ตอนที่ 8

975 คำ
“เพราะถ้าเธอบังอาจยั่วโมโหให้ฉันโกรธอีกล่ะก็ ฉันจะจับเธอไปขังในห้องเก็บของ และแน่นอนว่ากว่าพ่อกับแม่ของฉันจะกลับมาเธอก็คงจะเน่าตายในนั้นไปแล้ว” ทำไมเขาโหดเหี้ยมขนาดนี้นะ หญิงสาวคิดอย่างเจ็บปวด แต่ก็จำต้องกัดฟันลุกขึ้นยืน และมองจ้องหน้าเขาอย่างสู้ตาย “คุณสั่งฉันไม่ได้หรอกคุณนิค” “แต่ฉันคิดว่าฉันทำได้มากกว่าสั่งเธอเสียอีก หรือว่าต้องการให้ฉันยกเลิกการแต่งงานระหว่างเราล่ะอิงบุญ เธอก็รู้นี่ว่าฉันสามารถเปลี่ยนใจได้ทุกเมื่อ” ไม่ได้... เขาจะเปลี่ยนใจไม่ได้ เพราะถ้าเขาไม่แต่งงานกับหล่อน สิ่งที่เกรกอรี่ต้องการก็จะไม่เกิดขึ้น และนั่นก็ทำให้ความหวังของหล่อนที่อยากจะพบหน้าน้องชายที่พลัดพรากจากกันไปห้าปีเต็มๆ ต้องหลุดลอยไป “ฉัน...” “ยอมแพ้เสียเถอะอิงบุญ เธอกับฉันน่ะฝีมือมันคนละชั้นกัน ถ้าอยากจะสู้น่ะ เอาไว้สู้ตอนที่ฉันเมาดีกว่าเพราะตอนนั้นเธออาจจะฟลุกชนะขึ้นมาก็ได้นะ” แล้วคนตัวโตก็หัวเราะด้วยความสะใจดังลั่น ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป “คนใจร้าย...” อิงบุญน้ำตาไหลพรากลงมาอาบแก้ม หัวใจเจ็บปวดจนแทบจะแหลกสลาย ร่างอรชรทรุดฮวบลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง ทั้งๆ ที่พยายามจะเข้มแข็ง ทั้งๆ ที่พยายามจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด แต่หล่อนก็ไม่เคยเอาชนะผู้ชายร้ายกาจอย่างนิโคไลได้เลยสักครั้งเดียว ถูกเขาตลบหลังเอาอย่างเจ็บแสบเสมอมา แม้ทุกครั้งหล่อนจะฝืนยิ้ม ปั้นหน้าคล้ายกับไม่รู้สึกรู้สาอะไร แต่ลึกๆ ในหัวใจกลับเต็มไปด้วยความขมขื่นแสนทรมาน หล่อนเจ็บ... เจ็บเจียนตายเสียแล้ว มือบางรีบยกขึ้นป้ายน้ำตาอย่างรวดเร็ว เมื่อแม่สาวใช้คนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องครัว หล่อนกัดฟันลุกขึ้นยืนและฝืนยิ้มเศร้าหมอง “คุณอิง... จะทานข้าวเลยไหมคะ” คนถูกถามส่ายหน้าน้อยๆ และฝืนยิ้มอีกครั้ง “ฉันยังไม่หิวหรอก ขอบใจมากนะ” “เอ่อ แต่ว่าคุณนิคบอกให้หนูมาจัดหาอาหารให้คุณอิงค่ะ” น้ำตาของอิงบุญไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ นิโคไลหรือ นี่เขาคิดจะตบหัวแล้วลูบหลังหรือไง ฝันไปเถอะว่าหล่อนจะยอมสงบศึก “ไปบอกเจ้านายของเธอนะว่าฉันไม่ต้องการความสมเพชจากใคร” “แต่ว่าคุณนิค... เอ่อ คุณนิคเธอ...” “ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันไม่อยากได้ยินชื่อของคนใจคออำมหิตคนนั้นอีก ขอตัวนะ” อิงบุญปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม ก่อนจะหมุนตัวและวิ่งออกไปจากห้องครัว น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลพรากไม่หยุด หล่อนไปทรุดตัวนั่งอย่างอ่อนล้าอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ท้ายบ้านสวน สายน้ำตรงหน้าไม่สามารถช่วยให้หล่อนคลายทุกข์คลายโศกได้เลยสักนิด หล่อนเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน และก็อยากตายนัก สำหรับผู้หญิงต่ำเตี้ยอย่างหล่อน นิโคไลมีแต่ความขยะแขยงรังเกียจเท่านั้นที่มอบให้ เขากระหน่ำซ้ำตีหล่อนด้วยแส้แห่งความเกลียดชัง และล่ามหล่อนเอาไว้ด้วยโซ่ตรวนแห่งความอำมหิต หล่อนไม่เคยได้รับหยาดหยดแห่งความเมตตาจากผู้ชายคนนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว หญิงสาวหลับตาลงช้าๆ ภาพของวันแรกที่ก้าวเข้ามาในคฤหาสน์แสนสวยอย่าง Demon’s Palace หรือที่ผู้คนทั่วโลกต่างกล่าวขานกันว่าคือราชวังของปีศาจร้ายที่หล่อลากไส้อย่างสามหนุ่มอิสไมนอฟ มาร์คิเดฟ ก็ผุดขึ้นมาในหัวอย่างชัดเจน มันเหมือนกับพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง ตอนนั้นหล่อนอายุแค่ 13 ปี มอมแมมและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว หล่อนได้พบกับผู้ชายวัยหนุ่มสามคนซึ่งเป็นทายาทของผู้ชายที่ยื่นมือเข้าไปช่วยหล่อนให้หลุดพ้นออกมาจากซ่องนรกก่อนที่หล่อนจะถูกนำออกไปรับแขก ไทเลอร์ อิสไมนอฟ มาร์คิเดฟ ยิ้มให้กับหล่อนอย่างมีเมตตาเมื่อเกรกอรี่บอกว่าจะรับหล่อนอุปการะ ซึ่งคิริล อิสไมนอฟ มาร์คิเดฟ ก็แสดงความเป็นมิตรให้หล่อนเหมือนกับพี่ชายของตัวเอง แต่เขาสิ... นิโคไล อิสไมนอฟ มาร์คิเดฟ หนุ่มหล่อวัยฉกรรจ์ที่เต็มไปด้วยความเย็นชายิ่งกว่าน้ำแข็ง สายตาสีเขียวมรกตที่ทอดมายังหล่อนนั้นเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม จนหล่อนหน้าร้อนผ่าว มองเห็นถึงความเป็นอริร้ายจากผู้ชายหล่อลากดินคนนี้อย่างชัดเจน หล่อนรู้มาตลอด รู้มาตั้งแต่วันแรกที่เหยียบ Demon’s Palaceนิโคไลเกลียดชังหล่อน ซึ่งเหตุผลก็คงเป็นเพราะหล่อนต่ำต้อยและไม่คู่ควรกับ Demon’s Palaceล่ะมั้ง แต่กระนั้นหล่อนก็ไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อนเลยว่าเขาจะเกลียดชังหล่อนจนไม่สามารถแม้แต่จะร่วมโต๊ะอาหารกันได้เลยแบบนี้ “คนใจดำ ฉันเกลียด... ฉันอยากจะเกลียดคุณนัก” แม้จะพยายามแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่เพียงอยากจะ... อยากจะเกลียดเท่านั้น ไม่สามารถเกลียดนิโคไลได้อย่างที่ใจต้องการเลยสักนิด ก็เพราะหล่อนรักเขา รักผู้ชายคนนี้จนหมดหัวใจ ยิ่งเขาร้าย หล่อนก็ยิ่งดำดิ่งลงไปในห้วงแห่งความรัก รักทั้งๆ ที่รู้ว่าสิ่งที่รอคอยอยู่ข้างหน้านั้นเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมยิ่งกว่าเหยียบย่ำลงบนหนามกุหลาบ แต่หล่อนก็ยังจะคงรัก... และความรักนี้ก็คงจะอยู่ในหัวใจของหล่อนเงียบๆ แบบนี้ไปชั่วนิรันดร์
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม