“วันนี้หนูไม่กินข้าวนะคะคุณแม่ หนูกินจากข้างนอกมาแล้วค่ะ”
ฉันตะโกนบอกคุณแม่ทันทีที่กลับมาถึงบ้าน ก่อนจะวิ่งขึ้นห้องปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหนา แข้งขาค่อยๆ หมดแรง ไถลตัวนั่งลงกับพื้น สองมือยกขึ้นปิดใบหน้าที่แดงแปร๊ดของตัวเองเอาไว้
ในหัวมีแต่เรื่องที่เกิดขึ้นบนกระเช้าลอยฟ้า ถึงจะไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น แต่จุดที่ถูกเขาสัมผัสยังคงร้อนระอุอยู่ ฉันไล่มือลงมาลูบที่ลำคอและเนินอกของตัวเองช้าๆ สัมผัสของราฟาเอล...นุ่มนวลแบบนี้เองเหรอ เพราะงั้นพวกเธอถึงได้ติดใจเขากันสินะ
ฉันลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำเพื่อจะอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวนอนเพราะพรุ่งนี้มีเรียนเช้า แต่ทันทีที่ถอดเสื้อออกก็ต้องตกตะลึงจนหัวใจเกือบจะวาย เมื่อที่ลำคอและเนินอกของฉันเต็มไปด้วยรอยจ้ำแดงๆ เต็มไปหมด!
“ฉะ...ฉันจะตายเหรอเนี่ย”
พูดกับตัวเองอย่างตกใจ ไม่จริงน่า ฉันเพิ่งได้เลื่อนขั้นจากแค่จูบกับ ราฟาเอลมาเองนะ ใครจะยอมตายกัน! ไม่มีทางหรอก ฉันจะไปหาหมอ ต้องไปให้หมอตรวจที่โรงพยาบาลแล้ว บางทีฉันอาจจะเป็นฝีดาษลิงก็เป็นได้
“จริงสิ ไปให้ราฟดูดีกว่า”
พอคิดได้แบบนั้น ฉันก็รีบเปิดประตูห้องน้ำออกไปที่ระเบียง ก่อนจะตะกายปีนขึ้นไปแล้วก้าวขาข้ามไปที่ระเบียงห้องของราฟาเอล เปิดประตูเข้าไปในห้องเขาแบบที่ทำทุกที เจ้าของห้องที่นุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันเอวเอาไว้หันมามองฉันด้วยสีหน้าระอา
“นี่เธอ...หัดเคาะประตูก่อนเป็นไหม”
“ทำไมต้องเคาะด้วยล่ะ นี่ห้องนายนะ ไม่ใช่ห้องคนอื่นสักหน่อย”
“แล้วถ้าเกิดฉันแก้ผ้าอยู่เล่า”
“ไม่เป็นเป็นไรเลย ตอนเด็กๆ พวกเราเคยอาบน้ำด้วยกันตั้งบ่อยไป”
ฉันลอยหน้าลอยตาตอบ ก็มันจริงนี่นา ตอนเด็กๆ พวกเราชอบไปเล่นซนจนเนื้อตัวเลอะเทอะ พอกลับมาถึงบ้านก็เริ่มอาบน้ำพร้อมกันตลอด แต่สุดท้ายพวกพ่อแม่ก็ให้เราเลิกอาบน้ำด้วยกันตอนจบชั้นป.1
“งั้นเหรอ แปลว่าตอนนี้ถ้าเธอได้เห็นอะไรๆ ของฉันที่มันโตขึ้นกว่าแต่ก่อนก็ไม่เป็นไรอย่างงั้นสินะ”
เขายิ้มกรุ้มกริ่มพร้อมเดินย่างสามขุมเข้ามาหาฉัน ฉันค่อยๆ ถอยหลังไปจนติดประตูระเบียง ราฟาเอลใช้แขนสองข้างยันไปกับประตูเพื่อล็อกฉันให้อยู่ในวงแขน
“พร้อมจะเห็นแล้วเหรอครับที่รัก หื้ม?”
ยังจะมาทำเลิกคิ้วสูงด้วยใบหน้ากวนโอ๊ยอีกเหรอ!
“นี่...อย่าเล่นสิ ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกนะ”
“เรื่องอะไร”
“ฟังแล้วอย่าตกใจไปล่ะ”
“...”
“ฉันคิดว่า...ฉันกำลังจะตาย!”
“หา?”
ฉันสบตากับราฟาเอลด้วยความกังวล ก่อนจะแกะกระดุมเสื้อตัวเองออก แล้วแหวกคอเสื้อให้เขาเห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับผิวกาย!
“นี่ไง! ฉันอาจจะเป็นฝีดาษลิงก็ได้นะราฟ ทำยังไงดีล่ะ ไม่รู้ว่าเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ล่าสุดที่อาบน้ำตอนเช้าก็ยังไม่มีเลยนะ ทำยังไงดีอะ ฉันจะตายหรือเปล่า”
เขย่าแขนเขาพลางมองด้วยใบหน้าน้ำตาคลอ คนยืนฟังถึงกับอมยิ้ม มันใช่เรื่องตลกหรือไงเล่า นี่ฉันซีเรียสมากเลยนะเนี่ย เขาไม่เป็นห่วงว่าฉันจะตายเลยหรือไง
“นายหัวเราะอะไร นายไม่ตกใจเลยเหรอ จะไม่รู้สึกอะไรใช่ไหมถ้าฉันตายเพราะฝีดาษลิง!”
“ไปกันใหญ่แล้วยัยบ้า มานี่มา”
“อ๊ะ เดี๋ยวสิ...”
ตุ้บ!
เขาดึงแขนฉันแล้วเหวี่ยงลงบนเตียงขนาด 3.5 ฟุตของตัวเอง ก่อนจะตามมาขึ้นคร่อมทับฉันเอาไว้ แขนข้างหนึ่งถูกราฟาเอลใช้มือกดเอาไว้จนขยับไม่ได้ ส่วนแขนอีกข้างก็ถูกเขาดึงเข้าหา
“นายจะทำอะไร”
เวลาแบบนี้ยังจะคิดเรื่องสัปดนได้ลงคออีกเรอะ!
ราฟาเอลไม่ตอบคำถามของฉัน เขาแนบริมฝีปากลงมาที่ข้อมือของฉันก่อนจะออกแรงดูดเต็มแรงเหมือนตอนที่เขากระทำบนกระเช้าลอยฟ้า
“ทำอะไรน่ะ เจ็บนะราฟ”
ยังคงไม่ได้คำตอบ นอกจากสายตาโคตรมหาเสน่ห์ของเขาที่มองฉันไม่ละไปไหน ขณะที่ริมฝีปากยังคงประทับอยู่กับข้อมือเช่นเดิม
หะ...ให้ตายสิ เริ่มร้อนๆ หนาวๆ วูบๆ ในช่องท้องยังไงก็ไม่รู้
ยิ่งเวลาถูกเขาจ้องด้วยสายตาที่เหมือนจะอ่านใจฉันได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ฉันยิ่งรู้สึกว่าตัวเองตื่นเต้นกว่าปกติ ราวกับเขาเป็นใครอีกคนที่ฉันไม่คุ้นเคย...
ผ่านไปสักพัก ราฟาเอลก็ถอนริมฝีปากออกจากข้อมือของฉันก่อนจะทิ้งตัวทาบทับลงมา หอมแก้มซ้ายที ขวาที สลับกันอยู่หลายต่อหลายรอบจนฉันแทบละลาย อะ...อะไรของเขาละเนี่ย มาทำเหมือนหลงใหลกันแบบนี้ฉันก็เขินแย่สิ ลืมเรื่องฝีดาษลิงไปหมดเลย
“ถ้าจะน่ารักก็ให้มันพอดีหน่อยเถอะ ฝีดาษลิงงั้นเหรอ ใช้อะไรคิดกันฮะ”
“นายหมายความว่าไง ไอ้รอยนั่นไม่ใช่ฝีดาษลิงเหรอ”
“ไม่ใช่” เขากระซิบตอบที่ข้างหู “ลองดูที่ข้อมือเธอสิ”
ฉันหันไปมองข้อมือข้างที่ถูกเขาจับเอาไว้มาตั้งแต่แรก แต่ยังไม่ทันเห็นอะไร มืออีกข้างของราฟาเอลก็มาจับที่หัวของฉันก่อนจะจับหันไปอีกทาง
“ข้างนั้นสิเว้ย”
“ก็ไม่บอกแต่แรกล่ะว่าให้ดูข้างไหน”
ฉันตอบกลับก่อนจะมองไปตรงข้อมือข้างที่เขาดูดมันเมื่อครู่ ก่อนจะพบว่าตรงนั้นก็มีรอยเหมือนกับที่ลำคอและเนินอกของฉันไม่มีผิด!
“อ๊ะ นี่มัน...เหมือนกันเลย”
ราฟาเอลยันตัวลุกขึ้น แต่ยังนั่งทับบนตัวฉันเอาไว้ เขาค่อยๆ ใช้นิ้วแหวกคอเสื้อฉันออกกว้าง จนอะไรต่อมิอะไรมันปรากฏออกมาแก่สายตา
“ทั้งตรงนี้...” นิ้วร้อนๆ แตะเข้าตรงรอยจ้ำแดงที่ลำคอ “ตรงนี้...” ไล่ต่ำลงมาอีก “ตรงนี้...” ต่ำอีก... “ตรงนี้...ตรงนี้...แล้วก็ตรงนี้ ทั้งหมดไม่ใช่ฝีดาษลิง แต่เป็นฝีมือฉันต่างหาก”
สถานีบางอ้อมาเยือนทันใด! ฉันเข้าใจได้ในทันทีว่าตัวเองปล่อยไก่ไปตัวเบ้อเร่อแค่ไหน ใครจะไปคิดว่าไอ้รอยพวกนี้มันจะเกิดจากเสียงจ๊วบจ๊าบที่เขาทำบนกระเช้าลอยฟ้ากันเล่า
มือของราฟาเอลหยุดอยู่ที่เนินอกของฉัน แม้จะเป็นเพียงแค่ปลายนิ้วที่สัมผัสมัน แต่ฉันก็ตื่นเต้นและใจเต้นแรงจนควบคุมมันไม่ไหว มันจะดูบ้าเกินไปหรือเปล่านะ ที่ฉันมีความคิดอยากจะให้เขาทำให้ฉันกลายเป็นของเขา เป็นของเขาแบบที่ไม่ใช่แค่หัวใจเพียงอย่างเดียว
ทั้งตัว...และหัวใจ...
ฉันอยากจะมอบทั้งหมดที่มีให้กับราฟาเอลเพียงคนเดียว