การพบนลินกับสายฝนส่งผลให้ต้นหลิวรู้สึกร้อนในอก สีหน้าท่าทางมารยานั้นเธอเกลียดเข้ากระดูก เกลียดชนิดที่ชาตินี้ไม่ขอเผาผีกันอีก ความเลวระยำของมันเธอจะจำจนตาย ความอ่อนโยนไร้เดียงสาจอมปลอมหลอกคนอย่างต้นหลิวไม่ได้หรอก
หากคีรันคือเป้าหมายของนลิน สาบานได้เลยว่าเธอจะไม่มีทางให้ได้สมหวังแน่ ทุกวันนี้เธอพยายามเลี่ยงแต่อีกฝ่ายก็ยังตามมาคอยราวีไม่เลิก ต่อจากนี้เธอจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“หลิวเราตกลงกันแล้วนี่ว่าตอนอยู่ในบริษัทจะไม่ทำอะไรโจ่งแจ้ง” คีรันเลือกจะเงียบมาตลอดทางเพื่อฟังเหตุผลทว่าเขาได้รับเพียงความเงียบเป็นการตอบกลับ
ต้นหลิวดูเครียดกว่าทุกวัน พนักงานสองคนนั้นทำอะไรให้คนตัวเล็กขัดใจถึงดูไม่ชอบขนาดนี้ ต้นหลิวเองไม่ใช่คนไร้เหตุผล เขาเคยถามเรื่องของเธอหลายครั้งแต่ถูกบ่ายเบี่ยงตอบเลี่ยงเสียทุกที
“พนักงานใหม่สองคนนั้นจะได้รู้ไงคะว่าเราไม่ได้เป็นแค่เจ้านายกับลูกน้อง หลิวไม่ค่อยชอบสองคนนี้ค่ะ คงจะเป็นกรรมเก่าที่เคยก่อกันมามั้ง” หญิงสาวตอบพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้เพื่อสงบสติอารมณ์
การพบกันครั้งนี้ทำเอาต้นหลิวลืมว่าตัวเองควรวางตัวอย่างไร ความเกลียดชังมันทะลักออกมาเพียงแค่ได้เสียงน่าสะอิดสะเอียนจากปากนลิน
“ก็แค่พนักงาน” คีรันถอนหายใจเพราะไม่เห็นว่ามันสมเหตุสมผลตรงไหน
“เอาเป็นว่าถ้าเจอก็ห่าง ๆ สองคนนี้หน่อยนะคะ หลิวไม่ชอบและไม่ชอบมาก ๆ ด้วย ถ้าไล่ออกได้ด้วยจะดีมากเลย”
หญิงสาวไม่คิดปิดบังความต้องการของตนเอง เธอรู้สึกก็พูดออกมาตามตรง
“ผมเป็นประธานบริษัทจะให้ทำตามใจตัวเองแบบนั้นได้ยังไง” เขาไม่เห็นด้วยที่จะตัดสินใจไล่พนักงานออกเพียงเพราะไม่ชอบหน้า
ต้นหลิวถึงกับยิ้มเพราะรู้แต่แรกว่าเขาต้องตอบแบบนี้ ทุกขั้นตอนการคัดเลือกพนักงานล้วนเป็นค่าใช้จ่ายที่ทางบริษัทต้องแบกรับ เขาจึงไม่คิดตามใจต้นหลิวในเรื่องนี้
“เฮ้อ ถ้าไม่ลำบากเวลาเจอสองคนนั้นช่วยห่าง ๆ หน่อยนะคะ ถือว่าหลิวขอร้องก็ได้ค่ะ” คนตัวเล็กขึ้นกอดเอว ใบหน้าเกยบนแผงอก ตากลมกะพริบปริบ ๆ
“ผมว่าคุณกำลังงอแง เครียดกับงานไปหรือยังไง”
ชายหนุ่มสบตาคนตัวเล็กด้วยความรู้สึกห่วงใย
ไม่บ่อยที่คีรันจะบ่นหญิงทว่าครั้งนี้เขามองว่ามันไม่เหมาะสม ต้นหลิวเหนือกว่าพนักงานนั้นมาก เขาไม่เห็นด้วยกับการอคติกับคนอื่น ซึ่งเป็นไปได้ว่าเธออาจจะเครียดกับงานมากจนเกินไป
“ขอโทษค่ะ หลิวแค่ไม่ชอบสายตาผู้หญิงสองคนนั้นเวลามองคุณคี” หญิงสาวกล่าวขอโทษที่ตัวเองเอาเรื่องส่วนตัวของตนเองมากวนใจคีรัน
ปัญหาระหว่างเธอกับนลินเป็นเรื่องส่วนตัว คีรันไม่ได้รับรู้อะไรด้วย เขาจะมองว่าเธองี่เง่าก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดนัก แต่จะให้บอกความจริงทุกอย่างใจเธอก็ยังไม่เข้มแข็งมากพอ เรื่องในอดีตมันเลวร้ายและไม่ใช่เรื่องน่าจนจำ
เธออยากลืมทุกอย่างและไม่ต้องการให้ใครในอดีตโผล่มาในชีวิตอีกแม้แต่คนเดียว
“ผมเจอเขาแค่ไม่กี่นาที” ถึงจะเป็นผู้ชายแต่ใช่ว่าเขาจะคว้าผู้หญิงมานอนด้วยไปทั่ว ในชีวิตเขาคบกับผู้หญิงนับคนได้และส่วนใหญ่ไม่ได้คบจริงจังสักคน
เขามีหน้าที่การงาน ผู้หญิงเขาหาเยอะ คุยแล้วไปกันไม่รอดก็มี คนที่เรียกแฟนได้นั้นเหมือนจะไม่เคยมีเลยด้วยซ้ำ ต้นหลิวเป็นผู้หญิงที่เขาอยู่ด้วยนานที่สุดเพราะเธอไม่น่ารำคาญและคอยจ้องจับผิด ทว่าวันนี้ดูแปลกไปซึ่งเขาไม่ได้โกรธแต่แค่สงสัยเท่านั้น
“เชื่อหลิวสักครั้งนะคะ สองคนนั้นไม่ได้ดีอย่างที่คุณคีเห็นหรอกค่ะ” นอกจากไม่ดียังสารเลวเสียด้วยซ้ำ ความขมขื่นที่พวกนั้นสร้างไว้ทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปทักทายหรือหาเพื่อนใหม่
เธอกลัวว่าหากมีเพื่อนแล้วเรื่องในอดีตมันแดงขึ้นมา สายตาผิดหวังและมองเหมือนเธอเป็นเพียงเศษฝุ่นละออง
“ผมไม่ได้ชอบไปยุ่งพนักงานอยู่แล้ว คุณก็รู้”
มันยากต่อการปกครองและควบคุม
“ค่ะ หลิวไม่เคยลืมว่าคุณคีเป็นใคร ระหว่างที่เรายังคุย ๆ กันก็ช่วยอย่ายุ่งกับใครนะคะ” เธอเองก็เป็นอีกคนที่เขาไม่ได้อยากยุ่งด้วยแต่ดันเผลอตัวมามีความสัมพันธ์ด้วย
คีรันมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่มากเขาถึงยังคบกับเธอมาจนทุกวันนี้ เขาไม่เปิดตัวในบริษัทแต่เวลาอยู่ที่อื่นคีรันปฏิบัติกับเธออย่างให้เกียรติเสมอ
“ผมไม่เคยคบหรือคุยซ้อนกัน” เห็นหน้าหงอย ๆ เขาก็เอ่ยขึ้นมาดื้อ ๆ ส่งผลให้หญิงสาวเผยรอยยิ้มแบบที่เคยมอบให้เป็นรางวัล
“ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ เฮ้อ หลิวเผลอหวงคุณคีอีกแล้ว”
“คราวหน้าต้องใจเย็นกว่านี้” ชายหนุ่มลูบหัวหญิงสาวอย่างไม่คิดถือสา
การหวงเท่ากับมีความรู้สึกดีมอบให้ หากไม่มากเกินไปเขาพอรับไหว ตัวเขาก็ไม่ได้เป็นคนขี้หึงจึงไม่รู้ว่าความรู้สึกหวงแหนนั้นเป็นอย่างไร ต้นหลิวเองก็ทำตัวน่ารักมาตลอดไม่เคยมีเรื่องผู้ชายมาให้เขาปวดหัว
หญิงสาวเป็นคนสวยมากแต่ไม่ใช้มันในการสร้างสิทธิพิเศษใด ๆ ให้ตนเอง ตอนคบกับแรก ๆ เขาเสนอให้เธอเป็นหัวหน้างานตามสาขาที่เรียนมา ต้นหลิวปฏิเสธและบอกว่าเธอไม่ขอใช้สิทธิ์พิเศษใด ๆ ในบริษัท วันไหนเขากวนเธอเวลางาน เธอก็เลือกจะนั่งทำงานชดเชยให้อยู่อย่างนั้น
สิทธิ์เดียวที่ต้นหลิวใช้ก็มีแค่ลิฟต์ผู้บริหารเท่านั้นซึ่งเลขาใช้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร
“ต่อไปหลิวคงต้องชอบคุณคีให้น้อยลงแล้วล่ะ”
เป็นแบบนี้ต่อไปเธอต้องแย่แน่ เรื่องของเธอกับเขาไม่แน่นอน วันหนึ่งเขาเจอคนที่ดีพร้อมกว่าก็ต้องปล่อยไป
เธอขอให้เขาได้พบคนดีที่คู่ควรในอนาคต…
“ไม่เห็นต้องทำแบบนั้น” คิ้วหนากระตุกกับถ้อยคำที่กำลังส่งผลให้เขารู้หน่วง
ชอบน้อยลงทำไม ?
ชอบมาก ๆ ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ?
“ชอบน้อยก็หวงน้อย เรื่องงี่เง่าก็จะลดตามไปด้วยไงคะ ตอนนี้หลิวติดคุณคีแล้ว” คนตัวเล็กอ้อนตาแป๋วแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้คีรันหายโมโห
“พูดเยอะ” ร่างเล็กถูกอุ้มเข้าห้องนอน
คีรันวางเธอลงบนเตียงพร้อมกับหันหลังถอดเนกไทโยนพาดไว้บน
“หลิวพูดจริงนะ คุณคีไม่ชอบอะไรถ้าหลิวปรับได้ก็จะทำให้นะคะ” ต้นหลิวยิ้มจากนั้นสวมกอดชายหนุ่มจากทางด้านหลัง ริมฝีปากนุ่มจูบแผ่นหลังกว้าง
“อ้อนผิดปกติ” ถึงจะโมโหแต่ก็ใจอ่อนทุกครั้งที่ถูกต้นหลิวทำแบบนี้ให้ สัมผัสจากริมฝีปากนุ่มแม้มีผ้ากั้นทว่ากลับกระตุ้นอารมณ์เขาได้อย่างดีเยี่ยม ต้นหลิวกำลังทำให้เขากลายเป็นพวกหื่นกามไม่รู้จักพอ
“ไม่ชอบเหรอ เรื่องนี้หลิวปรับไม่ได้หรอกนะคะ คุณคีน่าอ้อนจะตาย จุ๊บ” เธอกล่าวก่อนจะถอดเสื้อชายหนุ่มและจูบต้นคอที่มีกลิ่นหอมที่ทำให้เธอผ่อนคลายได้ทุกครั้ง
“ดื้อ” คีรันหันมามองคนตัวเล็กที่กำลังเอียงคอถามด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ หากเปรียบต้นหลิวเป็นลูกแมวน้อย เขาก็คงกลายเป็นทาสไปแล้ว