั้นเลยนะครับ” “ฉันว่าอะไรที่ไหน ก็แค่พูดตามความจริง อ้อ แล้วฝากไปถามยายนั่นด้วยนะว่ารู้จักหมูกระทะไหม” “ท่านพ่อครับ” “โอเคๆ แกจะพายายนั่นไปขึ้นเตียงที่ไหนก็ไปเถอะ เดี๋ยวฉันกลับเองได้ อ้อ แล้วระวังหน่อยนะเวลามีอะไรกันน่ะ” “ระวังอะไรครับ” คาฟาห์ถามกลับอย่างไม่เข้าใจ “ก็ระวังกระดูกยายนั่นทิ่มทะลุปอดตายยังไงล่ะ” คำตอบของบิดาทำให้คาฟาห์ถอนใจออกมาแรงๆ “เดี๋ยวผมจะให้คนขับรถมาพาท่านพ่อกลับนะครับ” “แกจะทำอะไรก็ทำเถอะ” โมฮัมหมัดบ่นอย่างน้อยใจ “ในเมื่อแกทำอะไรขัดใจฉันไปซะทุกอย่างแล้วนี่” “ถ้าคุณพ่อหมายถึงเรื่องของยายแม่หม้ายคนนั้น ผมยังยืนยันคำเดิมครับ” เขามองหน้าบิดานิ่งด้วยสายตาเย็นชา “ผมไม่มีวันยอมให้ท่านพ่อกลายเป็นผู้ชายคนที่สิบที่ต้องจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงหิวเงินคนนั้นหรอกครับ” “ถ้าพ่อต้องการ แกจะทำอะไรได้ คาฟาห์” “ผมไม่รู้หรอกว่าผมจะทำอะไรได้บ้าง แต่ผมสาบานว่าจะขัดขวางทุกทาง ทำทุกอย่างเพื่อให้ท่านพ่อไม่ต้องเป็นเหยื่อของผู้หญิงสารเลวคนนั้น” เจ้าชายโมฮัมหมัดลอบยิ้ม “แม้ว่าแกจะต้องเป็นเหยื่อของหนูปรางแทนพ่ออย่างนั้นหรือ” คาฟาห์อึ้งไปและไม่ตอบ เขาเลือกที่จะหันไปพูดกับคนขับรถที่เดินเข้ามาพอดีแทน “พาท่านพ่อกลับบ้าน ถึงแล้วส่งข้อความมาบอกฉันด้วย” “ครับคุณคาฟาห์” “ผมขอตัวครับ” คาฟาห์ก้มศีรษะให้กับบิดาเล็กน้อย ก่อนจะเดินหายไปในที่สุด โมฮัมหมัดมองตามเรือนกายสูงสง่าของลูกชายไป และบ่นอุบอิบด้วยความขัดใจ “อวดดีให้ตลอดนะเจ้าคาฟาห์” ความเศร้าสร้อยและหยาดน้ำตาถูกความตื่นตกใจจนช็อกค้างกลบทับจนมิดเลยทีเดียว เมื่อย่างก้าวเข้ามาภายในคฤหาสน์หรูของผู้เป็นนายจ้างสาวสวย แล้วพบว่าบนโซฟาตัวยาวที่เอาไว้รับแขกนั้นมีสองร่างเปลือยเปล่ากำลังโยกคลึงเข้าหากันอย่างเมามัน เสียงร้องครางด้วยความเสียวเสียดของคนทั้งคู่ โดยเฉพาะนายจ้างสาวของตนเองดังกังวาน เท้าของหล่อนหยุดนิ่งอยู่กับที่ราวกับถูกตอกตะปูเอาไว้ ตุบ... เสียงกระเป๋าถือในมือร่วงลงกระแทกกับพื้นเพราะมือของปรางสิตาไร้เรี่ยวแรง สองร่างที่กำลังโยกคลึงกันอยู่ชะงัก และหันมามอง แต่ไม่มีร่องรอยของความอับอายเลย แม้จะเห็นว่าหล่อนยืนอ้าปากค้างเติ่งอยู่ไม่ไกลแบบนี้ “แกจะมายืนเซ่อทำไมล่ะ ไปนอนได้แล้ว” กานติมาที่เป็นฝ่ายอยู่ด้านบนชายสูงวัยต่างชาติตะโกนสั่ง ก่อนจะไม่ให้ความสนใจอะไรในตัวของหล่อนอีกเลย “เดวิดขา... มามะ... มาสนุกกันต่อ อ๊า... อ๊า... ยูดูกู้ดดดด อ๊า...” แล้วสองร่างเปลือยเปล่าก็สาดซัดความปรารถนาดุดันเข้าใส่กันจนโซฟาครางประท้วง ปรางสิตารีบหันหน้าหนี และเดินแกมวิ่งจากมาด้วยความตื่นตกใจ เมื่อเข้ามาถึงห้องพักก็ทิ้งตัวลงบนเตียง พยายามสลัดภาพที่เห็นออกจากหัว แต่ก็ทำได้ยากนัก นายจ้างแสดงออกมาให้หล่อนเห็นว่ากำลังมีความสุขมากมายแค่ไหนที่ได้ควบขี่ชายสูงวัยคนนั้น เสียงร้องครวญครางของกานติมายังคงดังกังวานในหู กานติมาครางซี้ดซ้าดราวกับกำลังกินอาหารเผ็ดร้อน ในขณะที่ส่วนกลางลำตัวของคนทั้งคู่แนบชิดกัน ไม่... ไม่... หยุดคิดเถอะปรางสิตา... หญิงสาวร้องสั่งตัวเองดังลั่น หล่อนเอนกายลงนอนหงายบนเตียง ดวงตากลมโตจับจ้องบนเพดานห้อง ใบหน้าของคาฟาห์ปรากฏบนนั้น “คุณ...” หล่อนช็อก เผยอปากค้างเติ่ง พยายามบอกตัวเองว่าสิ่งที่เห็นเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา แต่กลับไม่อาจจะหยุดคิดได้เลย ร่างสาวเริ่มร้อนฉ่า ฉากสวาทของกานติมากับชายสูงวัยที่ฝังแน่นในหัวค่อยๆ เปลี่ยนแปลงเป็นภาพของหล่อนกับคาฟาห์แทน มันน่ารังเกียจ แต่หล่อนก็หยุดคิดไม่ได้! “อ๊า... อา...” คาฟาห์กำลังกอดจูบลูบไล้เนื้อตัวของหล่อนทุกตารางนิ้ว จากนั้นก็สอดใส่เข้ามา และโยกคลึงเหมือนกับที่ชายสูงวัยคนนั้นกระทำกับนายจ้างของตนเอง หล่อนร้อนฉ่าไปทั้งตัว รู้สึกราวกับมีไฟมาสุมอยู่ใจกลางร่างสาวจนมีหยาดน้ำเปียกซึมออกมา เนื้อตัวเบ่งบานหนักอึ้ง สองขาขยับเสียดสีกันไปมาด้วยความรู้สึกโหยหารวดร้าว นี่หล่อนเป็นอะไรไป... ปรางสิตาร้องถามตัวเองลั่น พยายามสลัดความคิดน่าสะอิดสะเอียนออกไปจากหัว แต่ยิ่งพยายาม ภาพที่คาฟาห์กำลังเคลื่อนไหวความเป็นชายเข้าออกในกายสาวก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ จนหล่อนต้องจิกเล็บลงกับผ้าปูเตียงแรงๆ อย่างลืมตัว “อ๊า... อา... อ๊า...” กายสาวร่อนสูงขึ้น ดวงตากลมโตหลับพริ้ม สมองจินตนาการถึงความร้อนแรงจากบุรุษทะเลทรายไม่หยุด เขากระแทกดุดันยิ่งนัก แต่ละครั้งสร้างความเสียวซ่านให้กับหล่อนมากมายนัก “อ๊า... อ๊า... แรงอีก... อ๊า...” หมอนข้างถูกนำมากอดแน่น พร้อมกับถูไถมันกับเนินนางที่กำลังเปียกชุ่มฉ่ำ “อ๊า... อา... อย่าหยุด... แรงอีก... อ๊า... อา...” หล่อนรู้สึกดีมาก รู้สึกเหมือนกำลังลอยสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า และก็กำลังรู้สึกว่าจะแตกระเบิดในไม่ช้า ปรางสิตาที่ถูกภาพร่วมรักโจ๋งครึ่มของกานติมากับชายต่างชาติสูงวัยปลุกเร้าจนร้อนฉ่า กำลังจินตนาการว่าตนเองกำลังร่วมรักอย่างดุดันกับคาฟาห์ บุรุษทะเลทรายคนนั้น หล่อนหยัดร่างสูงเป็นจังหวะ หนีบหมอนข้างเอาไว้แน่น เสียดสี ถูไถไปมาจนในที่สุดก็ระเบิดความสุขออกมาเป็นครั้งแรกในชีวิต หล่อนกรีดร้องด้วยความสุขสม ก่อนจะนอนหอบหายใจระรัวอยู่พักใหญ่จึงได้สติ แก้มนวลแดงระเรื่อ และก็ละอายใจกับสิ่งที่เพิ่งกระทำลงไปยิ่งนัก “นี่เรา... ทำอะไรลงไปเนี่ย” หล่อนทำได้เพียงแค่คิดดุด่าตนเองเท่านั้น ขณะนอนนิ่งหอบหายใจให้กับความสุขสมครั้งแรกของตนเองอยู่บนเตียงเนิ่นนาน ถ้าเขารู้ว่าหล่อนเอาเขามาจินตนาการในเรื่องอย่างว่าจนสุขสม เขาคงจะหัวเราะเยาะ และด่าว่าหล่อนอย่างดูถูกดูแคลนอย่างแน่นอน แก้มนวลแดงระเรื่อ ความอับอายถล่มยับในอก หล่อนจะต้องไม่เจอเขาอีก ซึ่งมันแน่นอนอยู่แล้วว่าหล่อนกับเขาจะไม่ต้องพบกันอีก เพราะโลกของเขากับหล่อนมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง “ฉันขอโทษ... ที่เอาคุณมา... ทำให้แปดเปื้อน...” หล่อนพึมพำด้วยความละอายใจ ก่อนจะกัดฟันลุกขึ้นนั่ง เปลี่ยนเสื้อผ้าออกจากตัว และเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม